ในด้านจิตวิญญาณจะแบ่งสมองเป็นสองส่วนคือ สมองส่วนหลัก และสมองส่วนรอง (นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าสมองของสัตว์เลื้อยคลาน) สมองส่วนหลักเกี่ยวข้องกับบุญกุศล และ ความดี ได้แก่ การคิดดี พูดดี ทำดี ฯลฯ
สมองส่วนรองเกี่ยวข้องกับบาป และความชั่ว ได้แก่ ความโลภ โกรธ หลง ความเห็นแก่ตัว ความอิจฉาริษยา ฯลฯ
การที่เราคิดดี ทำดี เป็นการทำงานของสมองส่วนหลัก การฝึกสมองให้คิดให้ทำในทางที่ดีเป็นการพัฒนาจิตวิญญาณผ่านกระบวนการทำงานของสมอง
มองด้านจิตวิญญาณ สมองส่วนรองเป็นสมองที่ทำงานตามสัญชาตญาณ ขาดการควบคุม หากมีการควบคุมที่ดีแล้วจะเป็นการทำงานของสมองส่วนหลัก สมองส่วนรองนั้นไวต่ออารมณ์มาก จึงทำงานก่อนสมองส่วนหลักเสมอ บางครั้งเหตุการณ์จบไปนานแล้วเพิ่งจะคิดได้ นั่นเพราะสมองส่วนรองมีความคุ้นเคยและทำงานบ่อยกว่า
ฉะนั้นหากจะกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนหลักก็ต้องใช้สมาธิ มีสติ และรู้จักการควบคุมอารมณ์
โดยปกติทั่วไปแล้ว คนเรามักจะถูกสมองส่วนรองลากลงไปสู่เบื้องต่ำ นำชีวิตจิตวิญญาณวนเวียนอยู่ในวังวนของโลภะ โทสะ และโมหะ ฉะนั้นเพื่อการพัฒนาจิตวิญญาณ เราจำเป็นต้องควบคุมการคิดของเราให้คิดจากสมองส่วนหลักเท่านั้น และเครื่องมือสำคัญของการพัฒนาจิตวิญญาณก็คือ ความสงบ
เราจะแยกแยะระบบการทำงานของสมองอย่างไร
คำตอบคือ J ใช้สติ คิดแยกแยะสิ่งดี – ไม่ดี / บุญ – บาป
J อยู่กับปัจจุบัน (เฉพาะในเรื่องที่ดี)สวัสดีค่ะ
งานบางอย่าง ในบางเวลาก็ถูกจำกัดไม่ให้เกิดการสร้างสรรค์ แต่แท้ที่จริงแล้ว ความคิดสร้างสรรค์นั้นได้บ่มเพาะอยู่ในตัวเราแล้ว และจะปรากฏผลในเรื่องอื่นๆ ต่อไป เชื่อเถอะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูนาย
อ่านเรื่องนี้แล้ว นึกถึงข่าวดังจากช่อง ๓ สองพี่น้องที่ค้ายา และทำตัวอันธพาล ไม่พอใจใครก็ยิงทิ้ง แบบไม่สะทกสะท้าน
สังคมไทยน่ากลัวขึ้นทุกวัน
ยังไม่จบค่ะ ต่ออีกนิดนะคะ คนเดี๋ยวนี้ด้อยพัฒนาด้านคุณธรรม ทั้งๆ ที่มีอบรมสั่งสอนกันไม่ขาดสาย มีแต่คนสมองสัตว์มากมาย สังคมจึงวุ่นวายไม่เลิก
สวัสดีค่ะคุณสายฝน
มากคนก็มากเรื่องค่ะ มุ่งพัฒนาสมองหลักของตัวเราไว้ก่อนดีกว่า อย่ารีรอเลยค่ะ