รูปแบบสวัสดิการชุมชนด้านสุขภาพอนามัย
เงินกองทุนสวัสดิการชุมชน ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อด้านสุขภาพอนามัยนี่เอง ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ (ส่วนสวัสดิการที่เกี่ยวกับ การตาย ไม่น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้ แต่เป็นการคืนเงินออม (เงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต..ซึ่งเคยกล่าวถึงแล้วว่า ดูเหมือนบางกลุ่มจะ "คืน" มากเกินไป) หรือ เป็นสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางสังคม (ค่าฌาปนกิจ) มากกว่า แต่ก็อาจมีผลทางจิตใจด้วย)
การจัดสวัสดิการชุมชนด้านสุขภาพอนามัย มีทั้งการจัดสวัสดิการที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน เช่นเดียวกับด้านการศึกษา สวัสดิการที่เป็นตัวเงิน มี 2 รูปแบบ คือ เงินกู้ยืม กับ เงินให้เปล่า
รูปแบบการให้กู้ยืม
มีอยู่เพียงไม่กี่กลุ่มที่จัดสวัสดิการในรูปแบบการกู้ยืม
ได้แก่ การให้กู้รักษาพยาบาลโดยไม่เสียดอกเบี้ย (มณีบรรพต อ.บ้านตาก จ.ตาก)
รูปแบบเงินให้เปล่า
ส่วนใหญ่องค์กรการเงินชุมชนจะจัดสวัสดิการในรูปแบบนี้ บางชุมชน จัดสรรเงินเป็นกองทุน เช่น กองทุนสุขภาพชุมชน กองทุนผู้สูงอายุ การจัดเป็นกองทุนย่อย น่าจะทำให้บริหารจัดการง่ายขึ้น ลักษณะการให้เงินของกลุ่มต่างๆจะคล้ายๆกัน อัตราที่ให้ก็คล้ายกัน เช่น
ปัญหาที่พบสำหรับการจัดสวัสดิการที่เป็นตัวเงิน
ในรายงานของแต่ละชุมชน มักไม่ค่อยบอกเรื่องปัญหา แต่เท่าที่สรุปได้จากรายงานของ พอช. ได้แก่
การระบุปัญหา ไม่ใช่สิ่งเสียหาย แต่เป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นมากกว่า
รูปแบบสวัสดิการที่ไม่เป็นตัวเงิน
เป็นรูปแบบการให้สวัสดิการผ่านกิจกรรม โดยส่วนตัวคิดว่า "ให้เงิน" ไม่ยาก แต่ "ให้สวัสดิการที่ไม่ใช่เงิน" ต้องใช้ทุนมากกว่า เพราะนอกจากต้องใช้เงินแล้ว ยังต้องใช้ทุนทางสังคม กรรมการผู้จัด และสมาชิกที่เข้าร่วมต้องเสียสละเวลามาร่วมมือกัน แต่ขณะเดียวกันก็สร้างทุนทางสังคมได้มากกว่า
ในขณะที่การให้สวัสดิการในรูปตัวเงิน มักเป็นการช่วยที่ปลายทาง เช่น การรักษา แต่สวัสดิการที่ไม่เป็นตัวเงิน จะเป็นได้ตั้งแต่ "การป้องกัน" ที่สำคัญคือ "การดูแล" ซึ่ง "เงิน" อย่างเดียวดูแลไม่ได้ ต้องมี "คน" ช่วยดูแลด้วย ตัวอย่างกิจกรรมได้แก่
คิดว่า ชุมชนทำอะไรอีกเยอะแยะที่เป็นกิจกรรมสวัสดิการที่ไม่เป็นตัวเงิน แต่อาจไม่ได้รายงาน เพราะเป็นสิ่งที่ดำเนินการอยู่เป็นปกติมาแต่ไหนแต่ไร เช่น การส่งเสริมการปลูกพืชอาหารสมุนไพร เป็นต้น
ในการให้รางวัลสวัสดิการชุมชนตามแนวอาจารย์ป๋วย คงจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมบริการที่ไม่ใช่เฉพาะ "การให้เงินสวัสดิการ"
กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น
กองทุนของ สปสช.นี้ จะช่วยหนุนเสริมการจัดกิจกรรมที่ไม่เป็นตัวเงินสำหรับบางท้องถิ่นที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ปัจจุบัน สปสช.จ่าย 37.50 บาทต่อคน ลองคำนวณแล้ว อปท.สนับสนุนอีกประมาณ 7.50 บาทต่อคน รวมแล้ว 45 บาทต่อคน (เคยกล่าวแล้ว)
การจัดสวัสดิการด้านสุขภาพอนามัยน่าจะเป็นมิติการจัดสวัสดิการชุมชนที่มีความกระฉับกระเฉง มีพลวัตรมากที่สุด
อาจารย์ครับ
ผมชื่นชมกิจกรรมนี้จริงๆว่าเป็นความก้าวหน้าของสังคมบ้านเราที่มีสวัสดิการนี้ เพื่อเป็นหลักประกันที่สำคัญโดยเฉพาะสังคมชนบท
ผมมีข้อเสนอครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคุณบางทรายที่กรุณาร่วมแลกเปลี่ยนด้วยเสมอ ดิฉันเพียงแต่หวังว่า บันทึกนี้จะช่วยแบ่งปันข้อมูลและมุมมองกับสาธารณะ โดยเฉพาะบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสวัสดิการชุมชน
หากมีมุมมองหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อนก็ต้องขออภัยและหวังว่าผู้รู้จะเข้ามาช่วยแบ่งปันค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งว่า ฐานข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับชาวบ้านแล้ว การเก็บข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งในแง่ที่ไม่ใช่วิถีปกติ และในแง่ที่ว่า เก็บไปแล้วไม่ใช้ประโยชน์ทำให้เหมือนกับเสียเวลา
หากสมาชิกเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้ข้อมูล และมีส่วนร่วมในการช่วยกันออกแบบระบบการเก็บข้อมูล อาจทำให้เกิดการเรียนรู้เห็นประโยชน์ และเข้าใจข้อจำกัดร่วมกัน
ดิฉันมีประสบการณ์ตรงในงานขับเคลื่อนไม่มากนัก ลองทำเองก็รู้ว่ายาก แต่ถ้าทำได้ ก็จะถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี
เคยเห็นสมุดบัญชีของกลุ่มครูชบ ท่านออกแบบได้ดี เหมาะกับประโยชน์ใช้สอย แต่ถ้าเราต้องการประโยชน์เพื่อการวิเคราะห์และวางแผนด้วย อาจต้องมีวิธีสรุป วิธีวิเคราะห์อื่นๆเสริมเข้าไป