ความงามใต้แสง-เงาและไรแดด ตามทัศนศิลป์ของผศ.ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ (๒)


วิธีพัฒนาทางศิลปะที่บูรณาการไปกับการพัฒนากระบวนการคิดและกระบวนการพหุปัญญาอย่างนี้ จะช่วยเสริมให้แนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ทางศิลปะอย่างทั่วไป มีบทบาทต่อการเป็น Methodology, Tools และ Methods สำหรับการพัฒนาปัจเจกทุกคนให้เข้าไปสู่จุดสูงสุดของตนเอง ณ ภาวะเดียวกันได้ แม้วิธีเข้าสู่ความจริงและวิธีสร้างประสบการณ์ต่อโลกของแต่ละคน จะแตกต่างกัน แนวทางอย่างนี้ ก็จะเป็นตัวเลือกหนึ่งของการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้สำหรับสร้างความงาม ความสมดุลกลมกลืนบนความแตกต่างหลากหลายของผู้คน โดยไม่ต้องทำให้ทุกคนกลายเป็นเหมือนกันและทำให้อีกหลายกลุ่มคนสูญเสียรากฐานชีวิต ซึ่งก็เชื่อว่าในอนาคต แนวทางอย่างนี้จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ

 

 

 

               

Ico64 

วิรัตน์ คำศรีจันทร์

เมื่อ 19 ตุลาคม 2553 23:07

#2219968 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]

 

           

 

                 Large_virtuality2

 

   เอามาแลกกันดูอีก ๒ รูปครับ รูปแรกนี้เป็นรูปบัวในสระบัวบ้านผมเองที่สันป่าตอง เชียงใหม่น่ะครับ เวลานั่งพักผ่อนตอนเย็นๆริมสระบัว ก็จะให้ความคิดและความบันดาลใจหลายอย่างตามมา จนต้องแปรไปสู่การได้ทำอะไรสักอย่างโดยเฉพาะเขียนรูป ถ่ายรูป เขียนหนังสือ หรือเล่นกีตาร์นั่งร้องเพลง  

 

 

             

 

   รูปล่างนี้เป็นดอกบัวลอกกลีบข้างนอกออก ทรงกลมแป้นสวย สีขาวสะอาด กลีบใหญ่ เด็ดให้ติดก้านยาวๆ แล้วจัดวางในแจกันทรงดีไซน์เพียง ๓-๕ ดอกก็อยู่เลย ดูงามดีจริงๆ อย่างของบ้านผมนี้เป็นบัวฉัตรขาวครับ เรียกสัตตบงกช เหมือนกับบัวหลวงฉัตรแดงเหมือนกัน

 

   ในหมู่บัวหลวงนี้มีบัวฉัตรชนิดดอกแหลมอีกครับ แล้วก็มีแบบฉัตรแดงกับฉัตรขาว ซึ่งเรียกว่าบัวแหลมแดงกับบัวฉัตรขาว เป็นดอกบัวที่มักเห็นคนนำไปไหว้พระทั่วไป ดอกจะเล็กกว่าอย่างที่เห็นในรูปนี้และกลีบดอกไม่หลายชั้น เมื่อบานก็จะโปร่ง ส่วนใหญ่ที่มักจะเห็นกันโดยทั่วไปในรูปถ่ายและรูปวาดต่างๆนั้น ก็มักจะเป็นบัวหลวงแบบหลังนี้ละครับ

 

 

 

Ico64 

นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
เมื่อ 20 ตุลาคม 2553 16:36
#2220638 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]

 

* พี่แวะมาขอบคุณภาพสวยงามจากบ้านของอาจารย์ค่ะ..และขอใช้ทัศนศิลป์แบบงู-ปลาๆ จากใจจริงนะคะ..

 

* ภาพแรกสะท้อนบัวจากเงาน้ำหลากหลายมิติ.. พิศแล้วเห็นความงามต่าง layer ทั้งท้องฟ้าสีคราม มีกลุ่มเมฆขาวหม่นลอย เหนือเงาฝักบัว และดอกตูมชูก้านงอและตรง ตัดกับสีเขียวอ่อนของใบบัวหลายทรง แผ่รูปลักษณ์เต็มท้องน้ำ...ให้อารมณ์สงบลึกชวนฉงนถึงความงดงามของธรรมชาติที่มี combination กลมกลืนในความแตกต่าง (กว่าจะได้ภาพงามๆเช่นนี้ คงต้องนั่งชมอยู่นานไหมคะ ??)

 

* ภาพที่สองจากระเบียงบ้านมอง ภูมิทัศน์ in-out สู่บริเวณสวนร่มรื่นภายนอก เสากลมและลูกกรงสีดำเป็นแนว สร้าง contrast ของรูปทรง ตัดกับสีขาวสะอาดของบัวงามไต่ระดับอย่างลงตัว..เป็นจุดพักสายตาที่น่ารื่นรมย์อย่างยิ่งค่ะ...

 

* วันนี้ เครื่องมือจัดการของ G2K ขัดข้อง จึงไม่มีภาพมาแลกเปลี่ยนค่ะ..นอกจากมีบันทึกที่เขียนไว้นานแล้วมาฝากค่ะ ได้เติมคำสำคัญ กลุ่มงานศิลป์เล่นกับแสง-เงาและไรแดด  ซึ่งพี่ได้แรงบันดาลจากอาจารย์ ตั้งกลุ่มนี้ขึ้น เพื่อชวนกัลยาณมิตรมาแลกเปลี่ยน ภาพและทัศนศิลป์/ไวยากรณ์ของศิลปะ' ฯลฯ

http://gotoknow.org/blog/nongnarts2/290868

 

 Ico64 

 

วิรัตน์ คำศรีจันทร์

เมื่อ 21 ตุลาคม 2553 12:40

#2221656 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]

 

สวัสดีครับคุณพี่นงนาทครับ

.สนุกดีและให้ความคิดดีครับ อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องงูๆ-ปลา-หรอกครับ ประเดี๋ยวผมจะอาสาถอดบทเรียนให้เห็นแง่มุมการพัฒนาความซาบซึ้งทางศิลปะกับการสร้างความรู้และการพัฒนากระบวนการทางปัญญามิติต่างๆนะครับ

.ตั้งหัวข้อไว้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และมีเวทีให้ กลุ่มงานศิลป์เล่นกับแสง-เงาและไรแดด นี่น่าสนใจดีครับ และถ้าหากจั่วหัวข้อไว้ เอาไว้เป็นแนวการพัฒนาและศึกษาค้นคว้า พัฒนาการเรียนรู้ในชีวิตแบบสบายๆละก็ เรื่องนี้ เป็นสาขาการทำงานสร้างสรรค์ที่ไปได้ไกลและเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมากครับ มีเครือข่ายของคนที่ค้นคว้า ทดลอง สั่งสมการทำงานในแนวนี้อยู่ทั่วโลก และมียอดฝีมือ-ยอดความสร้างสรรค์ ที่น่าทึ่งที่สุดหลายคนครับ ทั้งในเอเชีย อเมริกา และยุโรป

.สำหรับในสังคมไทยนั้น ระบบคิดและวิถีภูมิปัญญาที่อยู่ภายใต้การคิดและทำงาน หากวางบนฐานความคิดเรื่องแนวนี้ ก็จะสามารถย้อนกลับไปเชื่อมโยงสู่รากเหง้าได้จนถึงภาพพิมพ์ทึบยุคโบราณก่อนประวัติศาสตร์ด้วยสีแบบ Sillhuette บนผาแต้มเลยนะครับ มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่หลายแง่ครับ

.ในยุคสมัยใหม่ก็เชื่อมโยงได้กับวัฒนธรรมหนังตะลุง ศึกษาค้นคว้าและมีเวทีคิดสร้างสรรค์ แสดงออกทางปัญญาด้านนี้แล้วละก็ ขับเคลื่อนให้ผู้คนและชุมชนสามารถมีที่ยืนอย่างสง่างามเป็นที่ทางของตัวเองได้ อีกทั้งเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆของโลกได้อย่างไม่ต้องทิ้งของเก่าได้หลายเรื่องเลยละครับ สามารถใช้กิจกรรมและการทำงานแนวนี้ ให้เป็นตัวเปิดวาระการสื่อสารเรียนรู้และสร้างพื้นที่สร้างสรรค์เรื่องนี้ให้กับสังคมได้เยอะมากเลยละครับ

