คุณหมอพม่า กำลังจะโกอินเตอร์(ไปนอก)เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เป็นที่ทราบกันดีว่า เมืองไทยเรามีแรงงานพม่าเข้ามาทำงานอย่างน้อยนับล้านคน ปีใหม่นี้ (2551) มีชาวมอญ-พม่าอพยพที่สมุทรสาครใช้เวลาช่วงปีใหม่สวดมนต์ถวายพระพรในหลวง และรวมกันบวชถวายเป็นพระราชกุศล
ปัญหาคือ แรงงานฝีมือหรือปัญญาชนพม่าโกอินเตอร์(ไปหางานทำนอกบ้าน)ที่ไหนกัน
...
สำนักข่าวอิระวดีรายงานว่า แรงงานฝีมือหรือปัญญาชนแบบสุดๆ ของพม่าคือ "หมอ" นั้นนิยมพากันโกอินเตอร์ไปทำงานในสิงคโปร์กัน
คุณเซ ย่า นักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยชานเมืองย่างกุ้งแห่งหนึ่งในปี 2549 กล่าวว่า การเรียนหมอในพม่านั้นขาดแคลนอุปกรณ์แทบจะทุกอย่าง นักศึกษาแพทย์ 20 คนจะมีโอกาสผ่าศพอาจารย์ใหญ่ 1 ท่านเท่านั้น (อัตราส่วนนี้ไม่ควรเกิน 2 คนต่อศพจึงจะดีที่สุด)
...
คุณหมอจบใหม่ของพม่าไม่ใช่ว่า จบแล้วจะหางานทำได้ง่ายๆ เหมือนเมืองไทยที่หมอๆ ทั้งหลายจะถูกบังคับให้ใช้ทุนในโรงพยาบาลรัฐอย่างน้อย 3 ปี หรือเสียเงินค่าปรับ(ประมาณ 400,000 บาท)
ทว่า... คุณหมอจบใหม่พม่าจะต้องรอคิว เพื่อขอเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐอย่างน้อยหลายๆ เดือน
...
ครั้นจะไปเปิดคลินิกแบบหมอไทยหลายท่านก็ทำได้ยาก เพราะคนพม่าส่วนใหญ่มีรายได้น้อยมาก และถ้ามีรายได้หน่อยก็จะเลือกคลินิกที่มีป้ายว่า "จบจากต่างประเทศ" ก่อนหมอที่จบในประเทศเสมอ
คนพม่าส่วนใหญ่อาศัยร้านขายยา หมอสมัครเล่น(ตอนผู้เขียนไปย่างกุ้งพบคุณหมอสมัครเล่นที่จบปริญญาโทคณิตศาสตร์ทำงานเป็นหมอมาแล้วท่านหนึ่ง) หรือโรงพยาบาลรัฐที่คนเกือบทุกคน(คงจะมีข้อยกเว้นกันบ้าง)ต้องรับใบสั่งยา เพื่อไปซื้อยาจากร้านขายยา เช่น น้ำเกลือ ฯลฯ กันเอง
...
ปัจจุบันมีอดีตนักศึกษาแพทย์ หรือ "ว่าที่คุณหมอ" ในพม่าประมาณ 900 คนกำลังเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สายช่างในสิงคโปร์ ซึ่งสถาบันที่นิยมกันมากคือ สถาบันโพลีเทคนิคนันยาง
ตัวอย่างหนึ่งคือ อดีตคุณหมอจอ ตูน ซึ่งเรียนต่อจนจบ ปวช.ช่างจากสถาบันโพลีเทคนิคนันยาง ปัจจุบันทำงานในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
...
อดีตคุณหมอซิน มาร์เล่าว่า ได้เดินทางออกจากพม่าเมื่อ 7 เดือนก่อน เพื่อเข้าเรียนต่อด้านธุรกิจ (M.B.A.) ในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
นักศึกษาแพทย์ใหม่ในพม่าที่เข้าเรียนแพทย์มีประมาณปีละ 2,400 คนในมหาวิทยาลัยแพทย์ 4 แห่ง ท่านเหล่านี้จะจบมาเป็นคุณหมอในโรงพยาบาลรัฐประมาณครึ่งหนึ่ง ที่เหลือจบไปเป็นเซลล์แมนขายยาบ้าง ทำธุรกิจบ้าง โกอินเตอร์ เช่น ไปเรียนต่อเป็นช่างในสิงคโปร์ ฯลฯ บ้าง
...
รัฐบาลสิงคโปร์ฉลาดพอที่เชิญชวนคุณหมอพม่าเหล่านี้เข้าไปทำงาน โดยมีการให้ทุนการศึกษา 80% ของค่าเล่าเรียนทั้งหมด มีงานให้ทำ(ต้องใช้ทุนการศึกษาให้รัฐบาล)หลังจบ และมีใบอนุญาตให้อยู่ในสิงคโปร์ได้ตลอดชีวิต
หมอพม่าท่านหนึ่งซึ่งเข้ามาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟในเชียงใหม่ และรับจ้างเล่นหุ่นกระบอกพม่าเป็นครั้งคราว
...
ท่านกล่าวว่า ถ้าเมืองไทยเปิดโอกาสให้หมอพม่าเข้ามาเรียนต่อ หรือทำงานบ้าง... จะให้ทำที่ไหนก็ได้ 3 จังหวัดภาคใต้ก็ไม่เกี่ยง
หมอพม่าอาจจะไม่ต้องไปทำงานช่างในสิงคโปร์... ถ้าได้ทำงานในไทย ได้ไปวัดบ้าง ไปกราบพระเจดีย์บ้าง ความสุขในเมืองพุทธแท้ๆ แบบนี้ (หมายถึงเมืองไทย)...หมอพม่าท่านนั้นกล่าวว่า หาไม่ค่อยได้ในสิงคโปร์
...
ว่าแต่ว่า เราจะเรียนเชิญคุณหมอพม่าเข้ามาทำงานหมอดี หรือว่าจะให้เรียนต่อ ปวช., ปวส. ดีล่ะนี่...
...
ข่าวประกาศ...
- ผู้เขียนได้ตีพิมพ์เรื่องนี้ในบล็อก OKnation > ที่นั่นมีท่านผู้อ่านให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้มากมาย
- เรียนเสนอให้ท่านผู้อ่านเข้าไปอ่านข้อคิดเห็นได้ที่นี่
- [ Click - Click ]
- [ โปรดคลิกที่นี่ ]
ที่มา
- Thank Irrawaddy > Min Lwin > Exodus medical students from Burma > [ Click ] > January 9, 2008.
-
ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
-
ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
-
ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี > สนับสนุนเทคนิค iT.
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 10 มกราคม 2551.
ความเห็น (10)
จากข้อมูลที่คุณหมอเล่าให้อ่านเป็นเรื่องที่น่าคิดมากๆครับ
กระผมคิดว่าบุคคลในโลกนี้สามารถพัฒนาความสามารถได้ทุกคนขึ้นอยู่กับความพยายามและปัจจัยสนับสนุนที่เหมาะสม แต่ในโลกของเรายังมีปัจจัยสนับสนุนที่แตกต่างกันตามการระบอบปกครองประเทศและระบบเศรษฐกิจ ทำให้คนในประเทศที่ด้อยกว่าพยายามหาที่ๆดีกว่า บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ถูกหลอก บ้างก็ถูกเอาเปรียบ เพราะความคิดที่ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองก่อนหรือเปล่าครับ หรือเพื่อคัดเลือก หรือเพื่อเหตุผลอื่นๆ ทำไมคนพม่าถึงไม่เลือกงาน แล้วที่คนไทยบางส่วนไม่มีงานทำเป็นเพราะพวกเขาเลือกงานจริงหรือเปล่าครับ แล้วใครจะเป็นคนช่วยแก้ไขครับ แล้วเราจะส่งออกคนของเราไปประเทศไหนดีครับ ใครๆก็อยากอยู่บ้านของตนเอง หรือใกล้บ้านของตนเองให้มากที่สุดจริงหรือเปล่าครับ สำหรับกระผมคิดว่าต้องวางแผนหรือวางระบบทั้งการศึกษาและงานในปัจจุบันและอนาคตให้สัมพันธ์กับจำนวนประชากร เพื่อให้จบแล้วมีงานทำ ส่งผลให้รัฐพัฒนาและมีรายได้จากภาษีของประชากรรุ่นก่อนที่จะนำมาช่วยให้รุ่นหลังได้เป็นกำลังที่สำคัญต่อๆกันไป หากไม่เช่นนั้นก็คงจะเกิดปัญหาดังเช่นปัจจุบัน หรือที่หมอพม่าไปเป็นช่างหรืออื่นๆ
ขอบพระคุณคุณหมอเป็นอย่างสูงครับที่ได้นำข้อมูลดีๆมาให้ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
กระผมอยู่ที่ประจวบฯ ปลูกต้นอัญชันไว้หน้าบ้านคนพม่าหลายคนมาเก็บดอกอัญชันทุกเช้า
กระผมเคยถาม"เอาไปทำอะไรเหรอ"
เขาตอบว่า "เอาไปไห้วพระ"
กระผมก็ยังแอบสงสัยว่าเขาเอาไปไห้วพระจริงหรือเปล่าเพราะเก็บเต็มถุงทุกวัน
แต่มีผู้ใหญ่ที่กระผมรู้จัก(นาวาเอกสมพงษ์ ทรัพย์เจริญและคณะชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย)ท่านบอกว่ากินได้และท่านได้กินให้ผมดูด้วยครับหลังจากนั้นถ้าวันไหนมีน้ำพริกกระผมก็จะไปเก็บที่ปลูกไว้ในบ้าน(ที่หน้าบ้านพม่าเก็บจนเกลี้ยงทุกวันครับ)มาจิ้มน้ำพริกอร่อยดีครับ
ขอขอบคุณ... คุณวุฒิชัย
- ขอขอบพระคุณมากๆ สำหรับการให้ข้อคิดเห็น และข้อมูลที่น่าสนใจมากทีเดียว
- ดอกอัญชันนี่... ไม่เคยเห็นคนพม่านำไปไหว้พระเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม... คนพม่ามีธรรมเนียมที่จะไหว้พระวันละนานๆ
- พระพม่ารูปหนึ่งกล่าวว่า คนพม่าแท้ๆ หลายท่านจะใช้เวลาไหว้พระ + ทำสมาธิ หรือเจริญกัมมัฏฐานวันละนานๆ
- ตอนเช้าเปลี่ยนน้ำพระ (ใส่ถ้วย) นำข้าวไปถวาย แล้วสวดมนต์ ทำสมาธิ 1 ชั่วโมง + ตอนเย็นอีก 2 ชั่วโมง
- คนพม่าไปไหนจึงนิยมนำลูกประคำไปบริกรรม และนับด้วยเสมอ
คนไทยเราควรเรียนรู้อะไรดีๆ จากคนพม่า และคนพม่าก็ควรจะเรียนรู้อะไรดีๆ จากคนไทยด้วย
- เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด พรมแดนติดกันมากที่สุด และมีคนพม่าเข้ามาทำงานในไทยมากที่สุด...
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ...
ขอขอบคุณ... คุณวุฒิชัย
- ข้อมูลที่สอบถามมาเพิ่มเติมคือ คนพม่าใช้ดอกอัญชันผสมส้มป่อย และพืชอะไรที่มีเมือก นำไปทำแชมพูสระผมได้ คล้ายๆ กับที่คนไทยนิยมนำไปผสมในแชมพูสระผมให้ผมดำทีเดียว
- เรื่องดอกไม้ไหว้พระนี่... ดอกไม้ดีๆ ไม่ว่าชนิดใดก็นำไปบูชาได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นดอกที่มีกลิ่นหอม หรือมีสีสันสวยงาม
ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของคุณวุฒิชัยที่ให้ดอกอัญชันเป็นทาน... สาธุ สาธุ สาธุ
fill-in to even numbers
ขอขอบคุณ... คุณว่าที่ รต.วุฒิชัย
- ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และให้ข้อคิดเห็น
เมื่อวานซืนนี้...
- ผมได้ทราบจากท่านอาจารย์มีมี่ อาจารย์ภาษาพม่า แห่งมหาวิทยาลัยมหิดลว่า ท่านมีโครงการจะทำตำราภาษาพม่าอย่างง่ายๆ
- ได้เรียนเสนอให้ท่านทำเป็นชุดตำรา VCD ง่ายๆ ที่สอนคนพม่าพูดไทย(ผ่านภาษาพม่า) สอนคนไทยพูดพม่า(ผ่านภาษาไทย) และเรียนเสนอให้ท่านทำหลักสูตรผ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้โครงสร้างหลักสูตรเดียวกันด้วย
- ขอกราบอนุโมทนาในกุศลเจตนาของท่านอาจารย์มีมี่... สาธุ สาธุ สาธุ
ตอนนี้...
- เรามีแรงงานพม่าเข้ามาทำงานประมาณ 1-2 ล้านคน ส่วนใหญ่พูดไทยไม่ได้
- ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน
- ถ้ามีตำรา VCD ง่ายๆ จะทำให้คนไทย และคนพม่าเข้าใจกัน ได้เมตตากัน
ถ้าคนไทยไม่มีแรงงานพม่า....
- โรงงานประเภทใช้แรงงานมาก (labour intensive) ส่วนใหญ่จะล้มละลาย เนื่องจากไม่มีแรงงานราคาถูกเท่านี้ไปสู้แรงงานจีน + เวียดนามได้
ถ้าคนพม่าไม่ได้เข้ามาทำงานในไทย...
- คนพม่าจำนวนมากจะตกงาน ลูกหลานญาติสนิทมิตรสหายจะไม่มีข้าวพอกิน
- กล่าวได้ว่า ชาติในอาเซียนที่พึ่งพาอาศัยกันมากที่สุดน่าจะเป็นคนพม่ากับคนไทย
- นอกจากนั้นไทยยังส่งเงินตราต่างประเทศเข้าพม่า.... ผ่านการท่องเที่ยว การทำบุญตามพระเจดีย์+วัดต่างๆ การซื้อแก๊สธรรมชาติ การซื้อไฟฟ้า(เร็วๆ นี้)
คนพม่ากับคนไทยเป็นประเทศที่มีการนับถือพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทเข้มข้นที่สุดในโลก...
- ขอชาวพม่าและชาวไทย... พึงได้เมตตากัน เข้าใจกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันสืบไปเทอญ...
แพทย์พม่าอยากเข้ามาเรืยงเพิ่มเติมจะปฏิบัติอย่างไร
หมอพม่าอยากมาเรืยนต่อเมืองไทยติดต่ออาจารย์หมอที่ไหนดีค่ะ
เรียนคุณหมอ
ดิฉันเป็นมัคคุเทศก์อยู่ภูเก็ตเมื่อปี2550 ได้มีคุณหมอชาวพม่าท่านหนึ่งท่านได้เคยช่วยเหลือดิฉันไว้ทราบว่าท่านชื่อเอ่าจ่อตู่ทำงานที่โครงการฟ้ามิตรที่ภูเก็ตหลังจากนั้นดิฉันเดินทางไปต่างประเทศและเพิ่งกลับมาอยากทราบข่าวท่านไม่ทราบว่ามีข้อมูลที่รู้เพียงเท่านี้จะตามหาพบหรือไม่ตอนที่สนทนาถามชื่อท่านออกเสียงว่า เอ่า จ่อ ตู่ หวังว่าคุณหมอคงแนะนำวิธีการตามหาได้นะคะ
ขอบพระคุณค่ะ
พิม
มีแฟนเป็นแพทย์พม่าค่ะ เค้าอยากมาทำงานที่โรงพยาบาลที่ไทย แต่ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร และตอนนี้มีโรงพยาบาลไหนรับ รบกวนปรึกษาอาจารย์ค่ะ
มีแฟนเป็นแพทย์พม่าค่ะ เค้าอยากมาทำงานที่โรงพยาบาลที่ไทย แต่ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร และตอนนี้มีโรงพยาบาลไหนรับ รบกวนปรึกษาอาจารย์ค่ะ