แนะนำหนังสือ
BAKERY & I
ชีวิต ดนตรี และเบเกอรี่ ผ่านสายตาของสุกี้
กมล สุโกศล แคลปป์
ผู้เขียน
พีรภัทร โพธิสารัตนะ
ผู้เรียบเรียง
กรุงเทพฯ : a book
พิมพ์ครั้งแรก
มิถุนายน 2550
คติ มุธุขันธ์ : แนะนำ
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ลำดับเรื่องราวจากประสบการณ์</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ที่นำเราทำความเข้าใจในการกระทำ</p>ในนามของคนที่พร้อมจะชกและชกออกไป <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ด้วยการทำงานและความตั้งใจสู่ความฝันในชีวิต</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center">การมองเห็นชีวิต</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center">เห็นโลก และความใฝ่ฝัน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center">ด้วยหัวใจและชีวิตการทำงาน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center">สำหรับการใช้ชีวิตเป็นคนที่มีความใฝ่ฝัน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center">ผ่านชีวิต สุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">คำนำสำนักพิมพ์</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ผมรู้จักชื่อของ “เบเกอรี่ มิวสิค” ก่อน “กมล สุโกศล แคลปป์”</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">เบเกอรี่ มิวสิค เปิดตัวด้วยอัลบั้มแรกของโมเดิร์นด็อกตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 ผมไม่แน่ใจนักหรอกว่านอกรั้วมหาวิทยาลัย เพลงของศิลปินวงนี้เป็นที่รู้จักมากแค่ไหน แต่ในมหาวิทยาลัยของผม ใครๆ ก็เล่นเพลงของพวกเขา จะบอกว่าผมได้ยินเพลง “ก่อน” ผ่านวงกีตาร์ที่เล่นกันในมหาวิทยาลัยซ้ำแล้วซ้ำเล่าบ่อยกว่าได้ยินเพลงต้นฉบับผ่านรายการวิทยุเสียอีก และหลายเดือนต่อมาในช่วงวันวาเลนไทน์ ผมก็ได้ฟังเพลงรักหวานๆ สไตล์ที่ไม่คุ้นหูนักของศิลปินที่ชื่อ บอย โกสิยพงษ์ จากนั้นตลอด 4 ปีที่เรียนมหาวิทยาลัยก็มีอีกหลายต่อหลายอัลบั้มตามออกมาในนามเบเกอรี่ มิวสิค ค่ายที่ทำเพลงออกได้ถูกจริตกับเด็กมหาวิทยาลัยอย่างพวกผมเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเพลงร็อกหรือเพลงรัก</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">อีกภาพที่ผมจำได้แม่นก็คือ ร้านเทป (ยุคนั้นยังเป็นเทปครับ) ในสหกรณ์ของมหาวิทยาลัย และแผงเทป 2 ร้านตรงตลาดสามย่าน ได้กันพื้นที่ที่ดีที่สุดของร้านไว้สำหรับวางเทปของค่ายเพลงอินดี้ ถ้าพูดให้เจาะจงลงไปอีกนิดก็ต้องบอกว่า เทปที่ได้วางตรงนั้นเกือบทั้งหมดก็คือเทปของค่ายเบเกอรี่นั่นแหละ ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ผมและผองเพื่อนมีเทปเบเกอรี่ในครอบครองกันเยอะมากๆ หลายอัลบั้มเราก็ไม่เคยรู้จักศิลปินมาก่อน หรือแม้กระทั่งไม่เคยฟังเพลงสักนิด แต่เราก็ตัดสินใจซื้อ เพียงเพราะแค่มีโลโก้เบเกอรี่บนปก</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">พอมองย้อนกลับไป ผมว่าเบเกอรี่เป็นอะไรที่มากกว่าแค่ค่ายเพลง แต่เป็นไลฟ์สไตล์แบบหนึ่ง เหมือนเพื่อนสนิทที่คุยถูกคอคนหนึ่ง ซึ่งค่ายเพลงอินดี้อื่นๆ หรือค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เอง ก็ไม่สามารถสร้างความรู้สึกนี้ให้เกิดกับผู้ฟังได้ชัดเจนเท่า</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">นั่นสินะ ทำไมเราถึงรู้สึกแบบนั้นเฉพาะกับเบเกอรี่</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ถึงวันนี้เพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่เคยกระโดดโลดเต้นไปพร้อมกับ ป๊อด โมเดิร์นด๊อก หรือเพื่อนผู้หญิงที่กรี๊ดเสียงแหบเสียงแห้งให้ นภ พรชำนิ ต่างเติบโตมีหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่งงานลงหลักปักฐานกันไปแล้ว และหลายคนก็เขินอายเกินกว่าจะซื้อบัตรเข้าไปดูคอนเสิร์ตอีกครั้ง</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในคอนเสิร์ตของค่ายขนมปังดนตรีก็คือ “ความเป็นครอบครัว” ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตของใครก็ตาม เราก็มักจะได้เห็นเพื่อนพ้องศิลปินร่วมค่ายออกมาแจมกันอย่างสนุกสนาน นึกแล้วก็น่าเสียดายที่ค่ายเพลงคุณภาพอันแสนจะอบอุ่นและมีแฟนๆสนับสนุนมากมายกลับมีอายุเพียงแค่ 10 ปี …แม้ทุกวันนี้เบเกอรี่ มิวสิค จะยังคงมีอยู่ แต่หลังจากที่ผู้บริหารทั้ง 3 คนลาออก ตอนนี้เบเกอรี่ มิวสิคก็เป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้น</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ก่อนจะอ่านต้นฉบับ Bakery & I ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวเองรู้จักเบเกอรี่ มิวสิค มากกว่า สุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์ ซึ่งก็คงไม่แตกต่างจากแฟนเบเกอรี่ส่วนใหญ่ ด้วยความที่ชายผู้นี้อยู่เบื้องหลังมากกว่าเบื้องหน้า สุกี้เลยเป็นที่รู้จักของแฟนๆ น้อยที่สุดในบรรดาผู้บริหารทั้ง 3 คนของเบเกอรี่ เผลอๆ คนอาจจะรู้จักเขาในฐานะพี่ชายของ “น้อย วงพรู” มากกว่า “มือกีตาร์วงพรู” ด้วยซ้ำ</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">หลังจากที่ผมอ่านประวัติชีวิตของสุกี้จบลง ผมพบว่านี่คือเรื่องของคนหนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ 3 คน (และอีก 1 สาวในตอนแรก) ที่ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญให้กับวงการเพลงไทย ซึ่งจะว่าไปมันก็คือไม่ต่างอะไรกับบทหนังเรื่องเยี่ยมที่เขียนให้ตัวละครเด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ไม่มีแต้มต่อใดๆ ประสบความสำเร็จจนถึงจุดที่ใครๆ ก็ต้องหันมามอง แล้วก็หันมุมพาพวกเขาดำดิ่งลงมาพร้อมปัญหานานัปการ และสุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา 3 คนกับค่ายเพลงระดับตำนานที่สร้างขึ้นมากับมือก็ต้องจบลงอย่างกระชากใจคนดู</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">แม้ว่าเบเกอรี่ มิวสิค จะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตสุกี้ แต่ผมก็เชื่อว่ามันน่าจะกินพื้นที่ส่วนใหญ่ในชีวิตของเขา และแม้ว่าประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเบเกอรี่จะไม่ได้ถูกเขียนโดยสุกี้คนเดียว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แกนหลักของประวัติศาสตร์เรื่องนี้ก็คือเขา</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ท่ามกลางยุคที่วงการดนตรีกำลังหดตัวลงเรื่อยๆ เช่นนี้ เชื่อกันว่ายากที่จะมีใครสร้างปรากฎการณ์แบบเบเกอรี่ มิวสิค ได้สำเร็จซ้ำสอง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">และก็ไม่ง่ายที่จะมีผู้บริหารค่ายเพลงที่เป็นอย่างสุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์ เป็นคนที่สอง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">คนที่สมองเป็นนักธุรกิจ แต่หัวใจเป็นศิลปิน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ทรงกลด บางยี่ขัน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ร้านขนมปังดนตรี</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ความงามของการเรียบเรียงในฝีมือของ พีรภัทร โพธิสารัตนะ จับประเด็นและร้อยเรียงคำของสุกี้ เพื่อให้เราได้แลเห็นภาพ เข้าใจในแต่ละบทเรียนชีวิต ลำดับขั้นตอนจากความฝันสู่การทำงาน และจากความแตกต่างสู่เป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเดินทางเพื่อสร้างสรรค์งานเพลงของ เบเกอรี่ มิวสิค</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">มีภาพและชีวิตของเขาเดินเรื่อง นำความคิดออกมาสู่การสร้าง การเรียบเรียงประนีประนอมระหว่างศิลปิน ศิลปะ และธุรกิจ การใช้สัญชาตญานวัดเอา จากความฝันวัยเด็กถึงงานการซึ่งยังความฝันให้งอกงาม เขาจึงเริ่มต้น พยายามวิ่งไปข้างหน้า และออกหมัดชกกับทุกอุปสรรคที่เข้ามา</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ไม่เพียงวิ่งเพื่อสร้างสิ่งที่ฝังในใจ บ่อยครั้งที่เขาอธิบายถึงปมแห่งความพยายาม เขาอยากสร้างตัวเองโดยไม่ได้เติบโตได้ร่มเงาของครอบครัว เขาพยายามบอกถึงตัวตนภายใน ถึงความยอมรับนับถือในสิ่งที่เป็นความสำเร็จของครอบครัว เท่ากับเป็นแรงกดดันสำคัญในชีวิต เท่ากับที่เขาพร้อมจะร้องไห้ให้กับรันทดของชีวิต ที่อยู่ระหว่างการแบกรับ และสิ่งที่ต้องกระทำ ในขณะที่เขาไม่อยากทำ ไม่เพียงแต่ทำให้เขาพบคำตอบ แต่ยังทำให้เขาตัวเองได้เพิ่มขึ้น</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">สิ่งสำคัญในเรื่องราวของเขา จากน้ำเสียงที่เหมือนเรานั่งฟังการลำดับเรื่องราวในชีวิต เขากำลังไล่เรียงความสำเร็จว่าบ่อยครั้งเร็วเกินไป บ่อยครั้งต้องทุ่มเทด้วยความรัก และบ่อยครั้งที่เชื่อมั่นในความสำเร็จเหล่านั้นมากจนเกินไป จนวันหนึ่งเขาได้รับคำตอบจากสิ่งที่ทำ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">มีบทเรียนมากมาย ในคำตอบของเขา ซึ่งสุดท้ายเหมือนเขาบอกกับเรา ว่าชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป</p><p></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Content</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Prologue</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Myself & I</p> Chapter 1“แม่…ผมอยากเล่นกีตาร์” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(2512 – 2535 / 1969 – 1992)</p> Chapter 2“นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้นั่งข้างเดียวกับศิลปิน” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(2535 – 2537 / 1992 - 1994)</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Bakery & I</p> Chapter 3“เรามาออกกันเองเลยดีกว่า” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(2537 – 2540 / 1994 – 1997)</p> Chapter 4“ถ้าอีก 4 เดือนมาสัมภาษณ์แล้วผมไม่อยู่ตรงนี้ ก็หมายความว่าผมเจ๊ง” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(2541 – 2543 / 1998 – 2000)</p> Chapter 5“ผมขอขอบคุณทุกๆคน สำหรับการสนับสนุนเบเกอรี่ มิวสิค มาตลอดสิบปี” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(2544 – 2547 / 2001 – 2004)</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Myself & I (Reprise)</p> Chapter 6“แท้ที่จริงแล้วผมยังไม่รู้เลยว่าตัวผมเองต้องการอะไร” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(January – June 2005 )</p> Chapter 7“มันไม่ได้อยู่ที่คนอื่นมองเราอย่างไรแต่อยู่ที่ว่าเรามองตัวเองอย่างไร” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">(June 2005 – To Be Continued)</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Dream Chasing</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">Epilogue</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ปกหลัง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">อย่างที่แม่ของผมเคยพูดเอาไว้ วิกฤติเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พึงจะเกิดขึ้น กับมนุษย์คนหนึ่ง ผมถูกวิกฤติบังคับให้เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ มองย้อนหลังกลับไปแล้ว มันก็เป็นเหมือนโรงเรียนดีๆ นี่เอง และที่สำคัญวิกฤติที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่า ตัวผมเองไม่ได้เก่งอย่างที่คิดไว้เลย</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของใครทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องของฟ้าลิขิต เราออกจากเบเกอรี่มาเมื่อเราอยู่จุดสูงสุด ผมภูมิใจและสุขใจที่ได้รู้ว่าเราได้ทิ้งมรดกทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้วงการเพลงไทย … แต่ปัญหาก็คือ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจากนี้จะเดินต่อไปทางไหนดี</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">สิ่งที่คุณจะได้อ่านเป็นเพียงมุมมองของผมคนเดียวล้วนๆ และผมเลือกที่จะเล่าเรื่องทุกอย่าง อย่างซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาที่สุด เหตุผลเดียวที่จะทำให้ผมไม่พูดอะไรออกไปตรงๆ ก็คือ ความจริงของผมจะไปทำร้ายคนอื่น นอกจากนั้นแล้วคุณจะได้รู้ทุกอย่างจากผมจนหมดเปลือกเลยทีเดียว</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ผมเชื่อว่าความสำเร็จของเบเกอรี่ มิวสิค เป็นสิ่งพิเศษที่เราอาจไม่ได้พบเจออีกเลยตลอดชีวิตนี้ ผมหมายถึงการที่ผู้คนที่ใจตรงกัน คอเดียวกัน และรสนิยมเดียวกันจะได้มาพกันในจังหวะและเวลาที่เหมาะสม สำหรับผมสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนอะไร ที่คุณจะได้เห็นแต่ในหนังเท่านั้น</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">กมล สุโกศล แคลปป์</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับหนังสือ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ปีที่พิมพ์ : มิถุนายน 2550 - พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ชื่อหนังสือ : BAKERY & I</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ประเภท : ประวัติ และ ผลงาน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ชื่อผู้เขียน : กมล สุโกศล แคลปป์</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">บรรณาธิการ : ทรงกลด บางยี่ขัน</p><p></p><p>ข้อมูลบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ</p><p>กมล สุโกศล แคลปป์ </p><p>เบเกอรี่ แอนด์ ไอ (Bakery & I) - - กรุงเทพฯ: อะบุ๊ก, 2550 </p><p>320 หน้า </p><p>1. สุกี้ - - ประวัติและผลงาน. I.ชื่อเรื่อง</p><p>780.92</p><p>ISBN 978 – 974 – 7291 – 19 – 3</p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ISBN 978 – 974 – 7291 – 19 – 3 </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p>
ไม่มีความเห็น