ในหลักสูตรนี้ มีชั่วโมงที่สอนวิธีเขียน ผังเครือญาติ หรือ
genogram
กันอย่างเอาจริงเอาจัง
แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญต่อการดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายมาก
ซึ่งจะเสริมกับ บันทึกของท่านนกไฟอันนี้
นะครับ
ชํ่วโมงนี้ คุณหมอ Cynthia Goh
และ Rosalie Shaw เป็นผู้นำสอน
ด้วยการแนะนำให้รู้จักสัญญลักษณ์และเส้นสายที่สื่อความหมายต่างๆ
แล้วให้นักเรียนโข่งแต่ละคนเขียนผังเครือญาติของตนเอง
ในระหว่างนี้ก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ว่าจะเขียนยังไงเพื่อสื่อว่า
แยกกันอยู่ หย่าขาด กิ๊ก ฝาแฝด มีคู่หลายคน
สัมพันธภาพแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือแบบพิสดารแหวกแนว
พึ่งพาฝ่ายเดียว พึ่งพาอาศํย เรียกได้ว่า
สารพัดจะจินตนาการไปถึงได้
สมาชิกในครอบครัว
ซึ่งก็เหมือนตัวละครแต่ละตัวและลักษณะความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
มีผลกระทบต่อการดูแลรักษาคนไข้มาก ผลกระทบจากความเจ็บป่วย
ใกล้ตายและเสียชีวิตของคนไข้ก็กระทบกลับไปยังบุคคลเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
เราได้อะไรจากผังเครือญาติและสัมพันธภาพเหล่านี้
- ทำให้เรามองเห็นภาพของคนๆนั้นในภาพรวมจริงๆ
เห็นความเป็นคนของเขา
ลองดูเรื่องที่ผมเจอกับตนเองนะครับ
คุณป้าแก่ๆ คนไข้ของผมคนหนึ่ง
มารักษามั้งไม่รักษามั้ง นัดมาเจอผมก็มาไม่ตรงเวลา
แล้ววันหนึ่งก็หายไปไม่มารักษาต่อ แน่นอนครับ
อย่างนี้หมอเราก็จะจัดอยู่ในกลุ่มคนไข้ปฏิเสธการรักษา
ซึ่งถ้าได้หลงกลับมารักษาอีกที
ก็จะต้องถูกหมอปากจัดอย่างผมต่อว่าและอบรมสักหนึ่งยกก่อนรักษาต่อให้
ทำนองว่า ป้าไม่รักตัวเองรึ
สุขภาพตัวเองไม่ดูแล้วใครจะดู
มีเรื่องอะไรนักหนาที่มันสำคัญกว่าเรื่องสุขภาพตัวเอง
อะไรปานนั้น
แต่วันที่ป้ากลับมาหาผม ผมกำลังจะเริ่มบทเดิมๆอยู่แล้ว เรียกได้ว่า
คำพูดชุดเก่าๆขึ้นมาติดอยู่ตรงริมฝีปากแล้ว
แต่เอะใจที่สีหน้าท่าทางป้าวันนี้ไม่ดีเลย เลยเปลี่ยนใจถามคุณป้าไปว่า
"ป้าเป็นไงเหรอ ที่หายไป"
คำตอบที่คนไข้ตอบผม เล่นเอาผมใจหายแวบเลย นี่ถ้าเราไม่ถาม
ก็คงใส่แกเป็นชุด แล้วแกคงยิ่งแย่ไปอีก ป้าแกตอบผมว่า
"ลูกชายที่ดูอยู่
มันตาย" ครับ ป้าอยู่คนเดียว สามีเสียแล้ว
แถมยังต้องดูแลลูกชายซึ่งพิการจากอุบัติเหตุมานานมากแล้ว
เป็นภาระที่ทำให้แกต้องพะวักพะวนเรื่องการรักษาของตัวเอง
จนมามั้งไม่มามั้ง อยางที่ผมเล่าตั้งแต่ต้น
นับแต่วันนั้นผมก็ไม่กล้าใส่คำพูดประโยคเด็ดเดิมๆ
กับคนไข้ที่ปฏิเสธการรักษาแล้วกลับมาอีกเลย วงเล็บ
ถ้าไม่ได้ถามสาเหตุเสียก่อน
-
ทำให้เราสามารถปรับการดูแลรักษาโดยเฉพาะที่บ้าน
ได้เหมาะสมกับสภาพต่างๆของคนไข้มากขึ้น
ผมมีคนไข้หลายคนที่ทุกครั้งที่มาหาผม
ลูกคนที่มาด้วยจะฟังและถามผมได้ถูกใจผมนัก คำถามดี ฟังรู้เรื่อง
แต่ขอโทษเถอะครับ พอถามไปถามมา ลูกคนนี้อยู่คนละบ้าน
ดีไม่ดีอยู่กันคนละจังหวัดด้วยซ้ำ แต่เวลามาเจอหมอ
จะต้องเป็นคนพาพ่อมาเพราะเรียนสูง แหลงกลางชับ
หรือคุยกับหมอพอรู้เรื่อง ส่วนลูกคนที่ดูแล
รู้เรื่องคนไข้ดีที่สุดไม่กล้ามา ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ คือ
ลูกคนที่พาคนไข้มาหาหมอ รู้เรื่องดีทุกอย่าง
แต่ไม่ได้ถ่ายทอดสิ่งที่ถามและฟังจากหมอกกลับไปถึงลูกคนที่ดูแลประจำเลย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นประจำ
ผมต้องแก้ปัญหาบอกคนไข้ให้เอาตัวจริงมากด้วย
หรือย้ำกับลูกคนที่พามาว่าต้องถ่ายทอดให้ดี
- ทำให้เรารู้ว่าใครสำคัญ อย่างไร
ครับ มันทำให้เรารู้ว่าใครเป็นใคร ใครคือ
คุณแจ๋ว..คนที่รับภาระดูแลคนไข้หนักอยู่คนเดียว
พี่ใหญ่..คนตัดสินใจเรื่องการรักษา
ถ้าคนไข้ไม่รู้ตัวหรือไม่สามารถตัดสินใจเองได้ อาจจะเป็นพี่ใหญ่จริงๆ
หรือผู้จ่ายกะตังค์
ลูกชายจากกรุงเทพฯ..ลูกคนที่การศึกษาดีงานการดี แต่ไม่อยู่กับคนไข้
นานๆจะแวะกลับมาดูสักที
แล้วมักจะมีความคิดความต้องการที่แปลกแยกไปจากคนอื่น
ถึงผังเครือญาติจะบอกเราหลายอย่าง แต่ผมเองไม่ได้ทำผังเครือญาติคนไข้ทุกราย ต้องบอกว่า น้อยมาก ด้วยเหตุผลเดิมๆ คือ เวลา แต่เริ่มหัดใช้กระดาษว่างๆ วาดผังที่เรารู้ข้อมูล แล้วค่อยๆเติมให้มากขึ้นตามลำดับเวลาที่รู้จักคนไข้มากขึ้น เหมือนเติมภาพตัวต่อที่ผมชอบเล่น ทำให้การพบหน้าคนไข้แต่ละครั้งมีเรื่องราวที่น่าสนใจ
สำหรับการซักประวัติผังเครือญาติอย่างเอาเป็นเอาตาย
โดยเฉพาะกะจะให้สำเร็จ้สมบูรณ์ครบถ้วนในครั้งเดียว
โดยเฉพาะครั้งแรกที่เจอกัน
ผมว่าเป็นการลุกล้ำเรื่องส่วนตัวคนไข้เร็วไป คนไข้อาจงงๆ ด้วยว่า..
นี่มาหาหมอ พยาบาล
หรือมาหาเจ้าหน้าที่สำรวจสำมะโนประชากรกันแน่
๙ ตุลาคม ๒๕๕๐
<< APHN Diploma of Palliative Care ๒๕:
โตๆกันแล้ว อยากเรียนยังไง
ปัญหาที่อาจารย์ว่าเป็นเรื่องจริง
ยกตัวอย่างแม่ ของพี่ ป่วยเป็นเบาหวาน
คนดูแลแม่...เป็นน้องสาว
คนที่พาแม่มาหาหมอ.... เป็นพี่สาว
คนเข้าไปคุยกับหมอเป็น....ตัวพี่เอง
บางครั้ง....ถ้าหมอต้องการรายละเอียดมาก เราก็โทรศัพท์ให้หมอคุยกับน้องสาวที่ดูแลแม่ได้
ใช้ เทคโนโลยี่เข้าช่วย ก็สามารถรู้ปัญหาผู้ป่วยได้เช่นกันค่ะ
genogram เป็นเครื่องมือที่ ผมใช้บ่อยที่สุดเวลา family approach
work มากครับ ทำให้เราเห็นบริบทของครอบครัวทั้งหมดได้ แล้วยังเป็นขอ้มูลทงาสัญลักษณ์ที่รู้กันในผู้ที่มีความรู้เรื่อง genogram มีผลดีต่อการรักษาความลับผู้ป่วยในกรณีทีมีผู้มาอ่านใน OPD card
พี่อุบลครับ
น้องโรจน์ครับ