แม่ครับ...ผมเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงร้องคำรามของฟ้าและความแรงของห่าฝนที่กระหน่ำลงมาราวกับเป็นฝนแรกของวสันตฤดู
เสียงลมฝนพัดผ่านสุมพุมต้นไม้ด้านหลังของอาคารที่พักดังคำรามราวกับสัตว์ป่า ขณะที่ผ้าม่านหน้าต่างด้านหน้าของห้องก็กระพืดพัดตามแรงลมไปอย่างถี่ครั้งและชวนหวาดหวั่นใจ
ผมไม่เคยรู้สึกหวาดไหวกับภาวะเช่นนี้...หรืออาจเป็นเพราะช่วงนี้ ภาวะนี้, นาทีนี้, หรือแม้แต่วินาทีนี้ร่างกายและจิตวิญญาณของผมกำลังอ่อนล้าและซุกนอนอย่างหมดสภาพกับการพักฟื้นกระมัง จึงรู้สึกราวกับว่าไม่คุ้นชินต่อสภาพการณ์ของลมฝนและแรงลมเช่นนี้
ฟังสิ..เสียงลมฝนยังหวีดหวิว... ฟ้ายังสนุกกับการคำรามโดยไม่แยแสต่อภาวะอารมณ์ของผม
แม่ครับ...."บ้านเรา" ตอนนี้ฝนตกบ้างหรือเปล่า ..? พ่อกินข้าวบ้างหรือยัง ลูกชายแสนซนทั้งสองของผมเป็นยังไงบ้าง "ว่านอนสอนง่ายเหมือนผมตอนเด็ก ๆ หรือเปล่า... พวกเขาบ่นคิดถึงผมบ้างหรือไม่..?"
แม่ครับ...ที่นี่และตอนนี้ฝนยังตกกระหน่ำต่อเนื่องและดูจะยังไม่มีวี่แววของการจากหาย แม่รู้ดีใช่ไหมว่าทุกครั้งที่ฝนตกผมก็มักจะรำพึงเสมอว่า "คงดีไม่น้อยถ้าฝนที่ตกอยู่ในตัวเมืองตอนนี้ เปลี่ยนไปตกที่ทุ่งนาหมู่บ้านของเรา"
แม่ครับ... ลูกผู้ชายไม่ได้เข้มแข็งเสมอไปหรอก และยังต้องการคำปลอบโยนอยู่เสมอเช่นกัน ! โดยเฉพาะลูกของแม่คนนี้ที่แม่รู้ดีว่าเปราะบางต่อความเปลี่ยวเศร้าเป็นยิ่งนัก...
นานมาแล้วนะครับ...นานมาแล้ว แม่จำได้หรือเปล่า ....ตอนนั้นผมเรียนมหาวิทยาลัยตอนปี 2 ผมกลับไปถึงบ้านย่ำค่ำ ร่างกายอิดโรย ซูบตอบ หมองเศร้า ราวกับถูกโลกอันกร้านหยาบโบยตีมาอย่างบอบช้ำ
วันนั้น...ผมเห็นแม่มีอาการทุกข์ท้อและหม่นเศร้ายิ่งกว่าผม แม่พร่ำถามว่า "กินข้าวหรือยัง ? ทำไมซูบตอบเช่นนี้ ? .... แม่ไม่อยากให้ลูกผอม ... แม่อยากให้ผมอ้วน ๆ ขาว ๆ เหมือนเดิม !"
....
แม่ครับ..ผมเหมือนพ่อมากเกินไปใช่หรือไม่ .."งานและงานคือลมหายใจเข้าออกของชีวิต" แต่นั่นแม่ก็เคยบอกใช่หรือไม่ว่า "แม่ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา เพราะสามีของแม่เป็นชาวนาที่ทำงานเพื่อสังคม"
......
แม่ครับ ...ทุกหยาดเม็ดของสายฝนที่กำลังโปรยสายอยู่นี้อาจจะรู้ดีว่าชีวิตในห้วงนี้ของผมกำลังต้องการความชุ่มฉ่ำเป็นที่สุด .... เสียงคำรามของฟ้าอาจจะกำลังทำหน้าที่ปลุกผมให้หวนคิดคำนึงถึงบ้านเกิดและทุ่งนาของเราก็เป็นได้ เพราะทั้งฟ้าและฝนต่างก็รู้ดีว่า "ที่ตรงนั้น คือ ที่แห่งการบ่มเพาะกำลังใจของผม"
แม่ครับ....นี่ไม่ใช่ฝนแรกของฤดูฝนเป็นแน่ หากแต่อาจจะเป็นคำบอกเตือนของธรรมชาติว่าอีกไม่นานบ้านเกิดของเราก็ต้องต้อนรับการมาเยือนของลมแล้งกันอีกแล้ว
เช้าและเย็นของทุกวัน...ผมขับรถผ่านเส้นทางที่ทอดตัวจากที่พักไปสู่ที่ทำงานอย่างเนิบช้า เพียงเพราะต้องการเพ่งมองช่อดอกคูนที่เหลืองอร่ามเป็นทิวแถวยาวเหยียดอย่างมีชีวิต
การมาเยือนของดอกคูนปีนี้ดูจะเต็มต้นและสมบูรณ์กว่าทุกปี และทุกครั้งที่ดอกคูนบานผมก็จะคิดถึงบ้านของเราเสมอ... แต่เหตุแห่งลมฝนที่กระหน่ำซัดอย่างหนักหน่วงของคืนนี้ - ผมเชื่อเหลือเกินว่าพรุ่งนี้เช้าเส้นทางการสัญจรจะพบดอกคูนเกลื่อนถนนอย่างน่าใจหาย....
แม่ครับ...รอยยิ้มที่มีอย่างน้อยนิดบนใบหน้าของผมกำลังถูกการงานในตำแหน่งใหม่พรากออกไปจากตัวผมทีละน้อย ..ทีละน้อย ซึ่งแม่ก็รู้ดีว่าผมไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน แต่การได้ทำงานให้คนอื่น คือ ชีวิตของผม ...มันคือความเป็น "พ่อ" ที่มีอยู่ในตัวผม และความอ่อนไหวก็คือความเป็นแม่ที่อยู่ในตัวผมเช่นกัน
.....
แม่ครับ...ที่บ้านนอกของเราตอนนี้ฝนตกหรือเปล่า ? แต่ที่นี่ฝนกำลังซาเม็ดบ้างแล้ว ... ผมดูสดชื่นขึ้นมาบ้าง และดูเหมือนจะไม่หลับไปอีกนานเหมือนกัน
ผมควรต้องกล่าวขอบคุณการมาเยือนของสายฝนในคืนมืดคืนนี้ รวมถึงการขอบคุณเสียงก้องคำรามของฟ้าที่บอกเตือนให้ผม "คิดถึงบ้าน" อีกครั้ง ...มันเป็นการหวนคิดถึงที่ไม่เจ็บปวด หากแต่เพียงเสี้ยวของการคิดถึงนั้น ผมจะได้รับความอบอุ่นกำนัลเป็นของขวัญคืนกลับสู่ชีวิตเสมอ....
.......
แม่ครับ....ผมขออนุญาตอ่อนแอและไม่เขินอายที่จะแสดงความเปราะบางให้ใครต่อใครได้รับรู้ผ่านเวทีแห่งมิตรภาพนี้นะครับ... เพราะพวกเขาทั้งหลายเป็นประหนึ่งญาติคนหนึ่งของผม ซึ่งรักและอาทรกันและกันเสมอมา
และวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ผมจะหอบหัวใจกลับไปบ้านอีกครั้ง แต่จะไม่ยอมหอบเอางานกลับไปด้วยอย่างแน่นอน....
ผมให้สัญญา....
...
บันทึกหลังการถูกปลุกโดยพายุฝน
และเสียงคำรามของฟ้าในคืนมืด
ไม่รู้สิครับ........
เรื่องราวที่ชัดเจน ทั้งภาพและความรู้สึก
บันทึกนี้ผมขออนุญาตไม่ออกความคิดเห็นนะครับ ขอเพียงแวะมาเยี่ยมและมาให้กำลังใจเพื่อนครับ
ชอบภาพนี้จังเลยค่ะ ชอบถึง ชอบมาก
เห็นแล้ว มันเหงาๆ ยังงัยไม่รู้
แต่ความเหงา ก็ไม่ใช่ความเศร้านะคะ
แต่เป็นความรู้สึก รำลึก ถึงบางอย่างในวัยเด็ก
ผมจะบอกว่า ภาพในบันทึกนี้เหงาทุกภาพเลยครับ มันอาจจะเป็นความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาผ่านการเขียนด้วย
ขอบคุณครับ สำหรับความรู้สึกละมุน และละเอียดอ่อนในความรู้สึก
..................
คิดว่าจะไม่ออกความเห็นเเล้ว...ทนไม่ได้ครับ
ขอคารวะครับ!!!
อ่านแล้วสะท้อนครับ...
ชีวิตที่ทุ่มเทเพื่องาน เพื่อคนอื่น เพื่อสังคม เป็นภาระที่หนักอึ้งเกินกว่าที่คน ๆ หนึ่งจะรับไหว...
คงต้องอาศัยความร่วมมือของทุก ๆ คนครับ...
เหนื่อยก็พักครับ ท้อได้แต่อย่าถอยนะครับ...
ขอบคุณครับ...
ถ่ายทอดอารมณ์ ให้อาวอนอ่อนใจ
.
เดินทางปลอดภัย อยู่ดีมีสุขนะครับ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
มาเยี่ยม...
ค่ำคืน...สายฝน...ตกนอกกาย...สายแห่งน้ำตา...ตกในจิตใจ...
...แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง...
แม่เฝ้าหวงห่วงลูกอยู่หลังเมื่อยังนอนเปล...ฯลฯ
เอารูปคุณตากับคุณยายมาฝากค่ะ....เผื่อจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง....คิดซะว่าเป็นคุณพ่อกับคุณแม่คุณแผ่นดิน...(ฝากความรักมา)ด้วยก็แล้วกันนะคะ (ยิ่งทำให้คิดถึงหนักไปไหมเนี่ย..ไม่เน๊อะ...ดีขึ้นหน่อยไหมคะ)
วันนี้พี่กะพี่เจี๊ยบจะกลับบ้านไปหาเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนเหรอคะ ดีๆค่ะ
อ้อ อย่าลืมพากลับมาที่สารคามด้วยนะคะ คิดถึงเจ้าตัวเล็กเหมือนกัน ไม่ได้เห็นหน้าหลายวันแล้ว
เอ๊ แต่ได้ยินว่าน้องดินบอกว่า "พ่ออย่าเพิ่งมารับดินกะแดนเด้อ ดินกะแดนจะเล่นสงกรานต์ที่นี่ก่อน จั่งสิกลับ " อิอิอิ เป็นคำพูดที่น่ารักดีเนาะ
ทุกคนมีห้วงเวลาของความอ่อนแอ...อ่อนไหว..ด้วยกันทั้งนั้น...ยามใดที่รู้สึกอ่อนล้าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม..เราต้องการที่พักพิงที่ปลอดภัย...อบอุ่น..เสมอๆ..กลับบ้านคราวนี้คุณแผ่นดินคงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่..ธรรมชาติที่เราคุ้นเคยในวัยเยาว์จะช่วยเยียวยาเราได้เป็นอย่างดี...กลับมาด้วยความสดชื่นนะคะ...ฝากจุ๊บๆน้องดินและน้องแดนด้วยค่ะ
พี่พนัสครับ
คิดถึงบ้านจัง ตลอดระยะเวลาที่จากบ้านจากเมืองมาทำให้ผมใคร่ครวญเสมอว่าทำอย่างไรจะได้กลับไปอยู่บ้าน มีงานทำด้วยความสุข ตอนนี้วางแผนแล้ว อีกไม่นานจะทำตามฝันครับ
ขอบคุณบันทึกดีดี ที่ทำให้ผมรู้สึกเหงา และคิดถึงบ้านเช่นกัน ขอบคุณครับ
แด่ผู้หญิงทุกคนที่ได้ชื่อว่า "แม่"
ไม่ต้องมีคำบรรยาย จะแต่งจะเติมถ้อยคำ สักกี่หมื่นคำ ให้เอาคำดีดีมารวมกันคงจะต้องคุยยกเรื่องราวสักร้อยพัน เพื่อบอกว่าตัวเธอนั้นเป็นเช่นไรต้องบอกต้องอธิบาย สักกี่หมื่นวัน เพื่อรวมความเป็นจริงที่เป็นเธอใจที่งดงามและความดีของเธอ ก็เกินที่ใคร ๆ จะเข้าใจจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ แต่ขอให้ฉันนั้นได้รักเธอก็ใจมันยินยอม มันยังอยากจะรักเธอ ไม่เห็นต้องพูดอะไรให้มากมายไม่ต้องมีคำบรรยายใดใดซักคำให้ลึกซึ้งไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอไม่ว่าอะไรมันคือเหตุผลที่ฉันนั้นรักเธอให้รู้ว่ารักเธอเท่านั้นก็พอเปลี่ยนเอาใครทดแทน สักกี่หมื่นคน ให้แทนเธอคนเดียวไม่มีทางจะดีสักเท่าไรฉันไม่เอาสักอย่าง ก็มีเธอคนเดียวทั้งหัวใจไม่ว่าอะไรมันคือเหตุผลที่ฉันนั้นรักเธอให้รู้ว่ารักเธอเท่านั้นพอ
ขอบคุณนะคะสำหรับบันทึกดีดีเรื่องนี้ อ่านครั้งใด.......ชวนให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะที่สวยงาม....เสมอ....เสมอ.....ชวนให้หลับตา...คิดตามในความเป็น "แม่"....ชวนให้คิดถึงวันที่เรามองหาคนอื่นที่ดีกว่าแม่....ชวนให้คิดถึงวันที่...อ่อนล้า...อ่อนแรง....หมดกำลังใจ....ผิดหวัง...ซึม และ เศร้า....กลับมาบ้าน...นั่งมองแม่....โดยไม่ต้องพูด.....มันมากกว่าคำบรรยายจริง ๆ .....ชวนให้คิดถึงวันที่แม่ยกโทษให้....ในความผิดพลาดในชีวิต ซ้ำแล้ว...ซ้ำเล่า....ของลูก ๆ...ชวนให้คิดถึงวันที่แม่นิ่งเงียบและฟัง...ลูก ๆ บ่น....ชวนให้คิดถึงวันที่....บอกว่าถ้าตัวเองไม่มีแม่จะทำอย่างไร......ขอบคุณหัวใจทุกดวงที่มี "แม่" อยู่ในใจเสมอ ขอบคุณคุณแผ่นดินอีกครั้งนะคะ ขอบคุณจากใจจริง ๆ
ขอบคุณครับ คุณเอก
หรืออาจเป็นช่วงนี้ผมสัญจรไปโน่นไปนี่บ่อยครั้งเหลือเกิน ความเป็น "บ้าน" จึงดูห่างเหินมากยิ่งขึ้น และเมื่อมีเวลาหยุดพัก กลับเพิ่งรู้สึกคิดถึงบ้านแทบใจจะขาด
และทันทีนั้น ความเหงาก็รุมเร้าอย่างไม่อาทร
...
ขอบคุณครับ...
ทราบว่าได้ที่เรียนแล้ว...ผมยินดีด้วย นะครับ
หลายคนเจอะเจอเรื่องร้าย ๆ ในช่วงนี้ แต่ถ้าเราอดทนและผ่านไปได้ เราย่อมจะได้เจอสิ่งดี ๆ อีกมากมาย (ใช่ไหมครับ)
ผมและอาจารย์ขจิต ก็ควรได้รับสิ่งนั้น....
....
คิดถึงบ้าน เพราะบ้านก็คิดถึงเรา
สวัสดีครับ..คุณกาเหว่า
นี่คงหายงอนแล้วสินะ...
ช่างโวหารคมคายนักนะครับ (ความเหงา ก็ไม่ใช่ความเศร้า) งั้นแถมให้อีกสักภาพ เป็นงัย..
คุณเอกครับ...
ผมเองก็ลืมสังเกตอารมณ์ตนเองว่าอ่อนแรงลงเมื่อไหร่ และสำคัญตอนนำภาพเหล่านี้มาลงบล็อกก็ไม่ทันสังเกตตนเองเหมือนกันว่า..ทำไมถึงเลือกภาพเหล่านี้
ก็กระทั่งคุณเอกมาย้ำนี่แหละว่า "เหงาทุกภาพ" ..จึงได้รู้สึกว่า..ช่วงนี้แท้ที่จริงผมกำลังเหงา
ขอบคุณครับ
แม้สิ้นแสง มิสิ้นแรงที่จะสู้
มีเธออยู่เคียงข้างไม่ห่างหาย
ทั้งลูกน้อยเมียรักจักวางวาย
หากมิตาย ก็มิคลายสร้างความดี
กลับถึงบ้านแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ....
จำได้ เวลากลับไปอยู่บ้าน นี่ เราเหมือนเด็กๆเลยคะ
แม่ทำให้ทุกอย่าง .
ยินดีต้อนรับกลับสู่ที่ราบสูงบ้านเกิดเมืองนอนของเรานะครับ....
ไม่กี่วันผมก็เพิ่งได้กินก้อยไข่มดแดงที่บ้านแกดำ..แซบมาก ๆ ...เป็นอาหารจานโปรดที่แม่ชอบทำให้ทานเหมือนกัน
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ....และมีความสุขกับการเดินทาง หอบรักมาฝากคนที่บ้านเยอะ ๆ...
ส่วนผมพรุ่งนี้ถึงบ้านอย่างแน่นอน
วันนี้ร่างกายดีขึ้น แรงใจก็ดีขึ้นเช่นกัน...รู้สึกดีเสมอที่ได้นึกถึงบ้านและคนที่บ้าน
และรู้สึกดีเสมอที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น...
ตีน เมื่อเดินติดดินกลิ่นจะหอม
ใจ เมื่อยอมเสียสละสีจะขาว
มือเปื้อนดินจะปั้นดินเป็นดวงดาว
ใจเหน็บหนาวจะเคี่ยวหนาวเป็นเปลวไฟ
ขอบพระคุณมากครับ....
สวัสดีครับ คุณตาหยู...
ผมจะกลับบ้านพรุ่งนี้....
กลับไปเติมพลังกายพลังใจให้เต็มล้น...หลังจากได้รับพลังจากชาวบล็อกเพื่อเป็นเชื้อเพลิงของการเดินทาง
...
ขอให้มีความสุขมาก ๆ เช่นกันนะครับ
...แม่ให้ความอ่อนไหว และอ่อนโยนติดตัวผมมาอย่างมากมายมหาศาล ...แม่จึงเข้าใจภาวะความรู้สึกของผมเสมอ ..แม่เข้าใจแววตาของผมอย่างไม่ต้องสงสัย ...ขณะที่พ่อ ท่านก็สอนให้ผมอยู่เพื่อ "คนอื่น" ไม่น้อยไปกว่าการอยู่เพื่อตนเอง...
ขอบพระคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ตอนนี้ คุณแผ่นดินคงนอนหนุนตักคุณแม่อยู่แน่ ๆ เลยค่ะ และคงมีเจ้าจอมซน 2 หนุ่มน้อย ขลุกอยู่ข้าง ๆคุณพ่อแน่ๆ เลย
ให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ เอาพลังมาเติมเต็มเพื่อต่อสู้ในวันต่อ ๆ ไป เผื่อพี่ด้วยนะคะ
ข้างใน..น้ำตาท่วมใจเลยครับ...
อ่อนแอและอ่อนล้าเป็นพัก ๆ
แต่ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วครับ...
ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ
อาจารย์แผ่นดินครับ
บ้าน...รอเราเสมอ และรออย่างไม่เปลี่ยนแปลง ...
เป็นกำลังใจในความคิดถึงของคุณเช่นกันนะครับ
นานมาแล้ว...ตอนเรียน ม. 4 ไปบวชชีพราหมณ์กับเพื่อน โกนหัวเลยนะครับ
ครั้งนั้น..แต่งกลอนชิงเงินรางวัลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ขากลับจึงซื้อผ้าถุงไปฝากแม่....(ผมจำได้ดี)
คิดถึงบ้าน....เพราะบ้านมีคนที่รักเราอยู่ที่นั่นอย่างไม่มีเงื่อนไข...แต่ก็นอนบ้านได้ไม่นานเท่าไหร่...คงเป็นเพราะเคยชินกับการนอนทุ่งซะมากกว่า
ขอบคุณมากนะครับ...