.หลังความเป็นสมัยใหม่ก็เป็นเรื่องของ Light and Sound รวมทั้งงาน Creative Economy หลายสาขาที่เล่นกับ Screen Play และ Lighting

.งาน Light and Sound ของบ้านเราในโอกาสต่างๆนั้น หากมีวิธีศึกษาค้นคว้าในแนวนี้ ก็จะทำงานเชิงสร้างสรรค์ที่มีรสนิยม เข้าท่า และมีความเป็นศิลปะอย่างที่ควรจะเป็นมากกว่าอย่างที่เห็นอยู่เสมอๆนะครับ

.จะไม่ลืมที่จะเขียนเรื่องศิลปะการเล่นกับแสง-เงาและไรแดด เพื่อร่วมยินดีกับกลุ่มแนวคิดนี้ที่จะเจียดพื้นที่ทำงานศิลปะเชิงสร้างสรรค์แนวนี้ไปด้วยนะครับ รับรองว่าพี่และกลุ่มที่สนใจด้วยกันเห็นแล้วจะต้องตื่นเต้นและได้ความบันดาลใจในการทำงาน รวมทั้งได้ไฟสร้างสรรค์ในชีวิตมากมายละครับ

 

Ico64 

 

วิรัตน์ คำศรีจันทร์

เมื่อ 21 ตุลาคม 2553 13:20

#2221705 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]

 

พลังของ Story Telling กับ Exploratory Conceptual Model

สร้างกรอบจัดการความรู้และพัฒนาการเรียนรู้ให้งอกขึ้นจากทุนประสบการณ์ตนเอง

จากการเล่าและสื่อสะท้อนทรรศนะต่อประสบการณ์ทางศิลปะอย่างเชื่อมโยง

 

   

 

           

  ภาพที่ ๑ กระบวนการคิดและวิธีคิดอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ

 

         

ภาพที่ ๒ กรอบและระบบวิธีคิดที่ได้ สามารถนำไปใช้เป็นแนวเข้าสู่สถานการณ์ชีวิตอันหลากหลายและพัฒนาต่อไปได้อีกอย่างเป็นตัวของตัวเอง การตกผลึกและตรวจสอบตนเองไปบนกรอบดังกล่าวให้ละเอียดและซับซ้อนมากยิ่งๆขึ้นอยู่ตลอดไปจนเป็นหนึ่งเดียวกับองค์รวมของชีวิต ก็จะได้ปัจเจกภาพที่มีการเรียนรู้และงอกงามไปกับประสบการณ์ตนเองได้ตลอดชีวิต

 

         

 ภาพที่ ๓ เป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างความซาบซึ้งผ่านการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและโลกภายนอกจากสิ่งที่เห็นหรือได้สัมผัส คุณลักษณะและความมีดุลยภาพของกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวนี้  ต่างจากการเกิดความซาบซึ้งด้วยการคิดอยู่กับตนเองอย่างเดียว วิธีสะท้อนคิด สร้างความสะเทือนใจ ความประทับใจ ในลักษณะนี้ เป็นแง่มุมที่งานศิลปะแนว Humanized ใช้เป็นแนวคิดพื้นฐานในการทำงานครับ ที่สำคัญคืองานของยุคโรแมนติค งานของแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ และโพสต์อิมเพรสชั่นนิสต์ งานแนวนี้เห็นแง่งามจากการเกิดความประทับใจของมนุษย์ต่อสิ่งต่างๆ ดังนั้น ศิลปะจะต้องสร้างความเป็นสุนทรียภาพให้แก่ผู้คนด้วยการสร้างประสบการณ์ในการเห็นที่นำไปสู่การเกิดแง่งามและความประทับใจอันลึกซึ้ง ซึ่งความประทับใจดังกล่าว ก็จะก่อเกิดพลังใจและนำการปฏิบัติตนเองด้วยการพึ่งตนเอง

 

        

 ภาพที่ ๔ กรอบและระบบวิธีคิดที่จะสามารถนำไปใช้กับสถานการณ์อื่นๆในชีวิตและการงานต่อไป ซึ่งจะทำให้วิธี Approach โลกของสรรพสิ่งมีแนวฝึกหัด เป็นครูสร้างประสบการณ์ตนเอง จัดความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆอย่างมีความหมาย ทั้งต่อตนเองและต่อการเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีแรงบันดาลใจต่อผู้อื่นของเราเอง

 

  ผมลองนำเอาวิธีวิเคราะห์ Thematic analysis กับ Content Analysis ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปของการวิจัยเชิงคุณภาพ มาบวกกับวิธีทำงานความคิดของการทำงานศิลปะ มาเรียนรู้ไปกับประสบการณ์และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของพี่นะครับ ขออนุญาตถือโอกาสนำเอาการเล่าถ่ายทอดแนวคิดจากแง่มุมเล็กๆของพี่มาเป็นตัวอย่างนะครับ

วิธีพัฒนาทางศิลปะที่บูรณาการไปกับการพัฒนากระบวนการคิดและกระบวนการพหุปัญญาอย่างนี้ จะช่วยเสริมให้แนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ทางศิลปะอย่างทั่วไป มีบทบาทต่อการเป็น Methodology, Tools และ Methods  สำหรับการพัฒนาปัจเจกทุกคนให้เข้าไปสู่จุดสูงสุดของตนเอง ณ ภาวะเดียวกันได้ แม้วิธีเข้าสู่ความจริงและวิธีสร้างประสบการณ์ต่อโลกของแต่ละคน จะแตกต่างกัน แนวทางอย่างนี้ ก็จะเป็นตัวเลือกหนึ่งของการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้สำหรับสร้างความงาม ความสมดุลกลมกลืนบนความแตกต่างหลากหลายของผู้คน โดยไม่ต้องทำให้ทุกคนกลายเป็นเหมือนกันและทำให้อีกหลายกลุ่มคนสูญเสียรากฐานชีวิต ซึ่งก็เชื่อว่าในอนาคต แนวทางอย่างนี้จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ

  สำหรับมูลนิธิสยามกัมมาจลและเครือข่ายการทำงานของคุณพี่นงนาทแล้วละก็ การพัฒนาวิธีการให้คนสามารถเรียนรู้เพื่อเกิดความซาบซึ้งและอิ่มเต็มออกจากภายในจิตใจตนเอง ภายในครอบครัว ภายในสังคม หรือความพอเพียงที่งอกงามไปกับเงื่อนไขและบริบทแห่งตน ก็เชื่อว่าสอดคล้องอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ยของวิถีเรียนรู้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลยกระมังนะครับ.

 

โปรดอ่านเพิ่มเติมจากบันทึกศิลป์ศึกษาที่น่าสนใจของอาจารย์ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่ :

 

http://gotoknow.org/blog/civil-learning/403876#2221905

 http://gotoknow.org/blog/wiratkmsr-art/403970#2222297

 http://gotoknow.org/blog/wiratkmsr-art/408596

http://gotoknow.org/blog/wiratkmsr-art/414242

 

 

 

Ico64 

 

วิรัตน์ คำศรีจันทร์

เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2553 14:50

#2256752 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]

 

 

. รูปนี้สวยมากจริงๆเลยครับ

. เป็นรูปถ่ายแนวเล่นแสงในเงาจริงๆเลยครับ

. สื่อความเบาบางบนกลีบดอกบัว เหลืองอ่อน บนเหลืองอ่อน แต่แสดงความอ่อน-เบาบางในเงา หากเป็นรูปเขียน น้ำหนักอย่างนี้เลยละครับที่ศิลปะแนวนี้เขาจะค้นหาและถ่ายทอดความประทับใจออกมา

 

http://gotoknow.org/blog/mu-ed-alumni/408891

 

 

   

 

 

Ico64 

 

วิรัตน์ คำศรีจันทร์

เมื่อ 28 ตุลาคม 2553 17:03

#2229809 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]

 

 

.งอกงามและเติบโตอย่างต้นไม้ในไรแดด อย่างนั้นเลยใช่ไหมครับพี่นงนาทครับ

.มีความเป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป มั่นคงและพอเพียงแก่ตนเอง เคารพแสงแดด นอบน้อมต่อขอบกระถาง

.ที่หนองบัวมีคนที่ทำงานแนวเศรษฐกิจพอเพียงเด่นๆทั้งของท้องถิ่นและของระดับประเทศหลายเจ้าอยู่เหมือนกันครับ

 

  

 

             

หมายเลขบันทึก: 403884เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2010 07:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2013 15:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

พี่ใหญ่

สะดุดตากับภาพดอกบัวครับ สวยเย็นเเละสงบดีจังครับผม

สวัสดีค่ะ

ได้ทั้งความงามและความรู้ค่ะ

1.คุณจตุพร ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยมชื่นชมความงามและทัศนศิลป์ของท่านอาจารย์ ดร.วิรัตน์..ดอกบัวสีขาวสวยงามประดับที่ระเบียงบ้านร่มรื่นนี้ เก็บมาจากบ้านริมบึงบัวของท่านอาจารย์ค่ะ..หาก น้องเอก ย้อนไปอ่านตอนที่ ๑ จะเห็นภาพในฝันที่เป็นจริงของท่านอาจารย์ พร้อมกับศิลป์สนทนาในหลายแง่มุมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งค่ะ..

2.คุณณัฐรดา ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมชื่นชมภาพและบทวิเคราะห์ศิลป์ที่สัมพันธ์กับธรรมชาติและการหยั่งรากลึกถึงบริบทแห่งชีวิตหลายแง่มุมของ ท่านอาจารย์ ดร.วิรัตน์ ค่ะ..

 

          

Ico32
  • ขอบพระคุณครับพี่นงนาทครับ
  • พี่นงนาทก็ออกตัวมากเลยนะครับ
  • ในหมู่คนดูงานศิลปะนั้น คนสะสมและดูงานเรอนัวร์นี่เขาจะไม่ยอมรับว่าเป็นเด็กน้อยทางประสบการณ์ศิลปะหรอกนะครับ
  • อย่างผมนั้น งานอิมเพรชชั่นนิสต์นี่ ผมมาชอบเอาเมื่อเรียนศิลปะไป๓-๔ ปีแล้วครับ

                                     Stilllife 

  • นอกจากชอบแล้ว ผมเขียนแนวอิมเพรชชั่นนิสต์อยู่ชุดหนึ่งด้วยครับ ภาพข้างบนนี้ก็เป็นชิ้นหนึ่ง ก็เล่นขนบเดียวกับโมเนต์เลยละครับ คือโชว์การอ่านบรรยากาศภายใต้เงา และโชว์การอ่านสีของบรรยากาศภายใต้ภาพย้อนแสง ยุคนั้นพอจะมือขึ้นอยู่ครับ แม่นสีอากาศ แต่ตอนนี้ไม่ได้ความแล้วละครับ ให้เขียนอย่างนี้ก็เขียนไม่ได้อีกแล้ว
  • ปรัชญาและวิธีคิดของงานแนวอิมเพรชชั่นนิสต์มีความลึกซึ้งและให้มุมมองต่อสิ่งต่างๆแหลมคมและมักให้ความบันดาลใจมากๆอยู่เสมอๆในทุกภาพครับ
  • บางคนก็มองว่า พลังปัญญาและการนำเสนอทรรศนะต่อความงามที่ลึกซึ้งที่สุดของงานอิมเพรชชั่นนิสต์ก็คือ (๑)  ความงามของความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงบนงานทัศนศิลป์...หากเทียบกับวิธีคิดทางวิทยาศาสตร์ก็คือ การแสดง ๒ สถานะของพลังงานและมวลสารไปด้วยกัน  (๒) บรรยากาศและสีสันที่ต้องผสมกับในกระบวนการทางสมอง....การทำให้เห็นด้วยกระบวนการทางความคิด ที่ทั้งเป็นและไม่เป็นสิ่งเดียวกันกับองค์ประกอบภายนอก
  •  (๑)  วิธีการก็คือ....ลักษณะทีแปรงและสโตรก มันเหมือนกับไม่ชัด ด้านหนึ่งก็เหมือนกำลังเละๆละลายจากรูปทรงหนึ่ง แล้วก็ทำท่าจะขึ้นรูปไปยังอีกรูปหนึ่ง ยึกยือ-ยึกยือ บอกไม่ได้ว่า รูปทรงที่เป็น Mass และทำท่าจะละลายไป หรือทีแปรงลางๆที่ทำท่าจะเป็นอีกมิติหนึ่งที่ทีแปรงและสีสันฟอร์มตัวกันขึ้นนั้น ด้านไหนจะเป็นความจริงที่สุด สิ่งที่ผ่านมาแล้วหรือสิ่งที่กำลังจะเป็นคือความจริง ....ดังนั้น ด้วยวิธีการอย่างนี้มิติที่สาม คือความเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลง และความไม่แน่นอน จึงสามารถบังเกิดขึ้นได้
  •   (๒)   ส่วนสีสันและบรรยากาศความประทับใจนั้น ที่เห็นนุ่มนวล สวยงามนั้น พอเพ่งดูเข้าจริงๆก็ไม่มีสิ่งที่เราเห็นอยู่ในรูปเขียนข้างนอกหรอกนะครับ เพราะรูปเขียนแนวอิมเพรชชั่นนิสต์นั้น เขาจะเขียนเหลื่อมสี และทิ้งทีแปรงเพื่อเปิดโอกาสให้มิติความว่างและอากาศเข้ามาเป็นส่วนผสม ดูในรายละเอียดแล้วสีต่างๆก็จะแยกๆกันอยู่นะครับ แต่ดูในภาพรวมแล้วเรากลับเห็นบรรยากาศความประทับใจที่จิตรกรต้องการนำเสนอ นี่แหละครับทีเด็ดของงานแนวนี้

สวัสดีครับ

  • ตามมาจากบันทึก อ.ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ จนหาทางออกไม่เจอ
  • มาเรียนรู้การต่อยอดความรู้ เกลียวความรู้ที่เกิดขึ้นของแต่ละบันทึกที่มีความเชื่อมโยงกัน ความงดงาม ความเป็น "กัลยาณมิตร" ที่ซ่อนอยู่ในบันทึก
  • ขอบพระคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ

  • ปกติเป็นคนชอบดอกบัวมาก ๆ ค่ะ
  • ดอกบัวในบันทึกของพี่ใหญ่สวยทุกภาพ
  • ดูแล้วเย็นตาเย็นใจ
  • พี่ใหญ่สบายดีนะคะ  ขอบพระคุณค่ะ

5.คุณไทบ้านผ่า ขอบคุณค่ะที่มาร่วมรับความงามทั้งมวลของแสงเงา-ไรแดด ที่ทอดผ่านทัศนศิลป์ที่มีคุณค่าของอาจารย์ ดร.วิรัตน์ ที่พี่ได้รียนรู้มากมายค่ะ..

6.คุณอิงจันทร์ ขอบคุณมากค่ะที่เราชอบความงามของดอกบัวเหมือนกัน..ทุกอณูของธรรมชาติมีความสวยงามแฝงอยู่มากมายให้เราค้นหาอย่างมีความสุขค่ะ

      

Ico48

ขอบพระคุณดอกไม้จากพี่ใหญ่ครับ เมื่อวานก่อนไปดูงานศิลปะของกมล ทัศนาญชลี ศิลปินระดับโลกชาวไทย ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ ระหว่างที่ชม ก็เห็นงานหลายชิ้นที่เห็นปั๊บก็คิดถึงพี่ใหญ่ทันที

                        

                        

เลยขอนำมาฝากเสียเลยนะครับ เป็นภาพที่เล่นกับจังหวะของแสงและเงาของศิลปินระดับโลกเลยละครับ นำมากำนัลเพื่อความเบิกบานแจ่มใสในวันมาฆะบูชา และได้ความงดงามในวันแห่งความรักมากยิ่งๆขึ้นครับ

Ico48

ขอขอบพระคุณดอกไม้จากพี่ใหญ่ครับ
พี่ใหญ่มาเยี่ยมชมพอดีเลย กะว่าหลังจากกลับมาจากงานของอาจารย์แล้ว จะเข้าไปแสดงความขอบคุณพี่ใหญ่สักหน่อยนะครับที่ชวนผมคุยเรื่องศิลปะหลายเรื่อง และบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องแสง-เงา และไรแดดซึ่งเป็นการต่อยอดศิลปะภาพถ่ายกับพี่ใหญ่โดยตรงเลยทีเดียวนั้น ทำให้ผมมีเรื่องราวดึงออกไปทำหนังสือมอบคารวะอาจารย์และนำไปแบ่งปันกับเพื่อนๆน้องๆได้เป็นอย่างดีเลยครับ  แต่ไม่สามารถมอบได้ทั้งหมด ทำได้เพียงจำนวนหนึ่งเพื่อมอบให้แก่คนที่เป็นครูอาจารย์ศิลปะ และคนที่ทำโครงการศิลปะกับการพัฒนาทางด้านต่างๆ เผื่อจะได้ใช้เป็นความรู้สำหรับทำงานความคิด ต้องขออนุญาตและขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

http://gotoknow.org/blog/wiratkmsr-art/430982?page=1#2389480

http://gotoknow.org/blog/wiratkmsr-art/437536?refresh_cache=true

Ico48

สวัสดีครับพี่ใหญ่ครับ ภาพนี้ของ krutoiting ดูสวยงามและให้อารมณ์สอดคล้องกับเพลงได้พอดีมากเลนะครับ เมื่อสองสามวันก่อน มีนักศึกษาปริญญาโท จากจุฬาฯ กำลังทำหัวข้อวิทยานิพนธ์เพื่อศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมพื้นบ้านแถวภาคเหนือ เขาอยากขอข้อเสนอแนะในการพัฒนาประเด็นการวิจัยและกรอบในการศึกษาอย่างที่ตนเองสนใจ แล้วได้รับการแนะนำ resource person จากภายนอกมหาวิทยาลัยจากคุณเอกจตุพรให้ติดต่อมายังผม เขาเลยเข้าไปอ่านในอินเทอร์เน็ต ก็ได้ข้อมูลจำนวนหนึ่งจากบล๊อกโอเคเนชั่น ก็เลยคิดว่าสอดคล้องกับความสนใจ เลยติดต่อมายังผม หลังจากคุยเสนอแนะไปให้หลายอย่างแล้ว เขาอยากอ่านและค้นค้วางานความคิดเพื่อเป็นแนวไปทบทวนวรรณกรรมให้กว้างขวางต่อไปอีก ผมเลยแนะนำให้เข้าไปอ่านหัวข้อที่เคยร่วมเขียนและคุยกับพี่ใหญ่ คือเรื่องระบบวิธีคิดที่อยู่ศิลปะของการเล่นแง เงา และไรแดด ใน GotoKnow นักศึกษาดูแล้วตื่นตัวและใช้ได้ครับ ยังนึกๆอยู่นะครับว่า เพียงให้เราได้เป็นแหล่งร่วมสร้างลูกหลานและคนรุ่นหลังๆ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ผ่านการบันทึกและรวบรวมสิ่งต่างๆไว้อย่างนี้ ผมว่าก็มีคุณค่ามากมายแล้วเลยนะครับ กะว่าจะบอกให้พี่ใหญ่ได้ทราบอยู่นะครับ

 

๕๙. ระเบียงภาพ ๑ : ภาพ Silhouette และ Retouching ให้ความบันดาลใจ กำลังใจ

http://gotoknow.org/blog/wiratkmsr-art/414242

 

ภาพที่ ๑ ความสงบนิ่ง ความเป็นสมาธิ การมีความมั่นคง หนักแน่น ความแน่วแน่ การทบทวนชีวิต การใคร่ครวญชีวิต ความลึกซึ้ง ความรื่นรมย์เบิกบานในจิตใจ ความเข้าใจชีวิต

 

ภาพที่ ๒ ความมุ่งมั่นแน่วแน่ การแสวงหาความหมาย การแสวงหาตัวตน การพัฒนาปัจเจกภาพ การผจญภัย การเผชิญชีวิต การเรียนรู้ มรรควิถีแห่งการเรียนรู้ในชีวิต

 

ภาพที่ ๓ ความเป็นเพื่อนชีวิต คู่รัก การมีความหวังร่วมกัน ความเป็นห่วงกัน ความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ความเอาใจใส่ดูแลผู้อื่น ความผ่อนคลายในชีวิต ความอดทนฟันฝ่าด้วยกัน การร่มทุกข์สุขกัน

 

ภาพที่ ๔ ครอบครัว การเรียนรู้ระหว่างรุ่น การสร้างความงอกงามเติบโตบนชีวิตผู้คน ความรักของพ่อแม่ ความท้าทายและความกว้างใหญ่ของประสบการณ์ชีวิต

 

ภาพที่ ๕ ความเป็นกำลังใจตนเอง การให้รางวัลแก่ตนเองด้วยการปฏิบัติในชีวิต การมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ การก้าวเดินไปข้างหน้า การมีความฝันใฝ่ การมีจินตนาการ ทรรศนะเชิงบวก ความทะเยอทะยานในการสู้สิ่งยาก ความไม่ย่อท้อ

 

ภาพที่ ๖ ความเป็นกำลังใจกัน คุณค่าและความหมายของเพื่อน มิตรภาพ การเรียนรู้เพื่อแบ่งปัน ความงอกงามในชีวิตร่วมกับผู้อื่น ความเป็นกลุ่มก้อน ชีวิตแบบรวมหมู่ การแสดงความห่วงใยกัน

 

ภาพที่ ๗ ความตื่นตัว ความตื่นรู้ ความอิ่มปีติในตนเอง ความรื่นรมย์เบิกบาน การให้กำลังใจชีวิตตนเอง การสร้างความหวัง ความแน่วแน่ในตนเอง ความมั่นคงในชีวิต การพึ่งตนเอง ความงอกงามและการเติบโตภายใน

 

Ico48

สวัสดีครับอาจารย์ Wasawat Deemarn ครับ


เวลาถ่ายรูปหรือวาดภาพแนวนี้ทีไร ผมก็มักจะนึกถึง อาจารย์ อาจารย์ธนิตย์ พี่นงนาท และคุณเอก แล้วก็นึกถึงคนทำงานศิลปะรุ่นพี่ๆผมอยู่สองสามคน มันมีเสน่ห์ดีมากเหมือนกันนะครับ

กราบสวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์ นีน่าเองนะคะ ขอบพระคุณทั้งอาจารย์จตุพรและอาจารย์วิรัตน์มากนะคะ นีน่าได้อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเยอะแยะเลย หลังจากนั้นก็ได้นำไปปรึกษากับอาจารย์ advisor อีกที ช่วยกันเคาะจนได้ปริมาณ literature review ที่ตนเองพอใจค่ะ สิ่งที่ยากสำหรับหนูคือการตัดใจที่จะตัดทอนข้อมูลหลายส่วนออกไปไม่ให้มันฟุ้งเกิน แต่ก็ต้องทำเพื่อให้ scope thesis ตัวเองชัดเจนขึ้นค่ะ

ทั้งหมดนี้ หนูกราบขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองมากนะคะ ที่กรุณาสละเวลาอธิบายให้หนูฟังหลายเรื่องเป็นเวลานาน และสำหรับกำลังใจที่บอกว่าหนูสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้ อย่างหลังนี้สำคัญและมีค่าที่สุดสำหรับนิสิตนักศึกษาค่ะ บางทีในบางโอกาสอาจจะมากกว่าความรู้ด้วยซ้ำ

ตอนนี้ก็จบแล้วค่ะ เพราะกำลังใจที่ดีมากๆจากอาจารย์และความดื้อรั้นของตัวเองนี่เอง ภูมิใจกับ thesis ตัวเองในระดับหนึ่งถึงแม้ว่ายังมีอีกหลายจุดที่อาจจะทำให้ดีขึ้นได้ก็ตาม แต่สำหรับ time scope ที่ตั้งไว้ ได้เท่านี้ก็คิดว่าดีแล้วค่ะ ที่สำคัญที่สุดคือการได้เรียนรู้ เหมือนได้เติบโตขึ้นทางความคิด อารมณ์ และปัญญา เพราะงานจะลุล่วงไปได้ด้วยความเพียร ความอดทน การระวังความคิดและอารมณ์ตัวเองไม่ให้อ่อนแอ และก็ต้องใช้สมองคิดเยอะมาก (หนูโง่หลายเรื่องเลย ตอนนี้ก็ยังอึ้งกับความไม่รู้อะไรเลยของตัวเองค่ะ ยิ่งทำยิ่งพบว่าตัวเองรู้น้อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก)

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ เดี๋ยวหนูจะส่งสำเนาเล่มไปให้อาจารย์ก่อนสิ้นเดือนนี้ อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :)

น้องนีน่า

ยินดีมากค่ะที่เข้ามาสนทนากับผศ.ดร.วิรัตน์ที่บันทึกนี้ค่ะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท