หนังตะลุงจะมีตัวตลกติดตามพระนางอยู่หลายคู่ ตัวตลกเหล่านี้แตกต่างกันบ้างตามความนิยมของนายหนังและท้องถิ่นนั้นๆ ส่วนที่ขาดไม่ได้คู่หนึ่งก็คือ ไอ้เท่งกับหนูนุ้ย ตามประวัติบอกว่า ไอ้เท่ง เป็นชาวคูขุด อยู่บ้านหัวเปลว อาชีพลุนกุ้ง
สำหรับเด็กริมทะเลสาปสงขลาปัจจุบันอาจไม่เคยเห็นคนลุนกุ้ง เพราะสูญหายไปนาน (น่าจะ) เกินยี่สิบปีแล้ว ส่วนผู้เขียนนับว่าค่อนข้างจะโบราณอยู่นิดๆ เพราะเกิดมาก็เห็นคนลุนกุ้งอยู่ทั่วไป...
บ้านเรือนเกือบทั้งหมดของบ้านคูขุดจะอยู่ติดทะเลสาป ส่วนบ้านที่อยู่ลึกเข้ามาก็จะขุดคลองเล็กๆ แล้วก็สร้างบ้านเรือนอยู่ริมคลองเพื่อจะใช้เรือออกทะเลได้ทุกบ้าน และเมื่อมองไปยังทะเลห่างไปประมาณสองสามร้อยเมตรก็จะมีต้นลำพูสลับกับต้นจากปลูกเป็นทิวแถว เมื่อเลยทิวแถวลำพูและจากออกไปแล้วก็จะเห็นแผ่นน้ำ มีเกาะต่างๆ ปรากฎอยู่ เลยจากเกาะไปก็จะเป็นฝั่งจังหวัดพัทลุง...
น้ำริมทะเลชายฝั่งใกล้ๆ บ้านนั้น ในฤดูแล้งประมาณสะเอว น้ำจะค่อนข้างเค็ม (ถ้าฤดูฝนน้ำก็จะค่อนข้างจืด) มีสาหร่ายขึ้นอยู่ในน้ำทั่วไป และก็มีกุ้งนาอาศัยอยู่มาก ดังนั้น ชาวบ้านคูขุดและหรือหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่ริมทะเลสาปก็มักจะลุนกุ้งเล่นๆ ในยามว่าง หรือยึดเป็นอาชีพสำหรับบางคน...
อุปกรณ์ที่ใช้ลุนกุ้งเรียกกันว่า แนท (คงจะเพี้ยนมาจาก net ) เป็นตาข่ายอวนถี่ๆ ขึงอยู่ในกรอบไม้สี่เหลี่ยมคางหมู ตาข่ายนี้จะหย่อนๆ และจะทำเป็นถุงห้อยอยู่ที่ตาข่ายเพื่อให้กุ้งนาพลัดตกลงไป ด้านแคบของกรอบสี่เหลี่ยมคางหมูนี้ จะมีไม้ยื่นออกมาเพื่อเป็นมือจับ...
แนทนี้ มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดใหญ่ ๓-๔ เมตร จนถึงขนาดเล็กประมาณ ๕๐ ซม. เหตุที่มีหลายขนาดก็เพราะ ในพื้นที่กว้างๆ ผู้ใหญ่ก็สามารถลุนได้พื้นที่มาก ส่วนขนาดเล็กๆ ใช้ในพื้นที่แคบๆ หรือให้เด็กๆ ไว้ลุนเล่นๆ ยามว่างก็ได้ และแนทนี้มักจะมีเกือบทุกบ้าน หรือบางบ้านก็อาจมีหลายอัน...
เวลาจะลุนก็ลงไปในน้ำใช้มือจับกรอบด้านแคบ ส่วนด้านกว้างก็ให้กดลงไปที่พื้นดินเป็นมุมเฉียงๆ แล้วก็เดินเข็นไปข้างหน้า (กิริยาทำนองนี้ภาษาใต้เรียกว่า ลุน) กุ้งนาซึ่งอยู่ในกอสาหร่ายก็จะมากระทบตาข่ายหรือแนทแล้วก็พลัดตกเข้าไปอยู่ในถุง.......
เมื่อได้พอสมควรแล้วก็นำมาถ่ายใส่เรือ (ถ้าออกไปไกลจากบ้านก็มักจะพาเรือลำเล็กๆ ไปด้วย) แต่ถ้าใกล้บ้านก็อาจนำมากองไว้ที่ลานดินหรือนอกชานหน้าบ้านเลยก็ได้ เพื่อจะได้เลือกเศษสาหร่ายออกไปแล้วก็แยกกุ้งนาออกมา...
กุ้งนาตัวโตๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย เล็กลงก็ขนาดเท่าก้านไม้ขีดไฟ เมื่อได้มาเยอะๆ เป็นเข่งๆ ก็อาจนำไปขายสดๆ เลยก็ได้ เพราะในหมู่บ้านจะมีอีกกลุ่มที่นำกุ้งนานี้ไปต้มน้ำผึ้งโหนด (น้ำตาลปี๊ป) เพื่อส่งขายเป็นสินค้าออกของหมู่บ้าน หรือบางบ้านก็อาจซื้อน้ำผึ้งโหนดมาต้มเอง... หรือบางบ้านอาจเป็นอุตสาหกรรมครบวงจร โดยพ่อขึ้นตาลตโหนด ส่วนแม่ก็ลุนกุ้ง ... ประมาณนี้
สาเหตุที่อาชีพลุนกุ้งหมดไปคงจะเป็นเพราะน้ำเสีย มีกุ้งน้อยลง นายเท่ง อาชีพลุนกุ้ง จากที่ผู้เขียนเข้าใจทันทีเมื่อตอนเล็กๆ ก็กลับกลายมาเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าในปัจจุบัน...
..............
อนึ่ง บ้านคูขุดนั้น เป็นที่ตั้งของตำบล จัดเป็นหมู่บ้านใหญ่ เพราะมี ๒ หมู่บ้าน คือ หมู่ ๔ (เรียกกันว่า บ้านตีน เพราะอยู่ทางทิศเหนือ) และหมู่ ๕ (เรียกกันว่า บ้านหัวนอน เพราะอยู่ทางทิศใต้)...
บ้านหัวนอนนั้นจะเป็นชาวไทยพุทธทั้งหมด ส่วนบ้านตีนจะมีชาวไทยมุสลิมจำนวนมากกว่าชาวไทยพุทธ และเลยบ้านตีนไปนิดหนึ่ง ก่อนถึงป่าช้าบ้านคูขุด ก็จะมีบ้านกลุ่มเล็กๆ อยู่ประมาณ ๔-๕ หลังคาเรือน เรียกกันว่า บ้านหัวเปลว ซึ่งจะเป็นชาวไทยพุทธ และที่นี้เองคือบ้านเกิดของนายเท่ง ตามประวัติที่จดจำกันมาและถูกจารึกไว้....
ฟังคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า เมื่อก่อนบ้านหัวเปลวคนอยู่มาก ต่อมาก็ค่อยๆ ย้ายออกมาจนเหลือเพียง ๔-๕ หลังเท่านั้น...
แม้จะรับรู้กันโดยทั่วไปว่าที่นี้ คือบ้านเกิดของนายเท่ง แต่ก็ไม่ได้มีอนุสรณ์ใดปรากฎอยู่เป็นหลักฐาน เมื่อมีโอกาสผู้เขียนมักจะคุยกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันว่า ที่บ้านหัวเปลวก่อนถึงป่าช้ามีที่ดินสาธารณะอยู่ส่วนหนึ่ง น่าจะจัดสร้างเป็นอุทยานบ้านเกิดทวดเท่ง แล้วก็วาดรูปหรือจัดหาอุปกรณ์ลุนกุ้งไว้ด้วย เพื่อจะได้เป็นอนุสรณ์และสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป...
ไปทอดกฐินปีนี้ ผู้เขียนมีโอกาสก็ขายความคิดอีกครั้ง เพื่อนของผู้เขียนคนหนึ่งความคิดกระฉูดไปกว่าผู้เขียนอีก กล่าวคือ เขาบอกว่าแต่งตัวแล้วก็แสดงการลุนกุ้งด้วยอุปกรณ์จริงเลย ซึ่งผู้เขียนและเพื่อนอีกคนก็เห็นด้วย...
ผู้เขียนก็คอยต่อไปว่า เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวอุทยานบ้านเกิดทวดเท่งตามที่คาดฝันไว้...
หมันแหละ ! (แปลว่า ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบ)
คำใต้เรียกทิศทั้ง ๔ ดังนี้
บางครั้งก็ใส่ ท่า นำหน้า เป็น ท่าตีน ท่าหัวนอน ท่าออก ท่าตก
และบางท้องถิ่นก็เติม ปะ ปละ หรือ ปล่า เข้าไปข้างหน้าเป็น ปะตีน ปละะตีน ปล่าตีน ... (ขึ้นอยู่กับสำเนียงแต่ละท้องถิ่น)
เจริญพร
นมัสการค่ะ
อาชีพลุนกุ้ง แปลว่า งมกุ้งเหรอคะ
งมกุ้ง คือ ใช้มือล้วงลงไปในน้ำ แล้วจับกุ้งขึ้นมา
ส่วนการ ลุนกุ้ง คือ การใช้อุปกรณ์คือแนทเข็นไปตามท้องน้ำแล้วก็ช้อนกุ้งขึ้นมาจากในน้า
ดังนั้น ลุนกุ้ง น่าจะใกล้เคียงกับศัพท์ว่า ช้อนกุ้ง หรือ ตักกุ้ง มากกว่า
อนึ่ง คำว่า ลุน ตรงกับภาษากลางว่า เข็น หรือ ผลัก
เจริญพร
อนุโมทนาต่อนายช่างอย่างมาก...
หลวงพี่ก็ไม่รู้ด้วยว่า เครื่องมือชนิดนี้ ภาษากลางหรือท้องถิ่นอื่นๆ เรียกกันอย่างไร ส่วนแถวบ้านเรียกกันว่า แนท
เจริญพร