ขอบคุณ - คุณมะรางเปรี้ยวมากครับที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจ
ผมว่าคนที่ยังมีบ้านให้คิดถึง ยังถือว่ายังมีความโชคดีเป็นที่สุด เพราะในห้วงยามทุกข์ท้อของชีวิต บ้านจะเป็นสถานแห่งการบ่มเพาะพลังกายพลังใจได้เป็นอย่างดี
คิดถึงบ้านเสมอ....และขอให้การคิดถึงบ้าน เป็นการคิดถึงด้วยความสุขและความรื่นรมย์ นะครับ
การได้กลับบ้านในช่วงสงกรานต์ถือเป็นโอกาสอันดีนะครับ เพราะเป็นช่วง "รวมญาติ" ในแบบวิถีของไทยเรา
เป็นกำลังใจให้กลับบ้าน ไปอยู่ในอ้อมกอดของความรักอย่างมีความสุขนะครับ
เมื่อวานไปเลี้ยงส่งพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง เค้าลาออกจากการเป็นชีวิตในเมืองหลวง เพื่อออกไปทำงานตามที่ตัวเองฝัน ฝันเล็กๆของลูกจ้างตัวโตคนหนึ่ง พี่เค้าทำงานมา17 ปีจากพนักงานตัวเล็กจนเป็นผู้บริหารที่หลายคนคาดหวังจะเป็น ถามพี่เค้าทำไมจึงออก พี่เค้าตอบว่าชีวิตที่ผ่านมาดิ้นรนและไขว่คว้าเกินไป เค้าจะกลับไปเดินตามความฝันเก่าๆ ความฝันที่จะทำนา เลี้ยงปลา ปลูกผักที่บ้านนอก......ยิ่งมาอ่านบทความนี้ยิ่งซึ้งใจ ชีวิตในเมืองหลวง เงินเดือนเยอะๆ แค่จะหาซื้อกลิ่นไอดินแห้งก็ไม่ได้...คิดถึงบ้านจัง
อ่านรอบแรกๆ ไม่ทิ้งรอยไว้ เพราะคิดว่า...เรายังพอจัดการเวลาได้
แต่วันนี้พี่ต้องผิดสัญญากับครอบครัว ที่เคยบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเล (ประจำทุกปี) พี่ว่า..พี่มีปัญหากับการจัดการเวลา(timing management)จริงๆแล้วหละ คุณพนัส
พี่ทำได้แค่ ...วันนี้ไปส่งขึ้นรถที่ขอนแก่นปลายทางพัทยา ให้คุณยายและหลานๆไปหา น้าจ๋าที่ทำงานอยู่ที่นั่น
น้องเอกก็เข้าป่า...เฮ้อ...แล้วพัชราภาทำอะไรอยู่เนี่ย...หรือเรากำลังจะถูกครอบครัวทิ้งซะแล้ว...
เป็นครั้งแรกที่ต้องส่งคุณยายและหลานๆเดินทางไกล ตามลำพัง ก็ห่วงนะคะ แต่เขายืนยันกันว่า ไปได้เพราะมีน้าจ๋า รอรับอยู่ที่นั่น...
เราถูกทิ้งคนเดียวเลยนะเนี่ย... 555
อ.ติ๋วครับ...
ผมอบอุ่นเสมอ...ที่ตัวหนังสือของอาจารย์มาเยือนในบันทึก ... เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนที่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ....
ภาพนั้นแจ่มชัดถึงความรักและความอบอุ่น...ผมรู้สึกดีมากครับ...
ขอบพระคุณครับ
to Antony,
We grown up an developed my personality to confidentially confirm my own self
Sometimes a recall of past event or a detail of personal experience can make us happy.
ผิดถูกไม่ว่ากันนะครับ..สำนวนภาษาเหล่านี้ปะติดปะต่อจากผู้รู้หลายหลาก
เพื่อยืนยันว่าเราต่างเติบโตมาจากอดีต การได้หวนคิดถึงประสบการณ์ชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชีวิตช่วยให้ชีวิตของวันนี้มีความสุขและมีกำลังใจเสมอ
ขอบคุณมากครับ...
คุณพิชชา ครับ
บ้าน เป็นสถานที่ที่เกิดมาเพื่อให้และรองรับการเยียวยาชีวิตของคนเราเสมอ
ขอบคุณครับ...ฟ้าหลังฝน...งดงามเสมอ
มีภาพความเปี่ยมสุขของตัวเล็กทั้งสองมาฝาก รับรองประทับใจและแปลกใจเป็นที่สุด...
พรุ่งนี้เช้าค่อยดูนะ
สวัสดีค่ะ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ต้องจากบ้าน จากพ่อแม่ไปไหนไกล
แต่บางสิ่งที่ใกล้ตัวเรามักจะมองไม่เห็นเสมอ
ขอบคุณสำหรับบันทึกเรื่องนี้ของคุณแผ่นดินนะคะ : )
สวัสดีครับ คุณโก๊ะ...
อันที่จริงไม่ว่าจะทุกข์ หรือสุขผมก็คิดถึงบ้านเสมอ หากแต่การงานอันรัดตัวไม่ค่อยมีพื้นที่แห่งเวลาให้ผมได้กลับบ้านเท่านั้นเอง แต่การที่ลูกชายปิดเทอมแล้วไปอยู่ที่บ้าน ก็ช่วยให้ผมไม่ลังเลที่จะกลับ
บ้าน คือ จุดเริ่มต้นของชีวิต คือที่พักพิงรหว่างทาง และเป็นจุดหมายท้ายที่สุดของชีวิต...
ขอบคุณมากครับ..
อบอุ่นราวกับได้คำอวรพรที่เต็มไปด้วยขวัญและกำลังใจจากญาติผู้ใหญ่ของเราเอง...
การงานอันหนักหน่วงมีเข้ามาอย่างไม่ว่างเว้น บางทีเราก็เพลินจนลืมชั่งวัดว่าตอนนี้, ขณะนี้วิถีร่างกายของเรากรอบเกรียมบ้างหรือไม่ มารู้ตัวอีกทีก็โรยราโรยแรงจนสิ้นแล้ว
ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วครับ...ได้รับกำลังใจจากชาวบล็อกอย่างมหาศาล และการได้กลับไปพักที่บ้านในระยะสั้น ๆ แต่ก็มากพอสำหรับการฟื้นตัวที่ทรงพลัง
ขอบพระคุณครับ
ขอบคุณ..คุณพรหมลิขิต มากครับ
และดีใจด้วยนะครับในการ "งานที่มีความสุข" ..และจะโชคดีไม่น้อยถ้างานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความฝันของเราด้วย...แต่ถ้าไม่ใช่ ก็คงต้องมีสักวันที่ต้องทำตามความฝันของเราบ้าง
เป็นกำลังใจให้นะครับ....
สวัสดีครับ..
ผมขออภัยที่แวะมาขอบคุณล่าช้าไปมาก...ชีวิตเองก็เพิ่งตั้งหลักและพลิกฟื้นกลับมาได้
และขออนุญาตไม่แลกเปลี่ยนแต่ขออนุญาตนำถ้อยคำเหล่านี้ที่ผมประทับใจมาย้ำอีกครั้ง
อ่านครั้งใด.......ชวนให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะที่สวยงาม....เสมอ....เสมอ.....ชวนให้หลับตา...คิดตามในความเป็น "แม่"....ชวนให้คิดถึงวันที่เรามองหาคนอื่นที่ดีกว่าแม่....ชวนให้คิดถึงวันที่...อ่อนล้า...อ่อนแรง....หมดกำลังใจ....ผิดหวัง...ซึม และ เศร้า....กลับมาบ้าน...นั่งมองแม่....โดยไม่ต้องพูด.....มันมากกว่าคำบรรยายจริง ๆ .....ชวนให้คิดถึงวันที่แม่ยกโทษให้....ในความผิดพลาดในชีวิต ซ้ำแล้ว...ซ้ำเล่า....ของลูก ๆ...ชวนให้คิดถึงวันที่แม่นิ่งเงียบและฟัง...ลูก ๆ บ่น....ชวนให้คิดถึงวันที่....บอกว่าถ้าตัวเองไม่มีแม่จะทำอย่างไร......ขอบคุณหัวใจทุกดวงที่มี "แม่" อยู่ในใจเสมอ
....
ขอบูชาหัวใจรักของคุณสมพรที่มีต่อคุณแม่..ซาบซึ้ง สั่นไหว และงดงามเป็นยิ่งนักและงดงามเกินกว่าที่ผมจะเขียนได้...
ผมประทับใจในถ้อยคำเหล่านั้นที่คุณสมพรพร่ำสื่อสารออกมาราวกับว่าพรั่งพรูออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ...
ผมศรัทธาและชื่นชมมากจริง ๆ ...
ขอบคุณมาก ๆ ครับ......
...............ขอบพระคุณที่แวะมาให้กำลังใจ ผมเองก็ขออนุญาตเป็นกำลังใจให้ครูเสือเช่นกัน ...
มีความสุขกับการใช้ชีวิตนะครับ....
ดึกแล้ว...ไม่ทราบพักผ่อนหรือยัง...
จริงดังว่าแหละครับ...จริงดังที่คุณดอกแก้วกล่าวไว้อย่างน่าคิด
กลับถึงบ้านแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ....
จำได้ เวลากลับไปอยู่บ้าน นี่ เราเหมือนเด็กๆเลยคะ
แม่ทำให้ทุกอย่าง .
....
สิ่งเหล่านี้ผมสัมผัสได้...และพิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง...
เรายังเป็นเด็กเสมอในสายตาของแม่...
.....
ขอบคุณมากครับ,
บ้านเยียวยาจิตใจผมได้เป็นอย่างดี...ไม่มีคำถามซ้ำถึงความอ่อนแอ มีแต่การเติมเต็มความสุขและกำลังใจ....ผมมีความสุขมากและใช้เวลาอย่างเต็มที่กับคนที่บ้าน....ผมจะยังทำเช่นนั้นอีกครั้งและบ่อยครั้งขึ้น...
ขอบคุณครับ....
ขอให้มีความสุขเช่นกัน นะครับ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับที่ให้เกียรติและกรุณานำบันทึกของผมไปเผยแพร่อย่างน่าประทับใจ...
ภูมิใจและดีใจที่ท่านอาจารย์แวะมาทักทาย
ขอบพระคุณอีกครั้ง...ครับ
สวัสดีครับนายเอ
...เป็นความโชคดีโดยแท้ที่คนเราสามารถเดินทางตามความฝันของตนเองได้อย่างไม่ลังเล..ผมผ่านพ้นชีวิตในเมืองใหญ่ในห้วงสั้น ๆ แต่ก็ไม่เคยทิ้งความฝันของตนเอง จึงสามารถกลับออกมาจากที่ตรงนั้นได้...
ฝากแสดงความชื่นชมพี่ในที่ทำงานท่านนั้นด้วยนะครับ..และขอบคุณมากที่กรุณาให้เกียรติแวะมาทักทายกันและกัน
ขอบคุณเจ้มากที่แวะมาแลกเปลี่ยน...ผมก็เห็นว่าเจ้ดูแลครอบครัวดีมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว...ไม่ได้ไปพักผ่อนด้วย แต่ไปส่งและส่งใจไปกับท่านก็ถือว่าโอเคแล้วขอบคุณครับ
เป็นยังไงครับการงานและชีวิต...
ขอบคุณมากครับที่แวะมาทักทายและเป็นกำลังใจให้กับผม
เช่นกันนะครับ...ขอให้มีแรงกาย แรงใจในการใช้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิต รวมถึงการอิ่มสุขในบ้านอันแสนอบอุ่นตลอดไป
ขอบคุณครับ
ทึ่งในการถ่ายทอดอารมณ์ของท่านมากครับ ขอบคุณที่ตกแต่งถ้อยคำได้อย่างสวยงามและทำให้ผมรู้สึกว่ามีคนที่เหนื่อยเหมือน ๆ กันและมีแม่เป็นที่ยึดเหนี่ยวเหมือนๆกัน
แม่คงสบายดีนะครับ
สวัสดีครับ
ผมไม่ปฏิเสธว่าเป็นคนแข็งนอกแต่ก็อ่อนใน..วูบไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่ถึงกับเคว้งคว้าง เพราะรู้ตนเองว่ามีบ้าน - มีคนที่รักเป็นที่ยึดเหนี่ยวอยู่อย่างใกล้ชิด...
ทุกวันนี้คุณแม่ของผมสุขภาพท่านยังแข็งแรงและทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน...ยิ่งได้อยู่กับหลาน ๆ ก็ยิ่งมีประกายความสุขอันสดใส
ผมรักแม่...และรักบ้านเกิดเสมอ...
ขอบคุณนะครับ...
สวัสดีครับ
อ่านแล้ว คิดถึงบ้านจัง
สวัสดีครับ ผศ. เพชรากร หาญพานิชย์
ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะครับ
ล่าสุดวันหยุดเข้าพรรษา ผมได้กลับไปบ้านบ้างแล้ว. ถึงอยู่ไม่นานแต่ก็ยิ่งใหญ่เหลือกเกิน ถามยังได้ดำนาร่วมกับพ่อ แม่และพี่ชายด้วย
อบอุ่นมาก ๆ เลยก็ว่าได้
ผมไม่มีแม่ ผมไม่มีพ่อ แต่ผมก็มียายอันเป็นที่รัก ยายของผมคอยอ่อนโยนเสมอ เวลาที่หลานร้องให้ ยายคอยเข้มแข็งเสมอ เวลาที่หลานไม่มีอะไรกิน ยายทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงหลานอย่างผม วันนี้ผมไม่ได้กลับบ้านมาถึง 5 ปีกว่าแล้ว
....ผมอยากบอกยายว่า
..ยายคับหลานคนที่ยายให้นอนหนุนตัก อยากกลับไปนอนกอดยายจัง
...ยายคับนอนห่มผ้าหรือยังคับ ในคืนที่หนาวเย็น เหมือนตอนที่ยายเคยห่มให้หลานๆ
.....ยายคับตาของยายมองไม่ค่อยเห็น วันที่ใครทำกับข้าวให้ยายกิน
.......ยายคับ เสื้อผ้ายาย มีใส่บ้างหรือปล่าวครับ ใครคอยซักผ้าให้ยาย
..-----ยายคับ ผมคิดถึง ยายเหมือนตอนที่ยายห่วงยัยคิดถึงผมเวลาไปเรียน
00000 . . . .ยายคับ ผมรักยาย . . . 0000
สวัสดีครับ..คุณนัฐชา
ยายคับหลานคนที่ยายให้นอนหนุนตัก อยากกลับไปนอนกอดยายจัง
...ยายคับนอนห่มผ้าหรือยังคับ ในคืนที่หนาวเย็น เหมือนตอนที่ยายเคยห่มให้หลานๆ
.....ยายคับตาของยายมองไม่ค่อยเห็น วันที่ใครทำกับข้าวให้ยายกิน
.......ยายคับ เสื้อผ้ายาย มีใส่บ้างหรือปล่าวครับ ใครคอยซักผ้าให้ยาย
..-----ยายคับ ผมคิดถึง ยายเหมือนตอนที่ยายห่วงยัยคิดถึงผมเวลาไปเรียน
...
ข้อความข้างต้นนั้น ผมอ่านหลายรอบและหลายครั้งเมื่อหลายๆ เดือนที่แล้ว มันตราตรึงอยู่ในหัวใจของผมเสมอมา และเชื่อว่า ถ้อยคำเหล่านั้น คือความดีงามที่มีความเป็นปัจจุบันอยู่ในหัวใจของคุณและยายที่คุณรักอย่างไม่ต้องสงสัย
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ...
และไม่ทราบว่า ตราบจนวันนี้ ได้กลับไปหนุนตักแห่งความรักนั้นอีกหรือยัง..
สวัสดีค่ะ
ได้อ่านข้อความที่คุณเขียนถึงแม่ด้วยความบังเอิญ ต้องหลั่งน้ำตาคิดถึงแม่ที่จากไป แม่ที่เคยห่วงใย คอยปลอบให้กำลังใจ ทำให้ชีวิตลูกนี้ก้าวเดินมาข้างหน้า แม่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ลูกอยู่ห่างบ้าน..นับเวลาหลายเดือน..หรือ..ข้ามปี จึงจะได้เห็นหน้าแม่ สองปีที่แล้ว ลูกกลับบ้านมาเยี่ยมแม่ได้เพียง 5 วัน ไม่คิดเลยว่าการกลับมาครั้งนั้นจะเป็นการกลับมาจัดมาจัดงานศพของแม่ แสนอาลัยอาวรณ์ในการจากไปอย่างกระทันหันของท่าน เฝ้าแต่ทำใจให้คิดว่าท่านไปดี ท่านมีบุญ ใช้เวลาอยู่เนินนานกว่าจะทำใจให้หายเศร้าได้ แม่จ๋า..แม่ไม่เคยตายไปจากใจของลูกคนนี้เลย
แม่สุดที่รักของลูก
สวัสดีครับ...ครูอาสาฯ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
และขออนุญาตนำกลอนที่เพิ่งเขียนเสร็จเกี่ยวกับบ้าน มาให้อ่าน..
เธอที่รัก
การเดินทางแสนเหนื่อยหนักและอ่อนล้า
จักจบลงในชั่วกะพริบตา
เมื่อเธอถึงซึ่งชายคาแห่งรวงรัง
อ่านแล้ว ณู้สึกคิดถึงบ้านพ่อที่อิสาน ( จ.อุดรธานี) รู้สึกคิดถึงพ่อมาก อาจารย์บรรยายได้ลึกซึ้งมากค่ะ อ่านแล้วอ่อนไหวตาม...การถ่ายยทอด
สวัสดีครับ..คุณปนัดดา จันทร์เหลือง
อีสาน,...คือลมหายใจของผม
ไปไหนมาไหน ไม่เคยเขินอายที่จะบอกว่าเป็นอีสานทานข้าวเหนียว...
ในยามท้อ..
แม่คือทุกอย่างของการทำให้เรากลับมายืนหยัดสู้กับโลกและชีวิตที่หลากหลายไปด้วยโจทย์ และหลุมดำ
ขอบคุณครับ
....
วันที่อ่อนล้าและท้อถอย
ได้นอนหนุนตักอุ่น ๆ ของแม้
มันมีพลังใจเอ่อล้นขึ้นมามากมาย
โดยเฉพาะมืออุ่นๆที่ลูบผมเราเบา ๆ
แม้ภูผาขวางหน้าก็ไม่หวั่น
มีความสุขในวันแม่นะคะ
และขอให้คุณแม่ของคุณมีความสุขและสุขภาพดีตลอดไปนะคะ
ทุกครั้งที่เหนื่อย
แค่คำพูดของแม่ว่า "เป็นอย่างไรบ้างลูก"
เราก็แทบไม่ต้องการกำลังใจอื่นใดอีก...
อาจารย์พนัส
อ่านเเล้วรู้สึกคิดถึงเเม่มากๆๆ จริงนะไม่มีใครเข้าใจเราเท่าเเม่ ใช่มั๊ยค่ะ
ดีใจค่ะที่เพื่อนได้ทำตามที่ฝันไว้ เก่งจริงๆๆค่ะ
สวัสดีครับ คุณปีตานามาจิตต์
เดือนเศาแล้วครับที่ผมไม่ได้กลับบ้าน เมื่อวานเจ้าตัวเล้กถ่ายภาพบ้านมาฝาก ทำเอาผมหลับและฝันถึงผู้คนและเรื่องราวที่บ้านเกิดอย่างมหัศจรรย์..ฝันนั้นเป็นฝันใกล้รุ่ง ราวกับเป็นจริง แตะต้องและสัมผัสได้จริงๆ...
ขอบคุณครับ
ครับคุณPhornphon
...สมัยเรียนมหาวิทยาลัย กลับบ้านแล้วสภาพโทรม ๆ ผอมๆ ...พลอยให้แม่ทุกข์ใจไปด้วย แต่พอกลับไปอีกครั้ง ดูอ้วนๆ ขาวๆ...แม่ยิ้มอย่างเป็นสุข โดยไม่สนใจว่า ลูกจะหล่อเท่ห์หรือไม่ แม่รู้แต่เพียงว่า อยากเห็นลูกกินอิ่ม -นอนหลับ
...ในความทรงจำของเพื่อน...แจ่มชัดและไม่ลืมเลือน...เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ และขอให้มีพลังกับการเดินทางในวิถีแห่งความฝันและความจริง-