จากการปั่นเกลียวความรู้กับหมอดาวในบันทึก ที่ ๆ มีเราอยู่เขามีความสุข หรือหนักใจ?
หนูหันกลับมามองตนเอง แล้วนึกถึงคำพูดครูที่บอกว่า
"เราเลือกได้ เลือกที่จะใช้ชีวิตได้ เลือกที่จะให้ สิ่งแวดล้อมมามีผลกระทบกับเราหรือไม่ สติเป็นตัวกำกับ"
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ครูพร่ำสอนมาตลอดค่ะ แล้วเมื่อวานมาได้ยินอีกรอบจากในหลักสูตร หนูยิ่งโอ้ อะไรกันเนียะ คนไทยให้ฝรั่งมาสอนเรื่องมีสติ ในการใช้ชีวิต มีสติในการพัฒนาตนเอง สอนว่าเรามีอิสระที่จะเลือกได้ว่าจะโกรธหรือไม่โกรธ
หนูระลึกถึงครู ท่านสอนให้อยู่เหนืออารมณ์ เมื่อไหร่ก็ตามที่หนูรู้สึกหงุดหงิด ท่านก็จะบอกว่า
"เราเลือกที่จะให้สิ่งเหล่านั้นเข้ามาครอบงำอารมณ์หรือไม่
จริง ๆ แล้วเราเลือกได้ เลือกที่จะยืนดู หรือ เลือกที่จะเป็น ถ้าเรามีสติ
แต่ถ้าเราไม่มีสติเราก็จะโดนอารมณ์ครอบงำ"
ตอนนี้ใจหนูรู้สึกน้อยใจตนเอง ว่าครูท่านเมตตาสอนมานาน แต่ก็ทำไม่ถึงพร้อมสักที สิ่งที่ครูหยิบยื่นให้ คือ แนวทางในการพัฒนาที่ล้ำเลิศ ที่มีผู้คนเดินตามร่องรอยจำนวนไม่น้อย แต่จิตหนูมันดื้อด้าน ไม่ยอมรับธรรมะเข้าสู่ใจเสียที
ได้แต่อดทนในความโง่เขลา เหมือนหมาปวดฟันยืนดูกระดูกชิ้นโต แต่กินไม่เป็น ได้แต่ร้อง เหง๋ง ๆ ๆ หิวโหย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรหนูก็จะอดทนสู้ต่อไป ทำต่อไปค่ะก็ให้มันรู้กันไป หายใจสบาย
กราบขอบพระคุณครูค่ะ
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยู่อย่างเคยชินกับสิ่งดี ๆ รอบตัวเราแต่เอามาใช้ไม่เป็น
แต่พอฝรั่งจับมาพูดเป็นประเด็น ก็เลยเห็นความสำคัญกันใหญ่
เป็นกำลังใจในการเลือกใช้ชีวิตอย่างมีสตินะคะ
ขอบคุณค่ะ..ที่เปิดประเด็นให้คิดเรื่องอารมณ์กับสติ ..อิ อิ
ชีวิต สังขาร ไม่เที่ยงหนอ...
อ่านบันทึกจบแล้วยกมือเห็นด้วยทุกประการค่ะ
บางอย่างรู้ แต่ว่าในการปฎิบัติจริงยังต้องอาศัยการฝึกฝน...
ตอนนี้ดาวชักเริ่มสนุกกับการตามจับความรู้สึกตัวเองค่ะ ^^
อ่านบันทึกจบแล้วยกมือเห็นด้วยทุกประการค่ะ
บางอย่างรู้ แต่ว่าในการปฎิบัติจริงยังต้องอาศัยการฝึกฝน...
ตอนนี้ดาวชักเริ่มสนุกกับการตามจับความรู้สึกตัวเองค่ะ ^^
อืม...เป็นกำลังใจให้ค่ะ (^_^) สู้ ๆ