ระหว่างการเดินทาง ...


มิตรภาพก็ฉายชัดว่าไม่มีพรมแดนใดระหว่างเส้นทางการทักทายที่ขาดหายไป

อากาศเช้าของเมืองเชียงใหม่สดใสและสดชื่นเป็นพิเศษ  และผมเองก็ลืมไปแล้วว่าแท้ที่จริงแล้ว  ตนเองมาเชียงใหม่กี่ครั้งกันแน่  รู้แต่เพียงว่า  ครั้งนี้บรรยากาศดูแช่มชื่นและเป็นเช้าชื่นของชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจปากท้องและการจัดเรียงสัมภาระ ณ บ้านสุขใจของ น้องพิมพ์ดีด  แล้วเสร็จลง  เราต่างก็มุ่งหน้าไปยังวัดศรีสุพรรณที่อยู่ในเมืองเชียงใหม่  และที่สำคัญคือวัดนี้อยู่ใกล้ๆ กับบ้านของพี่สาวเจ้าตำรับกอดอุ่นของผมเลยก็คือ พี่อึ่งอ๊อบ  แต่เสียดายอย่างมหันต์ที่ไม่มีโอกาสได้พบหน้ากัน  เพราะพี่อึ่งมีอันต้องสัญจรไปต่างจังหวัด

วัดศรีสุพรรณเป็นวัดที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจมากเป็นพิเศษ  อย่างน้อยก็เอกลักษณ์ของอุโบสถที่สร้างด้วยเครื่องเงิน  ถึงแม้จะอยู่ระหว่างการดำเนินการ  แต่ก็ถือได้ว่าโดดเด่นและน่าสนใจอยู่มากโข  เพราะสิ่งนี้คือภาพสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรค่าต่อการศึกษาเรียนรู้เป็นที่สุด

ในช่วงที่เรากำลังรอมิ่งมิตรที่เดินทางมาสมทบจากกรุงเทพฯ นั้น  เพื่อนชีวิตมีโอกาสได้มอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับคุณกาเหว่า  ซึ่งเป็นการให้เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของเธอเอง  ส่วนจะกี่ปีแล้วนั้น ผมไม่ทราบได้ รู้แต่ว่าเธอยิ้มเบิกบานและแช่มชื่นเป็นไหน ๆ  (หน้าบานกันทั้งคนให้และคนรับ)

 

ถัดจากนั้น  ในห้วงที่แดดอุ่นกำลังฉายส่องอย่างเป็นกันเอง  ผมก็พลอยได้ตื่นเต้นกับการพบหน้าของบล็อกเกอร์ท่านหนึ่งในชื่อ ครูเอ  ที่มาเยือนแบบแสนหวาน  ซึ่งนั่นก็แสนนานเหมือนกันที่เราไม่ค่อยได้เที่ยวท่องไปเยี่ยมเยียนกันและกันทางบล็อก  แต่ ณ ห้วงแห่งความจริงในเวลานั้น  มิตรภาพก็ฉายชัดว่าไม่มีพรมแดนใดระหว่างเส้นทางการทักทายที่ขาดหายไป  เช่นเดียวกับการมาของชายหนุ่มอย่าง Mr.Direct (ที่ไม่ได้มาคนเดียว)  ก็นำพารอยยิ้มและมิตรภาพอันแสนงามมากำนัลผมอย่างอิ่มล้น  ราวกับว่าทั้งผมและเขาพบเจอกันมานับครั้งไม่ถ้วน

 

เราใช้เวลาอยู่ตรงนั้นนานพอสมควร  จากนั้นก็เคลื่อนรถออกไปยังจุดหมายปลายทาง  โดยนัดหมายกับ ป้าแดง  ณ ร้านกาแฟ (จำชื่อไม่ได้)  ที่ตั้งเด่นอยู่ระหว่างเส้นทางที่ทอดตัวไปยังเมืองปาย  ซึ่งร้านที่ว่านี้ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์และหลากล้นไปด้วยผู้คนอย่างหนาตา  และทันทีที่เห็นป้าแดง  หัวใจของผมก็พองโตอย่างบอกไม่ถูก  ราวกับว่าเป็นความมหัศจรรย์ที่ได้พบ เลือดอีสาน ขนานแท้บนเส้นทางอันต่างถิ่น  ...

