๒๐. เรียนรู้ทางสังคมจากจอห์น เลนนอน และวงเดอะบีตเทิล


".... การได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเองกับการเรียนรู้ชุมชนและสังคมรอบข้างเพื่อจัดวางตนเองและสนองตอบต่อสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกับคนอื่น จึงมีความเป็นชุมชนอยู่ในตัวเอง ..."

ในส่วนที่แฟนเพลงที่คลั่งไคล้และฆาตรกรรมจอห์น เลนนอน นั้น ผมไม่ได้ตามศึกษารายละเอียดนี้มากพอที่จะวิเคราะห์ให้ฟังได้นะครับ อ่านเอาจาก จอห์น เลนนอน ในวิกิพีเดียภาษาไทย และ John Lennon ในวิกิพีเดียภาษาอังกฤษก็แล้วกันนะครับ

แต่เรื่องความไม่แยกแยะโลกในจินตนาการกับโลกความเป็นจริง รวมทั้งการนำมาปนเปกัน แล้วทำให้ผู้คนสนองตอบต่อสถานการณ์ต่างๆทั้งในชีวิตประจำวันและต่อเรื่องราวต่างๆทางสังคมอย่างไม่สร้างสรรค์นั้น เป็นเรื่องที่น่าเสวนาครับ เลยขอคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะในส่วนนี้ก็แล้วกันนะครับ

มองอย่างคนทำงานแนวประชาคมและวิจัยชุมชนนั้น พอจะให้แนวเข้าใจเรื่องอย่างนี้ด้วยแนวคิดเรื่องการเรียนรู้ทางสังคม (Social Learning) กับการพัฒนาการกระทำต่อสังคม (Social action) เพื่อจัดความสัมพันธ์กับโลกรอบข้างของเราให้ถูกต้องและสมดุล มีงานวิจัยแนวนี้ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ทางสังคมแบบมีปฏิสัมพันธ์กันด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยโครงสร้างที่เท่าเทียมกันในแนวราบ (Horizontal Interaction learning) แล้วจะทำให้เกิดความเป็นกลุ่มก้อน ความเป็นชุมชน ความเป็นกลุ่มประชาคม พร้อมกับปัจเจกแต่ละคนก็มีความสมดุลในตนเองระหว่างการบรรลุจุดหมายส่วนบุคคลกับความสำนึกต่อส่วนรวม งานแนวนี้หาศึกษาได้จากพวกทำวิจัยชุมชนในแนว Civil society ทั้งในและต่างประเทศนะครับ

การศึกษาในแนวนี้กล่าวโดยสรุปได้ว่า หลายเรื่องในชีวิตของปัจเจกและหลายเรื่องที่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมนั้น จะคิดและสร้างขึ้นด้วยจินตนาการจากตัวเราเองแต่โดยลำพังไม่ได้ รวมทั้งจะขาดองค์ประกอบด้านการได้ปฏิสัมพันธ์และการตรวจสอบหากาละ-เทศะ หรือความเหมาะสมต่อสถานการณ์จำเพาะต่างๆกับสถานการณ์อื่นๆและกับผู้คนอื่นๆไม่ได้ แม้แต่การได้มาซึ่งความเป็นตัวตนของตน ของตัวเราเอง

อย่างน้อยก็ต้องสร้างขึ้นจากมวลประสบการณ์ ๒ ชุด คือ การได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเองกับการเรียนรู้ชุมชนและสังคมรอบข้างเพื่อจัดวางตนเองและสนองตอบต่อสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกับคนอื่น จึงมีความเป็นชุมชนอยู่ในตัวเอง

งานของ Peter Senge ใน The Fifth Discipline ก็เน้นเรื่องนี้เป็น Personal Mastery และ Team Learning เป็น ๒ ใน ๕ หลักวิชา ที่จะช่วยให้ปัจเจก กลุ่มประชาคม และชุมชนแห่งการเรียนรู้มีความเข้มแข็ง การมีความเป็นชุมชน จะเป็นโครงสร้างที่เอื้อต่อการเกิดความพอดีของความเป็นปัจเจกและส่วนรวมที่เขาเกี่ยวข้อง

การขาดองค์ประกอบเหล่านี้ จะทำให้การปฏิบัติของปัจเจกและความเคลื่อนไหวของสังคมเกิดความผิดปรกติ ไม่อยู่กับความเป็นจริง รวมทั้งเห็นแต่เพียงสิ่งที่อยู่ในความรู้และจินตนาการของตนเอง แต่ไม่สามารถเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับสังคมและโลกรอบข้าง

อย่างแฟนเพลงของจอห์นเลนนอนนี้ มองในแง่ปรากฏการณ์ทางสังคม ก็สามารถสื่อสะท้อนการเรียนรู้ที่สังคมสร้างขึ้นว่า ผู้คนที่อยู่ในจินตนาการผ่านสื่อและกระแสสังคมในสื่อ แต่ขาดการได้ปฏิสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมรอบข้างนั้น จะขาดความสมดุลต่อการใช้จินตนาการและการรู้โลกตามความเป็นจริง 

ก่อให้เกิดความสำนึกรู้ที่ผิดพลาดนั่นเอง ซึ่งทำให้ได้วิถีคิดที่ไม่เหมาะสมและกระทำสิ่งต่างๆต่อสังคมอย่างไม่พึงประสงค์ ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์หลายคนจะสรุปว่าอาชญากรที่ยิงจอห์น เลนนอนนั้น ก่อเหตุขึ้นด้วยความอยากดังและอยากเป็นคนในประวัติศาสตร์คู่ไปกับชื่อเสียงของจอห์นเลนนอน เป็นแรงจูงใจ

จำเพาะกรณีนี้ ทำให้แนวคิดเรื่อง Community Innovation และ Social Innovation สำหรับบริบทใหม่ๆได้รับความสำคัญขึ้นมา เช่น การสื่อสารแบบปฏิสัมพันธ์สองทาง การสร้างความรู้เป็นกลุ่ม การวิจัยและการเรียนรู้แบบเป็นกลุ่มซึ่งเน้นปฏิสัมพันธ์กันของมนุษย์มากขึ้น เพราะความเคลื่อนไหวของสังคมตามกระแสนิยมเพลงจอห์น เลนนอน และวง The Beatles ของเขานั้น มองในแง่นี้ก็เป็นสื่อวัฒนธรรมแบบมหาชน (Mass culture) มีความเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว จากคนจำนวนน้อยไปสู่สังคมวงกว้างอย่างไม่เจาะจง ปฏิสัมพันธ์กันและเรียนรู้สิ่งต่างๆจากสื่อมหาชนซึ่งมีโครงสร้างที่จะกำหนดให้ผู้คนเกือบทั้งหมดอยู่ในฐานะการเป็นผู้รับฟังและรอตามบริโภคอย่างเดียว ทำให้กระแสส่วนรวมเข้มแข็ง แต่ปัจเจก กลุ่มก้อน และชุมชน จะอ่อนแอ

เราสามารถมองเรื่องนี้เพื่อนำมาเป็นบทเรียนสำหรับทำงานเชิงสังคม ให้สังคมมีอีกมิติหนึ่งเพิ่มขึ้นมาซึ่งจะทำให้ได้ทั้งความเข้มแข็งในวงกว้างและครอบคลุมความแตกต่างหลากหลายในรายละเอียดได้ เช่น หากอยู่ในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนก็ควรมีการคุยเรื่องราวที่เป็นความนิยมในสื่อเพื่อสร้างทรรศนะและได้กระบวนการตรวจสอบทรรศนะต่างๆกับคนอื่น

หากเป็นครูอาจารย์ก็สามารถนำเอาสื่อและสิ่งบันเทิงต่างๆเข้ามาสู่สถานการณ์การเรียนรู้แบบอภิปรายให้ปัจเจกทุกคนได้ความเแป็นตัวของตัวเองที่เหมาะสมในเรื่องนั้นๆ  หากเป็นคนทำสื่อและสื่อระดับต่างๆ ก็นำเอาสิ่งที่เป็นจินตนาการและความนิยมของสังคมมาเป็นหัวข้อการวิเคราะห์และสร้างการสื่อสารเรียนรู้สถานการณ์ของสังคม เหล่านี้เป็นต้น

กระบวนการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มองค์ประกอบด้านการได้เรียนรู้ทางสังคม และการได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆเพื่อตรวจสอบหากาละ-เทศะ สำหรับจัดวางตนเอง (Self-organized) ให้เหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้น

หมายเลขบันทึก: 310775เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2009 05:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2013 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เมื่อก่อนนี้จอห์น เลนนอน และวง The Beatle มีอิทธิพลไปถึงทรงกางเกงและทรงผมเลยทีเดียว ทรงผมสี่เต่าทองนี่แพร่หลายในหมู่หนุ่มๆและวัยรุ่นอยู่เป็นนานทีเดียวครับ

สวัสดีคะ อาจารย์ ดร.วิรัตน์

  • เพราะ จอห์น เลนนอน เป็นบุคคลที่มีแฟนๆ อยู่ทั่วทุกมุมโลก search engine อย่าง google ก็เอาใจแฟนเพลงของจอห์น โดยทำโลโก้เพื่อเตือนความทรงจำให้กับแฟนคลับของจอห์นว่า ถ้าทุกวันนี้จอห์นยังมีชีวิตอยู่ จอห์นจะมีอายุครบ ๗๐ ปีแล้วนะ .. ๘ ตุลาคม ๒๕๕๓ =)

   

  • Oops! ขอโทษคะ .. ขอแก้ไขข้อมูล วันเกิดของจอห์น เลนนอน นั้นวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๔๘๓ คะ =)

สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ

เห็น จอห์น เลนนอน ก็ต้องคิดถึงวง ๔ เต่าทอง The Beattles ไปด้วยเลยนะครับ มีอิทธิพลทั้งต่อวงการเพลงและต่อคลื่นความคิดของผู้คนหลายด้านทั่วโลก ข้ามยุคข้ามสมัย

พวกเขาเป็นกลุ่มที่หัดเล่นดนตรีกันเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ลักษณะการรวมกลุ่มสนใจของคนรุ่นเยาว์และคนหนุ่มคนสาวอย่างนี้ก็มีให้เห็นอยู่ในวงการดนตรีของสังคมไทยเช่นกันนะครับ เช่น วงนกแล  วงสาว สาว สาว ต่างกันไปบ้างก็ตรงเขารวมเป็นกลุ่มสนใจทำกิจกรรมดนตรีเพื่อได้พัฒนาตนเองและเติบโตไปกับความเป็นเพื่อนของพวกเขา

ความสำเร็จสูงสุดทางด้านดนตรีของจอห์น เลนนอน กับคณะสี่เต่าทองนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากและเป็นของกลุ่มคนเล็กๆ ทว่า เมื่อมองความเป็นมาแล้ว ก็จะเห็นว่าถักทอขึ้นมาจากพลังความเยาวภาพอันสร้างสรรค์ของปัจเจกและพลังของความเป็นเพื่อนของพวกเขา พลังความงอกงามของชีวิตที่บำรุงด้วยพลังความบริสุทธิ์แห่งรักต่อเพื่อนมนุษย์ จึงเป็นแรงแห่งความสร้างสรรค์อันมากมายมหาศาลในเวลาต่อมา

เลยขอรำลึกถึงความรักในเพื่อนมนุษย์และการส่งเสริมพลังความงอกงามดังความเยาวภาพอยู่เสมอในชีวิตของทุกคน ที่เป็นพลังความสร้างสรรค์โลกให้ดีงาม น่าอยู่ น่ารื่นรมย์  งดงามด้วยมิตรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มีกำลังแก้ไขสิ่งที่ไม่ดี สงคราม ความเลวร้าย ความรุนแรง ความคับแคบ ความเหลื่อมล้ำ ความแบ่งแยก ซึ่งมักเป็นเรื่องราวในเพลงและดนตรีของจอห์น เลนนอนกับหมู่เพื่อนวงเดอะบีตเทิล ที่กล่อมใจมิตรรักแฟนเพลงทั้งโลกมากว่าครึ่งศตวรรษ

ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับ เป้าหมายปัจเจกที่ดี พร้อมพัฒนาสู่เป้าหมายโดยรวมไหมนะคะ แต่ อ่านแล้วนึกได้ประเด็นนี้นะคะอาจารย์  สิ่งหนึ่งที่สังเกตชัดเจนที่แตกต่างจากบ้านเราคือ เค้าจะศึกษายึดวิชาชีพหรืออาชีพ ยิ่งในระดับสำคัญๆ แบบเป็นpassion or born to be กันเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะนักร้อง นักบิน นักการเมือง ก็จะมุ่งมั่น และมีเจตนารมย์แน่วแน่ .. ขอบคุณค่ะ

มีผู้รู้หลายท่านศึกษาและอธิบายปรากฏการณ์อย่างนี้ไว้มากและหลายแนวเหมือนกันครับ ตั้งแต่แนวที่มองไปยังปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรมในการเป็นเบ้าหลอมและพัฒนาการเรียนรู้อยู่ในวิถีชีวิต ไปจนถึงแนวคิดเรื่องความบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์กันเลยทีเดียว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท