บันทึกก่อนได้บันทึกเกี่ยวกับการที่ผมได้มีโอกาสเรียนรู้การทำรั้วราชวัตร ที่ทำในกรณีมีพิธีต่างๆ อ่านได้ ที่นี่ บันทึกนี้ผมได้นำวัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่งของชุมชนมาแบ่งปันครับ เป็นการสร้างบริเวณที่พักสำหรับผู้มาร่วมงาน-พิธีต่างๆ ทึ่ชุมชนได้จัดขึ้นและได้อนุรักษ์ไว้
การทำอาคารบริเวณพิธีสมัยใหม่นี้เราอาจจะเห็นการกางเต้นท์ผ้าใบโครงเหล็ก ซึ่งสะดวกสบายทั้งการจัดตั้งและการจัดเก็บ แต่ที่ชุมชนแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์วิถีและวัฒนธรรมเดิมๆ ของชุมชนไว้ ด้วยการสร้างอาคารสำหรับผู้มาร่วมงานพิธีด้วยแรงงานของชาวบ้านเอง ใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างที่ทำจากไม้ไผ่ ส่วนหลังคานั้นทำจากใบตองตึงหรือใบของต้นยางพลวง
จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนี้ร่วมกับชาวบ้าน จึงได้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่นคนเมืองเหนือที่ได้สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน คนเฒ่าคนแก่ยังพร้อมแรงแข็งขันที่จะร่วมมือกันสร้างเองค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าการเช่าเต้นท์ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการลงแรงกันเอง ตั้งแต่การช่วยกันตัดไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็นไม้ไผ่สีสุก ไม้ไผ่รวก ไผ่บงที่แต่บ้านมีกันอยู่แล้ว รวมไปถึงการนัดหมายกันออกไปเก็บใบตองตึง(ยางพลวง) เพื่อนำมาทำหลังคาชั่วคราวของบริเวณพิธี ซึ่งการที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนไปเป็นการใช้เต้นท์ก็เพราะว่าการร่วมมือร่วมแรงกันนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และสิ่งที่แฝงอยู่ในกิจกรรมเหล่านี้ก็คือมิติทางด้านสังคมที่ประมาณค่ามิได้
เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปร่วมกิจกรรม จึงได้เรียนรู้ว่าในการทำหลังคาบริเวณที่พักสำหรับผู้มาร่วมงานนั้น ต้องมีการวางแผนและร่วมมือกันอย่างจริงจังเป็นเวลาล่วงหน้าแรมเดือนครับ คนจำนวนคนเฒ่าคนแก่ก็จะมีแม่งานที่ถนัดกันคนละอย่าง แต่ทุกๆ อย่างก็จะลงมือช่วยกัน ทำให้ได้เรียนรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้องไปในตัว (อิอิ....ชาวบ้านเขาจัดการความรู้กันอย่างเป็นธรรมชาติมานานแล้ว)
รูปภาพต่อไปนี้เป็นการนำเสนอกิจกรรมอย่างเป็นขั้นตอน และกระบวนการจัดทำหลังคาที่พักสำหรับผู้มาร่วมงาน-พิธีแบบชาวบ้านๆ ที่หลายท่านอาจจะเคยได้พบเห็น แต่ก็คงจะมีอีกหลายท่านที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
นี่ก็เป็นอีกวัฒนธรรมหนึ่ง(การทำถืมตอง) ของชุมชนที่นี่ ที่บ้านใหม่ ตำบลท่าขุนราม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จะเห็นได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ชุมชนได้ลงมือปฏิบัติและเรียนรู้ร่วมกัน และถ่ายทอดมาอย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสิ่งดีๆ ในท้องถิ่นที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วม(ลงมือและเรียนรู้) อย่างคนใน เสียดายที่คนรุ่นใหม่สมัยนี้ไม่ค่อยจะให้ความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ยังไม่ยอมละทิ้งของดีเพื่อหันไปใช้ของสมัยใหม่(เต้นท์เช่า) และผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม ที่ได้ยังมีสิ่งเหล่านี้ให้ผมได้มีโอกาสได้เรียนรู้ และตระหนักว่าทุกคน-ทุกความรู้ในชุมชนนั้นต่างมีคุณค่าเป็นอย่างมาก
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ (ยังมีตอนต่อไปนะครับ)
4 มีนาคม 2551
ยอดเยี่ยมจริงๆ น้องสิงห์
ง่ายๆ มีประโยชน์ ใช้วัสดุธรรมชาติ ใครๆก็ทำได้ คุ้มค่า เพื่อคนจำนวนมากๆ
ที่สำคัญที่พี่ชอบคือ การที่ทำถืมตองนั้นต้องใช้คนหลายคนมาช่วยกันทำ นี่คือกิจกรรมที่ผูกคนให้มาสัมพันธ์กัน คนเราเมื่อมาสัมพันธืกันในลักษณะส่วนรวมมันคือการเสริมสร้างทุนสังคมชุมชน เสริมสร้างโดยไม่ต้องฝึกอบรม บ่นกล่าวอะไร แค่มีกิจกรรมร่วมกันแบบสาธารณะแบบนี้ สุดยอดหละ
เราจะไม่เห็นคนในเมืองหรือหมู่บ้านจัดสรรเขาทำแบบนี้ ควักเงินอย่างเดียวจ้างเต้นท์ ชุมชนเงินตราหรือจะมีทุนทางสังคมมากกว่าชุมชนชนบท ..
บันทึกนี้ช่วยเปิดลิ้นชักความทรงจำอีกส่วนหนึ่งของอ้ายครับ
เคยไปนอนป่าเพื่อเก็บตองตึงกับคณะของพ่อและลุงๆ
เก็บแต่เช้า น้ำเหมยยังพรมใบตอง
เคยอยู่ตูบมุงตองตึง
คิดฮอดงานปอยที่มีผามตองตึง มีช่างซอ
ขอบคุณพี่น้องกำแพงเพชร ที่ยังมีตองตึงให้นึกถึง
ขอบคุณพ่อน้องไผ่ครับ
เคยเห็น เคยได้อยู่ใต้หลังคาตองตึงค่ะ แต่เพิ่งจะทราบกระบวนการและวิธีการที่นี่ ขอบคุณนะคะที่ถ่ายรูปเป็นข้นเป็นตอนให้เห็นกระบวนการชัดเจน และเล่าเรื่องได้เห็นภาพองการร่วมแรงร่วมใจ
เป็นการรู้จักใช้ทุนทุกอย่างในพื้นที่ ในชุมชน อย่างแท้จริงอย่างรู้จักตนเอง ภูมิใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำนะคะ เป็นมิติที่คนสมัยนี้ไม่ใส่ใจสักเท่าใด ทุกอย่างต้องการแต่สะดวก เร็ว ดูทันสมัย
สวัสดีครับ
ตามเข้าไปอ่านมาเรียบร้อยแล้ว ขอบพระคุณมากครับ
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ
- ตามคุณบางทรายมาค่ะ
- เดี๋ยวนี้หายากค่ะ..งานลงแขก...เหมือนคุณเกษตรจังหวัดว่าไว้ค่ะ
สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ารบกวนรึเปล่า คือตอนนี้กำลังหาคนขายและรับจ้างทำหลังคาตองตึงค่ะ พอดี่จะสร้างศาลาในกรุงเทพฯ หาในอินเตอร์เนต หายากมากค่ะ ไม่ทราบว่าอาจารย์ พอจะมีที่แนะนำมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