 

นี่เป็นครั้งแรกของการเดินทางมายัง ปาย แม่ฮ่องสอน  และก่อนเดินทางมานั้นผมกลับต้องเจอกับภาวะไข้หวัด  รวมถึงการหวั่นเกรงว่าสองหนุ่มน้อยจะอ่อนเพลียกับการเดินทาง  แต่ที่ไหนได้สองหนุ่มที่ว่านั้นกลับสดชื่นและลิงโลดอย่างน่าหยิก  ตรงกันข้ามกับผมอย่างสิ้นเชิงที่ส่อแวว ขี้โรค  อย่างน่าชัง !  มิหนำซ้ำยังถือโอกาสปีนป่ายหลักกิโลเมตรข้างถนนเล่นอย่างเมามัน  ทำเอาผมและเพื่อนชีวิต พลอยยิ้มและกลุ้มใจไปพร้อม ๆ กัน หรือแม้แต่เกรงอกเกรงใจผู้ร่วมเส้นทางเดียวกัน  เพราะวีรกรรมแต่ละอย่าง  ทั้งโดยคำพูดคำจา หรือแม้แต่ท่าทีการแสดงออกก็ล้วนดูแสบ ๆ  กวน ๆ อยู่มากไม่ใช่น้อย

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้  ผมนั่งหน้าประกบกับพลขับ  ทำให้มีโอกาสได้ชมวิวทิวทัศน์อย่างไม่รู้เบื่อ  เส้นทางสูงชันและคดเคี้ยวราวกับนิยายช่วยให้การเดินทางเต็มไปด้วยสีสัน...  และบางครั้งบางคราวเราต่างก็พักเหนื่อยตามรายทาง  พร้อม ๆ กับการแวะเวียนลงทานอาหารเที่ยงกลางขุนเขาที่ไม่เคยร้างซึ่งสายลมอันเย็นสบาย และเพลงแห่งราวไพรที่แว่วกังวานมาพร้อม ๆ กับเสียงของลำธารที่ยิ่งฟังยิ่งชวนให้น้อมเคารพเป็นที่สุด 

 

ภายหลังมื้อเที่ยงอันเรียบง่ายยุติลง  เราก็ไม่รีรอที่จะรุดหน้าไปยังจุดหมายอีกรอบ  พร้อมกับการแวะเวียนลงสัมผัสกับความยิ่งใหญ่และงดงามของธรรมชาติ ณ  บริเวณที่เรียกขานกันว่า อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

 

บริเวณจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังแออัดไปด้วยรถยนต์จำนวนมากที่จอดเรียงรายเป็นทิวแถวยาวเหยียด  และเมื่อก้าวเท้าลงจากตัวรถ  สัมผัสแรกที่ตนเองได้รู้สึกก็คือความเย็นของอากาศที่ลอดตัวเสียดแทงเข้าสู่ผิวเนื้ออย่างหนาวเย็น  แต่ในความหนาวเย็นนั้น  กลับบอกนัยยะแห่งความสดชื่นและแสนสบายที่ชีวิตโหยหามาตราบนานเท่านาน

 

