สุสาน ICT.


   

จานฯรุ่นนี่แหละที่กองเป็นขยะตามโรงเรียน ภาคเอกชนเขาสนับสนุนทำแต่เรื่องดีงาม

ผมถูกทวงถามเรื่องขอทราบเหตุผล ปัญหาและสาเหตุที่ไม่จัดอบรมให้แก่ประชาชน ตามขอบเขตการดำเนินงานโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ICTชุมชน ก็ขอกล่าวนามตามท้องเรื่องสักเล็กน้อยเกี่ยวกับโครงการที่ฟังชื่อหรูหรามาก ตอนแรกเราก็ดีใจที่ได้รับการสนับสนุน ผมนั้นก็ชอบเรียนรู้เรื่องพวกนี้ และรู้เห็นพัฒนาการเรื่องITพอสมควร เคยไปดูงานเรื่องนี้ที่อินเดีย ก็ไม่เห็นใครเขาทำเรื่องมักง่ายทำนองนี้

การติดตั้งอินเทอร์เน็ตในโรงเรียนต่างๆ พบว่ามีปัญหาเรื่องการจัดหาอุปกรณ์คุณภาพต่ำมามอบให้ ระบบที่นำมาใช้ คอมพิวเตอร์และจานรับสัญญาณ ถ้าไม่ตกรุ่นก็หารุ่นแทบไม่เจอ สุดท้ายอุปกรณ์เหล่านี้ทิ้งเป็นซาก จะเอาไปปลูกผักชีก็ไม่เหมาะ โรงเรียนไหนอยากจะมีระบบICTที่พอใช้ได้ ต้องหาเงินซื้อบริการของบริษัทเอกชนมาใช้ ประสิทธิภาพของภาครัฐฯแทนที่จะนำร่อง ก็ตกร่องอย่างเหลือเชื่อ แล้วเราจะมีกระทรวงไอซีทีไว้วิ่งตามก้นบริษัท ทำไมครับ!

จะเห็นว่าระบบการพัฒนาการเรื่องICTในประเทศนี้ นอกจากจะมีปัญหาในส่วนอื่นแล้ว ตัวหน่วยงานของภาครัฐที่ควรจะมีความรับผิดชอบ เป็นผู้กำกับการส่งเสริมและพัฒนา กลับเป็นตัวเพาะเชื้อความไม่ชอบมาพากลเสียเอง

ในส่วนของโครงการICT.ชุมชน เราได้รับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยี่ห้อหมาเมิน20ตัว ทีวี1เครื่อง เครื่องถ่ายเอกสาร1เครื่อง มาพร้อมกับระบบการสื่อสารสมัยพระเจ้าเหา เปิดแค่3เครื่องคอมฯก็อืดแล้ว ลองใช้ดู2-3ครั้งระบบก็เจ๊ง แจ้งไปที่กระทรวงฯ ก็บอกให้เราติดต่อกับบริษัทที่เหมาโหลงานติดตั้ง ยังไม่ได้ใช้จริงจังก็ทำท่าเป็นเศษขยะแล้ว เครื่องมืออย่างนี้ละครับที่จะให้เราอบรมชาวบ้าน100คน

ป้ายโครงการของกระทรวงฯ ยังเขียนผิดเป็น ไอทีซี

ไม่ต้องใช้วิจารณญาณระดับไหนก็รู้ว่า กระทรวงแห่งนี้โลเทคฯอย่างที่สุด โดยเฉพาะจิตสำนึกที่บกพร่องทางจริยธรรม ลองสังเกตป้ายที่เขาเอามาติดก็ยังเขียนผิด น่าเศร้าไหมครับ

พวกเราชาวไทยได้รับการสนับสนุนอะไรจากภาครัฐฯ เขาจะเอาอะไรมาให้ แย่แค่ไหนก็ไม่พูด เกรงว่าจะไม่ได้ พวกนี้จึงดูถูกประชาชน กล้าที่จะหมกเม็ดทำเรื่องที่น่าละอายได้หน้าตาเฉย

นายอาจิน จิรชีพพัฒนา ประธานกรรมการคณะกรรมการกำกับการทำงานและตรวจรับงานของที่ปรึกษาโครงการจัดตั้งICT.ชุมชน มีหนังสือแจ้งมาให้ผมอบรมประชาชน100ราย โดยมีที่ปรึกษาโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ICTชุมชน จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นผู้ประสานการอบรม เป็นงานอบรมที่ลับๆล่อๆ นอกจากคนบ้าและเมาเท่านั้นที่คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ผมตั้งข้อสังเกตดังนี้

1.   จำนวนชาวบ้าน100 คน เราจะไปหามาจากไหน บ้านแกก็ไม่มีคอมพิวเตอร์ แกไม่รู้จัก แกไม่ต้องการ จะเอาแกมานั่งอบรมไปหาสวรรค์วิมานอะไรไม่ทราบ ผมคนไปชวนก็จะโดนแกตะเพิดว่าบ้ารึเปล่า ผมนะอยากเจอหน้าอาจารย์ที่จะมาอบรม สงสัยว่าจะเป็นเทวดาด้านคอมพิวเตอร์ ถึงจะมาสอนให้ตาสีตาสารู้แจ้งแทงตลอดเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ได้ใน1วัน แนวคิดนี้ประหลาดและตลกมาก ไม่มีเหตุผลในทางปฏิบัติแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว   

2.   งบประมาณการอบรมอ้ำๆอึ้งๆ ไม่ทราบจนบัดนี้ว่ามีรายละเอียดอย่างไร บอกให้ส่งระเบียบปฎิบัติเป็นเอกสารก็ไม่ทำ ให้เด็กๆสั่งการทางโทรศัพท์ คงต้องการทำแบบหมกเม็ด กล้อมแกล้มพอให้ผ่านๆการตรวจรับ ได้ผลไม่ได้ผลไม่ต้องคำนึงหรือรับผิดชอบอะไร ผมทำงานเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ถ้าเรียงลำดับเรื่องอย่างหนาตราช้างสุดๆก็คงเป็นโครงการนี้ ยกให้เป็นผลงานชิ้นโบว์ดำแห่งชาติได้ ที่มาสอนให้ชาวบ้านร่วมมือทำเรื่องไม่เหมาะสม ก็ลองนึกดูเถิด กระทรวงเทคโนโลยีฯมาส่งเสริมวิธีเหลวไหลให้กับประชาชน

3. ปกติที่มหาชีวาลัยอีสาน ให้ความรู้และอบรมเรื่องการใช้Blog กับนักศึกษา และผู้นำชุมชน คราวละ 5-10 รายอยู่แล้ว โดยวิทยากรที่มีความรู้จะดับBlogger จึงรู้ถึงความเป็นไปได้ ว่าถ้าจะนำICTไปสู่ชุมชนนั้น ควรจะเลือกความเหมาะสมและขั้นตอนอย่างไร

สุดที่ผมจะฝืนทำอะไรที่ขืนใจตัวเอง ตั้งใจว่าจะให้นายอาจิน จิรชีพพัฒนา มาขน

เอาเศษสวะเลวๆนี้กลับไป ผมไปขอบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์เก่าจากซูซาน จาก

Conductor หรือจากท่านที่อยากจะทำบุญคอมเครื่องเก่า มาสอนผู้ที่สนใจ ตาม

ความต้องการและเป็นจริง น่าจะสบายใจกว่า

รีบๆมาขนกลับไปเถิดนะ จะได้ทำบุญตักบาตรล้างซวยเสียที พนักงานบริษัทปูนซิ

เมนต์ไทย ที่เขาอุตส่าห์มาสร้างตึก6เหลี่ยมรองรับโครงการนี้ให้ ก็คงพลอยเสียความ

รู้สึกไปด้วย ผมอยากจะเอาเรื่องนี้ไปลงหนังสือกินเนสต์บุ๊ค ท่านใดทราบวิธีกรุณา

แจ้งด้วยครับ หรือสื่อมวลชนฉบับใดอยากได้ข้อมูลก็มาพิสูจน์ได้

หมายเลขบันทึก: 168932เขียนเมื่อ 4 มีนาคม 2008 02:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 22:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (43)

มันแย่สิ้นดีครับ ครูฯ   ผมไม่รู้ว่าจะพูดกันยังไง

แย่มากมาก มาก มาก มาก มาก มาก มาก มาก

ผมสุดจะทนครับ  งานนี้ต้องมีคนรับผิดชอบครับ

คิดว่าสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการประเมินครับ เดี๋ยวนี้มีศาสนา KPI (กะปิ) แล้วนะครับ เอาตัวเลขมาใส่กันให้ดูเยอะๆ เข้าไว้ คุณภาพกับความเหมาะสมไม่ต้องดู เพราะวัดเป็นตัวเลขไม่ได้

กราบสวัสดีครับ

    สบายดีไหมครับ เพิ่งมาได้มาเจ๊งเสียแล้วเหรอครับ เหมือนคอมพ์ ผมเลยครับ รอส่งศพกลับบริษัทพรุ่งนี้ครับ ตอนนี้หลับไม่ตื่น หวังว่าจะฟื้นให้มาใช้อีกนะครับ เพราะผลิตผลงานไปได้ไม่นานหลับไม่ตื่นเลย

    สำหรับเครื่องที่สุสานคุณตา มีอะไรเีสียกันบ้างครับ อาการแต่ละเครื่อง ทำไว้เป็นคุณสมบัติอาการของโครงการก็ดีครับ จะได้ทำเป็นสถิติเก็บเอาไว้ส่งให้โครงการต่อไปครับ เวลาโครงการอื่นๆ มีมาแบบนี้ก็ส่งลิสต์เก่าๆ นี้ส่งไปให้เค้าดูในรอบก่อนครับ ว่ารอบก่อนนั้นเป็นไง เผื่อจะเป็นแบบเดียวกันอีกครับ

    ปกติเครื่องยี่ิสิบเครื่องไม่น่าจะไปพร้อมๆ กัน หากไปพร้อมๆ กันแสดงว่าเครื่องอาจจะไร้วิญญาณมาก่อนแล้ว....

    ทางออกอื่นๆ เช่น กรอบหน้าจอ โละเครื่องในออก ทำเป็นรังไก่ น่าจะเข้า่ท่าครับ ส่วนเคสแนะำนำให้เอาไปจมปลาไหลครับ....

ผมยังไม่ค่อยกระตุกในโครงการเท่าไหร่นะครับ หากจะอบรมบล็อกให้ชาวบ้าน หรืออบรมให้ชาวบ้านเขียนบล็อก เว้นแต่ว่าชาวบ้านท่านสนใจในเรื่องเหล่านี้ และกลับไปบ้านก็สานงานต่อได้ หากเป็นแบบนี้ผมสนับสนุนครับ แต่หากกลับไปบ้านท่านไม่ได้สานต่อ คงทำได้ในเรื่องการให้โอกาสนะครับ แต่การต่อยอดอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ครับ(ขอโทษด้วยนะครับ หากผมเข้าใจผิด) ผมว่าสู้นั่งวางแผนทำระบบฐานข้อมูลพันธุ์พืชไทยร่วมกันจะดีกว่า แล้วหาคนมาช่วยเก็บข้อมูล แล้วค่อยเอาไปอบรมให้กับ หน่วยงานชุมชนในการบริหารฟื้นฟูชุมชนสมุนไพรไทย หรือภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เคยคุยกัน ผมแบ่งภาคไม่ทันนะครับ หากแบ่งได้จะส่งไปให้หนึ่งภาคครับ ตอนนี้ขอลุยภาคหลักก่อนนะครับ แต่ไม่ลืมนะครับในสิ่งที่เคยพูดไว้

กราบขอบพระคุณมากๆ นะครับ

เม้งครับ

  • ขอร่วมไว้อาลัยกับ "ICโท่ย" ด้วยคนครับพ่อ
  • ภาคการศึกษาทุกระดับ  โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านนอก เจออย่างนี้มาเยอะจนถือเป็นธรรมด๊า...ธรรมดา...ไปซะแล้ว 
  • กลายเป็นว่า.... ถ้าได้ของดีมาสิ... ถึงเป็นเรื่องแปลก...
  • ระดับ สนง. ก็เจอรถโบราณ รุ่นบุโรทั่ง  แต่ราคาปัตติโถ้....อะไรๆประมาณนี้อ่ะครับ
  • โคกเพชร รร.เล็กๆ  ยังเจอทั้งจักรเย็บผ้า , เครื่องดนตรีไทย , เครื่องกรองน้ำ , เครื่องโม่บดทำน้ำนมถั่วเหลือง ทุกอย่างเป็นของจำลองแต่ขนาดเท่าของจริงทั้งนั้น เขาให้ครูมีหน้าที่อีกอย่างก็คือนั่งเฝ้าและปัดฝุ่นขยะเหล่านี้ครับ
  • การศึกษาจึงจำเริญๆขึ้นจนชาวบ้านอยากมีอินเตอร์เน็ตกันแล้วไงครับพ่อ
  • อิอิ.....

สวัสดีตอนเช้าครับผม

เมื่อวานและเมื่อคืนก็ฟาดฟันกับไวรัส จนพ่ายแพ้ครับ คอมพิวเตอร์มีอันต้องเข้าคลีนิกไป ๑ เครื่อง ใช้เครื่องสำรอง เล่นเอาผมปวดใจมากครับ ยังดีว่าข้อมูลยังสำรองไว้

จะพึ่งพาเพื่อนเยอรมันหรือ เขาก็เอาตัวไม่รอด ทราบว่าเครื่องโน๊ตบุคเครื่องใหม่ของเขาก็บู้ทไม่ขึ้น หนักกว่ากระผมอีกนะเนี่ย...

ไอซีที ก็แบบนี้ รู้ไม่ทันก็แพ้ รู้ไม่จริงก็แพ้

แต่อ่านบันทึกนี้ที่ร้ายกว่าไวรัสคอมพิวเตอร์ก็ไวรัสที่เกาะกินประเทศนี่หละครับ

ก็ว่ากันไป- - -สู้กันต่อไปครับ

ท่านอาจารย์ ดร.แสวง ท่านโทรมาเมื่อวานพร้อมบอกว่าท่านเองมีการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์หลากรูปแบบทั้งตั้งรับ และเตรียมพร้อม

คือ

  • มีแอนตี้ไวรัสที่ดี
  • มีการสำรองข้อมูลที่ปลอดภัย (ท่าน อ.ดร.แสวง ท่านสำรองไว้อย่างน้อยสองจุด)

ผมคิดว่าท่านที่ยังไม่โดนไวรัสเล่นงาน ต้องลงทุนกับแอนตี้ไวรัสหน่อยละครับ เอาแบบที่ดีๆ ที่สำคัญหากเราพลั้งไป เรามีข้อมูลที่สำรองไว้ น่าอุ่นใจกว่าเป็นไหนๆครับ

อย่าลืมนะครับ

"สำรองข้อมูล"

 

ฟังแล้วสะท้อนใจมากเลยครับ ประเทศไทยพัฒนาบนกระดาษเท่านั้นครับ

ในปัจจุบันนี้คนไทยสามารถเข้าถึงสารสนเทศออนไลน์ได้เพียง 11% ของประชาการทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าเป็นตัวเลขราคาคุย ผมหารสองเสียได้เป็นตัวเลขจริงไม่น่าจะเกิน 5-6% ครับ

ในขณะที่เวียดนามนั้น ประชาชนของเขาเข้าถึงสารสนเทศออนไลน์ได้ที่ 12.7% ของจำนวนประชากรทั้งหมดครับ

เดี๋ยวนี้เราไล่หลังเวียดนามแทบไม่ทันในเกือบทุกเรื่องแล้ว ไม่น่าเชื่อจริงๆ

ช่วงนี้ชาวG2K คงเรียนรู้เรื่องไวรัส กันอย่างเข้มข้น

ท่านใดมีความรู้ก็แชร์กันได้นะครับ

แต่เจ้าเอกบอกว่า..ไวรัสกำลังเกาะกินประเทศ เกาะกุมจิตสำนึกมนุษย์บางจำพวกจนไร้สติไปแล้ว  จะกู้คืนความเป็นคนคืนมาได้ไหมหนอ..

 

Key Word จาก เอก เมืองปาย

หากไวรัสเป็นคนนี่จะท้าต่อยแล้ว อิอิ

ดุแต่เช้าเลย รูปหล่อ..

พ่อครูขา 

ชื่อโครงการเลิศหรูอย่างพ่อว่าจริงๆแหละ  แต่คุรุภัณฑ์ที่ให้มานั้น..  หุหุ .. confirm !! จะให้เราสร้างสิ่งวิเศษมหัศจรรย์อย่างไร ด้วยเครื่องมือที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

หนิงก็เห็นเครื่องที่พ่อได้มาแล้วค่ะ  แหะๆ ขออภัยนะคะ  เครื่องที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้ลูกๆพิการของ DSS@MSU ใช้อยู่ยัง spec สูงและมีสมรรถนะกว่าเลยใช่ไหมคะพ่อ 

  • เจ้าหมูอ้วนแชร์ข้อมูลแต่เช้า วาสนาเจ้าดี ที่ได้รับเครื่องมือที่สมบูรณ์
  • แต่วาสนาพ่อแย่ เจอแต่คนปลิ้นปล้อน !!

สวัสดีครับท่านครูบา

                 การจัดทำคุณลักษณะครุภัณฑ์ ถ้าเป็นเฉพาะงานก็ต้องจัดทำใหม่ แต่ถ้าเป็นครุภัณฑ์ที่มีมาตรฐานกลางอยู่แล้วเขาจะใช้ตัวนั้นไปเลย

                มาตรฐานครุภัณฑ์กลางจะกำหนดไว้หลวม ๆ ให้ทุกยี่ห้อเข้าได้ ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติพิเศษเอาไว้ ทำให้คนที่นำมาตรฐานนั้นไปใช้ได้รับความผิดหวัง...แต่คนจัดซื้อจัดจ้างปลอดภัย เพราะตรงตามมาตรฐานทุกอย่าง...และจะกลายเป็นขยะประจำสำนักงานในเวลาต่อมา...

                ในการจัดซื้อทั้งระบบพร้อมติดตั้ง จะต้องมีการจัดทำคุณลักษณะใหม่ แต่กรรมการที่เป็นผู้กำหนดต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ใช่เอาแต่ของพรรคพวก(ที่ตกรุ่นแต่ตุนไว้เยอะเลย) ของราคาถูกไม่ได้มาตฐาน หรือเอาปลอดภัยกับตัวเองและคณะอย่างเดียว  ไม่เหลียวดูความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับครุภัณฑ์เหล่านั้น...(ของดีราคาถูกไม่มีในโลกนี้)

                ยิ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอนยิ่งต้องมีการกำหนดให้มีมาตรฐานมากขึ้น ให้สามารถทนต่อสภาพการใช้งานของคนจำนวนมาก

                และที่สำคัญบริการหลังการขาย ต้องแข็งแรง

                ในการเปรียบเทียบมาตรฐานสำหรับการแข่งขัน ต้องเอามวยรุ่นเดียวกัน มีฝีมือใกล้เคียงกันมาต่อยกัน คนดูถึงจะสนุก คุ้มค่าเงิน บางครั้งไปเอากรรมการขี้กลัวมาเป็น แต่อยากมีชื่อ(เลยได้ของห่วย ๆ มาใช้) แต่คนดี ๆ ก็โดนกันออก 

                เฮ้อ...พูดไปก็น่าสงสารหน่วยงานที่ได้รับครุภัณฑ์ ผมเห็นเป็นทุกหน่วยงาน มีบางหน่วยงานมาขอความช่วยเหลือ ผมก็ดำเนินการให้อย่างดีที่สุดครับ ดีเท่าที่จำนวนเงินมี ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ทนทาน ใช้งานง่ายเทคโนโลยีเสถียรแล้ว บริการหลังการขายสะดวกครับ ทำไปเพราะสงสารประเทศไทยครับ

                                                                 สวัสดีครับ

              

มันเป็นความรู้สึกอย่างไรล่ะครับ

แบบ อยากหัวเราะพร้อมๆกับร้องไห้ ? ? ! !

 

 

อึ้ง .... ขอทิ้งหลักฐานการอ่านไว้ละกัน

ไวรัสตัวใหม่ แก้ไขยังไงก็ไม่ได้ เจ๊งอย่างเดียว

Inbox-8226

เอามาดูแก้กลุ้มครับ

ดูแล้วฆ่าไม่ลง

  • โห เจ้าตัวข้างบนฉี่รดคอมฯ
  • ไม่ได้เข้าไปดูเครื่อง
  • แต่ เคยเห็นหนังสือแจ้งที่จะใช้อบรมชาวบ้าน
  • แบบนี้เรียกว่า กินตามน้ำ
  • แถมดึงอาจารย์มหาวิทยาลัยมาอบรม
  • ไม่รู้ใครได้อะไรกันเท่าไร เซ็งเลย
  • พยายามดูว่าใครจะมาอบรมให้ แต่ไม่ยอมแจ้งชื่อ
  • สงสัยกลัว
  • ให้เขาเอากลับไปก็ดีครับ แล้วเราค่อยหาเครื่องใหม่
  • เบื่อระบบ ราชการแบบนี้ จังเลยพ่อ
  • วันรุ่นเซ็ง...

P

ขอบคุณนายช่างใหญ่ที่ให้ข้อมูล  อยากให้คนอย่างนี้มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงICT น่าจะดี

ถ้าไม่ติด ถ้าไม่ขัดข้องอะไร ลองหันมาใช้ Linux บ้างก็ดีนะครับ มันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไหนไวรัสได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียวครับ และที่สำคัญ Linux เป็นโปรแกรมฟรีครับ ใช้ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธ์ครับ

20. นกแอร์ เมื่อ อ. 04 มี.ค. 2551 @ 17:54 564985 [ลบ] ขอบใจมาก พ่อมหาจำเริญ ที่ช่วยชี้แนะ

สวัสดีทุกท่านครับ

    จะเข้ามาบอกเรื่องไวรัด(ดวง)  ที่ระบาดมากคือ มีคนใช้ msn แล้วมีคนโดนหลอกให้คลิกลิงก์จากคนในลิสต์ของเรา ส่งมาให้เรา แล้วเราก็คลิกทันที เปิดหน้าเ็ว็บมา แล้วคงราวกับว่าให้ใส่รหัสลับหรือไ่รนี่หล่ะครับ เพื่อจะดูว่าใครบล็อกเราบ้าง ใส่เข้าไปเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ จากนั้น หนอนเน่าพวกนี้ก็จะเอารหัสคุณไปใช้ทำอะไรก็ได้ นี่ยังดีนะที่ส่งไวรัดดวง ให้ส่งไปหาให้ติดกันงอม แต่มันก็คงไม่แน่นั้นหรอก พวกนี้เข้าไปแล้วก็จะเปิดประตูหลังของเครื่องเอาไว้ จากที่เคยปลอดภัยก็จะถอดกลอนประตูหลังทิ้งไว้ เผื่อโอกาสหน้าจะให้ส่งข้อมูลอื่นๆ พวกบัตรเอทีเอ็ม หรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นคือความน่ากลัวจากคลิกเีดียว ดังนั้น คุณๆที่ใช้  MSN จงเข้าไปที่ tool option แล้วเลือกปิดๆ พวก option เช่น ตั้งรับอัตโนมัติ ส่งปั๊บเล่นเลย ปิดให้หมดครับ ประมาณว่า จะเล่นอะไร ข้าเจ้าต้องคลิกเองถึงจะเล่นครับ  รหัสที่ว่าเราใส่เข้าไปเพื่อจะดูว่าใครดันบล็อก เราบ้างนั้น เค้าอาจจะใช้ความไวไปเจาะเจ้าเมล์ของท่านได้ จากนั้น ก็จะส่งเมล์ไปบอกใครต่อก็ได้ ว่า ท่านครูฯ ตกระกำลำบากที่ไหน ให้ส่งเงินมาด่วน ใครรักเคารพก็เดือดพล่านเลยครับ เพราะว่าต้องตามหากัน มีเยอะนะครับ จะเอาไปทำไรก็ได้ ใจคนมันเริ่มเน่าแล้วนะครับ จะทำอะไรก็ได้

    ทางแก้ไขสำหรับคนที่ติดแล้วคือ...

  1. ให้ไปเปลี่ยนรหัสผ่าน MSN โดยไปเปลี่ยนรหัสผ่านของอีเมล์ของท่าน หากให้ดีไปเปลี่ยนในเครื่องอื่นก็จะดี เผื่อหนอนเน่าที่อยู่ในเครื่องมันดักเจอว่าเปลี่ยนแล้ว แล้วส่งข้อมูลไปบอกเ็ว็บหรือเครื่องคลังหนอนใหญ่
  2. ต่อมาคือสแกนพวกไวรัดดวงพวกนี้ครับ โปรแกรมมีทั้งฟรี ทั้งแชร์ ทั้งจ่ายครับ ธุรกิจเยอะดีครับ
  3. อื่นๆ หากใครยังไม่ติด อย่าเผลอที่จะกดอะไรสุ่มเก้าสุ่มสิบ (สุ่มสี่สุ่มห้ามันน้อยไป รอบคอบขึ้นอีกสองเท่านะจ๊ะต๋อย)
  4. แบคอัพข้อมูลบ่อยๆ นะครับ เพราะว่าเมื่อเดี้ยงแล้ว ก็ดับได้ง่ายๆ ของผมก็นอนดับคาโต๊ะอยู่ตอนนี้ครับ รอปอเต็กติ๊งมารับครับ โชคดีี่ที่แบคอัพข้อมูลไปหมดแล้วเมื่อคืน สบายใจไปอีกหน่อย เพียงแต่เสียเวลาครับ
  5. อื่นๆ ต้องศึกษาครับ

 

    เพิ่งเห็นภาพป้ายโครงการด้านบนครับ ไม่อยากจะบ่นนะครับ ผลโยงไปหาเหตุ  ปัญญาจากผลโยงไปหาปัญญาจากเหตุ ส่วนปัญญาจะกลายเป็นปัญหาหรือไม่นั้น ตามปัจจัยครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในลำน้ำ สาัยน้ำนะครับ

ปลาในสายน้ำ...

ใช่ อย่างน้องเม้ง บอกเลยค้า สุวรรณา โดน แล้ว บ่ายที่ผ่านมา นี้ เปลี่ยน รหัสผ่าน MSN เป็นที่เรียบร้อย จ้า ไม่กดแล้ว สุ่มสี่สุ่มห้า อิอิ เข็ดแล้ว ขอบคุณ ครับผ้ม

สวัสดีครับพี่สุวรรณา

       พี่อย่าถือสานะครับ ผมเขียนให้ติดตลก ขำๆ นะครับ หากหายแล้วยินดีด้วยนะครับ และเพื่อนที่ส่งมาให้นั้น ก็ไม่ใช่เพื่อนหรอกนะครับ เว็บที่เราเข้าไปนั่นหล่ะครับ ปล่อยออกมาครับ ผมเองยังไม่กล้าเสี่ยงจะคลิกครับ แต่ได้มาจากการสัมภาษณ์คนที่ติดๆ นะครับ

       อีกอย่างนะครับ หากเครื่องไหนไม่ใช้ส่วนตัวคนเดียวไม่แน่นะให้เครื่องจดจำรหัสผ่านไว้นะครับ เพราะโอกาสคนที่มาพบเห็นอาจจะกลายจากคนดีๆ เป็นอีกแบบได้ครับในการอยากรู้อยากลอง ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนครับผม

โชคดีนะครับผม

มหกรรมล้างบ้างเครื่องที่บ้านกำลังจะเริ่ม ณ บัดนี้ ซอฟแวร์พร้อม ไดรเวอร์พร้อม ขนมพร้อม 555 กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าเห็นหนูออนได้ภายในคืนนี้แสดงว่าจัดการสำเร็จ เปลี่ยนโฉมนิววินโดว์ หมดเวรหมดกรรม จำเป็นต้องทำเพื่อความสุขของการใช้คอมของคนที่บ้านค่ะ ลาแล้วแต่ไม่ลาลับ ^ ^ ไว้พบกันเมื่อกลับสู่สภาพปกติค่ะ มาลาทิ้งทวนที่บันทึกพ่อครูฯ

หมดเวรหมดกรรมกันเสียที เครื่องปิ๊งเหมือนพึ่งซื้อใหม่ ล้างเรียบวุธ สะอาดเร็วเป็นจรวดค่ะ นอนได้ซะที ก่อนเข้านอนรีบมารายงานให้พ่อครูรู้ว่าเครื่องหนูก็ด๊องเป็นค่ะ เพราะไม่ได้ใช้คนเดียว น้องก็ใช้ หลานก็ใช้ แต่คนดูแลก็ไม่พ้นหน้าที่หนูวันยังค่ำ

พุทธชาติ ศิริบุตร

ขอโอกาสชี้แจงบ้าง

ปี 50 นี่ กระทรวงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน จำนวน 20 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลของคนในชุมชน ซึ่งแล้วแต่ว่ากลุ่มลูกค้าในชุมชนนั้นๆ เป็นใครบ้าง และเครื่องที่กระทรวงจัดให้ ก็เหมือนกันทั้ง 20 ที่ค่ะ อีก 19 ที่ ไม่มีปัญหาอะไรที่ซีเรียสค่ะ ถ้าแจ้งเรามาเราก็ดำเนินการแก้ไขให้ (แต่ไม่แจ้งแล้วประจาน เราก็แก้ไขไม่ถูกค่ะ)  ขอยืนยันว่าเครื่องที่จัดให้เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพ และเราได้ส่งช่างเข้าไปตรวจสอบที่มหาชีวาลัยแล้ว ได้ความว่ามีเครื่องเสียเพียง 1 เครื่อง เท่านั้น ซึ่งทางท่านครูบาไม่เคยแจ้งให้กระทรวงทราบเลย ขอให้ข้อมูลว่าเครื่องที่จัดให้มีคุณสมบัติสูงกว่าราคากลาง โดยมีราคาต่ำกว่าราคากลางมาก หากต้องการข้อมูลก็ติดต่อมาได้นะคะ

จากการอ่าน Blog ครูบาแล้ว สะท้อนได้ว่าท่านไม่ต้องการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน แล้ว แต่ท่านก็ไม่ทำเรื่องเข้ามาให้เราย้าย ซึ่งเราพร้อมที่จะโยกย้ายไปในที่อื่นๆ ที่ต้องการโอกาสแบบนี้ ซึ่งขอยืนยันแบบหนักแน่นเลยว่ามีอีกหลายที่ๆ ต้องการใช้ประโยชน์จากศูนย์นี้ และพร้อมที่จะร่วมเดินกับกระทรวงฯ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเรามีหลักฐานว่ามีหลายศูนย์ที่ดำเนินการและสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่คนในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหากท่านต้องการข้อมูลเหล่านี้ โปรดติดต่อมาได้ตามอีเมลด้านบน ทุกปัญหามีคำชี้แจงค่ะ

พุทธชาติ ศิริบุตร

สำนักงานปลัดกระทรวง

พุทธชาติ ศิริบุตร

อีเมล [email protected] ค่ะ

จากสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

สรวีย์ บรรลือทรัพย์

เรียนครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

ได้อ่านบทความของครูแล้วรู้สึกว่า โครงการ "ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน" ของกระทรวงไอซีทีมันเป็นโครงการที่ชั่วช้าเลวทรามเหลือบรรยายเสียนี่กระไร ยิ่งอ่านหลายๆ ความเห็นต่อมาก็ยิ่งตอกย้ำตามความรู้สึกของครูเข้าไปลึกสุดขั้วหัวใจแทบทะลุไปข้างหลัง ทำไมหนอ...ประเทศไทยบ้านเกิดผมจึงโชคร้ายเช่นนนี้.......

ครูครับ ผมเองก็ 1 ใน 20 ศูนย์ที่ทำเรื่องขอรับการสนับสนุนคอมพิวเตอร์พร้อมระบบเครือข่ายและได้รับการสนับสนุนจากจากกระทรวงไอซีทีในชุดแรก แต่ความรู้สึกผมทำไมถึงตรงกันข้ามกับครูไปเสียได้ เรามาลองทำความเข้าใจกันใหม่ดีมั้ยครับ เริ่มตั้งแต่ย้อนกลับไป ณ วันที่กระทรวงไอซีทีประกาศให้หน่วยงานหรือองค์กรใดๆ ก็ได้เสนอขอรับการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต เราคงไม่ต้องทำความความเข้าใจเรื่อง "ขอรับการสนับสนุน" นะครับ แสดงว่าเราเสนอขอความช่วยเหลือไปเพราะว่าเราขาดแคลน ซึ่งกระทรวงไอซีทีก็มีข้อแลกเปลี่ยนเพียงว่า

1.ต้องให้คนในชุมชนได้ใช้ศูนย์ฯ ที่จัดตั้งให้ด้วย จะเป็นในรูปได้ใช้แบบปกติโดยทั่วไป เช่นการเข้ามาค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต อย่างอื่นใดที่ศูนย์เห็นสมควรก็ว่ากันไป หรือจะจัดอบรมก็สามารถทำได้ และสามารถเก็บค่าบริการตามเหมาะสมได้ด้วยซ้ำ
2.ต้องมีคนดูแลศูนย์ ซึ่งต้องมีความสามารถทั้งทางการดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่าย รวมไปถึงอินเตอร์เน็ตด้วย
3.ต้องสามารถดูแลค่าใช้จ่ายภายในศูนย์เองได้ โดยไอซีทีสนับสนุนเพียงเครื่องคอมฯ พร้อมระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต (ค่าบริการเช่าสัญญาณ ADSLฟรี 1 ปีเท่านั้น)


ทุกศูนย์ที่ได้รับคัดเลือกล้วนแล้วผ่านการประเมินว่า สามารถจัดหาคุณสมบัติเบื้องต้นดังกล่าวได้ครบถ้วน และดีเยี่ยมกว่าอีกหลายๆ ศูนย์ที่ไม่ผ่านการประเมิน

ผมขอพุดในฐานะคนที่ดูแลระบบเน็ตเวิร์คของหลายโรงเรียนแถวๆ บ้านนะครับ ผมยืนยันได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายที่ติดตั้งมาพร้อมกับศูนย์อยู่ในระดับที่สูงกว่าระบบห้องคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป แยกได้ เช่น ชุดคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่นับว่าเป็นจอแบบ CRT แล้ว ทุกอย่างถือว่าเป็นเทคโนโลยีสูงสุดแม้กระทั่ง ณ วันนี้ ที่เวลาผ่านไปแล้ว 1 ปีก็ตาม เนื่องจากเครื่องทุกตัวในศูนย์ใช้เมนบอร์ดของ Intel ที่ติด CHIP RECOVERY หรือ UNDO CARD (ใช้สำหรับการกู้ระบบ) ในเมนบอร์ดพร้อมโปรแกรมการกู้ระบบของ INTEL ส่วนสเป็คอื่นๆ ไม่ขอกล่าวนะครับ เพราะผมถือว่าพอใจมากสำหรับสเป็คนี้ในงบที่เราเห็นตั้งแต่ TOR แล้ว นั่นหมายความว่า เครื่อง Client ทุกตัวในศูนย์ไม่มีโอกาสติดไวรัสได้เลย เพราะเครื่อง Client เมื่อมีการ Restart เครื่อง ระบบจะกลับคืนสู่จุดที่ได้ทำการป้องกันไว้ และบริษัทที่ชนะการประมูลได้ส่งทีมอบรมไปอบรมให้ทุกศูนย์ ส่วนศูนย์ใดจะสามารถใช้งานได้ตามสเป็คที่ตั้งมาหรือไม่นั้น อยู่ที่ความสามารถของคนในศูนย์แล้วละครับ ส่วนการทำระบบนั้น ได้มีการวางระบบให้สามารถเก็บ IMAGE FILE ของเครื่องต้นแบบ (GOLDEN) ที่สามารถ DEPLOY หรือ GOST ระบบของเครื่อง CLIENT ได้ภายในเวลา 15 นาที หมายความว่า ถ้าต้องการลงระบบปฏิบัติการใหม่พร้อมโปรแกรมที่ทำ IMAGE ไว้แล้ว สามารถทำเสร็จไม่เกิน 15 นาที พร้อมกัน 20 เครื่อง ส่วนระบบอินเตอร์เน็ตนั้นผมเห็นด้วยว่า มันช้า และแลคในช่วงกลางวันจริงๆ แต่ตรงนี้ครู จะถือเอาว่ากระทรวงไอซีทีต้องรับผิดชอบไปด้วยก็ใจดำไปละครับ เพราะจริงๆ แล้วถ้าพื้นที่ใดมีการให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านสายได้ก็จะได้รับบริการผ่านคู่สายโทรศัพท์ แต่ในพื้นที่ใดไม่มีการให้บริการดังกล่าว ก็จะติดตั้งอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมให้ ซึ่งในส่วนบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมนั้นเป็นของ TOT ครับ ผมเองก็ทะเลาะกับ TOT วันเว้นวันเหมือนกัน แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่นึกโกรธกระทรวงไอซีที แต่กลับต้องใช้กึ๋นตัวเองมากว่า ที่จะทำอย่างไรให้สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้รับมาขณะนั้นให้สามารถแจกจ่ายให้เครื่อง Client ได้อย่างไม่มีปัญหา หรือมีน้อยที่สุด เพราะนั่นคือ ความรับผิดชอบของบุคลากรในศูนย์เองว่ามีความสามารถตามที่เสนอตัวไปหรือไม่


ผมจึงไม่เข้าใจว่า ศูนย์ของครูเกิดอะไรขึ้นหรือครับ ถึงมองว่าคอมพิวเตอร์พร้อมระบบศูนย์มันชังกะบ๊วย กล้วยทอด ไร้คุณค่าแม้เท่าผงธุลีดินเช่นนั้น


ปัญหาต่อมา ก็เรื่องการอบรมที่ครูจั่วหัวนำซะขึงขัง ดังโกรธผู้ใดมาสัก 10 ชาติก็ไม่ปาน จริงๆ แล้วการอบรมที่ว่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับไอซีทีด้วยซ้ำครับ เพราะเป็นหน้าที่ของที่ปรึกษาโครงการฯ นั่นก็คือ ม.วลัยลักษณ์ ผมเองก็มีปํญหาเหมือนกันที่ได้รับแจ้งครั้งแรก ยังขึ้นโพสที่ชุมชนเลยว่าคิดเห็นเป็นอย่างไร ( http://www.tkc.go.th/viewtopic.aspx?fid=43&id=86&pageid=290&parent= ) และผมเองที่แจ้งคุณพุทธชาติให้ทราบว่า ม.วลัยลักษณ์เค้าจะทำอย่างนี้ และกระทรวงเองเป็นผู้ท้วงติงไปเรื่องการอบรม (ทราบจากเจ้าหน้าที่มาเป็นวิทยากร) จึงมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอบรม 5 วัน วันละ 20 คน ก็ HAPPY กันถ้วนหน้า อาจจะเป็นเพราะความไม่สำเร็จในงานที่จ้างดังกล่าว ปัจจุบันจึงได้มีการเปลี่ยนที่ปรึกษาโครงการใหม่แล้วครับ

หากท่านใดต้องการทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหว และกิจกรรมของศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน สามารถเข้าไปได้ที่ http://www.tkc.go.th/comunity2.aspx?pageid=290&parent=113 ซึ่งผมก็แปลกใจว่าทำไมที่ศูนย์ของครูไม่มีข่าวส่งถึงส่วนกลางบ้างเลย (ไม่นับข่าวนี้)

ส่วนผู้อบรม 100 คน ที่เป็นปัญหาสำหรับศูนย์ของครูนั้น จริงๆ ตั้งแต่ที่เค้าเปิดให้ครูเสนอตัวให้ไอซีทีจัดตั้งศูนย์ให้ ครูเขียนไปเท่าไหรละครับ ศูนย์ผมเขียนไป 200 คนครับ และตอนนี้ก็อบรมได้เกินที่เขียนไว้แล้วครับ และจริงๆ แล้ว 100 คนนี้ ครูจะต้องอบรมเอง ออกค่าใช้จ่ายต่างๆ เองนะครับ ซึ่งต้องทำภายในกำหนด 1 ปี ตั้งแต่ได้รับการจัดตั้ง ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทราบและยินดีปฏิบัติกันดีตั้งแต่เสนอตัวขอรับการสนับสนุน แต่ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงเกิดเป็นปัญหาในตอนนี้สำหรับครู ส่วนที่ ม.วลัยลักษณ์ เค้าออกอบรมให้ตามศูนย์ต่างๆ ศูนย์ละ 100 คน นั้น ผมพอทราบมาว่า ม.วลัยลักษณ์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ไม่ผ่านการตรวจรับเรื่องการอบรมนี่แหละ เลยต้องออกอบรมตามศูนย์ต่างๆ อย่างที่เห็น

ผมหวังใจเหลือเกินว่า บทความของครูนี้ จะไม่ทำให้ทุกท่านที่ได้อ่านมีความรู้สึกกับโครงการศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน เป็นลบ เพราะว่า ที่ศูนย์ของผมเด็กสามารถอ่านหนังสือได้ดีขึ้นด้วยคาราโอเกะผ่านคอมพิวเตอร์ เด็กนักเรียนชั้น ป.1 สามารถค้นหาข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ เด็ก ป.6 สามารถนั่งชมวีซีดีติววิชาคณิตศาสตร์เพื่อเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 โรงเรียนในฝันประจำอำเภอ ลุงขว้างมีอาชีพให้เช่าเครื่องเสียงสามารถมาค้นหาดอกลำโพงที่เปิดขาดเมื่อคืน แล้วโทรไปสอบถามรายละเอียดของร้านที่คลองถมได้โดยไม่ต้องวิ่งรถไป ฯลฯ ขอกำลังใจให้คน ICT ที่ปลุกปล้ำโครงการนี้ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวทั้งนั้น อย่าให้กำลังใจหมดเพราะท่านเข้ามาทับถมความรู้สึก จากความไม่รู้ และประสบการณ์เลวร้ายเดิมๆ ของท่านเลยครับ

ด้วยความเคารพ

สรวีย์ บรรลืทอรัพย์
ศูนย์ไอซีทีชุมชนตำบลบางเพรียง

 

สวัสดีครับ ครูบา และกัลยาณมิตรที่กรุณาแจ้งชื่อ รวมทั้งที่เข้ามาแวะเวียนอ่านข้อความที่เขียนข้างต้นไม่น้อย

 

ผมได้เข้ามาอ่านด้วยความสนใจ  เพราะหัวข้อที่เขียนไว้มีดูโดดเด่น เป็นต้องคลี๊กเข้ามาอ่าน เพื่อชมเนื้อหาสาระ เมื่อเข้ามาอ่าน  ประสานคนใส่ใจด้านการจัดการความรู้บ้าง  ได้สกัดคำของชาวบล็อค ดังนี้

 

คุณสุทธรักษ์ ...แย่งานนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ....

คุณ Conductor  ....การประเมิน KPI ......

คุณ เม้ง สมพร  ...ไม่น่าเชื่อเครื่องเสียพร้อมกันมาก  อาจเป็นเรื่องไร้วิญญาณมาก่อน...

ครูวุฒิ  ...บ้านนอกได้ของดีเป็นเรื่องแปลก.....

คุณจตุพร  ......ไม่รู้ทันก็แพ้  ไม่รู้จจริงก็แพ้.....

ดร.ธวัชชัย  ......การเข้าถึง ICT ของคนไทยและชาวเวียดนามเราตามเขาอยู่ .....(ระบุเปอร์เซ็น)...

Dss หนิง  .....เครื่องที่คนพิการได้รับดีกว่า......

คุณพุทธชาติ  ....ตอบในฐานะที่เกี่ยวข้องโครงการนี้....กระทรวง ICT.....

คุณสวรีย์ .... ประสบการณ์ที่เขาและหมู่มวลมิตรใช้ประโยชน์จากศูนย์ฯ ที่บริหารร่วมกันมีมองแง่ดีได้อยู่....ไม่พบประสบการณ์เลวร้ายเหมือนที่ครูบาฯ  เล่าแจ้งแถลงไว้......

 

เวลาเป็นของมีค่า  ผมจำมาจากชื่อหนังสือพระราชนิพนธ์ฯ และคำพระมาบอกแจ้งว่า ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตล้วนเป็นความรู้ .. ขอเขียนข้างต้นที่กล่าวนำและตามด้วยผู้สนใจเข้ามาแลกเปลี่ยน นั้น  ผมเห็นว่า   ครูบาฯ คงอึดอัดจึงได้ระบายบอกเล่ามา  พร้อมส่งภาพมาประกอบ

 

ครูบาฯ ได้ใช้เวลาที่มีค่าเรียงร้อยถ้อยคำระบายความอึดอัด  พวกเราได้อ่าน  และเห็นว่า ในฐานะผู้มาร่วมเรียนรู้ เห็นว่า ท่านคงต้องการคำแนะนำดี ๆ จากหมู่มวลมิตร เป็นทางออก ทางแก้ไข หรือดำเนินการต่อไปในส่วนที่เกี่ยวข้อง  แต่ขอเรียนว่า อย่าให้ใครไปทำลายสมบัติแผ่นดินนะครับ     

 

หากที่ผมจะเขียนต่อไปนี้   อาจก่อให้เกิดความไม่สบายใจ  เหมือนผมจะไปสอนผู้รู้แล้ว  ขออภัยล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้เพื่อให้รู้ถึงที่มา  ผมคิดว่าควรเข้าไปที่เว็ปกระทรวง ICT   และเข้าไปที่เว็ปของ มสธ.ในส่วนของ สถาบันวิจัยการเรียนรู้และพัฒนา  เราจะได้เข้าใจเรื่องเดิมหรือที่ผ่านยิ่งขึ้น  ว่า  ที่มาโครงการเป็นอย่างไร และได้ดำเนินการต่อไปอย่างไร ในนาม   ศูนย์การเรียนรู้ ICT  ชุมชน................

 

ผมไม่เคยคิดว่า  สิ่งของที่ได้จากโครงการฯ  เป็นของกระทรวง ICT  ผมเข้าใจอยู่เสมอว่า  เป็นของแผ่นดิน เป็นสมบัติชาติ  เพียงกระทรวงนี้รับผิดชอบและจัดสรร    การรู้ถึงที่มาที่ไป  จะทำให้เราไม่ต้องถุยน้ำลายขึ้นฟ้า  ผมเห็นด้วยกับคำของคุณสุทธรักษ์ว่า  ......ต้องมีคนรับผิดชอบ...... ด้วยความปรารถนาดี เช้าวันนี้ ขอแลกเปลียนมาเล็ก ๆ น้อยเท่านี้ก่อนครับไปก่อนล่ะแล้วพบกันใหม่@ ชาวน่าน @  ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๑

ชัชพิสิฐ (ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนตำบลตาอ็อง จ.สุรินทร์)

ถึงอย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้วก็ยินดีมากที่ได้มีโอกาสเข้ามารับทราบและแลกเปลี่ยนความเห็นและความรู้สึก จากผู้ทำงานจริง ๆ ของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน  ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ถือว่าการแสดงความเห็นที่มาจากความเป็นจริงของสิ่งนั้น ๆ ในที่ที่สังคมยินดีเปิดโอกาสให้แสดงความเห็นแล้ว ย่อมไม่ผิดอะไร  ส่วนที่บกพร่องจริงฝ่ายที่รับผิดชอบก็ควรรีบแก้ไข ส่วนที่ไม่ใช่ก็รักษาไว้ให้คงเดิม เถอะนะครับ  ยังไงเสียก็หายากนะครับที่จะมีคนกล้าที่จะคิดนอกกรอบ (ถึงแม้ว่าอาจจะทำให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบบ้างก็ตาม)

ขอบคุณ.

  • ผมตามเข้าไปอ่าน link ของ TKC แล้วครับ
  • อยากได้ความคิดเห็นของทุกศูนย์
  • ที่ข้อมูลของ TKC ไม่มีข้อมูลอะไรที่สามารถติดต่อศูนย์ได้
  • มีแต่รายชื่อคณะกรรมการศูนย์
  • ซึ่ง มีเพียง 17 ศูนย์ จาก 20 ศูนย์
  • อยากได้ข้อมูลที่เป็นปัญหา จริงๆๆ ย้ำนะว่าจริงๆๆ
  • เราจะได้ช่วยกันแก้ไข
  • ตามไปอ่านที่นี่ยังไม่มีอะไร    ตามที่คุณสรวีย์อ้างไว้
  • เพราะคุณ สรวีย์ บรรลือทรัพย์ ไป Post ไว้ เหมือนคุณสรวีย์เป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เอง
  • ที่นี่ด้วย
  • อยากเห็น ปัญหา ที่ทุกๆๆฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไข
  • ขอบคุณครับผม

ขอวิเคราะห์จากมุมมองคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายใดนะคะ

1. ครูบาฯ ได้รับการทวงถามและขอทราบปัญหาในการไม่จัดอบรมตามขอบเขตดำเนินงานที่ทาง ICT
ปัญหา: เนื่องจากเครื่องที่ได้รับมาไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเข้าอินเตอร์เน็ตเพียงไม่กี่เครื่องระบบก็อืด ก็เลยทำไม่ได้ แจ้งไปแล้วที่กระทรวงแต่เงียบหาย ได้รับการบอกให้ไปติดต่อบริษัทผู้รับเหมา
ทางแก้: เช็คระบบอินเตอร์เน็ต เช็คฮาร์ดแวร์ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดก็ควรมาจัดการรับผิดชอบก็ทำเสีย ทุกอย่างจะได้ดำเนินการต่อไปได้ ถ้าบริษัทติดตั้งอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน กระทรวงผู้เป็นต้นสัญญาจ้างก็ควรเป็นผู้ออกหน้า ไม่ใช่ให้ปลายทางเป็นผู้ไปติดต่อหาทางแก้เอง เพราะไม่มีอำนาจในการจัดการ


2. ครูบาฯ บอกว่าสเป็คเครื่องต่ำ ระบบจานดาวเทียมเป็นรุ่นเก่า หรือคุณภาพไม่ดี ทาง ICT บอกว่าดีเกินมาตรฐานราคากลาง
ปัญหา: เป็นเรื่องจริงตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ ฝ่ายใดเกิดการเข้าใจผิด
ทางแก้:
- ICT ชี้แจงสเป็คเครื่อง พร้อมราคาที่บริษัทผู้รับเหมาเสนอมาให้ทางกระทรวงเพื่อความโปร่งใส บริสุทธิ์ใจ ซึ่งควรทำเพราะเงินนั้นมาจากภาษีประชาชน ไม่ใช่ออกจากกระเป๋าเจ้าหน้าที่กระทรวงคนใด ประชาชนมีสิทธิ์ตรวจสอบได้
- ครูบาฯ ตรวจสอบสเป็คเครื่องตามที่ ICT ชี้แจง หากตรงก็ต้องหาทางแก้ไขวิธีอื่นจนกว่าจะใช้ได้เนื่องจากไม่เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ หากไม่ตรงก็ต้องแจ้ง ICT ว่าผู้รับเหมาส่งสินค้าต่างจากมาตรฐานที่ระบุไว้ หรือสุดท้ายหากตรงแต่ราคาไม่สมเหตุสมผลตามราคากลางของตลาดทาง ICT ก็ควรชี้แจงว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงเลือกเงื่อนไขนี้ และผู้รับเหมารายนี้

3. ทางกระทรวงโดยคุณพุทธชาติ ชี้แจงว่าทาง ICT ไม่ได้รับการติดต่อ และพร้อมจะย้ายเครื่องหากไม่ต้องการ
ปัญหา: การสื่อสารขัดข้อง ฝ่ายทางครูบาฯ บอกแจ้ง ทางกระทรวงบอกไม่มีใครแจ้ง ครูบาฯ ใช้เครื่องไม่ได้ตามเป้าประสงค์ ทำงานไม่ได้ กระทรวงทวงถามว่าทำไมไม่ทำงาน พอทราบว่ามีปัญหา กระทรวงบอกว่าที่อื่นเขาปกติ ยกเครื่องกลับมั้ยถ้าบอกว่าใช้ไม่ได้ ครูบาฯ ใช้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะตั้งไว้ทำไม
ทางแก้: ไม่ต้องสนใจแล้วว่าใครแจ้ง ใครไม่ได้รับแจ้ง ตอนนี้ทราบแล้วว่ามีปัญหา ใช้ไม่ได้จริง การยกเครื่องกลับไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา เพราะถ้าปัญหาไม่ได้ถูกแก้ที่ต้นเหตุจริงๆ ยกไปที่อื่นก็อาจเกิดเหตุการณ์เช่นเดิม แล้วที่นี่จะทำยังไง คิดจะย้ายก็ย้าย คิดจะตั้งก็ตั้ง ควรดูประชาชนเป็นศูนย์กลาง ศูนย์นี้เจตนาตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ควรมาหาข้อถกเถียงกันว่า ของดี ของไม่ดี ใครผิด ใครถูก ควรร่วมกันดำเนินการแก้ไขด้วยกันทั้งสองฝ่าย การใช้บล็อกเป็นเครื่องมือในการตอบไปมาไม่แก้ปัญหา โทรศัพท์มี ลดฑิฐิโทรหากันได้ ใครโทรก่อนไม่ได้หมายความว่าคนนั้นผิด แต่เป็นผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าเรื่องส่วนตัว

สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

      ขอร่วมแสดงความคิดเห็นจากกระทู้ดังกล่าวด้วยคนน่ะค่ะ  เนื่องด้วยเราก็คือส่วนหนึ่งใน 1 ส่วน 20  ที่ได้รับเครื่องจาก ICT น่ะค่ะ   ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทางศูนย์ชีวาลัยถึงมีเครื่องเสียทั้งหมด  แต่ก็ไม่อยากรู้สาเหตุอะไรน่ะค่ะ แต่อยากจะบอกว่า ทางศูนย์ของเรา เราได้รับเครื่อง server มา 1 เครื่อง เครื่อง client 20 เครื่อง เครื่องปรินซ์มา 1 เครื่อง ทีวี  1 เครื่อง และ ADSL ความเร็ว 1  MB ฟรี 1 ปี ซึ่งขณะนี้ยังใช้ได้ ทุกอย่าง อย่างดีด้วยค่ะ  อบรมประชาชนในพื้นที่ที่สนใจเยอะแยะเลยค่ะ  ด้วยวิธีประชาสัมพันธ์หลาย ๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็นสื่อวิทยุ  ใบปลิว  ปากต่อปาก หรือกลุ่มผู้นำจากอำเภอในชุมชนต่าง ๆ จากความร่วมมือของหน่วยงานที่นี่ อบรมประชาชน 100 คนแล้วค่ะ  ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี   ขณะนี้มีศูนย์ต่าง ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ ใกล้เคียงก็เข้าดูงานมาเรื่อย ๆ  ทางจังหวัดเองก็ได้ชื่นชมเพราะเป็นรูปธรรมที่เห็นจริง  ซึ่งขณะนี้ การดำเนินงานก็เป็นไปได้ดี   อาจจะมีเครื่องชำรุดบ้างก็ได้ส่งซ่อมตามที่การประกัน  ก็พยายามดูแลอย่างดีที่สุด เมื่อเกิดปัญหาเบื้องต้นก็พยายามแก้ไข  และดำเนินการ ติดต่อทั้งบริษัทรับประกัน และกระทรวง  เพราะเจ้าหน้าที่ก็ไม่เก่งในเรื่องซ่อม Hardwere เท่าไหร่  ปัญหาที่พบก็จะเป็นเรื่องเม้าส์เสียบ้าง  แรมเสียบ้าง  ก็แก้ไขเบื้องต้นไป  เน็ตก็ยังถือว่าเร็วอยู่ ตามที่ได้ถามผู้ใช้บริการก็ยัง ok ปัญหาที่พบเกี่ยวกับเน็ต ก็คือ เน็ตหลุด ทั้งนี้ก็ได้ประสานกับ tot ในพื้นที่ก็พบว่า เน็ตหลุดบ่อย แต่ก็แป๊บ ๆ เนืองจากดีสแลม จะเสียบ่อย และการเกิดผลกระทบจากการเผาสาย ขโมยสาย และแรงจากระเบิดของพื้นที่บ้าง   ถ้าวัดความต้องการเครื่อง   ที่นี่มีความต้องการเครื่องมาก เพราะสภาพบ้านนอกอยู่ จึงไม่ค่อยมีร้านแข่งข้นเปิดกันเท่าไหร่   ในเรื่องของคุณสรวีย์แสดงความคิดเห็น ก็เห็นด้วยน่ะค่ะ  

 

 

ศูนย์ไอซีทีจะนะ

สวัสดีครับ ครูบา และมวลมิตรทุกท่าน

  • เมื่อช่วงเช้าส่งข้อมูลเข้ามา ได้ยืมประโยคของเพื่อนชาวบล๊อคมาวางไว้ ว่า  คนที่รับผิดชอบ
  • เย็นวันนี้ ขอเขียนข้อความมาเพื่อเติมอีก และการทีได้อ่านของคุณ Little Jazz \(^o^)/ นับว่าประเทืองสติปัญญาดี
  • ผมคิดว่า  การได้ผูกเสี่ยวกันแล้ว ไม่อยากให้ทำอะไรในลักษณะที่หวาดเสียว  คนเป็นโรคประจำตัว โรคหัวใจจะกำเริบเอาง่าย ๆ  ค่อย ๆ อ่านศึกษาดูซิครับว่า  กว่าจะได้เครื่องมา ก็คงยากอยู่ คงจะมีกติกา กฎเกณฑ์อะไร
  • ผมไม่มั่นใจว่า กรณีของครูบาฯ นั้น ได้ง่าย ๆ หรือมีใครมายัดเยียดให้หรือไม่ จากที่อ่าน  ดูเหมือนได้ขยะมา ทำให้ครูบาฯ  ต้องหนักอก หนักใจ
  • การอยู่ในสังคม ที่ไหน ๆ ทุกคนล้วนต้องการมิตรภาพที่ดี ต้องการสัมพันธ์ภาพที่ดี   ผมคิดว่า  น่าจะเกิดจากการประสานงาน  ทำให้เกิดช่องว่างทางความสัมพันธ์  จึงเรียนเสนอมาน่าจะมาตั้งวงเล็ก ๆ จับเข่าคุยกันประสานน้องพี่จะดีไหม?
  • ทุกที่มีปัจจัย  เงื่อนไข สารพัด สารพัน เมื่อสิ่งของนั้น ๆ ตามโครงการมาอยู่ในมือเรา ๆ ก็ต้องดูแล  น่าจะเป็นบทเรียนของทุกฝ่าย ว่า หากจะได้จัดทำ และดำเนินการศูนย์เรียนรู้ ICT แล้ว  จำเป็นต้องใจกว้าง สมองโล่ง ไม่ควรมองกันเป็นศัตรูเด็ดขาด  การเรียนรู้ควรอยู่บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ  ( ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร )

                                             ด้วยความเคารพ

                                                      ธนู

                                               ๑๒ มี.ค.๒๕๕๑

 

"Only a Sith Lord deals in absolutes." -- Obi-Wan Kenobi, Star Wars Episode III: Revenge of the Sith

พุทธชาติ ศิริบุตร

ตอบข้อสงสัยไปแล้วที่กระทู้

http://gotoknow.org/blog/sutthinun/170550

และลืมบอกไปว่าสิ่งที่ครูบาเรียกว่า "ลิ่วล้อ" ไม่ใช่นะคะ เค้าคือผู้มีเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งการเป็นผู้แดศูนย์การเรียนรู้ ICTชุมชน ที่ไม่ได้รับเงินเดือนซักบาทจากกระทรวง และเค้าเหล่านั้นกำลังทำงานอย่างนัก เพื่อร่วมสร้างผันร่วมทำงานให้บรรลุตามวัคถุประสงค์ของโครงการร่วมกัน


ทุกคนมีเกียรติเสมอเหมือนด้วยกับเกียรติท่านมี

ปีที่แล้ว รู้สึกเหนื่อยแต่กายอย่างเดียวกับการอดทนรับหน้าที่เพิ่ม ในการดูแลศูนย์ ICT  แต่วันนี้ทวีคูณความเหนื่อยใจ เหนื่อย ๆๆๆ แล้วก็ เหนื่อย ขึ้นอีกแล้วละเรา    พวกเราลองหยุดพักกันก่อนสักพักก็ดีนะครับ จะได้หายเหนื่อยกัน ตราบใดที่โลกยังหมุนรอบตัวเองและดวงอาทิตย์  เดี๋ยวเราก็คงต้องเจอกันอีกนะ  ตอนนี้ผมขอนอนนอนพักก่อนนะครับ ม่าย หวาย แร้ว 

                      ทักกี้

ICT TAONG  CENTER CONTROLLER.

พุทธชาติ ศิริบุตร

ทักกี้จ๋า

เหนื่อยนักก็นอนพักเสียก่อน พรุ่งนี้ตื่นมาก็หาย เด็กๆ ในตำบลตาอ็องกำลังรอ และเป็นกำลังใจให้ทักอยู่นะ

งานนี้งานเสียสละ ทำแล้วอื่มใจเหนื่อยกาย ไม่อื่มตังค์ ไม่มีกล่อง แต่มีเกียรตินะคะ -- พี่ก็เหนื่อย นอนก็หาย เช้ามาสู้ต่อ

แล้วอาทิตย์หน้าเจอกันที่ตาอ็องนะคะ เห็นทางผู้ตรวจการแผ่นดินชมมาด้วยว่าผลการดำเนินงานดี... ปลื้มหลายๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะ

พี่อ้อย

แสดงว่า ศูนย์ ICT ที่เหลืออีก 69 ชุมชคน คือ พวกปัญญาอ่อน ผู้นำศูนย์ชีวาลัย คือ กลุ่มปัญญาแข็งแรงกระมัง ที่อื่นเขาก็ทำได้ แสดงว่าท่านไร้ศักยภาพ ดีแต่ติ แต่ไม่ก่อการดีให้บังเกิดประโยชน์

ที่นี่แม่บ้านก็ไม่เห็นความจำเป็นของเทคโนโลยีหรอกครับ แต่มีกลุ่มอื่นครับที่เค้าต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเองครับ ที่สำคัญต้องเข้าชุมชนและหาความต้องการของชุมชนให้เจอครับ และที่สำคัญเด็กๆ ครับที่เราควรจะปลูกฝังและดูแลเค้าให้ดีๆ แต่อาจจะต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปครับ อย่างที่ผมเนี่ยต้องการมากครับ แต่ดันได้มาแค่ 5 เครื่อง แต่ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้เรากำลังระดมทรัพยากรมาจากแหล่งอื่นๆ ครับ เพราะทางเราต้องการพัฒนาคนในชุมชน ในท้องถิ่นเราครับ ตอนนี้ก็กำลังจะได้จาก SIPA มาอีกจำนวน 40 และจะตั้งเป็นศูนย์ ICT ในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนครับ นอกจากนี้กำลังจะได้ระบบ WireMax จากเนคเทคอีก รวมมูลค่าก็หลายสิบล้านครับที่จะมาร่วมพัฒนาแม่ฮ่องสอน

ในทางเดียวกันกับท่านครับผู้คนที่นี่ขาดความรู้ครับ ระบบที่ติดตั้งจะใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าหรือไม่ จะกลายเป็นขยะหรือเปล่า

แต่ทางเรากลับมองในทางกลับกันกับท่าน คือเรามองว่าจะทำอย่างไร เพื่อที่จะพัฒนาคนของชุมชนเราให้รองรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นครับ สำหรับบางกลุ่มเราอาจจะต้องตัดออกไป แต่ก็คงเหลือไม่ใช่น้อยที่เค้าพร้อมที่จะพัฒนาตนเองครับ

ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำดีกว่าครับ วันนี้ท่านท้อ แต่อาจจะมีหลายๆ คนที่เค้าเจอปัญหาหนักกว่าท่านครับ

ผมเองก็ท้อครับ แต่ผมก็จะพยายามครับ

อ่านกระทู้นี้นานมากแล้ว ตั้งแต่ยังเป็น ผู้ขอจัดตั้งศูนย์ ที่ไม่ประสีประสา มาจนถึงวันนี้ ที่ได้ศูนย์มาแล้ว

จำนวนห้าเครื่อง นึกว่า มันจบไปแล้ว แต่จนถึงวันนี้พบว่า กระทู้นี้ยังอยู่

ในวันนั้น หนูยังไม่รู้จักว่า ICT กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ คืออะไร

เลยค้นหาในอินเตอร์เน็ต เจอ กระทู้ของครูบาเข้า แทบจะร้องไห้ เพราะทาง

หนูเองมันมีเรื่องให้เหนื่อยใจหลายอย่าง กับการขอศูนย์ ยิ่งมาอ่านเจอเข้าแบบนี้ หมดแฮง

จนมาปรึกษากับเพื่อนๆ ว่า เราจะยกเลิกการขอดีไหม ดูมันมีปัญหาเยอะเหมือนกันนะ

ถ้ารับมาแล้ว มันไม่สำเร็จ ชาวบ้านก็ต้องว่าเราแน่เลย ยอมรับว่า แคร์ขี้ปากชาวบ้านเหมือนกัน

ถ้าเราทำสำเร็จ คนที่อยากทำต่อแทนเรา รับรองมีเยอะ แต่ถ้าไม่สำเร็จ เค้าก้อจะบอกว่า "เห็นไหม กรูว่าแล้ว"

แต่วันนั้น ต้องขอบคุณ ที่ยังไม่ถอดใจ เพราะบังเอิญ search เจอของศูนย์

บางเพรียง ศูนย์สระเกษ ศูนย์กำพรวน และอื่นๆ อีก 2-3 ที่ ศูนย์เหล่านั้นมีเรื่องราวดีๆ

และอ่านแล้ว เกิดแรงใจ หนูอยากทำอย่างนั้นบ้าง อยากอบรมคอมพิวเตอร์ให้ชาวบ้าน อยาก ฯลฯ

สุดท้าย เลยยังขอศูนย์ต่อไป ด้วยความรู้สึกที่ว่า "ขอให้ได้ลองทำก่อน ถ้าไม่สำเร็จ ก็จะไม่เสียใจที่ได้ลงมือทำ"

ในวันนั้น หนูอ่านแล้ว คิดว่า "สรวีย์" อาจจะเป็นอย่างที่ใครบางคนเขียน คือ "ลิ่วล้อ"

แต่วันนี้ หลังจากที่ได้เครื่องมา แม้จะแค่ห้าเครื่อง แต่หนูก็ดีใจ และหนูก็เข้าใจ ว่า สรวีย์คือใคร

ทำไม เค้าต้อง ทำตัวให้คนอื่นเรียกได้ว่า เป็นลิ่วล้อ

วันนี้ หนูก็ขอออกมาให้การ ด้วยใจรักด้วยคน ไม่ว่าใครจะมองว่าเป็นอย่างไร หนูก้อ ไม่สนใจ

หนูอยู่เกาะช้าง ชาวบ้านที่นี่ รวมทั้งหนูเอง แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ของทางการ

มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์น้อย ยังไม่เข้าใจ อะไรอีกมาก บางคนไม่รู้เลย และมีป้า บางคนรู้จักเว็บไซต์ และรู้ว่านักท่องเที่ยว มาเที่ยวเกาะช้าง มาจองรีสอร์ทใหญ่ๆ ผ่านเว็บไซต์ ป้าบอกว่า “เจ้าของรีสอร์ทเหล่านั้น เค้าจ้างทำเว็บได้ ป้าก็อยากทำนะ เว็บไซต์เนี่ย แต่มันแพงเหลือเกิน จะทำเอง ป้าก็ยังเปิดคอมไม่เป็นเลย”

แต่หลังจากที่มีเครื่องไป มีเจ้าหน้าที่มาอบรมให้ ชาวบ้านตื่นเต้นและดีใจมาก เค้าอยากเรียน เค้าอยากรู้ แต่ไม่มีโอกาส

เมื่อมีศูนย์ไป มีเจ้าหน้าที่ไป ทุกคน สนใจและตื่นเต้น หนู ได้เห็นก็ชื่นใจและดีใจ แม้การอบรมวันเดียว มันจะได้แค่นิดเดียว

แต่หนูซึ่งเป็นผู้ดูแลศูนย์ ยังอยู่ และพร้อมจะสอน คนที่อยากเรียนรู้

ส่วนเรื่องเสป็คเครื่อง หนูดูไม่เป็น แต่ด้วยความที่อยากจับผิดกระทรวง เลยเรียกพี่ผู้ชายคนนึงที่ดูเป็นมาดูให้ เค้าบอกว่า สเป๊คสูง

วันนี้ มีอะไรอีกมาก ที่หนูและชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าท้องถิ่น อยากเรียนรู้ อยากทำ ไม่ว่าจะเป็น การตัดต่อวีดีโอ การทำเว็บไซต์ การทำ photoshop

อาจารย์ที่โรงเรียน ก็อยากให้สอน ประกอบคอม และการดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เด็ก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ หนูก็ยังสอนไม่เป็น วันนี้ ศูนย์หนู เป็นเพียงแค่ศูนย์ที่เริ่มก้าว

แต่สักวัน หนูเชื่อว่า ศูนย์นี้ จะให้ประโยชน์ แก่ชุมชนได้มาก และคนที่จะเป็นเจ้าของ ก็คือคนเหล่านั้น ที่วันนี้ เค้ายังไม่มีความรู้ แต่หนูจะสอนให้เค้าเอง

หนูรู้สึกขอบคุณ และดีใจ ที่วันนั้น หนูไม่หยุด เพียงเพราะอ่านแค่คำพูดของครูบา และรู้สึกซาบซึ้งใจ ในวัดสระเกษ ศูนย์บางเพรียง กำพรวน ที่ทำให้หนู เดินต่อ

ไม่รู้ว่า ครูบาจะยังเข้ามาอ่านอยู่ไหม แต่หนูสงสัยว่าตอนครูบาขอศูนย์ไป ครูขอไปเพื่ออะไร และคาดหวังอะไร

สุดท้ายนี้ ขอบคุณครูบา ที่สอนให้หนูฟังเพลง เพียงถ้อยคำ ของบ๊อบ ฤทธิพร ได้ซาบซึ้งขึ้น

เพียงถ้อยคำ ..... ฤทธิพร อินสว่าง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

...เพียงถ้อยคำหนึ่งคำ อาจชี้นำชีวิต ช่วยให้คนสิ้นคิด ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

...เพียงถ้อยคำเหยียดหยาม ซ้ำคนพลาดพลั้ง อาจเป็นพายุคลั่ง พังอนาคตคน

ฯลฯ

...ในโลกใบใหญ่นี้ มีถ้อยคำมากมาย บอกทาง และทำลาย สุดแท้แต่ใครจะเลือกฟัง

...บางถ้อยคำจากคน อาจมากมายความหมาย แต่ถ้อยคำมากมาย อาจไม่มีคุณค่า ...

เขียนด้วยความรัก ค่ะครู

เพิ่งเข้ามาเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท