วันนี้มีเหตุต้องไปเยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวๆ อนุสาวรีย์ฯ ถ้าเรามองในแง่ของการจัดสรรเวลาในการเดินทางไปทำงานหลายอย่างในที่เดียวกันก็คงจะเป็นการดี แต่กรณีของการไปเยี่ยมคนป่วยคราวเดียวกันถึง 2 ราย ใครๆ ก็คงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แค่นั้นยังไม่พอครับ ยังต้องไปเยี่ยมที่ "ห้องฉันเห็นเธอ" (ICU) แต่เธอไม่เห็นฉันอีกต่างหาก
เดินๆอยู่ก็นึกถึงคำสอนของครูบาอาจารย์ที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลขึ้นมาเลยขอนำมา Show & Share
ท่านบอกว่า "ที่โรงพยาบาลนั่นแหละมีของดีเยอะ เป็นเหมือนโรงเรียน เวลาไป อย่าลืมดูตัวเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในนั้นหมด"
" ดูข้างนอกแล้ว ย้อนมาดูตัวเรา เหมือนกันไหม ? "
สวัสดีค่ะน้องข้ามสีทันดร
เป็นเรื่องที่หนักมากเลยค่ะหากต้องไปเยี่ยมคนรู้จักหรือคนใกล้ชิด ๒ คนใน ICU
การที่น้องยังระลึกถึงคำสอนของครูบาอาจารย์นั้นพี่ว่าน้องมีสติดีมากเลยค่ะ
พี่เองก็รู้สึกคล้ายๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่เหตุการณ์ในโรงพยาบาล พี่มักรู้สึกย้อนมาดูตน ตอนเห็นคนยากอยู่ข้างถนน
วันก่อนเดินข้ามสะพานลอยแถวที่ทำงานหลังจากเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสักตอน ๗.๓๐ น. เห็นแม่ขอทานเอาลูกสักขวบนิดๆ มาด้วย เด็กใส่แต่เสื้อ กำลังเล่นของเล่นพลาสติกสีสดใสอยู่ตามประสาเด็ก
ตอนเย็นสัก ๔ โมงครึ่งพี่เดินกลับข้ามสะพานลอยตัวเดิมไปเอารถ...เจอแม่ลูกคู่เดิม คราวนี้ลูกนอนตักแม่ แล้วแม่กางร่มกันแดดที่ร้อนมากไว้ให้อยู่..
พี่เห็นแล้วก็ย้อนมาดูตัวเรา... เห็นความเหมือนในความเป็นมนุษย์ที่ร้อนหนาวเหมือนกัน แต่เห็นความแตกต่างของโอกาสในชีวิตมากๆ ก็ได้แต่ตั้งสติแล้วเดินต่อ แล้วก็แผ่เมตตาให้กับเด็กและแม่ของเด็ก...
ครับ...คุณกบ...
ข้อคิดดี ๆ นี้มีในหนังสือไตรรัตน์ 3 ที่คุณกบส่งมาให้ผมด้วยครับ อ่านแล้วยังจำได้อยู่ครับ...
เลยไปคัดลอกมาเพิ่มเติมให้ครับ...
โรงพยาบาลเป็นสถานที่บำบัดทุกข์ของมนุษย์เราอย่างน้อย 3 ประการ คือ...
ชาติทุกข์...ความเดือดร้อนเวลาเกิด
ชราทุกข์...ความเดือดร้อนเมื่อความแก่มาถึง
และ พยาธิทุกข์...ความเดือดร้อนในยามเจ็บไข้ได้ป่วย
ขอบคุณมากครับ...
สวัสดีครับพี่ดร.กมลวัลย์
...เมื่อมองเห็นความเหมือนในความต่าง
จงเร่งสร้างความเพียรเรียนที่จิต
ปฏิบัติภาวนาอยู่เป็นนิจ
เพื่อพิชิตจิตหมองให้ผ่องใส...
สวัสดีค่ะ
คุณสาธิตเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง บาร์โด มรณานุสติ ของธิเบตไหมคะ พอดี ดร.โสรัจจ์ -ดร.กฤษฎาวรรณ หงลดารมณ์ ท่านกรุณาให้หนังสือมา
เป็นแนวทางของทางวัชรยาน
อ่านดูแล้ว น่าสนใจ เจาะลึกไปว่า ขณะที่จิตกับกายกำลังจะแยกออกจากกัน จะเป็นช่วงที่ทุกข์ทรมานมาก
ดิน น้ำ ลม ไฟ กำลังจะแตกสลาย จะเหลือธาตุอยู่ 2 ธาตุ คือ ธาตุสีขาว ที่เป็นตัวแทนพ่อ และธาตุสีแดง ที่เป็นตัวแทน แม่ ธาตุสีขาวมาจับตรงกระหม่อม ธาตุสีแดง มาจับตรงสะดือ ถึงตรงนี้ ทางการแพทย์ จะระบุว่า ตายแล้ว
คุณพ่อของพี่เอง นอนหลับไป 2 วัน และตื่น มาขอน้ำทาน บอกง่วง ขอนอน เลยไม่กลับมา
ตรงกับที่ทางธิเบต บอกว่า ในระยะ 3 วันอย่าเพิ่งเผา เพราะอาจกลับมาอีกได้ เป็นการไปจำศีล ซึ่งภาวะนี้ คนเป็นๆ ทำไม่ได้
นี่ก็เป็นศาสนาพุทธ เหมือนกัน แต่คนละนิกายค่ะ
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา เราไปเยี่ยมให้กำลังใจ แนะนำสิ่งดีๆ อยากให้เขาพ้นทุกข์ค่ะ
แต่เมื่อการเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด ก็ขอให้เขาไปสู่สุคติ ไปสวรรค์ ค่ะ
ใช่ครับ....ความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้ไม่สบาย ความพลัดพรากจากสิ่งของหรือบุคคลอันเป็นที่รักที่ชอบใจ และสุดท้ายความตาย....นั้นเป็นทุกข์
มีตรรกะง่ายๆอยากแลกเปลี่ยนครับ...
พระท่านกล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ต้องเกิดซิ จะได้ไม่ทุกข์
สวัสดีครับพี่ศศินันท์
แสดงความเสียใจด้วยครับ
และเชื่อว่าเสี้ยวเวลาสุดท้ายของเขาคงเป็นเวลาที่ดีมีสติพร้อมที่สุดครับ
สวัสดีครับคุณ Sirintip ...ที่นำพาคำพระมาฝากกัน...ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับคุณต้อม
เมนู เอ๊ย!! บันทึกที่อยากได้ค่ะ ^_^
ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ แต่ทำทางด้านคอมพิวเตอร์ก็เลยไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วยเท่าไรนัก แต่ก็ต้องเดินผ่านหรือต้องเห็นอยู่ตลอด ทำให้รู้สึกปลงค่ะ เห็นแล้วเกิดความสงสาร สังขารไม่เที่ยง ครั้งหนึ่งเคยเข้าลิฟท์ตอนเช้ามืดช่วงที่เวรเปลกำลังเข็ญศพลงมาจากชั้น9เพื่อนำมาไว้ห้องเก็บศพพอดี เราก็อยู่ในลิฟท์นั้นพอดีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้พิจารณาเห็นเลยว่า คนเรานี้หนอ ก็มีเท่านี้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย หากเราไม่เร่งปฏิบัติ เพียรภาวนา คงต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน...
ว่าแล้วก็มุ่งปฏิบัติเอามรรคผลกันเถิดนะคะ ขอให้กุศลผลบุญเกิดแก่ทุกท่านผู้ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์นะคะ
ยินดีด้วยครับ...คุณฝน
"ครั้งหนึ่งเคยเข้าลิฟท์ตอนเช้ามืดช่วงที่เวรเปลกำลังเข็ญศพลงมาจากชั้น9เพื่อนำมาไว้ห้องเก็บศพพอดี เราก็อยู่ในลิฟท์นั้นพอดีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้พิจารณาเห็นเลยว่า คนเรานี้หนอ ก็มีเท่านี้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย หากเราไม่เร่งปฏิบัติ เพียรภาวนา คงต้องวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน"...แบบนี้เขาเรียกว่าไตรลักษณ์ เดลิเวอรี่ ครับ อิอิ
การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐครับป้าแดง
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับพี่กบ
ผมอยู่กับความเจ็บป่วยทุกวันครับ
แต่บางทีจิตก็ไปติดที่โรคอะไร จะรักษาอย่างไร
จะได้ก็เมื่อมันกระทบความรู้สึกมากๆครับ
เช่นการเสียชีวิต การเจ็บป่วยรุนแรง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆครับ
ทำให้ผมได้สติขึ้นมามากๆครับ
เพราะช่วงนี้หลุดไปเยอะครับ
สวัสดีครับน้องหมอสุพัฒน์