เกี่ยวกับจุดชมวิวในอุทยานแห่งชาตินี้ เท่าที่สืบเสาะมาได้ก็พอรู้คร่าว ๆ แบบสังเขปว่าห่างจากตัวเมืองปายในราว ๆ 40  กิโลเมตรและอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600  เมตร  มีลานโล่งให้กางเต็นท์นอนนับดาวได้อย่างแสนโรแมนติก  ขึ้นอยู่กับว่าแขกผู้มาเยือนมีแก่ใจที่จะค้างแรม ณ ที่นี่หรือไม่เท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตาม  เท่าที่สังเกตเห็น  บรรดาบล็อกเกอร์หลายท่านตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของจุดชมวิวนี้มากยิ่งนัก ดังจะเห็นได้จากการที่ต่างคนต่างกดชัตเตอร์บันทึกภาพกันอย่างว่าเล่น  เช่นเดียวกับสองหนุ่มน้อยก็เกี่ยวก้อย ลุงเอก  วิ่งเล่นไปมาอย่างคึกคัก  ทำราวกับว่าไม่มีพ่อกับแม่มาด้วย  จึงพลอยให้ภาระทั้งหมดตกอยู่กับ ลุงเอก ของพวกเขาไปโดยปริยาย  ส่วนผมและเพื่อนชีวิตก็ถือโอกาสฟื้นรอยความทรงจำแบบหวานดิบ ๆ  (สองคนเงียบ ๆ) ผ่านเลนส์กล้องตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาได้เพียงไม่ถึง 3 วัน

 

นี่คืออีกเรื่องราวหนึ่งที่อยากบันทึกไว้แต่เพียงสังเขป  และทิ้งให้ภาพทั้งหลายได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ  ของมันเอง  อันเป็นห้วงหนึ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางก่อนถึงตัวเมือง ปาย” 

หมายเลขบันทึก: 228266เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2008 23:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)
  • ชอบภาพนี้มากค่ะ
  • เดินตามพ่อ
  • Dscf2521

Dscf28

ขอบคุณที่ร่วมกันสถาปนาความรู้สึกดีๆร่วมกัน ในนาม "จิตอาสา gotoknow" ครับ

ขอบคุณครับ

อีก หนึ่งเมล็ดพันธุ์ที่ดีงาม ของคุณพนัส...ที่สร้างสีสัน ตลอดการเดินทาง

Dscf2485

                       ...ครอบครัวจิตอาสา แผ่นดิน-แดนไทย...

  • สุข สดชื่น และแสนอบอุ่นในครอบครัว ในสังคม ในประเทศชาติ
  • คนรุ่นที่หนึ่งและรุ่นที่สองเป็นกำลังที่เข้มแข็ง
  • ส่วนรุ่นที่สามคือกำลังแห่งอนาคต
  • ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ

                           ...ดิน แดน และลุงเอก...

ชอบภาพเจ้าแดนปีนเสาร์ค่ะ ส่วนดินโตขึ้นคงหล่อให้ป้าควงได้นะเนี่ย

สวัสดีคะ

บันทึกที่อบอุ่นนะคะ

น้องดิน แดน สุดยอดคะ ชอบภาพนี้คะ

Dscf2485

ประทับใจมากค่ะ

ครอบครัวน่ารัก หนุ่มน้อยดินและแดน

  • ดีใจ ประทับใจ
  • ขอบคุณทุกคน
  • คิดถึงน้องดิน และน้องแดน
  • ไปขอนแก่น ยินดีต้อนรับค่ะ

เอาภาพมาฝากค่ะ  สุดเท่ห์

อีกภาพ ภาพนี้เป็นภาพเดี่ยวค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

บรรยากาศสวยงามมากๆๆค่ะ ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความสุข

เข้ามาในบันทึกนี้แล้วสดชื่นมากๆ ค่ะ

ครูเอสวยจังเลยค่ะ

  • ตามมาดูและซึบซับบรรยากาศแห่งความสุข
  • ดูแล้วก็เสียดายแล้วเสียดายอีก
  • อยากไปสุดๆ
  • แต่ดูแล้วก็อิ่ม ไปด้วยความสุขครับ
  • บรรยากาศดี ภาพสวย
  • คิดถึงครับพี่

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • หลานๆ ทั้ง 2 คนน่ารักนะคะ
  • เห็นรอยยิ้มของน้องดิน น้องแดนแล้วก็อดยิ้มไปด้วยไม่ได้
  • สองหนุ่มน้อยน่ารักน่าชังมากค่ะ
  • ท่าทางจะแสบไม่เบานะค่ะ แต่คงกลายเป็นขวัญใจชาวบล็อกแน่เชียวค่ะ
  • สวัสดีค่ะ
  • ยินดีที่ได้เจอค่ะ
  • ดินกับแดน พาป้าแดง งมหอย เอ้ย งมหิน ขาซ้อยหมดเลย อิอิอิ
  • เสียดายที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมทั้งหมดค่ะ
  • ปีใหม่ฟ้าใหม่ คงได้ร่วมกิจกรรมกันอีกนะคะ

หนุ่มดิน หนุ่มแดน พาคุณพ่อคุณแม่ผ่านบ้านลุงทีเดียว
แต่ไม่มีโอกาสได้ทักทาย

หวังว่าคงพบเจอกันในโอกาสหน้าครับ

สวัสดีค่ะ..

- เสียดายที่ไม่ได้ไปต้อนรับครอบครัวอาจารย์

- น้องดินน้องแดนน่ารักมากๆ

- มาถ่ายรูปที่สี่แยกปายหนาวใกล้ๆบ้านพี่เองแท้ๆ

สวัสดีครับ พี่นก เพ็ญศรี(นก)

Dscf2521

ภาพนี้เป็นภาพที่เดินขึ้นมาจากห้วยน้ำส่อม  เตรียมขึ้นรถไปกินข้าวเที่ยง เสร็จแล้วก็เดินทางขึ้นเขาเพื่อมอบสิ่งของต่าง ๆ ให้กับเด็ก ๆ และชาวบ้าน

งานครั้งนี้ น้องดินและน้องแดนได้ลงแรงกันอย่างสนุก ผมเองไม่ค่อยได้ลุยมากนัก  เพราะรับหน้าที่เก็บภาพเป็นหลัก ...

ตลอดงานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะต่างคนต่างให้ "ใจ" กับงานนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับ คุณเอก  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

ขอบคุณที่ช่วยให้เราได้ทำงานร่วมกัน  และนำพาเราไปเรียนรู้อีกมุมหนึ่งที่เราไม่คุ้นเคย

แน่นอนครับ... ผมจะยังไปร่วมกับกิจกรรมในทำนองนี้เสมอ  เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของผมไปแล้ว

 

สวัสดีครับ  Wasawat Deemarn

ขอบคุณมากครับสำหรับถ้อยคำอันเป็นกำลังใจ ..

ผมยังคงต้องพัฒนาเรื่องการเขียนไปอีกมาก และผมเองก็ประทับใจในการเขียนของคุณมาก ทั้งคำและความหมาย รวมถึงกลวิธีของการนำเสนอนั้นน่าสนใจมาก

ครับ. ผมยังต้องฝึกอีกมาก ..จะพยายามครับ

คุณเอกครับ  จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

ทั้งดินและแดนตื่นเต้นกับการเดินทางตลอด สดชื่นและมีพลังอย่างเห็นได้ชัด  นั่นคือความแปลกใหม่ตื่นตาที่เขาสัมผัสได้  และสำคัญอีกอย่างที่ผมเชื่อก็คือ  เขาอยากร่วมกิจกรรมกับพี่ป้าน้าอาด้วยเช่นกัน  เพราะก่อนเดินทางนั้น  เราคุยกันชัดเจนว่า  จะไปทำ "ค่าย"  นั่นคือวิธีการเตรียมความพร้อมให้กับเขา  ส่วนไปแล้วจะทำอะไร  ค่อยว่ากันอีกที

ขอบคุณครับ

น่าแปลกใจที่รูปที่ผมเลือก ซ้ำกับของพี่พนัสเยอะมากโดยไม่ได้นัดหมายครับ แสดงว่าเราชอบมุมมองที่คล้ายๆ กันครับ : )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท