ทุกปีเวลาปฐมนิเทศน์แพทย์ใช้ทุนใหม่ เราจะฉายภาพยนตร์เรื่องยาวกันตอนกลางคืนวันเสาร์ หลังกิจกรรมสันทนาการและ walk rally ในภาคบ่าย แล้วรุ่งเช้าวันอาทิตย์จะมานั่งคุยกัน เพื่อโยงสู่เรื่อง palliative care
ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมเปลี่ยนมาเป็น ฉายหนังสั้นตอนเช้าแล้วคุยกันเลย เพราะอยากให้น้องหมอได้พักผ่อนบ้าง ไม่อยากให้การอบรมหนักจนเกินไป
ผมเลือกหนังสั้นฝีมือคนไทย เรื่อง Made in Heaven กำกับโคย อมร หะริณนิติสุข
มีความยาวแค่ ๑๒ นาที เท่านั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อค้าขายก๋วยเตียวหนุ่มที่มาพบรักกับคุณหมอสาวสวยที่เป็นคนบอกตนเองว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย
เนื้อหาดูค่อนข้างจะไม่สมจริงเท่าไร แต่ผมชอบวิธีการนำเสนอของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สั้น กระชับ แต่แปลกแปร่ง และจบแบบทิ้งให้ความรู้สึกนึกคิดของคนดูยังตลบอบอวลไปหมด ไม่มีข้อสรุป มีแต่คำถาม
ต้องบอกตามตรงว่า ผมดูหนังเรื่องนี้รอบแรกจบ แล้วต้องเปิดซ้ำเพราะคิดว่า เป็นแค่หนังตัวอย่าง อยากดูตอนเต็มๆ แต่ว่า มันมีเท่านั้นจริงๆ
ผมฉายหนังสั้นเรื่องนี้ให้น้องหมอซึ่งถูกแบ่งเป็น ๓ กลุ่มดู ต่อจากกิจกรรมช่วยกันค้นหา คำที่บ่งบอกความรู้สึก โดยตั้งโจทย์ให้กลุ่มละเรื่องดังนี้
๑. ความรู้สึกและคิดเห็นเกี่ยวกับตัวผู้ป่วย คือหนุ่มขายก๋วยเตี๋ยว
๒. ความรู้สึกและคิดเห็นเกี่ยวกับตัวคุณหมอแสนสวย
๓. ความรู้สึกและคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสั้นในภาพรวม
มันเป็นไปตามที่ผมคาด หลังดูหนังจบ หนังสั้นเรื่องนี้สร้างความรู้สึกและความคิดเห็นของน้องหมอ รวมถึงอาจารย์ที่ร่วมดูอยู่ได้อย่างหลากหลาย
ผมให้แต่ละกลุ่มได้มีโอกาสใช้สุนทรียสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองในกลุ่มย่อยระยะหนึ่ง ก่อนให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนขึ้นมานำเสนอในกลุ่มใหญ่
นี่เป็นบางส่วนของการนำเสนอ
หนังโดยรวม
ความรู้สึก: งง สงสาร เห็นใจ เครียด เสี่ยว สยอง แย่
ความคิดเห็น: หนังสร้างไม่เคลียร์ หนังน่าจะต้นทุนต่ำ ซวยทั้งคนไข้และหมอเพราะคิดว่าหมอินิจฉัยผิด สื่อความหมายเรื่องเวลาโดยการแพนกล้องไปที่ปฏิทินได้ดี หนังสร้างให้ต้องตีความได้อย่างหลากหลาย หนังสั้นดี คิดไม่ออก
ผู้ป่วย
ความรู้สึก: สงสาร เครียด เวทนา เศร้า หมดหวัง งง กลัว ชื่นชม
ความคิดเห็น: ต้องการที่พึ่ง ไม่ยอมรับความจริง อารมณ์เปลี่ยนเร็ว แต่งตัวเชย ควรตรวจสอบชื่อคนไข้ว่าถูกต้องหรือไม่ก่อนบอกคำวินิจฉัย จีบหมอดูไม่สมเหตุสมผล
หมอสาวสวย
ความรู้สึก: ดี เข้าใจ เครียดแทน ชอบ เห็นใจ ไม่ไว้ใจ ระแวง งง กลัว
ความคิดเห็น: พูดดี น่าจะให้คำปรึกษาคนไข้ได้ดีกว่านี้ ชอบตัดบทและไม่สนใจอารมณ์คนไข้ แสดงอารมณ์ไม่เหมาะสม ไม่ค่อยฟังคนไข้ สนทนาราบรื่นดี
สิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน
เหตุการณ์เดียวกัน แต่สามารถสร้างความรู้สึกและความคิดเห็นได้หลากหลาย แตกต่างกันอย่าสิ้นเชิงจากลบสุดๆ ถึงบวกสุดๆ
ความรู้สึกของผู้อื่น ถ้าไม่ถามแล้วเดาเอาเอง มีโอกาสผิด
ถ้าไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ จะไม่เข้าใจความรู้สึกและเหตุผลของผู้อื่น
ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเบื่อ ไม่สนใจ เป็นการปิดโอกาสการเรียนรู้จากกลุ่มและผู้อื่น
ไม่ควรตัดสินคนไข้ก่อนฟัง
การดูแลคนไข้ต้องเป็นองค์รวม โดยเฉพาะคนไข้เครียดมากๆ
สามารถตามทันตนเองมากขึ้น
ต้องเข้าใจความรู้สึกและความคิดของตนเองและผู้อื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ความรู้สึกและความคิดมันแยกกันไม่ขาด
ไม่มีความเห็น