วันนี้คุณดูแล...ดวงตาคุณแล้วหรือยัง ?


ใส่ใจและถนอมดวงตาบ้าง... หาอาหารที่มีประโยชน์บำรุงแก่สายตาบ้าง... อย่านอนดึกจนเกินไป... เหนื่อยนัก ก็พักเสียบ้าง อย่าทรมานสายตานาน ๆ เพราะระวังดวงตาคุณจะเออร์เลอร์เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์นะจะบอกให้

            ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนได้เสนอเรื่อง...ถึงเวลา...พักสายตา  และ  มารู้จักวิตามิน + แร่ธาตุ สำหรับคนสายตาสั้นกันเถอะ  ซึ่งเกี่ยวกับสายตาทั้งนั้น  วันนี้ก็อีกเช่นกัน...ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องตาอีกนั่นล่ะค่ะ...

             ดวงตาของคนเรานั้นสำคัญไฉน ?...ถึงต้องดูแลอย่างละเอียดอ่อน  ก็ไม่เพราะดวงตาเรานี่นะหรือ ที่ทำให้เราได้มองเห็นสรรพสิ่งในโลกนี้  ก็ไม่เพราะดวงตานี่นะหรือ  ที่สื่อความหมายต่าง ๆ ตั้งมากมายของคนเรา...     

           วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องตาอีก 2 เรื่องด้วยกัน  คือ ตาคุณแห้งหรือเปล่า และ วิธีพักสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์  ค่ะ...







 1. ตาคุณแห้งหรือเปล่า
 
   

          
โดยปกติน้ำตาของคนเราจะมีหน้าที่ในการให้ความชุ่มชื้นแก่กระจกตาและเยื่อบุตาขาว ช่วยปรับสภาพของกระจกตาให้มีความเรียบเพื่อให้แสงผ่านได้สะดวกทำให้การมองเห็นชัดเจน ช่วยป้องกันการติดเชื้อของกระจกตา และยังช่วยขจัดของเสียออกจากกระจกตาด้วยผ

            น้ำตาคนเรานั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นไขมัน มีหน้าที่ป้องกันการระเหยของน้ำตา ชั้นน้ำ เป็นขั้นที่หนาที่สุดเป็นตัวที่ให้อาหารและออกซิเจนหล่อเลี้ยงแก้วตา ชั้นเยื่อเมือก มีหน้าที่ปรับสภาพของกระจกตา ทำให้น้ำตากระจายตัวได้อย่างรวดเร็วเวลากะพริบตา     

           
 สำหรับโรคตาแห้งนั้น
เกิดจากร่างกายผลิตน้ำตาที่ใช้ในการหล่อลื่นกระจกตาและเยื่อบุตาขาวไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ตาแห้ง ตาแดง ระคายเคืองที่ตา แสบตา ไม่สบายตา ตาพร่ามัว  ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดตา มักจะพบในผู้หญิงที่อยู่ในวัยสูงอายุ  ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคตาแห้งมีดังนี้

            
สภาพอากาศ อากาศร้อน อากาศแห้ง มีลมแรง          
           
-  สภาพแวดล้อม ผู้ที่ต้องทำงานในห้องแอร์ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น
               ควันมาก

            -  อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
            -  การใส่คอนแทคเลนส์

           
วิธีการป้องกันรักษานั้นทำได้โดย

           
-   หลีกเลี่ยงการขยี้ตา
           -   ดื่มน้ำมาก ๆ
           -   เวลาอ่านหนังสือหรือทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ควรหยุดพัก
               และกะพริบตาบ่อย ๆ

2. วิธีการพักสายตา จากการใช้ คอมพิวเตอร์          

         
คนเราส่วนใหญ่จะนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน  มีบางครั้งเกิดอาการล้าสายตา หรือปวดตา ทำให้เกิดการระคายเคือง  ตาอักเสบ ขึ้นมาได้


         
วิธีการช่วยบรรเทาการปวดตา  มีดังนี้

         1. หลับตา แล้วเกือกตาไปมา ซ้าย ขวา บน ล่าง และหลับให้นิ่งประมาณ 5 นาที

         2. ออกไปสูดอากาศหายใจจะได้ผ่อนคลายไปในตัว

         3. มองดูอะไรก็ได้ที่เป็นสีเขียว เช่น ต้นไม้ สนามหญ้า ฯลฯ หรืออะไรก็ได้ ที่มองแล้วสบายหูสบายตา วิธีนี้ส่วนมากใช้ได้ผล 70%

        4. หาอุปกรณ์ เช่น แว่น ฯลฯ
      

        
เมื่อเทคโนโลยีมันก้าวมาถึงขีดที่คอมพิวเตอร์ซึ่งเคยแสนวิเศษ กำลังจะกลายเป็นอุปกรณ์ธรรมดา ๆ ที่จำเป็นต้องมีของทุกหน่วยงาน ทุกคนต้องใช้ได้ ใช้เป็น และเรากำลังหลงใหลได้ปลื้มกับความสามารถของคอมพิวเตอร์ จนลืมนึกถึงพิษภัยที่มันมากับคอมพิวเตอร์ แม้จะไม่ใช่ทางตรงทีเดียวกันก็ตาม พิษภัยนี้มีไว้สำหรับท่านที่นั่งใช้อยู่หน้าจอเป็นประจำเท่านั้น โดยเฉพาะท่านที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอเกิน
6 ชั่วโมงต่อวัน จากการนั่งทำงานเป็นประจำ ผลกระทบต่อสุขภาพเบื้องต้นที่แน่ ๆ ก็คือ ปวดหลัง ปวดไหล่ ต้นคอ และข้อมือ เกิดอาการเครียดที่ตา เพราะขณะมองจอนั้นผู้ใช้มักไม่กะพริบตา เป็นผลให้ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเกิดอาการระคายเคืองได้ และอาการที่ตามมาคือตาพร่าและมองไม่เห็นชั่วคราว นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการไมเกรนพ่วงมาด้วย

    
  ปัญหาทางตาเป็นปัญหาที่น่าห่วงมาก เพราะเมื่อตาเกิดความเครียดกล้ามเนื้อตา จะบีบรัดเลนส์ตาจนเกิดความเมื่อยล้า หมอจึงแนะนำว่า ถ้าต้องใช้สายตาอยู่กับจอนาน ๆ ควรพักสายตาทุกสิบนาที ด้วยการเปลี่ยนไปมองวัตถุที่อยู่ไกลออกไปสัก 20 ฟุต มองสัก 2-3 นาทีแล้วค่อยมองจอต่อ จักษุแพทย์ได้แนะให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ ต้องพักสายตาให้มองไกลทุก 10 นาที และท่านที่มีปัญหาสายตาสวมแว่นอยู่แล้วนั้น ถ้าต้องมารับหน้าที่อยู่หน้าจอนาน ๆ ควรมีแว่นตาเฉพาะสำหรับงานหน้าจอนี้ด้วยอีกอันหนึ่ง ซึ่งแตกต่างไปจากแว่นตาที่ใช้ยามปกติ  ส่วนจะแตกต่างอย่างไร คงต้องปรึกษาจักษุแพทย์ และในขณะเดียวกันท่านเหล่านี้ควรได้รับการตรวจวัดสายตาเป็นประจำ เพื่อให้ได้ขนาดเลนส์ที่เหมาะสม

        นอกจากนี้ เพื่อเป็นการถนอมสายตาที่ยังไม่มีปัญหา ท่านไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีสว่างขณะนั่งหน้าจอ เพราะสีของเสื้อจะไปทำให้เกิดแสงสะท้อนบนจอภาพได้ และแสงสะท้อนนี้แหละที่จะทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้ากว่าปกติ  และยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตาเมื่อยล้าได้คือ ถ้าแสงจากจอสว่างน้อยกว่าแสงโดยรอบ...  

         
         

      วันนี้คุณดูแลดวงตาคุณแล้วหรือยัง ? 

                 ใส่ใจและถนอมดวงตาบ้าง...       หาอาหารที่มีประโยชน์บำรุงแก่สายตาบ้าง...      อย่านอนดึกจนเกินไป...      เหนื่อยนัก  ก็พักเสียบ้าง  อย่าทรมานสายตานาน ๆ  เพราะระวังดวงตาคุณจะเออร์เลอร์เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์นะค่ะ จะบอกให้.../









ที่มาจาก :  นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 136   เกร็ดสุขภาพ

                 
http://www.cheewajit.com/health.asp?hid=453 

             :   http://www.saranair.com/article.php?sid=16282 



 

คำสำคัญ (Tags): #no tag
หมายเลขบันทึก: 142160เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2007 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
  • ดีจังเลยอ้อยควั้น
  • นกนั่งหน้าคอมตั้งแต่เช้ากลับมาถึงก็ยังอยู่เลยคะไม่ได้ดูจริง
  • และก็ได้หลับ หลับตา แล้วเกือกตาไปมา
  • ขอบคุณมากคะ

สวัสดีสาวใต้

  • พี่ชายตามไอ้นกมา
  • วันนี้เห็นนกดมโหเจ้านายเลยตามดูว่ามาบ่นที่ไหนบ้าง คิคิ
  • พอได้พักสายตานกคงใจดีขึ้น
  • ข้อเขียนพี่อ่านสองรอบเพราะต้องการเอาไปทำ สำนวนน่าจะถอดมาเป็นสำนวนตัวเล้กเองจะดีไหมคงสาระของเขาไว้แต่เล่าให้อ่านง่ายไง
  • พี่ติเพื่อก่อนะ  ห้ามโกรธ

สวัสดีคัวเล็ก พ่ชายลองสรุปสาระที่น้องเขียนลองพิจารณาดูนะ ถ้าอ่านดูแล้วให้ลบทิ้ง...พี่ย่อให้ดูเล่นไม้ย่อมากนักยังมีลีลาน้องอยู่....

 

ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนได้เสนอเรื่อง...ถึงเวลา...พักสายตา  และ  มารู้จักวิตามิน + แร่ธาตุ สำหรับคนสายตาสั้นกันเถอะ  ซึ่งเกี่ยวกับสายตาทั้งนั้น  วันนี้ก็อีกเช่นกัน...ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องตาอีกนั่นล่ะค่ะ...

             ดวงตาของคนเรานั้นสำคัญต้องดูแลอย่างละเอียดอ่อนเพราะดวงตา ที่ทำให้เราได้มองเห็นสรรพสิ่งในโลกและสื่อความหมายต่าง ๆ ตั้งมากมายด้วยสายตา...     

           วันนี้ ตาคุณแห้งหรือเปล่า และคุณรู้ วิธีพักสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ ไหม...


 1. ตาคุณแห้งหรือเปล่า
    

          โดยปกติน้ำตาจะความชุ่มชื้นแก่กระจกตาและเยื่อบุตาขาว ช่วยปรับสภาพของกระจกตาให้มีความเรียบ เพื่อให้แสงผ่านได้สะดวกทำให้การมองเห็นชัดเจน ช่วยป้องกันการติดเชื้อของกระจกตา และยังช่วยขจัดของเสียออกจากกระจกตาด้วย

            น้ำตาคนเรานั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ

                ชั้นไขมัน มีหน้าที่ป้องกันการระเหยของน้ำตา

                ชั้นน้ำ ให้อาหารและออกซิเจนหล่อเลี้ยงแก้วตา

                ชั้นเยื่อเมือก ปรับสภาพของกระจกตา ทำให้น้ำตากระจายตัวได้อย่างรวดเร็วเวลากะพริบตา     

            สำหรับโรคตาแห้งนั้นเกิดจากร่างกายผลิตน้ำตาที่ใช้ในการหล่อลื่นกระจกตาและเยื่อบุตาขาวไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ตาแห้ง ตาแดง ระคายเคืองที่ตา แสบตา ไม่สบายตา ตาพร่ามัว  ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดตา มักจะพบในผู้หญิงที่อยู่ในวัยสูงอายุ  

สาเหตุของการเกิดโรคตาแห้งมีดังนี้

            
สภาพอากาศ อากาศร้อน อากาศแห้ง มีลมแรง          
            -  สภาพแวดล้อมทำงานในห้องแอร์ หรือสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น
               ควันมาก
            -  อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน
            -  การใส่คอนแทคเลนส์

           
วิธีการป้องกันรักษานั้นทำได้โดย


           
-   หลีกเลี่ยงการขยี้ตา
           -   ดื่มน้ำมาก ๆ
           -   เวลาอ่านหนังสือหรือทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ควรหยุดพัก  และกะพริบตาบ่อย ๆ

2. วิธีการพักสายตา จากการใช้ คอมพิวเตอร์          

          คนเราเมาอทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน  มีบางครั้งเกิดอาการล้าสายตา หรือปวดตา ทำให้เกิดการระคายเคือง  ตาอักเสบ ขึ้นมาได้  
วิธีการช่วยบรรเทาการปวดตา
 มีดังนี้

         1. หลับตา แล้วเกือกตาไปมา ซ้าย ขวา บน ล่าง และหลับให้นิ่งประมาณ 5 นาที

         2. ออกไปสูดอากาศหายใจ จะได้ผ่อนคลายไปในตัว

         3. มองดูอะไรก็ได้ที่เป็นสีเขียว เช่น ต้นไม้ สนามหญ้า ฯลฯ หรืออะไรก็ได้ ที่มองแล้วสบายหูสบายตา วิธีนี้ส่วนมากใช้ได้ผล 70%

        4. หาอุปกรณ์ เช่น แว่น ฯลฯ      

         เมื่อคอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีของทุกหน่วยงาน ทุกคนต้องใช้ได้ และเรากำลังหลงใหลกับความสามารถของคอมพิวเตอร์ จนลืมนึกถึงพิษภัยที่มันมากับคอมพิวเตอร์ แม้จะไม่ใช่ทางตรงทีเดียวก็ตาม พิษภัยนี้มีสำหรับท่านที่นั่งใช้อยู่หน้าจอเกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน ผลกระทบต่อสุขภาพเบื้องต้นที่แน่ ๆ ก็คือ ปวดหลัง ปวดไหล่ ต้นคอ และข้อมือ เกิดอาการเครียดที่ตา เพราะขณะมองจอนั้นผู้ใช้มักไม่กะพริบตา เป็นผลให้ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเกิดอาการระคายเคืองได้ และอาการที่ตามมาคือตาพร่าและมองไม่เห็นชั่วคราว นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการไมเกรนพ่วงมาด้วย

    
  ปัญหาทางตาเป็นปัญหาที่น่าห่วงมาก เพราะเมื่อตาเกิดความเครียดกล้ามเนื้อตา จะบีบรัดเลนส์ตาจนเกิดความเมื่อยล้า  ถ้าต้องใช้สายตาอยู่กับจอคอมฯนาน ๆ ควรพักสายตาทุกสิบนาที ด้วยการเปลี่ยนไปมองวัตถุที่อยู่ไกลออกไปสัก
20 ฟุต มองสัก 2-3 นาทีแล้วค่อยมองจอต่อ  และท่านที่มีปัญหาสายตาสวมแว่นอยู่แล้วนั้น ถ้าต้องมารับหน้าที่อยู่หน้าจอนาน ๆ ควรมีแว่นตาเฉพาะสำหรับงานหน้าจอนี้ด้วยอีกอันหนึ่ง ซึ่งแตกต่างไปจากแว่นตาที่ใช้ยามปกติ  ส่วนจะแตกต่างอย่างไร คงต้องปรึกษาจักษุแพทย์ และในขณะเดียวกันท่านเหล่านี้ควรได้รับการตรวจวัดสายตาเป็นประจำ เพื่อให้ได้ขนาดเลนส์ที่เหมาะสม

        นอกจากนี้ เพื่อเป็นการถนอมสายตาที่ยังไม่มีปัญหา ท่านไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีสว่างขณะนั่งหน้าจอ เพราะสีของเสื้อจะไปทำให้เกิดแสงสะท้อนบนจอภาพได้ และแสงสะท้อนนี้แหละที่จะทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้ากว่าปกติ  และยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตาเมื่อยล้าได้คือ ถ้าแสงจากจอสว่างน้อยกว่าแสงโดยรอบ...  
            

      วันนี้คุณดูแลดวงตาคุณแล้วหรือยัง ? 

                 ใส่ใจและถนอมดวงตาบ้าง...       หาอาหารที่มีประโยชน์บำรุงแก่สายตาบ้าง...      อย่านอนดึกจนเกินไป...      เหนื่อยนัก...ก็พักเสียบ้าง  อย่าทรมานสายตานาน ๆ  เพราะระวังดวงตาคุณจะเออร์เลอร์เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์นะค่ะ จะบอกให้.../

สวัสดีค่ะ อ้อยควั้น

อ่านสำนวนของเจ้าของบันทึก   และ สำนวน  ติเพื่อก่อ  แล้วจ้า....

ขอบคุณมากๆ......เป็นข้อแนะนำที่สมควรนำไปปฏิบัติอย่างยิ่ง...

ว่าแล้วต้องรีบพักสายตาเสียหน่อย....

  • ขอบคุณ คุณนกP รัตน์ชนก มากค่ะ
  • อย่าลืมพักผ่อนบ้างนะค่ะ
  • ขอบคุณ พี่โกศล P อาจารย์ โกศล คงสมปราชญ์ มากค่ะ สำหรับคำแนะนำดี ๆ และช่วยสรุปสาระให้ด้วย น่ารักจัง อิอิ
  • ไม่โกรธหรอกค่ะ ติเพื่อก่อ
  • ยินดีอย่างยิ่งค่ะ
  • ขอบคุณ ครู P  หญ้าบัว มากค่ะ ที่แวะมาทักทายกัน 
  • พักผ่อนบ้างนะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณอ้อยควั้น

   ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ พี่เป็นคนสายตาสั้นมากๆ ต้องใส่คอนแทคเลนซ์ เวลาเดินห้างตาจะแห้ง เพราะเดินโต้แอร์ ค่ะ

 แต่พอเข้าบล็อกนี้ ก้เท่ากับพัดสายตาไปด้วย มองควาสวยงาม ตั้งแต่บล็อก จนถึงภาพเจ้าของค่ะสวยจัง

สวัสดีคุณอ้อยควั้น

                   ลองทำดูแล้ว หลับตาแล้วกรอกตาไปมา ๕ นาที ลืมตาขึ้นอีกที ไอย๋าตาหวางเลยนิ

                    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม

สวัสดีครับ P

  • ตั้งแต่ตี2 ทดลองหลับตาแล้วกรอกไปมาๆๆ
  • ตื่นมาอีกที เมื้อตะกี้นี้เอง
  • ยังไม่ได้ล้างหน้าเลย รีบตอบคอมเม้นท์ก่อน เดี๋ยวหลับอีก..อิอิ

สวัสดีครับ  น้องอ้อยควั่น

  • บอกให้เขาพักสายตา
  • บอกให้เขาดูแลดวงตา
  • แต่เขียนมายาวๆๆ
  • แต่ก็มีประโยชน์มาก
  • น่าจะบอกตั้งนานแล้ว
  • จะได้ไม่ต้องตัดแว่นใหม่
  • ขอบคุณมาก
  • ขอบคุณ คุณP  ตันติราพันธ์ มากค่ะ สำหรับคำชม
  • เวลาเดินทาง ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ จะทำให้ตาแห้งมาก...เป็นเหมือนกันค่ะ
  • ก็เลยเปลี่ยนมาใส่แว่นแทน เวลาเดินทางไกลค่ะ   
  • ขอบคุณ คุณP คำสุวรรณ์ มากค่ะ
  • ดีจังที่ทำให้.. ไอย๋าตาหวางเลยนิ อิอิ
  • ขอบคุณ คุณP  สะ-มะ-นึ-กะ มากค่ะ
  • ฮั่นแน่...มีการอมขี้ฟันมาคอมเม้นท์ก่อนสะด้วย อิอิ
  • ขอบคุณ พี่ยาว P เกษตรยะลา มากค่ะ
  • อะแหม...พี่ยาว  นิด ๆ หน่อย ๆ นะ เพื่อประโยชน์ต่อดวงตา
  • วันนี้เป็นย่าโสมเฝ้าทรัพย์ให้กับสำนักงาน (อยู่เวร)
  • สงสัยคงไม่ได้พักสายตาเสียแล้วละมั่งนี่ เพราะคงอยู่หน้าจอคอม ฯ ทั้งวัน อิอิ

  • ตามมาดู
  • สายตาสำคัญจริงๆๆ
  • อยากบอกว่าสายตาสั้นมากกว่าเดิมครับ
  • ขอบคุณ อ.P  ขจิต ฝอยทอง มากค่ะ
  • หาเวลาพักผ่อนบ้างนะค่ะอาจารย์
  • อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมดูแลตัวเองนะค่ะ

สวัสดีครับ

ช่วงนี้มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ  เห็นเขียนเรื่อง "ดวงตา"  ติดต่อกัน

เลยอดนำสำนวนมาฝากไม่ได้

การทำอะไรสักอย่างโดยปราศจากการรับฟังความคิดของผู้อื่น   เสมือนการมองอะไรด้วยดวงตาเพียงด้านเดียว

เกี่ยวกันหรือเปล่าครับ... แต่ยังไงก็มีคำว่าดวงตาบ้างแหละ..

ขอบคุณครับ

 

  • สวัสดีค่ะ
  • มาทักทายด้วยความคิดถึง
  • ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดี
  • ตอนนี้สายตาเริ่มจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
  • คงเป็นสัญญาณบอกว่า ..... อิอิ
  • สวัสดีครับ
  • ตอนนี้เร่งกินวิตามิน A ไม่รู้ว่าจะทันไปบำรุงตาหรือเปล่า
  • ห่วงอยู่เหมือนกันอยู่หน้าจอคอมวันละเกิน 8 ชั่วโมง
  • ขอบคุณ อ.P แผ่นดิน ที่แวะมา และสำหรับสำนวนดี ๆ มากค่ะ
  • ช่วงก่อนหน้านี้งานยุ่ง ใช้งานดวงตาหนักไปหน่อยค่ะ
  • เลยต้องสรรหาวิธีการมาบำรุงกันบ้างนะค่ะอาจารย์
  • ขอบคุณ คุณ PRAK-NA มากค่ะที่แวะมาทักทายกัน
  • ขอบคุณ คุณ Pสุดทางบูรพา มากค่ะ ใช่ค่ะ วิตามินเอ บำรุงสายตา
  • เหมือนกันเลยค่ะ วัน ๆ อยู่แต่หน้าจอคอม ฯ วันละ 8-9 ชั่วโมง บางวันดวงตาอ่อนล้ามากค่ะ
  • ต้องหาอะไรบำรุงกันบ้างแล้ว
  • ขอบอกว่าเป็นคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ตลอดเวลา  ได้อ่านก็เริ่มกลัวแล้วซิคะ  คงต้องถอยห่างออกมาจากคอมพิวเตอร์บ้างแล้ว  ขอบคุณนะคะ
  • สำหรับข้อมียังไม่เป็นนะคะ  สำหรับโรคตาแห้งนั้นเกิดจากร่างกายผลิตน้ำตาที่ใช้ในการหล่อลื่นกระจกตาและเยื่อบุตาขาวไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ตาแห้ง ตาแดง ระคายเคืองที่ตา แสบตา ไม่สบายตา ตาพร่ามัว  ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดตา มักจะพบในผู้หญิงที่อยู่ในวัยสูงอายุ ... คิคิ

* หวัดดีครับ

*** ดวงตาคนเรามีความสำคัญมากครับ ในการพักสายตา อาจจะเปลี่ยนจากจุดที่มองอยู่ไปเป็นจุดอื่นๆ ก็ได้นะครับ เพื่อเป็นการผ่อนคลายอาการเคร็งของดวงตาครับ

  • ขอบคุณ  คุณ P ทะเลดาว มากค่ะ
  • ที่แวะมาทุกทายกัน
  • อิอิ จะบอกว่าตัวเองยังไม่สูงอายุล่ะสิ
  • การใช้คอม ฯ เป็นการสะดวกสบายก็จริง แต่ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือไม่ถูกวิธี มันก็มีผลย้อนกลับมาได้ค่ะ
  • เพราะฉะนั้นเราต้องมีการถนอมดวงตากันบ้าง อย่าใช้งานหนักจนเกินไป....
  • ขอบคุณ คุณ P. เธียรไชยา มากค่ะ  
  • ใช่ค่ะ ดวงตามีความสำคัญมาก เพราะฉะนั้นเราต้องใช้ดวงตาอย่างถนอม และมีการผ่อนคลายดวงตาบ้าง เพื่อยืดอายุการใช้งานไปได้นาน ๆ ค่ะ 
  • หวัดดีครับคุณ อ้อยควั้น
  • แผ่นกรองแสง หน้าจอ จะได้ผลบ้างมั๊ยครับ
  • ขอบคุณที่มีสิ่งดีๆมาฝากครับ
  • ขอบคุณ พี่ชัยพร P  หนุ่ม ร้อยเกาะ มากค่ะ
  • ที่แวะมาทักทายกัน
  • แผ่นกรองแสงหน้าจอ ก็อาจจะช่วยได้บ้างค่ะ แต่คงไม่ทั้งหมดค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท