ทำไมผมเลือกพายเรือลำนี้ ในคลองการศึกษา


มีหลายๆ ท่านที่เดินหรือกำลังพายเรืออยู่เหมือนที่ผมกำลังพายอยู่ แต่เรือที่ผมพายอยู่ตอนนี้มีประสบการณ์น้อยนิด ยังไงก็ต้องขอความเห็นหรือข้อแนะนำจากเรือลำอื่นๆ ด้วยนะครับ

สวัสดีครับทุกท่าน

          เมื่อวานได้เปิดประเด็น เรื่องครูครับ ในบทความนี้ครับ มีลูกอยากให้เรียนกับครูเก่งๆ พอลูกเรียนเก่งๆแต่กลับให้เรียนอย่างอื่น แล้วจะหาครูเก่งๆ ที่ไหนครับ

วันนี้มาสู่การได้มาเป็นครูของผม ว่าเป็นมาอย่างไรครับ ขอย้อนกลับไปเมื่อตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยในช่วง ม. ปลายก่อนเลยครับ ตอนนั้นผมกำลังเรียน ม.ปลาย สายวิทยาศาสตร์ ที่ ร.ร. ทุ่งสง จ. นครศรีธรรมราช เนื่องด้วยมีอะไรให้สอบผมสอบหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น สถาบันราชภัฏ ที่นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา มศว.สงขลา มอ.(สงขลานครินทร์)  และผลลัพธ์ก็ออกมาดีมากเลยครับ คือได้ประมาณห้าที่ครับ ซึ่งเป็นการสอบโควต้าครับ

          สอบได้หลายที่ก็ใช่จะมีความสุขครับ เพราะไม่รู้จะเลือกอะไรดี ญาติที่เป็นครูก็อยากให้เลือกเรียนในสาขาคุรุทายาท ที่สอบได้ที่นครศรีธรรมราช แล้วแต่ว่าจะเรียนสาขา คณิตศาสตร์ หรืออะไรตามที่ถนัด คนแนะนำก็เยอะครับ ว่าให้เลือกนั่นเลือกนี่ แต่ผมก็รับฟังไว้ครับ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน นี่แล้วแต่ลูกครับ ให้เลือกเอาตามที่ต้องการ เพียงแต่ให้ข้อมูลตามที่คนอื่นแนะนำมาครับ

          แล้ววันหนึ่ง ผมก็ไปปรึกษา อ.แนะแนวครับ ผมบอกว่าผมหนักใจแล้วตอนนี้ ญาติก็นำเสนอเยอะ ว่าให้เลือกนั่นนี่ตามที่ต้องการ (น่าหมั่นไส้ใช่ไหมครับ ในขณะที่เพื่อนที่สอบไม่ได้ก็คิดกันว่าจะเรียนที่ไหนดี หาที่สอบกันใหม่ หรือคนที่ได้ไม่สมใจก็หาแนวทางกันว่าจะไปสอบที่ไหนเตรียมตัวสอบกันต่อไป) วันนั้น อ.ฝ่ายแนะแนวท่านก็กำลังเขียนป้ายชื่อนักเรียนที่สอบเอ็นท์ตรงได้ จำนวนแปดคนเพื่อจะติดไว้ที่หน้าโรงเรียน (ใครสอบได้ก็จะดังเลยครับตอนนั้น เพราะแต่ละปี สอบได้ก็ประมาณสิบคน) ส่วนดังในโรงเรียน ออกไปแล้วจะดับหรือเปล่าก็ต้องไปว่ากันในอนาคตครับ

           ตอนไปปรึกษาท่านอาจารย์แนะแนว แล้วก็ได้คำแนะนำหลายๆ อย่าง และผมบอกว่ามีญาติแนะนำให้เลือกคุรุทายาท เหมือนว่าจบมาแล้วมีงานให้ทำเลย ได้เป็นครูด้วย แต่ที่ผมโดนใจที่สุดคือ อ.ฝ่ายพละท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า หากอยากจะเป็นครูจริงๆ ก็ไปเรียนในมหาวิทยาลัยก็ได้ นั่นคือ ม.สงขลานครินทร์ (ตอนนั้นผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่า คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่ที่ปัตตานี ผมคิดว่าหาดใหญ่) แล้วเรียนให้เก่งๆ ตั้งใจเรียน หากทำได้ ก็จะมีคนมาทาบทามให้เป็นอาจารย์เองหล่ะ ทำให้ผมคิดก้าวไปอีกขั้นหนึ่งครับ ด้วยคำพูดนั้น ที่ทำให้ผมตัดสินใจเด็ดขาดว่า เอาหล่ะ อันนี้หล่ะ

            ผมก็สละหมดเลยครับ สาขาที่เกี่ยวกับครูและด้านอื่น ตอนผมเลือก มอ. ผมก็เลือกคณะวิทย์เทคโน เพราะมีสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์อยู่ครับ ส่วนอันดับอื่น ผมเลือกเกษตรหมดเลย แล้วห้อยท้ายด้วย คุรุทายาท อีกทีหนึ่งครับ เป็นโปรแกรมคุรุทายาท

           ผมก็ไปเรียนปีแรกที่ มอ. ปัตตานี ตอนนั้นปีแรก เค้ายังไม่แยกสาขาวิชากันเลยครับ คือใช้เกรดเทอมแรกหรือปีแรกในการตัดสินกันว่าจะได้เรียนสาขาใดกันบ้าง ผมเห็นเพื่อนเค้าเลือกสาขาเทคโนโลยียาง กันใหญ่เลยครับ เพราะคงฮิตมากในตอนนั้น ผมก็ตอบบ้าง ว่าผมก็อยากเรียนยาง เหมือน เพื่อนๆ แต่จริงๆ แล้วในใจผมหน่ะ คณิตศาสตร์คือสิ่งที่ผมหวังเอาไว้ครับ แล้วผมก็ต้องทิ้งวิชาพื้นฐานไปหมดเลย ไม่เกี่ยวกับเกษตรเลยในระดับปริญญาตรี

           พอก่อนจะขึ้นปีสองผมก็ได้เลือกแนวทางที่ชัดเจนแล้วก็เลือกได้เรียนสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์สมใจนึก จริงๆ แล้วคุณอาจจะคิดว่าผมเรียนเก่งนะครับ จริงๆ แล้วไม่เลยนะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมนี่เรียนปานกลางมากครับ ไม่ได้เน้นเกรดเลย ตั้งแต่ ประถมถึง ม.ปลาย แล้วมาเรียนเพื่อต้องเอาเกรดก็ตอน ปีหนึ่ง ป.ตรีนี่หล่ะครับ เกรดตอน ม.ปลาย ผมเพียง 2.93 ม.ต้นก็ 2.92 ไม่ถึงสามด้วยซ้ำครับ แต่มา ป.ตรีที่เพิ่งมาหันพิจารณาด้วยเพราะใช้เกรดมาพิจารณาในการเลือกสาขา แต่การเรียน ป.ตรีไม่ได้ฟาดฟันกัน เน้นการเรียนเป็นกลุ่มกันครับ ช่วยกันเรียนมากกว่า เกรด ป.ตรีนั่นหล่ะครับ ที่จะเพิ่งมาเริ่มเกินสามขึ้นมา โดยที่เทอมแรกที่ผมเข้ามา ได้ 3.06 ก็นับว่าน้อยที่สุดใน ป.ตรี ของเทอมอื่นๆ ด้วยครับ เพราะเรียนแนวทางที่ผมเรียนมา เน้นความเข้าใจในห้องเรียนให้มากที่สุด เพราะเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือครับ ไม่ชอบท่องจำ เน้นกระบวนการคิด การทำความเข้าใจเป็นสำคัญ

