ปี ค.ศ.1982 ฟิสคิน (Fishkin, James S.) ได้ออกหนังสือชื่อ The Limits of Obligation ซึ่งมีเนื้อหาตอนหนึ่งได้นำเสนอเรื่องการจัดประเภทฯ ไว้ด้วย แต่แตกต่างจากนัยที่นำเสนอมาตอนต้น และเพราะอ้างถึงการกระทำเหนือหน้าที่ด้วย ผู้เขียนจึงนำมาเล่าไว้ ณ. ที่นี้...
ฟิสคินได้อาศัยคำว่า ควร (ought to) เป็นฐานคิดแล้วก็ได้จัดประเภทการกระทำออกเป็น ๓ กรอบ แต่มิใช่กรอบการจัดฯ ตามประเพณีที่นำเสนอไว้แล้ว โดยเขาจำแนกไว้ดังนี้...
จัดเป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำทางศีลธรรมโดยประการทั้งปวง ไม่เกี่ยวข้องอยู่กับคำว่า ควรทางศีลธรรม และมิใช่การกระทำที่ผิดถูก หรือดีเลว
.........
จัดเป็นการกระทำที่ถูกกำหนดว่า ผิดถูก หรือดีเลว... ถ้าเป็นสิ่งที่ดีหรือถูก ก็จัดเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ควรแก่การยกย่องสรรเสริญ... แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เลวหรือผิด ก็จัดเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ น่าตำหนิติเตียน
.......
มีนัยที่ต่างไปจากสองข้อแรก กล่าวคือ เป็นสิ่งที่ดีและควรกระทำ แต่มิใช่สิ่งที่น่าติเตียนทางศีลธรรม... หรือเป็นสิ่งที่ไม่ี่ผิด ถ้าไม่กระทำ นั่นคือ ไม่มีใครสามารถตำหนิติเตียนโดยเหตุผลได้เลย ถ้าเราจะไม่กระทำการกระทำชนิดนี้ เพราะอยู่เหนือการเรียกร้องตามหน้าที่
.......
ฟิสคินได้แยกระดับความหมายของคำว่า ควร เป็น ๒ ระดับเพื่อให้เห็นความแตกต่างของการบังคับสิ่งที่ควรกระทำทางศีลธรรมยิ่งขึ้น ดังนี้
เขาได้อธิบายว่า ควรระดับอ่อน เป็นการกระทำที่ควรแก่การยกย่องสรรเสริญ แต่ถ้าเราล้มเหลวก็ไม่ควรแก่การตำหนิติเตียนทางศีลธรรม นั่นคือ การกระทำที่ควรกระทำในระดับอ่อนนี้ อยู่ในกรอบของการกระทำเหนือหน้าที่....
ส่วน การกระทำที่ควรกระทำในระดับแข็ง เป็นการกระทำที่ควรแก่การยกย่องสรรเสริญในเมื่อดำเนินการสำเร็จ และน่าตำหนิติเตียนในกรณีที่ดำเนินการล้มเหลวหรือไม่ดำเนินการ... ควรระดับแข็ง นี้ ฟิสคินบอกว่าตกอยู่ภายในกรอบของข้อกำหนดทางศีลธรรม
..........
ต่อมาโปฌองพ์ได้นำเสนอแนวคิดเรื่องมาตรฐานศีลธรรม ๒ ระดับ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางทฤษฎีจริยศาสตร์ โดยเขาได้นำแนวคิดเรื่องควรระดับอ่อนและแข็งนี้ไปจัดประเภทการกระทำไว้ ๒ ระดับ ซึ่งผู้เขียนค่อยนำมาเสนอในตอนต่อไป....
ไม่มีความเห็น