มหาสุทัสสนสูตร ๓


 

การสร้างธรรมปราสาท

          [ ๑๗๗] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพได้ทรงทราบ พระดำริของพระเจ้ามหาสุทัสสนะ จึงมีเทว โองการตรัสเรียกวิศวกรรมเทพบุตรมา สั่งว่า เพื่อนวิศวกรรม เธอจงมานี่เถิด เธอจงไปสร้างนิเวศน์ชื่อว่าธรรมปราสาท เพื่อพระเจ้ามหาสุทัสสนะ

          ดูกรอานนท์ วิศวกรรมเทวบุตรรับสนองเทวบัญชาแล้ว อันตรธานไปจากดาวดึงสเทวโลก ได้ปรากฏเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้ามหา สุทัสสนะ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีกำลัง เหยียดแขนที่คู้ออกหรือคู้แขนที่เหยียดเข้า ฉะนั้น

          ดูกรอานนท์ ลำดับนั้น วิศวกรรมเทวบุตร ได้กราบทูลพระเจ้ามหาสุทัสสนะว่า ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าจักนิรมิตนิเวศน์ชื่อธรรมปราสาทถวายพระองค์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงรับด้วยดุษณีภาพ ฯ

          
ดูกรอานนท์ วิศวกรรมเทวบุตรได้นิรมิตนิเวศน์ชื่อธรรมปราสาท แด่ พระเจ้ามหาสุทัสสนะ ธรรมปราสาทได้มีปริมาณโดยยาวหนึ่งโยชน์ ด้านปุรัตถิมทิศและปัจจิมทิศ โดยกว้างกึ่งโยชน์ ด้านอุตตรทิศและทักษิณทิศ

          ดูกรอานนท์ ธรรมปราสาทมีวัตถุที่ก่อด้วยอิฐ ๔ ชนิด โดยส่วนสูงกว่าสามชั่วบุรุษ คือ อิฐ ชนิดหนึ่งแล้วด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงิน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วผลึก ธรรมปราสาทมีเสาแปดหมื่นสี่พันต้น แบ่งเป็นสี่ชนิด เสาชนิดหนึ่งแล้วด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงิน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วผลึก ธรรมปราสาทปูลาดด้วยแผ่นกระดาน ๔ ชนิด กระดาน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงิน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วผลึก ธรรมปราสาทมีบันได ๒๔ บันได แบ่งเป็น ๔ ชนิด บันไดชนิดหนึ่งแล้วด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงิน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วผลึก............... บันไดที่แล้วด้วยทอง แม่บันไดแล้วด้วยทอง ลูกบันไดและพนักแล้วด้วยเงิน บันไดที่แล้วด้วยเงิน แม่บันไดแล้วด้วยเงิน ลูกบันไดและพนักแล้วด้วยทอง บันไดที่แล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ แม่บันไดแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ลูกบันไดและพนักแล้วด้วยแก้วผลึก บันไดที่แล้วด้วยแก้วผลึก แม่บันไดแล้วด้วยแก้วผลึก ลูกบันไดและพนักแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์

          ในธรรมปราสาทมีเรือนยอดแปดหมื่นสี่พัน แบ่งเป็น ๔ ชนิด เรือนยอดชนิดหนึ่งแล้ว ด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงินชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่งแล้ว ด้วยแก้วผลึก ในเรือนยอดแล้วด้วยทอง แต่งตั้งบัลลังก์เงินไว้ ในเรือนยอด แล้วด้วยเงิน แต่งตั้งบัลลังก์ทองไว้ ในเรือนยอดแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ แต่งตั้ง บัลลังก์งาไว้ ในเรือนยอดแล้วด้วยแก้วผลึก แต่งตั้งบัลลังก์แล้วด้วยแก้วบุษราคัม ไว้ ที่ประตูเรือนยอดแล้วด้วยทอง มีต้นตาลแล้วด้วยเงินตั้งอยู่ ลำต้นของต้นตาลนั้นแล้วด้วยเงิน ใบและผลแล้วด้วยทอง ที่ประตูเรือนยอดแล้วด้วยเงิน มีต้นตาลแล้วด้วยทองตั้งอยู่ ลำต้นของต้นตาลนั้นแล้วด้วยทอง ใบและผลแล้วด้วยเงิน ที่ประตูเรือนยอดแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ มีต้นตาลแล้วด้วยแก้วผลึกตั้งอยู่ลำต้นของต้นตาลนั้นแล้วด้วยแก้วผลึก ใบและผลแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ที่ประตูเรือนยอดแล้วด้วยแก้วผลึก มีต้นตาลแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ตั้งอยู่ ลำต้นของต้นตาลนั้นแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ใบและผลแล้วด้วยแก้วผลึก ฯ

          [ ๑๗๘] ดูกรอานนท์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะได้ทรงพระดำริว่า ถ้ากระไร เราพึงให้สร้างสวนตาลแล้วด้วยทองล้วนไว้ที่ประตูเรือนยอดหลังใหญ่ สำหรับเรา จักได้นั่งพักกลางวัน

          ดูกรอานนท์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะรับสั่งให้สร้างสวนตาล แล้วด้วยทองล้วนไว้ที่ประตูยอดเรือนหลังใหญ่ สำหรับทรงนั่งพักกลางวัน ดูกร อานนท์ ธรรมปราสาทแวดล้อมด้วยเวที ๒ ชั้น เวทีชั้นหนึ่งแล้วด้วยทองชั้นหนึ่งแล้วด้วยเงิน เวทีแล้วด้วยทอง มีเสาแล้วด้วยทอง ขั้นและกรอบแล้วด้วยเงิน เวทีแล้วด้วยเงิน มีเสาแล้วด้วยเงิน ขั้นและกรอบแล้วด้วยทอง

          ดูกรอานนท์ ธรรมปราสาทแวดล้อมด้วยข่ายแห่งกระดึงสองชั้น ข่ายชั้นหนึ่งแล้วด้วยทอง ชั้นหนึ่งแล้วด้วยเงิน ข่ายที่แล้วด้วยทอง มีกระดึงแล้วด้วยเงิน ข่ายที่ แล้วด้วยเงิน มีกระดึงแล้วด้วยทอง

          ดูกรอานนท์ ข่ายแห่งกระดึงเหล่านั้นต้อง ลมพัดแล้ว มีเสียงไพเราะ ยวนใจ ชวนให้ฟังและให้เคลิบเคลิ้ม

          ดูกรอานนท์ เปรียบเหมือนดนตรีประกอบด้วยองค์ ๕ ที่บุคคลปรับดีแล้ว ประโคมดีแล้ว บรรเลงโดยผู้เชี่ยวชาญ เสียงย่อมไพเราะ ยวนใจ ชวนให้ฟัง และให้เคลิบเคลิ้ม แม้ฉันใด

          ดูกรอานนท์ ข่ายแห่งกระดึงเหล่านั้นต้องลมพัดแล้ว ก็ฉันนั้น เหมือนกัน มีเสียงไพเราะ ยวนใจ ชวนให้ฟัง และให้เคลิบเคลิ้ม

          ดูกรอานนท์ ในสมัยนั้น กุสาวดีราชธานี มีนักเลง นักเล่น และนักดื่ม พวกเขาบำเรอกัน ด้วยเสียงแห่งกระดึงที่ต้องลมเหล่านั้น

          ดูกรอานนท์ ธรรมปราสาทที่สำเร็จแล้ว ยากที่จะดู ทำนัยน์ตาให้พร่าพราย

          ดูกรอานนท์ เปรียบเหมือนในสรทกาล คือ ท้ายเดือนแห่งฤดูฝน เมื่ออากาศแจ่มใสปราศจากเมฆหมอกพระอาทิตย์ส่อง นภากาศสว่างจ้า ยากที่จะดู ย่อมทำนัยน์ตาให้พร่าพรายฉันใด ธรรมปราสาท ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยากที่จะดู ย่อมทำนัยน์ตาให้พร่าพราย ฯ

การสร้างธรรมโบกขรณี

          ดูกรอานนท์ ลำดับนั้นพระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงพระดำริว่า ถ้ากระไร เราพึงสร้างสระชื่อธรรมโบกขรณีไว้เบื้องหน้าธรรมปราสาท

          ดูกรอานนท์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะได้ทรงสร้างสระชื่อธรรมโบกขรณีไว้เบื้องหน้าธรรมปราสาท

          
ดูกร อานนท์ ธรรมโบกขรณีโดยยาว ด้านทิศบูรพาและทิศปัจจิม ๑ โยชน์ โดยกว้าง ด้านทิศอุดรและทิศทักษิณ กึ่งโยชน์ .......ธรรมโบกขรณีก่อด้วยอิฐ ๔ ชนิด อิฐชนิด หนึ่งแล้วด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงิน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่ง แล้วด้วยแก้วผลึก ฯ

          ดูกรอานนท์ ธรรมโบกขรณีมีบันได ๒๔ บันได แบ่งเป็น ๔ ชนิด บันได ชนิดหนึ่งแล้วด้วยทอง ชนิดหนึ่งแล้วด้วยเงิน ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ชนิดหนึ่งแล้วด้วยแก้วผลึก บันไดที่แล้วด้วยทอง แม่บันไดแล้วด้วยทอง ลูก บันไดและพนักแล้วด้วยเงิน บันไดที่แล้วด้วยเงิน แม่บันไดแล้วด้วยเงิน ลูก บันไดและพนักแล้วด้วยทอง บันไดที่แล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ แม่บันไดแล้วด้วย แก้วไพฑูรย์ ลูกบันไดและพนักแล้วด้วยแก้วผลึก บันไดที่แล้วด้วยแก้วผลึก แม่บันไดแล้วด้วยแก้วผลึก ลูกบันไดและพนักแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ฯ

          ดูกรอานนท์ ธรรมโบกขรณีแวดล้อมด้วยเวทีสองชั้น เวทีชั้นหนึ่งแล้ว ด้วยทองชั้นหนึ่งแล้วด้วยเงิน เวทีที่แล้วด้วยทอง มีเสาหนึ่งแล้วด้วยทอง ขั้น และกรอบแล้วด้วยเงิน เวทีที่แล้วด้วยเงิน มีเสาแล้วด้วยเงิน ขั้นและกรอบแล้ว ด้วยทอง ฯ

          ดูกรอานนท์ ธรรมโบกขรณีแวดล้อมด้วยต้นตาล ๗ แถว ต้นตาลแถว หนึ่งแล้วด้วยทอง แถวหนึ่งแล้วด้วยเงิน แถวหนึ่งแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ แถวหนึ่ง แล้วด้วยแก้วผลึก แถวหนึ่งแล้วด้วยแก้วโกเมน แถวหนึ่งแล้วด้วยแก้วบุษราคัม แถวหนึ่งแล้วด้วยรัตนะทุกอย่าง ต้นตาลที่แล้วด้วยทอง ลำต้นแล้วด้วยทอง ใบ และผลแล้วด้วยเงิน ต้นตาลที่แล้วด้วยเงิน ลำต้นแล้วด้วยเงิน ใบและผลแล้ว ด้วยทอง ต้นตาลที่แล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ลำต้นแล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ใบและผล แล้วด้วยแก้วผลึก ต้นตาลที่แล้วด้วยแก้วผลึก ลำต้นแล้วด้วยแก้วผลึก ใบและผล แล้วด้วยแก้วไพฑูรย์ ต้นตาลที่แล้วด้วยแก้วโกเมน ลำต้นแล้วด้วยแก้วโกเมน ใบและผลแล้วด้วยแก้วบุษราคัม ต้นตาลที่แล้วด้วยแก้วบุษราคัม ลำต้นแล้วด้วย แก้วบุษราคัม ใบและผลแล้วด้วยแก้วโกเมน ต้นตาลที่แล้วด้วยรัตนะทุกอย่าง ลำต้นแล้วด้วยรัตนะทุกอย่าง ใบและผลแล้วด้วยรัตนะทุกอย่าง ฯ

          ดูกรอานนท์ แถวต้นตาลเหล่านั้นเมื่อต้องลมพัดแล้ว มีเสียงอันไพเราะ ยวนใจชวนให้ฟัง และให้เคลิบเคลิ้ม

          ดูกรอานนท์ เปรียบเหมือนดนตรีมีองค์ ๕ ที่บุคคลปรับดีแล้วประโคมดีแล้ว บรรเลงโดยผู้เชี่ยวชาญ เสียงย่อมไพเราะ ยวนใจ ชวนฟัง และให้เคลิบเคลิ้มแม้ฉันใด

          ดูกรอานนท์ เสียงแห่งแถว ต้นตาลเหล่านั้น ที่ต้องลมพัดแล้วก็ฉันนั้นเหมือนกันไพเราะ ยวนใจ ชวนให้ฟัง และให้เคลิบเคลิ้ม

          ดูกรอานนท์ ก็สมัยนั้น ในกุสาวดีราชธานีมีนักเลง นักเล่น นักดื่ม พวกเขาบำเรอกันกันด้วยเสียงแห่งแถวต้นตาลที่ต้องลมเหล่านั้น

          ดูกรอานนท์ เมื่อธรรมปราสาทสำเร็จแล้ว และธรรมโบกขรณีสำเร็จแล้ว พระเจ้ามหาสุทัสสนะได้ทรงยังสมณพราหมณ์ทั้งหลาย ให้เอิบอิ่มด้วยสมณบริขารและ พราหมณบริขาร ที่ตนปรารถนาทุกอย่าง แล้วเสด็จขึ้นสู่ธรรมปราสาท ฉะนี้
แล

 
คำสำคัญ (Tags): #มหาสุทัสสนสูตร
หมายเลขบันทึก: 154055เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2007 00:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท