Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

การประกันคุณภาพชีวิตของคนข้ามชาติที่เกิดในประเทศไทยโดย “ใบเกิด” : ตอนที่ ๒ - ผลของการมีและการไม่มีใบเกิด


การประกันคุณภาพชีวิตของคนข้ามชาติที่เกิดในประเทศไทยโดย “ใบเกิด” โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร, บันทึกเพื่อให้ข้อมูลแก่โครงการพัฒนาแผนงานคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติ โดยทุนสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒

---------------------

“ใบเกิด” คืออะไร ?

---------------------

          เอกสารบันทึกการเกิดทั้งโดยผู้ทำคลอดและนายทะเบียนราษฎร มักถูกเรียกโดยชาวบ้านว่า "ใบเกิด” จึงต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนค่ะว่า “ใบเกิด” ที่เรียกกันโดยทั่วไปนี้ โดยกฎหมายไทย อาจหมายถึงเอกสาร ๒ ลักษณะ ดังต่อไปนี้

เอกสารลักษณะแรก ก็คือ “หนังสือรับรองการเกิด” หรือเรียกตามตัวย่อๆ ที่หัวเอกสารว่า “ท.ร.๑/๑” เป็นเอกสารที่ออกโดยผู้ทำคลอดและผู้รักษาพยาบาล สำหรับมนุษย์ทุกคนที่เกิดในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย หน้าที่ในการออกเอกสารนี้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ซึ่งก็หมายความว่า โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลต้องออกเอกสารนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมิฉะนั้น ก็จะมีความผิดตามกฎหมายอาญาในฐานะของเจ้าพนักงานตามกฎหมาย แต่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด

เอกสารลักษณะที่สอง ก็คือ “สูติบัตร” หรือเรียกตามตัวย่อๆ ที่หัวเอกสารว่า “ท.ร.๑” หรือ “ท.ร.๒” หรือ “ท.ร.๓” หรือ “ท.ร.๐๓๑” เป็นเอกสารที่ออกโดยนายทะเบียนราษฎรของรัฐสำหรับมนุษย์ที่เกิดในประเทศไทย การออกเอกสารนี้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเช่นกัน ซึ่งก็หมายความนายทะเบียนราษฎรของรัฐจะต้องออกเอกสารนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

เอกสารทั้ง ๒ ลักษณะนี้จะเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักอย่างยิ่งที่จะนายทะเบียนราษฎรจะใช้ในการนำชื่อของคนเกิดจากบุพการีที่มีชื่อในระบบทะเบียนราษฎรของรัฐไทย เข้าสู่ทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติแล้วแต่ละกรณี นอกจากนั้น เอกสารนี้ยังจะต้องทำหน้าที่พยานเอกสารมหาชนที่จะนำคนเกิดจากบุพการีที่มีชื่อในระบบทะเบียนราษฎรของรัฐต่างประเทศ เข้าสู่ทะเบียนบุคคลของรัฐต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

เจ้าหน้าที่ของรัฐไทยในวันนี้ตระหนักแล้วว่า การไม่มีใบเกิดอาจทำให้คนเกิดจำนวนไม่น้อยตกเป็นคนไร้รัฐ  และคนไร้รัฐดังกล่าวนี้จำนวนไม่น้อยที่เป็นบุตรของคนสัญชาติไทย และอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่น้อยเช่นกันที่เป็นบุตรของคนต่างด้าว การไม่มีใบเกิดของเด็กต่างด้าวย่อมหมายความว่า เด็กต่างด้าวนั้นจะตกค้างในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะหมดโอกาสที่จะได้รับการยอมรับในทะเบียนราษฎรของรัฐเจ้าของสัญชาติของบุพการี

กรมการปกครองไทยได้พิสูจน์ให้เห็นว่า  กฎหมายทะเบียนราษฎรใหม่ยอมรับหลัก Universal Birth Registration อย่างไม่มีเงื่อนไข ในการชี้ขาดเรื่องของการออกสูติบัตรให้แก่เด็กหญิงมะเฮตีไท้ซาน[1] ซึ่งเป็นบุตรของแรงงานจากประเทศพม่า ซึ่งถือ border pass เข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานกับกรมการจัดหางาน จะเห็นว่า ความผิดกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวของบุพการีไม่ส่งผลถึงสิทธิในเอกสารรับรองการเกิดของบุตรสาวที่เกิดในประเทศไทย จะเห็นว่า การที่โรงพยาบาลระนองออกหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑) และการที่เทศบาลระนองออกสูติบัตร (ท.ร.๐๓๑) ให้แก่มะเฮตีไท้ซาน ก็ไม่ทำให้เด็กหญิงผู้นี้ได้สัญชาติไทย แต่ทำให้เด็กหญิงผู้นี้มีหลักฐานที่ชัดเจนและมีน้ำหนักที่จะไปแสดงตนต่อรัฐบาลพม่าว่า มีสิทธิในสัญชาติพม่าโดยหลักสืบสายโลหิต เพื่อให้รัฐบาลนี้บันทึกเด็กหญิงผู้นี้ในทะเบียนราษฎรของรัฐพม่าในสถานะคนสัญชาติพม่า ทั้งความไร้รัฐและความไร้สัญชาติก็จะไม่เกิดแก่มะเฮตีไท้ซานในที่สุด

แต่อนิจจาที่กรมการปกครองอาจจะประกาศชัยชนะในกรณีเด็กหญิงมะเฮตีไท้ซานซึ่งเกิดที่จังหวัดระนองได้ไม่กี่วัน  แต่กรมนี้ต้องมาพ่ายแพ้ในกรณีของเด็กชายเหมซึ่งเกิดที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต[2] ดูเหมือนกฎหมายไทยว่าด้วยการจดทะเบียนการเกิดดูจะมีประสิทธิภาพไม่เท่ากันระหว่างระนองและภูเก็ต ปัญหาของเรื่องคงมิได้อยู่ที่ตัวบทกฎหมาย แต่น่าจะอยู่ที่ความรู้กฎหมายและอคติในใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยมากกว่า

เหมนั้นบรรลุที่จะได้รับการรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑) โดยโรงพยาบาลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต แต่ กลับไม่ได้รับการออกสูติบัตร (ท.ร.๐๓๑) ในลักษณะเดียวกับเด็กหญิงมะเฮตีไท้ซาน โดยเทศบาลเมืองป่าตอง  ทำไมการแก้ปัญหาที่เทศบาลเมืองระนองไม่เป็นบทเรียนสำหรับเทศบาลเมืองป่าตอง ???

อ.แหววคิดว่า สสส.ควรช่วยกรมการปกครองที่จะปรับสอนกฎหมายและปรับทัศนคติในการจัดการปัญหาสิทธิที่จะไร้รัฐของเด็กที่เกิดในประเทศไทย ดังนั้น การที่ รศ.ดร.กฤตยาเสนอให้จัดการคุณภาพชีวิตของบุตรของคนข้ามชาติโดยการให้ “ใบเกิด” นั้น เป็นความถูกต้องอย่างยิ่ง เป็นการแก้ไขปัญหาที่สาเหตุอย่างยิ่งค่ะ

รบกวนอธิบดีกรมการปกครองมาให้ความร่วมมือกับ สสส.หน่อยนะคะ

---------------------

กรณีตัวอย่างของ “การจดทะเบียนการเกิด” ไม่สมบูรณ์ จนทำให้คนข้ามชาติเกิดเป็นคนไร้รัฐ

---------------------

          ขอยกตัวอย่างของ “นายบ๊อบบี้ สุทธิบุตร”[3] ซึ่งเกิดในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๒ จากบิดาและมารดาซึ่งมีสัญชาติไทย แม้ได้รับการบันทึกโดยผู้ทำคลอดอันทำให้ได้มาซึ่งหนังสือรับรองการเกิดตามกฎหมายการทะเบียนราษฎรอเมริกัน แต่ด้วยบุพการีมิได้นำเอกสารดังกล่าวไปดำเนินการต่อเพื่อเพิ่มชื่อของบ๊อบบี้ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายทะเบียนราษฎรของรัฐไทย กรณีของบ๊อบบี้ไม่อาจถูกเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรอเมริกัน เพราะบุพการีมิได้มีสถานะเป็นราษฎรอเมริกัน

ขอให้เราตั้งข้อสังเกต บ๊อบบี้มิได้รับใบเกิดอย่างครบถ้วน เมื่อนำตัวบ๊อบบี้กลับมาประเทศไทย เจ้าหน้าที่ของรัฐไทยที่ทำหน้าที่นายทะเบียนราษฎรก็ต้องการสูติบัตรตามกฎหมายอเมริกัน ซึ่งบ๊อบบี้ก็ไม่มี เพราะบุพการีมิได้ทำให้ มีแต่ใบเกิดหรือหนังสือรับรองการเกิดที่ออกโดยโรงพยาบาล เมื่อไม่มีใบเกิดทั้งสองลักษณะดังกล่าวมา เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ปฏิเสธที่จะเพิ่มชื่อของบ๊อบบี้ในทะเบียนราษฎรของรัฐไทย บ๊อบบี้จึงต้องประสบความไร้รัฐ กล่าวคือ ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรมาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งได้รับการแก้ไขปัญหาโดยการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายไทยในวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๑ ภายหลังการพิสูจน์สัญชาติไทยของบ๊อบบี้โดยการตรวจ DNA กับบิดาละมารดาซึ่งเป็นคนสัญชาติไทย

          จะเห็นว่า เมื่อผลการตรวจ DNA ฟังไดว่า บ๊อบบี้เป็นบุตรของบิดาและมารดาจริง  บ๊อบบี้ย่อมมีสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากบิดาและมารดา ปัญหาของบ๊อบบี้จึงมิใช่ปัญหาตามกฎหมายสัญชาติ เขาเป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิด ปัญหาของเขาเป็นปัญหาตามกฎหมายทะเบียนราษฎร ซึ่งเกิดจากกระบวนการจดทะเบียนการเกิดไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

          ในวันนี้ บ๊อบบี้ได้รับการบันทึกชื้อในทะเบียนบ้านคนอยู่ถาวร (ท.ร.๑๔) ในสถานะคนสัญชาติไทย

---------------------

กรณีตัวอย่างของ “การจดทะเบียนการเกิด” ไม่เกิดขึ้นเลย สักขั้นตอนเดียว จนทำให้คนข้ามชาติตกเป็นคนไร้รัฐ

---------------------

          ขอยกตัวอย่างของ “น้องบิ๊ก” นายสมชาย อากาเป[4] เกิดวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๗ ที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา บิดาและมารดาเป็นชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพม่า ที่หลบหนีภัยสงครามอพยพมาเป็นแรงงานต่างด้าว/ข้ามชาติ โดยขึ้นทะเบียนแรงงานและทำงานรับจ้างที่จังหวัดพังงา กว่า ๒๐ ปีมาแล้ว ด้วยความไม่ทราบขั้นตอน กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และยังหวาดกลัวด้วยสถานะของคนต่างด้าว ทำให้มารดาของน้องบิ๊กไม่ได้เรียกร้องหนังสือรับรองการเกิด(ท.ร.๑/๑) จากโรงพยาบาลตะกั่วป่า  

          น้องบิ๊กต้องประสบความไร้รัฐกล่าวคือ ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรมาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งได้รับการแก้ไขปัญหาโดยการออกหนังสือรับรองการเกิด(ท.ร.๑/๑) จากโรงพยาบาลตะกั่วป่าใน พ.ศ.๒๕๔๙ และได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนประวัติสำหรับคนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร (ท.ร.๓๘ ก) จึงทำให้น้องบิ๊กมีเลขประจำตัว ๑๓ หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข ๐

          การเพิ่มชื่อน้องบิ๊กในทะเบียนราษฎรของรัฐพม่าย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะบุพการีของน้องบิ๊กก็ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎรของรัฐพม่า พวกเขาเกิดในพม่า และประสบความไร้รัฐมาตั้งแต่เกิด เพราะไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิดตามกฎหมายพม่า

แต่การเข้ามาประเทศไทยกลับทำให้บุพการีของน้องบิ๊กได้รับการบันทึกชื่อในระบบทะเบียนราษฎรของรัฐไทย เราพบว่า บุพการีทั้งสองถูกบันทึกชื่อในทะเบียนประวัติสำหรับแรงงานต่างด้าว (ท.ร.๓๘/๑) จึงทำให้บุพการีของน้องบิ๊กมีเลขประจำตัว ๑๓ หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข ๐๐

จะเห็นว่า ทั้งน้องบิ๊กและบุพการี จึงหลุดพ้นจากความไร้รัฐเพราะรัฐไทยได้ยอมรับที่จะบันทึกชื่อของพวกเขาทั้งสามในระบบทะเบียนราษฎรของรัฐไทย แต่ยังไร้สัญชาติ

ในวันนี้ ความสามารถที่จะมีคุณภาพชีวิตของคนทั้งสามดีขึ้น เพราะพวกเขาได้กลายเป็นคนมีรัฐ แม้ยังไร้สัญชาติ พวกเขายังเป็นคนต่างด้าวสำหรับรัฐไทย แต่พวกเขาก็มีสถานะเป็นราษฎรไทย (Thai Civilians) เป็นคนต่างด้าวในทะเบียนราษฎรของรัฐไทย



[1] พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร, กรณีศึกษาเด็กหญิงมะเฮตีไท้ซาน : รัฐไทยออกสูติบัตรรับรองการเกิดแม้จะเกิดจากบิดาและมารดาซึ่งเป็นคนไร้รัฐจากพม่า, เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒

 http://gotoknow.org/blog/my-work-on-birth-registration/246583,

[2] จันทร์กระดาษ, จากมะเฮตีไท้ซาน ถึงเหม ณ ป่าตอง, เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๒   http://gotoknow.org/blog/papermoon/256607

[3] พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร, นายบ๊อบบี้ สุทธิบุตร : กรณีศึกษาคนไร้รัฐเพราะตกหล่นจากทะเบียนราษฎรของรัฐทุกรัฐบนโลกทั้งที่มีสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา, เว็บเพจรวบรวมกรณีศึกษาภายใต้โครงการห้องเรียน คลินิก และสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายเพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัวไร้รัฐไร้สัญชาติ, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=2&s_id=61&d_id=61

[4] สรินยา กิจประยูร, น้องบิ๊ก : ลูกแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่เกิดในประเทศไทย,  เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙

http://gotoknow.org/blog/sarinya/46217

---------------------

การประกันคุณภาพชีวิตของคนข้ามชาติที่เกิดในประเทศไทยโดย ใบเกิด

: ตอนที่ ๓ – อย่าลังเลที่จะแก้ปัญหาคนเกิดแล้วในไทยแต่ไร้ใบเกิด

http://gotoknow.org/blog/my-work-on-birth-registration/261199

 

หมายเลขบันทึก: 261196เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2009 18:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เรื่องของพ่อแม่ด.ช.เหม ซึ่งหลบหนีออกจากเมืองพม่า และแอบเข้าประเทศไทย ถึงที่สุดแล้วจะบังคับอย่างไรก็หาเอกสารแสดงตัวตนของพ่อแม่ไม่ได้ ผมก็จนใจเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีเคสที่เพิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเป็นเคสน่าสนใจมาก แต่ว่าพยานหลักฐานเท่าที่ผมมีก็คือสมุดบันทึกสุขภาพ, เด็ก แล้วก็ย่า

น่าสนใจที่ว่าพยานหลักฐานชิ้นนี้ระบุลงไปว่า ด.ช.สุภณัฐ สมสงค์ เกิดจากแม่ที่เป็นคนไทยคือระบุ หมายเลขประจำตัวแม่ว่า 1-9298-XXXXX-XX-X ส่วนพ่อก็คือ 00-9202-XXXXXX-X มาขอให้ผมช่วยเหลือขอสูติบัตร เพื่อเข้าโรงเรียนบ้านบางกลาง เพราะเด็กไม่มีเลข ครูไม่ให้เข้าเรียน

ผมพลิกสมุดนี้จนทั่วปรากฎว่าทางโรงพยาบาลจ.ตรัง ยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองการเกิดให้ ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร ทำไมไม่ออกให้เด็กนะ ทั้ง ๆ ที่แม่เป็นคนไทย หรือไม่ออกให้เพราะพ่อเป็นคนต่างด้าว

ถามไปมาพ่อกับแม่อยู่คนละทางกันเลย แม่อยู่ตรัง พ่ออยู่กทม. ลูกอยู่กับย่าที่ระนอง

เด็กไทยนะครับ ผมเหลือเชื่อเลย เด็กไทยนะครับ จนท.รัฐไทย กับปฏิเสธ

นี่ถ้าสมุดเล่มนี้อยู่ระนอง ผมช่วยได้ทันที แต่ต้องไปถึงจ.ตรัง แล้วไม่รู้ว่าจะเหมือนที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตหรือเปล่า ไปรอบเดียวไม่ได้

ถ้าไปนำหนังสือรับรองการเกิดมาได้ ก็ไม่รู้จะหาแม่เด็กที่ไหน

พอดีวันนี้ได้รับข่าวสั้นว่า พมจ.พิจิตร ถูกเด็กเพราะไม่ช่วยเด็กไทยที่ตามหาพ่อญี่ปุ่น ผมก็เลยว่าจะให้พมจ.ระนอง ช่วยเหลือด้วย ลำพังผมไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลแม่เด็กได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่อยู่ของแม่ว่าอยู่ที่ไหน มีตัวตนหรือไม่ มีชีวิตอยู่หรือตายจาก มีเหตุผลใดทำไมไม่แจ้งการเกิดให้ลูกของตน

แม่เด็กจะรู้หรือเปล่าว่าลูกตนอยู่กับย่าชาวพม่าที่อยู่ในระนอง ไม่ได้อยู่กับพ่อ ย่าไม่มีสถานะที่มั่นคงหากย่าถูกขับออกนอกประเทศ ลูกจะอยู่อย่างไรในแผ่นดินไทย ถูกส่งกลับพม่าได้หรือ ฯลฯ

ไม่รู้พมจ.ระนอง จะช่วยเด็กชายสุภณัฐ สมสงค์ หรือเปล่าหนอ

ป.ล.ผมปิดชื่อมารดา ชื่อบิดา และหมายเลขประจำตัวทั้ง 13 หลักไว้นะครับ ไม่ปรารถนาให้กระทบกระเทือนใจแม่เด็ก แต่อยากให้รู้เลยต้องเผยนามสกุล

หากไม่ทำอย่างนี้เด็กไทยคนนี้จะตกอยู่ในสถานะอย่างไรเล่า เด็กไทยแท้ ๆ

เราจนมุมไม่ได้ค่ะ

มีอีกหลายวิธีที่จะทำงาน และมีอีกหลายมือที่จะมาช่วยกัน

ประการแรก สรุปความคืบหน้าของเหมมาก่อนค่ะ เอาลงในบล็อกนี้ล่ะค่ะ ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลมากๆ เอาส่งกันทางอีเมลล์

เราต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันนะคะ ยืนมือมา ร่วมมือกัน เดินหน้าซิคะ กลับไปสรุปความคืบหน้าเรื่องบุตรนางเล็กด้วยนะคะ แล้วเด็กคนนี้ชื่ออะไรกันแน่ค่ะ

http://gotoknow.org/blog/papermoon/256607

 สวัสดีค่ะพี่หนูอยากให้พี่ช่วยให้คำปรึกษาหน่อยค่ะเพราะว่าหนูสงสารเด็กมากไม่รู้จะทำงัยดีตอนนี้น้องเขาอายุ4ปีแล้วเขาเป็นหลานหนูค่ะเขาชื่อน้องเอิร์นลูกของลูกพี่ลูกน้องหนูเขาไม่มีใบเกิดเรื่องมันมีอยู่ว่าแม่ของน้องเอิร์นเขาไปทำงานที่กรุงเทพไม่เคยกลับมาหาแม่เขาเลยเพราะพ่อแม่เขาเลิกกันเขาเลยไปอยู่กับพ่อเขาที่กรุงเทพแล้วทำงานด้วยหายไปจนเก็บ.8 ปีค่ะ เขากลับมาพร้อมลูก2คนคนแรกไม่มีใบเกิดแต่คนที่2มีน้องเอิร์นเขาไม่มีใบเกิดหนูถามแม่เขาเขาก็บอกวา่น้องคลอดที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ที่ไหนสักแห่งแต่เขาไม่ได้แจ้งให้ทางอำเภอรู้รู้เพราะแม่ก็ยังเด็กอยู่ยังไม่รู้ภาษาอะไรเลยอายุแค่17 ปีเองกลับมาบ้านนอกพร้อมกับลูก2คน ตอนนี้กลับไปทำงานที่กรุงเทพให้ยายเลี้ยงแต่ไม่เคยส่งเงินยายก็จนมากไม่มีแม้เงินจะเลี้ยงหลาน2คนดีที่มีญาติๆไกล้ๆคอยช่วยเหลือบ้างเป็นบางครั้งแล้วตอนนี้น้องเอิร์นเขาเข้าเรียนไม่ได้เพราะไม่มีใบเกิดครูไม่ให้เขาเรียนหนูสงสารเขามากเลยช่วยบอกหนูหน่อยควรทำอย่างไรดีแล้วที่น่าสงสารที่สุดเพื่อนๆคนข้างๆเขาชอบล้อน้องว่า( อีเด็กไม่มีพ่อมีแม่แล้วแถมไม่มีใบเกิดอีกหนูได้ยินนำ้ตาไหลเลยสงสารเขามาก) ช่วยเหลือเด็กตัวน้อยๆด้วยเถอะค่ะ

มีสองปัญหาที่จะต้องทำ

1- ทำให้เด็กเรียนหนังสือได้ค่ะ การเข้าโรงเรียนไม่ต้องการใบเกิดค่ะ เป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคน

2-การจะทำใบเกิดนั้น ก็เป็นไปตามที่เขียนในบทความ ก็ต้องทราบว่าเกิดที่ไหนเป็นอย่างน้อย จึงจะทำใบเกิดได้ค่ะ กรณีนี้ยังไม่ทราบแน่ๆ เลย แต่ก็ไม่ต้องทำใบเกิดก็ได้ ปัญหาอยู่ที่ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎรใช่ไหมคะ คุณยายเป็นคนถือบัตรประชสชนไทยใช่ไหมคะ

3-ถ้าอยากช่วยเด็ก ก็ควรเล่ามาให้ชัดเจนกว่านี้ เด็กอาศัยที่อำเภออะไร จังหวัดอะไร ผู้ปกครองชื่ออะไร เพื่อที่จะทำให้คนที่มีหน้าที่ไปช่วยเด็ก หาตัวเด็กเจอค่ะ 

คือว่าต้องขอเล่าก่อนนะค่ะ พอดีว่าตัวพัชกับสามี มีลูกยากแล้วพยายามทำมาหลายวิธี แล้วทีนี้ก็ไปขออุปการะเด็ก

โดยอยากได้เป็นลูกแบบสวมทะเบียน(รู้นะค่ะว่าผิดกฏหมายแต่ขอบุตรบุญธรรมยาก)ก็ไปเจอผู้หญิงคนนึงค่ะ เขาท้องไม่พร้อม

เขาไม่แจ้งเกิดเด็กเพราะกลัวที่บ้านรู้แล้วตอนนี้เลี้ยงเด็กมา 1 ปี เขาอายุ 1ขวบแล้วค่ะ แต่ไม่มีใบเกดิดทำไงดี มีใบรับรองจากโรงพยาบาล แต่ถ้าต้องแจ้งเกิดจะสามารถขอให้เปลี่ยนชื่อแม่เป็นชื่อเราได้ไหมค่ะ คือเขาคงไม่เอาเด็กคนนี้แล้ว คือเราก็รักแกจริงๆคนทั้งบ้านก็รักแกหมดค่ะ ช่วยเหลือหน่อยนะค่ะไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ

ลูกของหนูอายุ4ขวบแล้วค่ะแต่ยังไม่มีใบเกิดเนื่องจากตอนนั้นหนูคลอดลูกที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีคะเป็นลูกคนที่สามคะตอนนั้นหนูคลอดลูกแล้วหนูใช้สิทบัติทองไม่ได้เนื่องจากสิทบัติทองของหนูใช้ได้แค่ที่ชัยนาทคะข้ามเขตไม่ได้หนูคลอดลุกวันที่22เมษายน2554คะและทางโรงพยาบาลให้เสียเงินค่าคลอดแต่หนูไม่มีเงินจ่ายคะและแฟนก้ไปทำงานที่ต่างจังหวัดคะไม่มีคนเดินเรื่องเอกสารแจ้งเกิดลุกให้คะหนูเลยไม่ได้ให้เอกสารกับทางโรงพยาบาลคะพอออกจากโรงพยาบาลหนูก้กับมายุ่บ้านที่ชัยนาทเลยไม่ได้เดินเรื่องอะไรแต่หนูเคยติดต่อไปทางโรงพยาบาลบอกต้องจ่ายค่าโรงพยาบาลตอนที่เราคลอดถ้ายังงั้นก้ยังออกใบเกิดให้ไม่ได้แต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลหนูมีเงินแค่700บ.หนูก้บอกกะเขาว่าหนูขอพ่อนจ่ายได้ไหมหนูไม่มีเงินเลยเขาก้บอกได้หนูก้จ่ายเขาไปก่อน500บ.ค่าหมอทั้งหมด5200บ.ลุกหนุตัวเหลืองต้องนอนโรงพยาบาล1อาทิตย์ถึงจะกับบ้านได้เลยต้องเสียเงินเยอะแต่ตอนนี้ลุกต้องใช้เลขบัติประชาชน13หลักเพื่อขึ้นชั้นอนุบาล1มันจำเป็นมากเคยมีหน่วยงานกาชาติของชัยนาทเขาบอกจะช่วยเหลือแต่ก้เงียบหายไปนานมากแล้วหนุไม่รุ้จะทำยังไงแล้วคะหนุสงสารลุกคะอยากให้ลุกมีเลขบัติประชาชน13หลักคะเวลาหาหมอทีก้ใช้สิทรักษาฟรีไม่ได้ต้องเสียเงินทางบ้านหนูก้ยากจนคะบางทีลุกไม่สบายเราไม่มีเงินก้ไม่ได้ไปหาหมอซื้อแต่ยาซาร่าเด็กให้กินขอร้องเถอะคะหน่วยงานไหนช่วยได้ช่วยหนูทีคะทุกอย่างที่หนุเล่ามาคือเรื่องจิงคะหนุชื่อ น.ส.ชนิตา พรมไทย อยุ่บ้านเลขที่129หมุ่ที่3 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท รหัส17150 เบอร์โทร 0966785676 นิคะช่วยลุกหนุทีนะคะเวลาเจ็บป่วยจะได้รักษาตามโรงพยาบาลคะเคยพาลุกไปหาหมอนะคะบอกลุกยังไม่แจ้งเกิดพาไปรักษาครั้งสองครั้งก้ไม่ว่าอะไรแต่หลังๆมานี่เขาบอกมาครั้งหน้าให้เตรียมเงินค่ารักษามาด้วยช่วยด้วยนะคะรำบากจิงๆคะ

คุณมีชื่อในทะเบียนราษฎรที่ไหนคะ ? ถือเอกสารอะไรคะ ?

โรงพยาบาลกบินทร์บุรีไม่ออกหนังสือรับรองการเกิดให้หรือคะ ?

ทักมาในกล่องข้อความนี้ค่ะ

https://www.facebook.com/archanwell

หนูเป็นคนสัญชาติ.ลาว เกิดที่จังหวัด.เชียงราย ในประเทศไทย มีสุติบัตร และได้เข้าเรียน ณ.ปัจจุบันนี้ หนูอายุ22ปี แต่ยังไม่ได้ถ่ายบัตร ปปช.(เนื่องจาก.ว่า..รายชื่อตกหล่น)ตอนนี้หนูอยู่ระหว่างการดำเนินขอกู้ชื่อกลับอยุ่ค่ะ **ปัจจุบัน.หนูมีลูก2คน ลูกคนแรกอายุ4ขวบ คลอดที่ จ.ภูเก็ต มีหนังสือรับรองการเกิด แต่หนูไม่สามารถแจ้งเกิด ขอสุติบัตร ให้ลุกโตได้ หนูแยกทางกับพ่อเด็กตั้งแต่ช่วงตั้งท้องแรกๆ เลยไม่ใส่ชื่อ.พ่อเด็ก #ต้องการฝากลูกเข้าเรียนต้องทำอย่างไรค่ะ!ลูกคนที่ 2 คลอดที่ จ.พังงา พ่อเด็กเป็นคนไทย แต่ทาง รพ.ไม่ยอม ออกหนังสือรับรองการเกิดให้ ทาง รพ.บอกว่า..หนูไม่มีชื่อในทะเบียนราฎ ค้นหาชื่อ.ตามหมายเลข 13หลักแต่ไม่พบ เท่ากับว่าหนูไม่มีเอกสารใดๆ จึงไม่สามารถออกหนังสือให้ได้ ตอนคลอดหนูถือ.สูติบัตรไป เพราะหนูยังไม่ได้ทำบัตร ปปช. หนูบอกกับทาง พร.ไปว่า รายชื่อของหนูตกหล่น กำลังยื่นเรื่องขอกู้ชื่อกลับคืนมา แต่ทาง รพ.ก็ไม่ยอมฟัง และไม่ออกหนังสือรับรองการเกิดให้ด้วย ตอนนี้ลูกหนู อายุ7เดือนแล้ว # พอจะมีวิธีแก้ไขในเรื่องนี้บ้างไมค่ะ ช่วยบอกหนูทีว่า..ควรทำอย่างไรดี

หนูเป็นคนสัญชาติ.ลาว เกิดที่จังหวัด.เชียงราย ในประเทศไทย มีสุติบัตร และได้เข้าเรียน ณ.ปัจจุบันนี้ หนูอายุ22ปี แต่ยังไม่ได้ถ่ายบัตร ปปช.(เนื่องจาก.ว่า..รายชื่อตกหล่น)ตอนนี้หนูอยู่ระหว่างการดำเนินขอกู้ชื่อกลับอยุ่ค่ะ **ปัจจุบัน.หนูมีลูก2คน ลูกคนแรกอายุ4ขวบ คลอดที่ จ.ภูเก็ต มีหนังสือรับรองการเกิด แต่หนูไม่สามารถแจ้งเกิด ขอสุติบัตร ให้ลุกโตได้ หนูแยกทางกับพ่อเด็กตั้งแต่ช่วงตั้งท้องแรกๆ เลยไม่ใส่ชื่อ.พ่อเด็ก #ต้องการฝากลูกเข้าเรียนต้องทำอย่างไรค่ะ!ลูกคนที่ 2 คลอดที่ จ.พังงา พ่อเด็กเป็นคนไทย แต่ทาง รพ.ไม่ยอม ออกหนังสือรับรองการเกิดให้ ทาง รพ.บอกว่า..หนูไม่มีชื่อในทะเบียนราฎ ค้นหาชื่อ.ตามหมายเลข 13หลักแต่ไม่พบ เท่ากับว่าหนูไม่มีเอกสารใดๆ จึงไม่สามารถออกหนังสือให้ได้ ตอนคลอดหนูถือ.สูติบัตรไป เพราะหนูยังไม่ได้ทำบัตร ปปช. หนูบอกกับทาง พร.ไปว่า รายชื่อของหนูตกหล่น กำลังยื่นเรื่องขอกู้ชื่อกลับคืนมา แต่ทาง รพ.ก็ไม่ยอมฟัง และไม่ออกหนังสือรับรองการเกิดให้ด้วย ตอนนี้ลูกหนู อายุ7เดือนแล้ว # พอจะมีวิธีแก้ไขในเรื่องนี้บ้างไมค่ะ ช่วยบอกหนูทีว่า..ควรทำอย่างไรดี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท