ผมสนใจการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายมาได้ประมาณ 3 ปีแล้วครับ ผมเป็นแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและทำงานที่ รพ. แห่งหนึ่งทำงานในศูนย์สุขภาพชุมชน ผมตรวจผู้ป่วยทั่วไปในศูนย์สุขภาพชุมชน(PCU) ช่วงบ่ายผมก็ได้ไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยพร้อมกับทีมพยาบาลและ จนท. สอ.(สถานีอนามัย) ผมเดินทางไปที่ต่างๆ ทั่วพื้นที่บริการที่เป็นเขตรับผิดชอบ ทุกครั้งที่ผมไปเยี่ยมบ้าน ในหลายครั้งหลายคราวที่ผมพบผู้ป่วยมะเร็งที่กลับมาจาก รพ. โดยส่วนใหญ่ก็ได้รับยามารับประทาน ผมจำไม่ได้ว่าเยี่ยมไปกี่ case แต่ที่ผมสังเกต-รู้สึก-และเกิดความคิดบางอย่างที่เป็นแรงบันดาลใจ
ผมสังเกตเห็น
1.ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทุกข์จากอาการทางกายต่างๆ+ทุกข์จากเรื่องจิตใจ
2.ผู้ป่วยรู้สึกว่าเมื่อเป็นมะเร็งแล้วก็หมดทางเยียวยา หลายครั้งความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดจากความคิดผู้ป่วยเอง แต่เกิดจากการสื่อสารจากบุคคลากรทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือท่าที
3.ผู้ป่วยรู้สึกถูกทอดทิ้งจากระบบบริการสาธารณสุข ขาดความต่อเนื่องของข้อมูล ต่างคนต่างดูแล การดูแลขาดช่วง ได้ยามา รอยาหมดโดยที่ทนทุกข์ เมื่อทนไม่ไหวก็ไปห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยไปนอน รพ.ไม่รู้ว่าเขาดูแลอย่างไรบ้าง,ผู้ป่วยรักษาที่ PCU ก็ไม่สามารถสื่อกับ รพ. ได้
4.ครอบครัวผู้ป่วยก็ทุกข์หนัก เพราะดูแลผู้ป่วย+เห็นผู้ป่วยค่อยๆแย่ลงอย่างช้าๆ ขาดคนแนะนำว่าจะดูแลผู้ป่วยอย่างไร ในบางครั้งก็พบการทอดทิ้งผู้ป่วยให้ทุกข์ทรมานอยู่คนเดียว
5.เราทำอะไรไม่ได้มากนักเมื่อผู้ป่วยมีอาการมากขึ้น ประกอบกับการดูแลที่ไม่ต่อเนื่อง+ขาดทักษะ+ขาดทรัพยากร ทำให้ผลการดูแลไม่ดี
6.ใน รพ.เองก็มีภาระมากจนในบางครั้งประเด็นเหล่านี้ถูกละเลย
ผมรู้สึก
1.ระบบการดูแลตอบสนองได้ดี(ในระดับหนึ่ง)เฉพาะต่อคนที่เป็นโรคที่รักษาหาย
2.ผมไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้เพียงลำพัง
ผมเกิดแรงบันดาลใจ
1.ต้องหาเพื่อน ต้องมีทีมและประสานงานร่วมกันทั่งระบบบริการ ทำให้มีการดูแลที่ต่อเนื่อง
2.แบ่งกันเหนื่อย แบ่งกันหนัก ทั้ง รพ.-PCU (primary care unit) และผู้ป่วย/ญาติ
3.จะต้องทำให้เกิดระบบที่มีความยั่งยืน
จากแรงบันดาลใจ นำมาถึงการลงมือปฏิบัติ
ผมลงมือ
1.เริ่มเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็ง/ผู้ป่วยเรื้อรังที่หอผู้ป่วย-พูดคุย-ซักถามอาการของผู้ป่วยจากแพทย์ที่ดูแล/พยาบาล
2.ผมคุยกับผู้บริหารว่าอยากจะทำเรื่องการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างเป็นระบบ
3.ผมเริ่มหาองค์ความรู้จากอาจารย์-บทความ- internet-และการอบรม
จนผมคิดว่าเริ่มพอรู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับ palliative care บ้าง ผมเริ่มพบเพื่อนที่เป็นคนที่สนใจทำงานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้วยใจรัก (แต่ยังต่างคนต่างทำ) ชักชวนมาจับมือกันทำอะไรดีๆ ให้กับ รพ. ไหม
เสียงตอบรับ
ดีเกินคาดมีคนอยากคุยประเด็นนี้กันมากกว่าที่คิด ผมจึงเริ่มการประชุม/พูดคุยแลกเปลี่ยน เดือนละ 1 ครั้ง
ถึงตอนนี้ขอหยุดบทความไว้แค่นี้ก่อนนะครับแล้วสักพักจะเขียนตอนต่อไป