          พูดมายาว ยังไม่สาวไปถึงว่ามาเป็นครูได้อย่างไรเลย

          มีอยู่คืนหนึ่ง รุ่นๆน้องๆ ก็ได้จัดกิจกรรมส่งพี่ปี 4 กันที่ลานตึกคณะ ตอนนั้นผมกำลังจะจบ ปี. หนึ่ง ก็นั่งทานอาหารอยู่ ก็อาจารย์ท่านหัวหน้าภาค มาคุยกับผม ว่า สมพร สนใจจะเป็นอาจารย์ไหม ลองเอาไปคิดดู หากสนใจ ทางคณะหรือภาควิชาจะเปิดรับสมัครในอนาคตให้มีทุนส่งเสริม ของมหาวิทยาลัย

           ผมเลยเอาเรื่องนี้ไปถามที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเนื้อสาระของผมคือผมชอบสอนหนังสือ ตอน ม.ปลาย ผมก็จะนั่งจดที่มีอาจารย์สอนในทีวีตอนเช้าๆ แล้วเอาไปสอนเพื่อนๆ กันต่อ รู้สึกว่ามีความสุขดีเวลาเพื่อนเรียนจากเราแล้วเค้าเข้าใจ สนุกในการถ่ายทอด

           ที่บ้านก็ดีใจนะครับ คงเพราะสบายใจมั้งครับ ว่าลูกได้เป็นข้าวราดแกง (ข้าราชการ) แต่ผมบอกที่บ้านว่า เงินเดือนน้อยนะ หากจะให้ผมเดินทางนี้ อย่าได้คิดหวังเรื่องเงินเด็ดขาด ที่บ้านบอกว่า เราก็เป็นแบบนี้ ยังไงก็ไม่อดหรอก เราทำนาทำไร่ เกษตรกรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องร่ำรวยอะไร  (ในใจผมหน่ะตอกย้ำเรื่องเงินเข้าไปเพื่อให้ท่านลองชั่งใจดูครับ ทั้งๆ ที่ผมก็ชอบเรื่องการสอนอยู่แล้วหล่ะครับ) แสดงว่าผ่านฉลุย ดังนั้น ผมก็เลยบอกท่าน อาจารย์หัวหน้าภาค ว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา ผมยินดีจะเป็นครู และเดินในถนนสายนี้

            จากนั้นมาก็ได้รับทุนจาก วิทยาเขตเดือนละสองพัน จำนวนแปดเดือน ต่อปี ก็เอาไว้ใช้ลดภาระทางบ้านได้ส่วนหนึ่งครับ

            ได้มีโอกาสทำกิจกรรม ก็จะอยู่ฝ่ายวิชาการ เน้นการบริการทางด้านการศึกษา การติวในสโมสร อะไรทำนองนี้ครับ เพราะรู้อนาคตตัวเองแล้ว ผมรับทุนตั้งแต่ ปี 2,3,4 แล้วก็เป็นครูสอนในภาควิชา มาหนึ่งปี ก่อนจะลาไปเรียนโท อีกสองปีครึ่ง แล้วกลับไปสอนอีกครึ่งปี แล้วมาต่อที่นี่ ในตอนนี้ อยู่หกปีแล้ว อิๆๆ (ยังไม่เรียบร้อยเลยครับ ผลาญภาษีประชาชนไปเยอะพอสมควร) หลังจากนี้ไป ก็คงต้องชดใช้กรรมทั้งหลายที่ต้องเดินต่อไป ในสายการศึกษานี้ เมื่อพายเรือลำนี้แล้ว ก็ต้องให้คนอื่นก่อนเป็นอันดับหนึ่ง......

        มีหลายๆ ท่านที่เดินหรือกำลังพายเรืออยู่เหมือนที่ผมกำลังพายอยู่ แต่เรือที่ผมพายอยู่ตอนนี้มีประสบการณ์น้อยนิด ยังไงก็ต้องขอความเห็นหรือข้อแนะนำจากเรือลำอื่นๆ ด้วยนะครับ

มีหลายๆ ประเด็นในเรื่องการศึกษา ที่พยายามหาแนวทางในการถก หรือหารือกัน เช่น

  • คุณจะทำอย่างไร หากมหาวิทยาลัยต้องรับเด็กอ่อนเข้ามาเรียน เพื่อให้ครบตามจำนวนที่วางไว้ แต่เด็กที่เข้ามาเป็นเด็กอยากเรียน แต่เกรดหรือพื้นฐานความรู้ไม่ถึงเกณฑ์

  • คุณจะปรับพื้นฐานเด็กอย่างไร เมื่อเด็กที่เข้ามาหลากหลายมาก และฐานความรู้ต่างๆ กัน หากคุณสอนอยู่ในที่ไกลๆ จากเมืองหลวง

  • คุณคิดว่าปัญหาเหล่านี้ท้าทายไหม ที่จะทำให้เด็กที่อยากเรียนเข้ามาแล้วทำให้เค้าได้บทเรียนที่ดี ก่อนออกไปรับใช้สังคม ดีกว่าปล่อยให้เค้าไม่มีโอกาสได้รับรู้เรียนรู้ในสังคม ที่อาจจะเป็นปัญหาอย่างอื่นตามมาในอนาคตก็ได้

  • แล้วการปล่อยเกรดของ ม.ปลาย ให้เข้ามาเรียนใน ป.ตรี แต่คุณภาพต่ำหล่ะครับ คุณจะจัดการสิ่งเหล่านี้อย่างไร

  • ปัญหาเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งท้าทายต่อผมมากๆ ในความเห็นส่วนตัวครับ ผมได้เตรียมคำตอบส่วนหนึ่งเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำเลย ให้ทุกอย่างลงตัวก่อนแล้วจะเอามาเล่ากันครับ ต้องลงมือทำดูครับ ให้บังเกิดผลกันต่อไปก่อนครับ

  • ประเด็นอื่น เชิญท่านบรรเลง

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

หมายเลขบันทึก: 93079เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2007 16:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (37)
  • ตอนนี้แค่ได้เป็นนะครับ ส่วนจะเป็นได้ดีหรือไม่นั้น ต้องให้นักศึกษา นักเรียนวิจารณ์กันอีกเยอะครับ
  • เรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมา นะครับ ไม่ได้เรียนทางด้านศึกษาศาสตร์ เทคนิคการสอน การสร้างแรงจูงใจ หรือการแนะนำ การยกตัวอย่าง ยังน้อยนิด
  • คงต้องศึกษากันอีกเต็มครับ แล้วอีกอย่างคือที่ท้าทายมากๆ คือ เรียนสูงๆ เรียนนอก จะสอนได้รู้เรื่องหรือเปล่า ก็ท้าทายยิ่งนักครับ
  • ผมเองชอบสอนเด็กที่ปานกลางและไม่เก่งมากกว่า ผมว่าท้าทายมากๆ ในการหากลเม็ดเด็ด มายกเป็นตัวอย่างให้เค้ามองเห็น น่าจะสนุกแท้ เว้นแต่ว่าเราจะเปิดใจได้แค่ไหน
  • ขอบคุณมากครับ
  • พายเรือได้ กับพายเรือเป็น ก็คงต่างกันใช่ไหมครับ
  • น้ำลึกอย่างไร น้ำวนตรงไหนบ้าง น้ำไหลอย่างไร ไม้พายอย่างไร พายสองข้างหรือข้างเดียว
  • บรรทุกคนกี่คน เหมาะกับเรือไหม บริหารเรืออย่างไร
  • โยกตัวอย่างไร พายเร็วไป หรือช้าไป อย่างไรให้เหมาะสม ก็คงจะเป็นอะไรที่น่าชวนคิดเช่นกันครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • เขียนยาวจัง
  • ไปแค้นใครเขามาพี่
  • แต่นั่นแหละก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นครู(คุรุ, guru)ครับ
  • แต่ผมรู้ครับว่าทำไมพี่จึงต้องเลือกไปเรียนที่นั่น...ก็เพราะจะได้เจอกับคนดีๆ อย่างผมไงเล่า 5555555
P

สวัสดีครับน้องเทพ

  • ห้าๆๆๆ ไม่ได้ไปแค้นใครมาครับป๋ม
  • เขียนแล้วให้มีที่มาที่ไปครับ เป็นไงครับ อ่านแล้วหมั่นไส้ไหมครับ ห้าๆๆๆ
  • guru บางทีพี่อ่านแล้วไม่ชอบคำนี้ ประมาณ ว่า ไม่ใช่อ่านว่า คุรุ นะครับ เหมือนว่า กูรู้ (กูเก่ง กูเลอเลิศประเสริฐศรี กูไม่ฟังใครแล้ว ห้าๆๆๆ)
  • ที่มาเรียนที่นี่ เพราะว่ายังไม่มีใครจบจากทางยุโรป อยู่ในภาควิชา เผื่อจะได้เกิดการบูรณาการกันมากขึ้นในภาควิชาครับ (หวังว่าไม่ใช่เอาไปสร้างความขัดแย้งขัดขากันนะครับ อิๆ) 
  • ขอบคุณมากๆ นะครับผม

สวัสดีค่ะคุณเม้ง

การให้..โดยเฉพาะให้ความรู้เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่และน่าสรรเสริญ

ขอเพียงมีใจที่คิดจะให้ ( ซึ่งคุณเม้งมีอยู่แล้ว )..ปัญหาที่ตั้งมาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยค่ะ

ขอเอา Dewey ( นักการศึกษาอเมริกา ) มาแล้วกันค่ะ ( เพราะหาคนไทยพูดเรื่องนี้ไม่เจอ ).." Man does not l ive  by  scores "...( มนุษย์ไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยคะแนน )

เบิร์ดเชื่อมาตลอดว่า " ไม่ต้องเรียนเก่งก็มีวิถีชีวิตของตนได้ "..เราไม่จำเป็นต้องมีเกณฑ์เดียวที่ยึดถือสำหรับชีวิตที่ประสบความสำเร็จ  แต่ละอย่างก็เป็นไปได้ตามวิถีของตน  ต้นไม้หลายๆต้นก็เติบโตไปตามวิถีของใครของมัน แต่ก็อาศัยกันและกัน..คนเราเก่งได้..แต่อย่ากว่า เพราะถ้ามีคำว่า "กว่า".. จะเป็นการเปรียบเทียบแล้วคนที่ด้อยกว่าจะมีที่ยืนเหรอคะ ?

ทุกอย่างในโลกนี้มีคุณค่าในตนเอง โดยที่ไม่ต้องเปรียบเทียบเลย..เบิร์ดถึงเน้นว่าเก่งได้..แต่อย่าคิดคำว่ากว่า..อย่างผักชีก็มีค่าของผักชี  ต้นสักก็มีค่าของต้นสัก ( คุยกับนักสร้างภาพจำลองเกี่ยวกับต้นไม้ก็ต้องยกตัวอย่างแบบนี้แหละค่ะ )..เวลาเราทานขนมข้าวเกรียบปากหม้อเราทานกับใบสักได้มั้ยคะ ? ..แล้วถ้าเราปลูกบ้านเราจะใช้ผักชีได้มั้ยคะ ?..( ยกตัวอย่างแบบสร้างสรรค์มาก..ก ..จานตะนากินล้ำลึก ^ ^ )..คือจะบอกว่าถ้าเราเอาเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งเป็นหลัก สิ่งหนึ่งก็จะได้เปรียบสิ่งหนึ่งน่ะค่ะ..แต่ถ้าหากว่าเราเอาโลกกว้างๆนี่เป็นหลัก ทุกอย่างก็จะมีค่าในตนเอง ทุกอย่างดีหมดตามวิถีของตน

ถ้าคุณเม้งพาพวกเขาเดินผ่านจุดนี้ได้..ปัญหาก็ไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ...เอาใจช่วยนะคะ

ขอบคุณที่เล่าเรื่องอาจารย์ให้ฟังอ่านอีก ผมรู้จักอาจารย์เม้งมากขึ้น ต่อไปอาจถึงกะสนิทสนมนะนี่  ผมคิดด้วยคน เรื่องการเป็นครูอาจารย์ เอาประเด็นเดียวเน้น ๆ

         ผู้เป็นครูอาจารย์กรุณาอย่าได้สร้างเงื่อนไขที่กดดันผู้ศึกษาเกินไป   การเปิดโลกทัศน์สำคัญกว่าการบังคับสู่เรื่องราวที่อยากบอก

         แค่นี้ล่ะเกรงใจครับผมเองประสบการณ์ยังน้อยจะมีบ้างก็แค่รับ นศ.ฝึกงานอยู่ 3 รุ่น  ก็พยายามจะเป็นผู้ให้ที่ดีที่สุดเช่นกัน

         ถ้าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนก็ทำเป็นรับซื้อไว้ก็แล้วกันครับ    ขอบคุณคร้าบ......

P

สวัสดีครับคุณเบิร์ดครับ

  • ขอบคุณมากๆ เลยครับสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผมนะครับ
  • เห็นด้วยครับ ว่าทุกอย่างอยู่ด้วยกันได้ครับ ผักชีกับบ้านก็อยู่ด้วยกันได้ครับ
  • ผมก็มีอยู่ในตู้เย็นด้วยครับหนึ่งมัดครับ ว่าแล้วนึกถึงพริกน้ำปลาใส่ผักชีครับ น้ำพริกปลาย่างไฮเดลแบร์กก็ใส่ผักชีด้วยครับ
  • เรื่องว่าผมจะนำพาหรือเดินไปกับพวกเค้าได้หรือไม่นั่น ตัวผมคนเดียวก็ไม่ไหวหรอกครับ คงต้องมีทีมพายครับ แล้วที่แน่ๆ น้องๆ นักเรียนก็ต้องช่วยกันพายด้วยครับ
  • ผมขอลุยก่อนแล้วกันครับ หากผ่านหรือดี เด็กๆ เค้าจะตอบของเค้าเองครับ
  • ขอบคุณมากนะครับ
  • ขัดขา นี่คุ้นๆ นะพี่
  • เห็นด้วยกับคุณเบิร์ดครับ
  • ยิ่งบรรทัดสุดท้ายขอเสริมว่า  ปัญหานอกจากจะไม่ใช่ปัญหาแล้ว ปัญหายังทำให้เกิดปัญญาด้วยครับ
  • ขอเป็นกำลังใจ(อย่างแรง) ครับ คุงคู

ธรรมะสวัสดีครับ

P

สวัสดีครับคุณสุมิตรชัยครับ

  • ขอบคุณมากครับผม
  • การเป็นเพื่อนหรือมิตรของผม คือคุณเป็นมิตรที่ดีเสมอครับ ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีการเอามะพร้าวมาขายสวนด้วยครับ เพราะเน้นการให้ครับ เพราะคุณขายผมก็ไม่ซื้อครับ แต่เอามาแลกกันแทนดีไหมครับ มะพร้าวมา ให้ปลาไป ก็เพื่อนกันมิตรที่ดีต่อกันไม่ต้องขาย
  • ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรเลยครับ ผมแค่เรียนรู้ พอจะประมวลอะไรได้บ้างก็เล็กน้อย ทฤษฏีบางอย่างใครจะว่าจะเอาไปได้เสมอไป อ่านเปเปอร์ไปเยอะแยะที่ตีพิมพ์ ใครว่าเอาไปทำตามแล้วจะได้ผลอย่างที่เค้าทำเสมอไป ไม่เลยนะครับ มันแล้วแต่จังหวะสถานการณ์ หรือตามปัจจัย
  • ผู้เป็นครูอาจารย์กรุณาอย่าได้สร้างเงื่อนไขที่กดดันผู้ศึกษาเกินไป   การเปิดโลกทัศน์สำคัญกว่าการบังคับสู่เรื่องราวที่อยากบอก
  • ขอบคุณมากเลยครับ สำหรับประโยคนี้ครับ ผมจะจำไว้ครับผม และนำไปปรับใช้ครับ
  • การให้ที่ยิ่งใหญ่ คงเป็นการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน ส่วนการให้การศึกษานี้ก็เป็นการให้เพื่อสร้างชีวิตโดยไม่หวังผลตอบแทน เช่นกัน
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P

สวัสดีครับน้องเทพ

  • ปัญหา = ปัญญา + ค้นหา
  • ผมตั้งเอาแบบนี้นะครับ ง่ายๆ ดี ลองแปลกันเองนะครับ ว่ามันหมายถึงอย่างที่ผมว่าหรือเปล่าครับ
  • เรื่องขัดขา ก็เป็นปัญหา หากมองในเรื่องของปัญหา หากมองในเรื่องปัญญา ก็คงจะได้อีกทาง หรือหากค้นหาปัญหา ก็จะได้อีกทางเช่นกันครับ
  • หรืออาจจะเป็นทางเดียวกันก็ได้ครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับป๋ม ขอบคุณสำหรับการเพิ่มเติมให้เต็มมากขึ้นครับ

เกิดมาเป็นคนเก่งก็ลำบากเหมือนกันนะ ความรู้ไม่ถึงค่ะขอแค่อ่านนะค่ะ

ไม่มีรูป
พัทยา เพียพยัคฆ์

สวัสดีครับน้องกิ่ง

  • แหม...ห้าๆๆๆ เก่งอะไรหรือครับผม....
  • ฟลุ๊คนะครับ หากเป็นเรื่องที่สอบได้หน่ะครับ
  • ความรู้อะไรไม่ถึงครับ ทำไมจะไม่ถึงครับ.....เอแล้วจะถึงไปทำไมครับ เราเรียนเพื่อรู้ครับ ไม่ต้องสนใจมากกว่าถึงหรือไม่ถึง รู้ก็คือรู้ครับ ไม่รู้ก็คือไม่รู้ และทำให้รู้ได้ครับ อยู่ที่เราครับ
  • ผมเพียงนำเสนออันนี้เพื่อจะผูกมัดตัวผมในอนาคตนะครับ ว่าผมได้ลั่นวาจาไว้แล้วที่นี่ อนาคตหากผมจะเป็นคนเลว ผมจะได้คิดละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรมครับ
  • ขอบคุณมากครับ

ดีครับน้องบ่าว เม้ง

     พี่คนนึงที่มีนิสัยไม่ชอบอ่านหนังสือครับ มันจะยากเย็นแสนเข็ญกันนักกันหนาก็ไม่รู้ จะอ่าหนังสือทีรัยต้องบังคับจิตใจกันยกใหญ่ทุกที

     ความซาบซึ้งใจ การย้อนคิดคำนึงถึงเรื่องราวที่ผ่านมามันช่างสอนให้เราสำนึก เรียนรู้ นำไปสอนผู้อื่นได้จริงๆครับ

     ที่ผมมาได้ถึงทกวันนี้ก็เพราะคุณแม่ผมเองครับ  หากวันนั้น  วันที่ผมตัดสินใจไม่เรียนหนังสือต่อในขณะที่จบแค่ ม.3 เกรดก็ตุปัดตุเป๋  ผมคงไม่มีโอกาสได้ทำงานที่มั่นคง มีหน้ามีตา (ตามสถานะนภาพนะครับ) และที่สำคัญไมโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอย่างแน่นอนครับ

     อยากฝากผู้ที่เข้ามาอ่าน ซึ่งยังอยู่ในวัยเด็กที่คิดจะจบการศึกษาตามใจตัวเอง  ให้เลิกคิดอย่างนั้นเสียเถิด  การศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ทั้งในระบบ นอกระบบ ในและนอกสถานที่ ที่สำคัญการเรียนรู้ในการใช้ชีวิตในสังคมให้มีคุณค่าและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข นั่นแหละครับ คือการนำความรู้ที่มีมาปรับใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

     มันไม่ค่อยเกี่ยวกันเลยนะเม้งนะ  แต่พี่อยากเล่าให้ฟังแค่นั้นเอง อิๆๆๆ

   

สวัสดีค่ะP

  • คำถามที่ตั้งมาท้าทายดีค่ะ   เคยเจอมาบ้างค่ะ
  • เมื่อก่อนคณะพยาบาลที่นี่เป็นลักษณะร่วมผลิต 
  • คือ สรุปว่าเด็กที่เราสอนจะคละกัน จะมีทั้งเด็กเก่งและเด็กที่ช้าหน่ะค่ะ
  • เหมือนจะมี gap ความรู้  ความสามารถ  เรื่องการคำนวณ เรื่องความจำมากเหมือนกัน
  • แต่มาตอนหลังนี่  เขาแยกกันแล้ว  เลยมีแต่เด็กที่พื้นฐานใกล้ๆกันค่ะ
  • จริงๆก็ต้องบอกว่าปัจจุบันนี้รู้สึกเลยค่ะว่าเวลาสอนนี่ใช้เวลาน้อยลง   เพราะเด็กจะเข้าใจเร็ว   กล้าคิด  กล้าถาม 
  • แต่ก็อย่างที่คุณเม้งบอกแหละค่ะว่ารู้สึกท้าทายเวลาเจอเด็กที่อาจจะช้าไปบ้าง 
  • ในสถานภาพที่เป็นอาจารย์ผู้น้อยที่ไม่ได้มีบทบาทในการบริหารจัดการกับปัญหาเชิงนโยบาย  ก็ได้แต่  ให้เวลาเด็กที่ช้ามากขึ้นค่ะ  สอน  อธิบาย  ยกตัวอย่าง ให้แบบฝึกหัดไปทำเป็นการบ้าน 
  • บางทีก็นัดเค้ามาเลยค่ะ  คัดดาวเด่นออกมาเลยมาติวกัน  จะได้ทันเพื่อนๆ  จนกว่าเค้ายิ้มได้ไม่ทำหน้าตาแบบคิ้วผูกโบว์อีกนั่นแหละ55 
  • ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อยอะไรมากมาย  แต่คิดยาวๆไปว่าถ้าเค้าทำไม่ได้หรือไม่เข้าใจมันคงจะส่งผลในอนาคต  เพราะเป็นวิชาชีพที่ต้องทำกับคนด้วยแล้ว  
  • แต่เด็กในกลุ่มนี้เค้าก็มีอะไรที่เป็นnatureของเค้าที่น่ารักๆนะค่ะ  เท่าที่สัมผัสเค้าจะมีน้ำจิตน้ำใจมาก  สัมมาคารวะ  อะไรอย่างนี้
  • จริงๆมีตัวอย่างที่จำได้ที่ประทับใจหลายอย่าง  แต่เกรงจะยาวไป  เอาเท่านี้ก่อนค่ะ555
  • เอ  จะว่าไปแล้วปัญหาเด็กอ่อนไม่เฉพาะแต่มหาลัยนะคะ  ม.ต้น หรือ ม.ปลายก็เจอแยะเลยค่ะ  เราไม่สามารถปฏิเสธเด็กได้เลย  เพราะนโยบายกระทรวงฯ มีว่าเด็กอยากเรียนต้องได้เรียนนี่คะ  โดยเฉพาะ  ม.ต้น  ซึ่งถือเป็นการศึกษาภาคบังคับ  เราไม่รับก้อไม่ได้ค่ะ  โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ไกลเมืองหลวงหรือไกลจากตัวเมืองอย่างที่คุณเม้งว่ามาน่ะค่ะเด็กที่เข้ามาสมัครที่เราจะอ่านหนังสือไม่ค่อยออก หรือไม่ออกเลยก็ต้องรับหมดล่ะค่ะ  (หัวกะทิหน่อยคงต้องไปโรงเรียนดังๆ ก่อน) พวกเราครูนอกๆ หรือห่างไกลเมืองก้อเลยหนักหน่อย  ต้องขุนค่ะ   ( เหมือนลูกหมูเนอะ ) แล้วพื้นฐานแตกต่างกันมากๆ ด้วย  จะให้ซำชั้นเหมือนเมื่อก่อนก็ทำไม่ได้  มันเหมือนปล่อยกันไปเรื่อยๆ  อาจจะเพราะการประเมินคุณภาพสถานศึกษาเป็นตัวบังคับอยู่มังคะ  แต่ละโรงเรียนทั้งประถม และมัธยม  เลยต้องทำการปล่อยเกรดกันเต็มพิกัด เพื่อรักษาหน้าโรงเรียนตัวเอง แต่จริงๆ ในตัวเด็กเองแทบจะไม่มีอะไรเท่าไหร่เลย  เหมือนถูกเตะโด่งไปเรื่อยๆ  น่าสงสารค่ะ 
  • เมื่อไหร่จะได้รับการแก้ไขนโยบายกันเสียที  บางทีนโยบายเก่าๆ บางตัวก็น่าจะใช้ได้ดี  ในบางสภาพท้องถิ่นนะคะ 

P
สวัสดีครับพี่บ่าว
  • ขอบคุณพี่มากเลยครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันนะครับ
  • พระอรหันต์ของผมที่บ้านทั้งสองท่าน ก็สนับสนุนผมมาตลอดครับในเรื่องการศึกษา พระอรหันต์ท่านที่อุ้มท้องผมมา ก็บอกว่าท่านไม่ได้เรียนมาแล้วท่านอยากให้ลูกได้เรียนชดเชยที่ท่านไม่ได้เรียนครับ
  • ผมก็จะใช้เวลาที่เหลือคืนบางอย่างที่ผมได้รับการสนับสนุนคือท่านพระอรหันต์ของผมผ่านความรู้ที่ผมพอจะมีบ้างครับ คืนไปในรูปแบบเกษตรกรรมและคำแนะนำครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ

สวัสดีครับท่านคุณครูเม้ง

  •        จิบน้ำชาก่อนครับ
  • ขอแอบนิยมชมชอบ
  • หน้าที่คนเราเกิดมา ต้องแก้ปัญหา
  • คนเราเกิดมา ต้องไม่สร้างปัญหา
  • สร้างมาตรฐานตัวเองให้ชัดเจน
  • เป้าหมายเล็งให้ถูกจุด
  • ตั้งจุดหมายให้ชัดเจน (ระยะการแก้ปัญหา)
  • คุณครู เป็นงานที่อยู่เบื้องหลังสิ่งทั้งมวล
  • สร้างกระแสประชานิยมไม่ได้
  • ต้องมีความอดทนอย่างสูง
  •         จิบชาอีกครั้ง    

สวัสดีครับ พี่เม้ง

ตาลายอ่านแล้วมึนเลย พอดีจอมันแสงจ้าไป

เอะวันนี้ยังไม่ได้แซวพี่เทพเลย อิอิ

P

สวัสดีครับ อาจารย์

  • ใช่ครับ ทุกอย่างเป็นเรื่องน่าท้าทายครับ ผมมีคำตอบส่วนหนึ่ง แต่ต้องลองทำดูก่อนครับ
  • ที่ผมคิดไว้คือหาทีมเสริมพื้นฐาน ม.ต้น ม.ปลาย ในวิชาที่เค้าขาด โดยมีข้อมูลจากผลการสอบพื้นฐานครับ
  • แล้วก็มีทีมอาจารย์ช่วยสอนเสริม หรือสร้างทีมติว อาจจะใช้รุ่นพี่ปีสองสามสี่ มาช่วยติวด้วยครับ
  • เด็กที่อยากเรียน และมีผลการเรียนต่ำ(อาจจะหัวดีนะครับ หลังจากที่ให้แนวทางที่ถูกต้องเด็กเหล่านี้อาจจะเป็นเพชรเลยนะครับ)
  • ผมว่าช่วงการเรียนของเค้า อย่าง ป.ตรี ก็มีช่วงให้เรียน 4-8 ปี ดังนั้นแต่ละคนก็จะเรียนในช่วงนี้จนเค้าพร้อม ผมว่าให้เค้าจบแบบมีคุณภาพ แม้ว่าจะใช้เวลาช้ากว่าปกติซักปีสองปี ก็ไม่เสียหายอะไร หากเค้ามีคุณภาพต่อไปสังคมก็จะมีคณภาพตามมาด้วยครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ เข้ามาถกกันต่อได้เลยครับ ยาวแค่ไหนก็จะลุยครับ
P

สวัสดีครับคุณแอน

  • ปัญหาความอ่อนแอ คงส่งผลมาตั้งแต่ประถม ป. 1 เลยหล่ะครับ ที่มีการส่งต่อมาเป็นทอดๆ ครับ เพราะนโยบายไม่ซ้ำชั้นด้วยครับ ประกอบกันหลายๆ อย่างครับ ก็ส่งทอดๆ มาเรื่อยๆ จน จบ ป.หก แล้วอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ก็มีครับ
  • ส่งทอดต่อมาถึง ม.ต้น ม.ปลาย แล้วก็เข้าไปให้มหาวิทยาลัยต่อๆ กันไปเรื่อยๆ ครับ เป็นห่วงโซ่ครับ
  • หากอาจารย์มหาวิทยาลัยอยากจะสอนง่ายๆ ในระดับอุดมศึกษาก็ต้องหาทางส่งเสริมการสอน ประถม มัธยมด้วยครับ รวมไปถึงสายอาชีพด้วยครับ
  • จะพัฒนาเด็ก ก็ต้องพัฒนาครูกันต่อครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ
P
  • เรื่องปล่อยเกรด คงเพราะรูปแบบการหาลูกค้าด้วยส่วนหนึ่งครับ ในการทำชื่อเสียงเพื่อเป้าหมายใดๆ ก็แล้วแต่ครับ
  • แต่ผลปัญหาจะเกิดกับตัวเด็กเองในอนาคตครับ อยู่ที่ว่าเด็กเข้าไปเรียนแล้วจะปรับตัวได้ดีแค่ไหนครับ อันนี้อยู่ที่โรงเรียนว่าจะฉีดวัคซีนให้เด็กได้ดีแค่ไหนครับ
  • ผมถึงแนะนำให้จัดการการศึกษาแยกจากการเมืองหากทำได้ เพราะการศึกษาห้ามพัง แล้วต้องต่อเนื่อง การเมืองสี่ปีว่ากันทีหนึ่งครับ
  • โชคดีและสู้กันต่อไปครับ ส่งเสริมกันต่อไปครับ
P

สวัสดีครับคุณสิทธิรักษ์

  • จิบน้ำชา น้อรก
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ สำหรับทุกข้อคิดเห็นดีๆ นะครับ
  • เป็นครูต้องอดทนและสู้กันต่อไปครับ แต่ต้องพัฒนาตัวเองด้วยครับ ผมว่าทำกันในวงที่ทำได้ก็ได้ครับ หากระบบใหญ่ทำไม่ได้ ก็ทำลูกศิษย์ ที่ดูแลให้ดีที่สุดก่อน หากดีแล้วระบบจะดีขึ้นไปเอง
  • บางที่ผมได้ยินว่า เด็กเลือกเรียนกับอาจารย์ด้วยนะครับ
  • ผมเคยคิดเลยครับ ว่าอาจจะต้องเริ่มปูพื้นฐาน ม.ต้นก็ได้ หากเด็กยังขาดอยู่ คงต้องทำให้เด็ก เพื่อการเรียนการสอนในวิชาที่สูง ขึ้นไปจะได้มีฐานที่ดี แล้วสอนได้ง่ายขึ้นๆ ไปครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P

สวัสดีครับ

  • อ่านแล้วมึนเลยใช่ไหมครับ แย่เลยครับ พี่ก็พิมพ์แบบโทนเดียวกันเลยครับ ตัวอักษรเพียบ ยาวรีเลยครับ
  • ผ่อนคลายสายตานะครับผม สู้ๆ นะครับ โชคดีในการทำงานนะครับ
Hi...คุณเม้ง ดิฉันเป็นครูที่กำลังสับสนที่สุดในขณะนี้ เจอเรื่องท้าทายความสามารถคือ เป็นครูภาษาอังกฤษมา 8 ปีแล้วพอย้ายมาอยู่โรงเรียนใหม่เปิดเทอมนี้ ต้องสอนภาษาไทนป.2-3ในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ยอมรับว่าไม่สันทัดและกลัวเรื่องบทกลอน และกลัวมากๆๆคือ กลัวผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาไทยตกอันดับลงไปอีก ขอบคุณนะคะที่เปิดโอกาสให้ระบายในหน้านี้ อ้อ!ยังไม่เคย Post ให้ใครเลย เพิ่งสมัครสมาชิกเข้าระบบเมื่อวานนี้เอง ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีครับคุณ anita
  • อย่าเพิ่งสับสนนะครับ ผมเชื่อว่าคุณทำได้ครับ อาจจะพูดคุยกับคุณครูท่านอื่นและคุณครูใหญ่ดูก่อนนะครับ
  • จริงๆ แล้ว อาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะครับ หากคุณทำแล้วอาจจะทำได้ดีก็ได้นะครับ อาจจะเป็นการดีเสียอีกที่คุณได้สอนภาษาไทย แล้วก็ภาษาอังกฤษด้วย
  • ขอเป็นกำลังใจนะครับ หากไม่สบายใจอะไรก็มาโพสต์ไว้ไดครับผม ด้วยความยินดียิ่งครับ
  • ขอให้โชคดีนะครับ
  • สวัสดีค่ะน้องเม้ง  :)
  • ถ้าไม่ได้แสดงความคิดเห็นในบันทึกนี้ด้วย คืนนี้อาจนอนไม่หลับอะค่ะ
  • ดีใจที่รู้ว่าเคยมาสอบแถว รภ.นครศรีฯด้วยนะคะ เส้นทางการเป็นครูของน้องเม้งชัดดีจัง คือรู้เป้าหมายตั้งแต่ต้นว่าจะออกไปเป็นอะไร  
  • ของพี่แอมป์ด้วยว่าพ่อแม่ญาติพี่น้องเป็นครู และเป็นข้าราชบริพาร  จึงนึกอย่างอื่นไม่ออก   จริงแล้วคือไม่ได้นึก...คือเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ  จะเห็นได้จากการบ่นยาวๆ....  จากนั้นก็จะถามว่า   " เข้าใจมั้ย?" ... อิอิ
  • เมื่อมาเป็นครู  มีเด็กๆหลงเข้ามาเรียนด้วย  พี่จะคุยกับเขาก่อนว่าเข้ามาเรียนเพื่ออะไร ( เรียนไม่เก่งไม่เป็นไร ขอให้มีเป้าหมายไว้ก่อน)
  • เมื่อเด็กตอบพร้อมกันว่าเพื่อไม่ให้ตกงาน  พี่ก็บอกว่าดีมาก  ที่จะฝึกให้ทำงานอย่างหนักต่อไปนี้  ก็เพื่อให้มีคุณสมบัติที่ทำให้เขา  อยากเอาไว้  ไม่ใช่อยากเอาทิ้ง  รับได้ไหม
  • พอเขาหลวมตัวตอบว่ารับได้เป็นเสียงเดียวกัน  พี่ก็ทะลุ่มทะลุยฝึกนิสัย ฝึกงาน และฝึกทักษะการรู้เท่าทันการสื่อสารแถมเป็นแพ็กเกจไปพร้อมๆกัน  ตลอดสี่ปีการศึกษา  และยังสนุกสนานมาจนบัดนี้  คือพี่น่ะสนุก....ส่วนเด็กๆ...ต้องไปถามเธออีกที :)
  • อาพี่คนหนึ่ง เป็นครูสอนเลขที่ราชภัฏ  สอนไว้ว่า  แอมป์ลองเอาสี่ปีหารอายุราชการดู  ก็จะเห็นว่าเรามีเวลาจำกัด  สร้างเด็กได้ไม่กี่รุ่น  แต่ละรู่นก็ไม่ได้แปลว่าจะ "สร้าง"ได้จริงๆทุกคน   ดังนั้น  เมื่อมีโอกาสจงทำให้เต็มที่ 
  • พ่อพี่ซึ่งเป็นครูสอนเลขที่ราชภัฏเหมือนกัน  สอนลูกศิษย์ว่า  ถ้าเป็นโจร... ก็จงเป็นหัวหน้าโจร  (คือลูกศิษย์เขาเอามาล้อกันจนบัดนี้)ปรากฏว่าลูกศิษย์ฝึกหัดครูสมัยนั้นเป็นครูใหญ่กันยกรุ่น
  •  ของพี่ จะออกหัวออกก้อยยังไงมั่งก็ไม่รู้  แต่พี่อยากสอนคน ให้เตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดี  เขาจะได้ไปสร้างครอบครัวที่ดี ทำให้สังคมเข้มแข็งในอนาคต  พี่เลยพูดเพื่อให้ข้อคิดบ่อยๆว่า " จะไปแต่งงาน"  เป็นกุศโลบายเพื่อให้เขาตระหนักถึงการผูกพันกันด้วยความรับผิดชอบสูงสุด  คือพี่ตั้งใจสอนอย่างนี้จริงๆ
  • ตอนนี้เขาจะเข้าใจกันว่าอย่างไรบ้างพี่ก็ไม่ใคร่แน่ใจ  ..เห็นพูดอย่างนี้ทีไรเด็กๆฮากันครืนทุกที ...กลุ้มใจชะมัดอะค่ะ   :)
P

สวัสดีครับพี่แอมป์

  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ
  • ที่สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช ตอนนี้ประกาศผลออกมา ผมได้ที่หนึ่งด้วยครับ ซึ่งรู้สึกว่าจะรับทั้งหมดสิบคนครับ แต่เค้าจะมีสำรองเอาไว้อีกซักสิบคนมั้งครับ
  • เป็นสาขาคณิตศาสตร์เช่นกันครับ ก็ทำให้ญาติๆ เสียดายเหมือนกันครับ ซึ่งเป็นคุรุทายาทนะครับ ญาติเค้าเสียดายที่ผมไปเลือกเรียนที่ปัตตานี เป็นคณะวิทย์เทคโน ในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์นะครับ
  • ตอนผมเห็นประวัติพี่ตอนเข้ามาใหม่ๆ ก็ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์การสอบได้ที่นั่นเช่นกันนะครับ แต่ว่าพี่ไม่ต้องน้อยใจนะครับ ที่ผมไม่ได้ไปเรียนที่นั่น แต่ผมวางแผนโครงการหนึ่งไว้ในอนาคต ไว้ถึงเวลาพร้อมได้พูดคุยกันจะได้ขอคำแนะนำด้วยครับ กะว่าจะทำให้ทั่วภาคใต้ก่อน หากทำได้ แต่จะเน้นในส่วนล่างก่อนครับ เป็นโครงการแนะแนวการศึกษานะครับ คงต้องขอความร่วมมือจากพี่นะครับ
  • ผมว่าพี่โชคดีนะครับ ที่ได้สอนที่นั่น และมีพ่อแม่ ญาติ ทำงานเป็นครูอยู่แล้วครับ
  • ดีใจนะคับที่พี่หันมาให้ความสำคัญของครอบครัว เพราะตรงนั้นคือ ต้นตอของการพัฒนาคนนะครับ แต่ต้องช่วยและร่วมมือกันในการพัฒนาร่วมกันครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ยังไงก็ให้กำลังใจตลอดนะครับ ขอให้พี่โชคดี กลับไปนครคงได้เจอกันครับ เพราะบ้านผมก็อยู่นครนั่นหล่ะครับ เพียงแต่ผมย้ายตัวไปอยู่ที่ปัตตานีเสียแล้ว ซึ่งตอนนี้ น้องสาวผมก็เป็นพี่คนโตในสำเนาทะเบียนบ้านครับ อิๆ
evening ค่ะ คุณเม้ง ขอบคุณมาก สำหรับคำแนะนำและกำลังใจชิลๆ นะคะ ต้ารู้มาว่านอกจาก ไทย ป.2-3แล้วยังมี eng.ป.2-3 อ้อ!พ่วงมาด้วยการงาน ฯ ป.3ค่ะ (สนุกจริงๆนะเนี่ย!)ตอนนี่ต้ากำลังทำใจให้สนุกกับมันแวละค่ะ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการสอนภาษาไทยสนุกๆ ช่วยต้าดำน้ำด้วยนะ เห็นว่าคุณเม้งเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลายๆด้าน (แอบอ่านบล็อกค่ะ)ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
P

สวัสดีครับคุณ Anita

  • Good evening teacher, I am fine thank you and you. ------------Sit down please--------, thank you teacher. :))
  • ทำให้นึกถึงสมัยเรียน ป.ห้า ครับ ผมเขียนชื่อผม ก่อนไปเรียนภาษาอังกฤษในชั้น ป.5 คือแบบว่าร้อนวิชา ท่องอักษรภาษาอังกฤษได้หมดในช่วงปิดเทอม หลังจากจบ ป.4
  • คุณครูทราบไหมว่าผมเขียนชื่อผมว่าอย่างไร

    SMPR  (อ่านว่าอะไรครับคุณครู)
  • ผมว่าคุณโชคดีที่ได้สอนทั้งภาษาไทยและอังกฤษ นั่นคือการทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเดียวให้มีการผสมผสานในตัววิชาเข้าหากันได้ครับ
  • อาจจะใช่มุกตลกลงไป เกมส์ลงไปในการเรียน ภาพ เพลง ดนตรีพื้นบ้าน หรือจากที่อื่นๆ ให้เด็กได้ปรับตัว และเจอความหลากหลาย
  • ทำการเรียนให้สนุกมีแรงจูงใจให้เด็กอยากค้นหาความรู้ อะไรทำนองนี้ครับ ผมว่าคุณอนิตาทำได้สบายอยู่แล้วครับ
  • ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรหรอกนะครับ มั่วๆ ไปเรื่อยๆครับ ลองผิดลองถูกไปครับ บทเรียนที่ดีก็ฝั่งอยู่ในการลองผิดลองถูกนั้นหล่ะครับ ใช้เหตุผลมองปัญหา กับแบบไม่ใช้เหตุผลมอง ผมว่าสนุกดี สอนตัวเราเองด้วยครับ
  • ขอให้คุณครูโชคดีนะครับ เป็นกำลังใจให้คุณครูในแดนใต้นะครับ ว่าแต่ว่าสอนที่นราฯ หรือเปล่าครับ
คุณเม้งคงชอบเล่นกับเด็ก ต้าค่อนข้างห่างๆกับเด็ก ไม่รู้ว่าจะควบคุมอารมณ์ได้แค่ไหน...ที่บ้านไม่มีเด็กเลย My parents are waiting the kid from me that's impossible ต้าไม่เคยนึกถึงเรื่องfamily ด้วยซ้ำ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำจะไปต่อยอด แล้วจะมาเขียนลงบล็อกดูค่ะ
P

สวัสดีครับคุณต้า

  • ผมว่าคุณโชคดีครับ ที่ได้มีโอกาสสอนประถม คุณเคยคิดหนักไหมตอนสอน มัธยมว่าเด็กเค้าอาจจะมีพื้นฐานบางที่ที่คุณอยากจะเสริม แต่ตอนนี้คุณมีโอกาสนั้นแล้วครับ
  • เป็นครูประถม เราไม่ทราบว่าเด็กแต่ละคนที่นั่งอยู่ในห้องเค้าจะได้เป็นอะไรกันบ้าง เราก็สอนให้เค้ามีพื้นฐานโดยครอบคลุมทุกๆ ด้านครับ ส่วนความเด่นของแต่ละคน หน่อในวิชาต่างๆ เค้าจะค่อยๆ งอกขึ้นมาเองครับ
  • ผมเองก็สนุกกับการเรียนในตอน ป.สอง ป.สามมากๆ เลยครับ เพราะตอนนั้นผมมีคุณครูประจำชั้นน่ารักมากๆ ครับ
  • มีอะไรให้ทำ เล่น ศิลป์ วาดภาพ เกมส์คิดเลข
  • เราก็ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปด้วยครับ เราจะเข้าใจเด็ก คิดถึงกระบวนการเรียนรู้ของเค้า ผมยังอยากจะทำวิจัยกับเด็กของตัวเองเลยครับ (ฝันหวานไว้นะครับ) น่าจะสนุกดูพัฒนาการของเค้า การเรียนรู้ในแต่ละช่วง ทำให้เราเข้าใจอะไรมากๆขึ้นครับ
  • สำหรับครอบครัว อิๆ ถึงเวลาคงมาเองครับ จากที่ไม่เคยคิดเดี๋ยวจะคิดเองหล่ะครับ ตามจังหวะของชีวิตครับ
  • พอคุณเข้ามาทักทายทำให้ผมนึกถึงน้องโซโลมอน (น้องเบน) เด็กชายตัวน้อยของผมที่เรียนอยู่ที่นราธิวาสเหมือนกันครับ
  • ขอบคุณมากครับ
ต้ายังไม่รู้จักใครนอกจากพี่อ้อย วีร์ แล้วก็คุณเม้ง น้องเบน เด็กอีกแล้วหรือคะ แสดงว่าคุณชอบด็กแหงๆๆเลย...คำแนะนำของคุณ,พี่อ้อยมีประโยชน์สำหรับต้ามากๆๆคะ Thanks
P
  • สวัสดีครับคุณต้า
  • น้องเบนที่ผมหมายถึง คือหนุ่มน้อยคนนี้นะครับ
  • http://gotoknow.org/profile/antony เด็กน้อยคนนี้นะครับ
    P
  • คุณรู้จักไหมหล่ะครับ สุดหล่อคนนี้ 
  • ขอบคุณมากๆ นะครับผม

น้องเม้ง

ตามไปเลือกกีฬาให้เหมยซานหน่อยนะคะ

เหมยซานไม่ยอมไปโรงเรียนค่ะ

http://gotoknow.org/blog/sompornp/93459

P

สวัสดีครับพี่สาว

  • เดี๋ยวตามไปคับผม
  • อิๆๆๆๆ ขอบคุณมากครับ
Hi! คุณเม้ง ต้าไปดูเด็กน้อยของคุณแล้วละ ต้าชอบ Mom ของน้องจังค่ะ ดูเหมือนว่าเธออยู่แบบห้าวๆดีนะ วิธีการเลี้ยงลูกของเขาคล้ายๆคุณแม่ของต้าเลยคะ ส่วนน้องเบน ต้าจะลองไปสือบดูที่รร.เอกชนนราธิวาสอีกที อาจได้เจอตัวเป็นๆก่อนคุณเม้งนะค่ะ
P

สวัสดีครับคุณต้า

  • ขอบคุณมากๆ นะครับผม
  • ถ่ายรูปมาอวดผมด้วยนะครับ
  • โชคดีนะครับผม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท