ติดคิด ติดเขียน ติดโรคนอนไม่หลับ


"...โดยมากเป็นบันทึกช่วยจำ แต่จะต้องบวกคอมเมนท์หรือวิจารณ์ลงไปด้วย เป็นการฝึกสมองอย่างดี..."

05.27 น.

          ติดคิด ติดเขียน ติดโรคนอนไม่หลับ "โอ๊ย มะเร็งกัดฉัน!” พ่อค่ะ คำนี้ผุดขึ้นในหัวทำเอาสะดุ้งตกใจ...นึกว่าพ่อมาหา ไม่ใช่ฝันร้าย ไม่ได้โดนมะเร้งมะเร็งเล่นงานเหมือนพ่อหรอกนะ แต่สงสัยว่าจะเป็น KM มากกว่า KM กอด (กัด) ฉัน จนนอนฮึดฮัดหายใจไม่ออกต้องลุกมานั่ง นั่งทำอะไร...เดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะ

          ตั้งแต่ถลำทั้งตัวทั้งหัวใจลึกเข้าไปในแวดวงการจัดการความรู้ ถึงได้เข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่า ผู้คนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ หลับๆ ตื่น ๆ หรือนอนหัวค่ำมาตื่นเอาดึก เค้าเอาเวลาไปนั่งจมจ่อมอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำอะไรกันจนได้รางวัลสุดคะนึง? พ่อไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำๆ ในช่วงชีวิตพ่อ เดี๋ยวนี้เขานิยามคำศัพท์ว่า การจัดการความรู้

          ลูกพ่อไม่ได้หวังรับการบำบัดด้วยเคมีไอทีหล่อเลี้ยงหัวใจระดับนั้นนะคะ จริงแล้วลูกพ่อแค่อยากเป็นเหมือนพ่อต่างหาก อยากเป็นนักเขียน แต่คนจะเขียนเก่งเขียนเป็นสาระก็ต้องรอบรู้รอบตัวใช่ไหมคะพ่อ ดูอย่างตอนที่ลูกพ่อเรียนจบ พ่อก็ลงไปกทม.เพื่อจับลูกพ่อยัดตู้รถไฟให้กลับมาอยู่เชียงใหม่กับพ่อ แล้วพ่อก็ยังคอยประกบเป็นพี่เลี้ยงในการทำมาหาเลี้ยงชีพอีก ลูกพ่อเป็นนกน้อยในไร่ส้ม แต่ลูกพ่อก็เก็บส้มไม่เก่ง พ่อพยายามเข็นให้ลูกพ่อเป็นคอลัมน์นิสต์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไทยนิวส์ พ่อคิดชื่อคอลัมน์ให้เสร็จสรรพ สุดท้ายพ่อก็ต้องเป็นคนเขียนคอลัมน์นั้นเสียเอง ลูกพ่อก็ได้แค่ดูพ่อเฉย ๆ ไปเรื่อยๆ นั่นใช่ไหมนะคะที่พ่อเริ่มต้นปรากฏตัวต่อสาธารณชน เป็นนักสื่อสารมวลชน กับคอลัมน์ของพ่อ หมอมองข่าว

          คอลัมน์นี้ได้รับความสนใจในระหว่างปี 2527- เรื่อยมา จนพ่อหยุดเขียนเพราะพ่อบอกว่ามีอะไรอยากทำอีกเยอะแม้บอกอ หนังสือพิมพ์จะจดหมายขอรบกวน...ว่าพ่อทำเอาผู้อ่านทุกวงการติดตามคอลัมน์นี้..คนรอบตัวพ่อ คะยั้นคะยอขอรู้จักพ่อ (เช่นอธิการบดีสมัยนั้น) ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นพ่อ... พ่อหันไปวิ่งมาราธอน เหมือนคุณหมอ คนชอบวิ่ง เลยค่ะ พ่อหันไปขี่จักรยานกับชมรมจักรยานวันอาทิตย์ แล้วยังไงกัน พ่อวิ่งไป ขี่จักรยานไป จนได้เพื่อนใหม่เป็นมะเร็งเฉยเลย  มะเร็งยังชวนพ่อไปเป็นนักเขียนอีกแ น่ะ  แต่ที่จริงแล้วก่อนหน้านั้นพ่อก็มีเรื่องเขียนลงในนิตยสาร หนังสือหลายเล่มหลายตอนใช่ไหม แต่ไม่ดังเท่าตอนที่มาเร้งมะเร็งเป็นสปอนเซอร์หลัก...

          ตอนพ่อเขียนเรื่องลงนิตยสาร Running (ปัจจุบัน ไม่มีแล้ว) เขียนจนจะรวมเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มได้แล้ว รวบรวมต้นฉบับแล้ว แต่อย่างไรไม่รู้หายเงียบไป พ่อก็กระโดดไปแปลหนังสือแต่แปลไว้อ่านเล่นในครอบครัว แบบว่าวาง ๆ ไว้ ลูกคนไหนอยากอ่านก็ให้หยิบอ่านได้ ซึ่งพ่อบอกว่ามันผิดกฎหมายน่ะแต่ไม่ได้คิดจะเผยแพร่ให้คนนอกบ้านอ่าน จนพ่อมาเขียนนิยายเรื่อง เส้นทางสายปรารถนา ที่พ่อบอกว่าได้เค้าโครงฝรั่งมา แปลงเป็นเรื่องไทย ๆ แถมเอาครอบครัวไปเป็นตัวละครเสียอีก..ขายได้เสียด้วย (โชคดีที่พ่อได้แค่ลูกสองคนไปเป็นตัวละคร ขืนมีเล่มต่อไป พ่อคงขายลูกได้ครบสี่คน)

          ตอนที่พ่อเลิกแปลเรื่อง แล้วเปลี่ยนมาเขียนเรื่อง ดูเหมือนพ่อจะมีโอกาสไปเข้าค่ายอบรมเป็นนักเขียน (นิทานมูลนิธิเด็ก) รุ่นเดียวกับลูกสาวคนโตและหลานชายวัย  6 ขวบของพ่อ แล้วยังมีเพื่อนลูกสาวคนรองเป็นวิทยากรให้พ่อด้วย เอ๊ะยังไง สัมพันธภาพแสนอลหม่าน แต่สมัยนี้ก็เรียกว่าเป็นการเรียนรู้  ไม่สำคัญว่าจะเด็กกว่า ผู้ใหญ่กว่า เรียนรู้ร่วมกันไปได้ไม่มีข้อจำกัด ใช่ไหมพ่อ...

          โลกหนังสือของพ่อ ตรงกับแนวคิดการจัดการความรู้มากเลย เพราะพ่อเปิดบล็อกของพ่อในเครื่องคอมพิวเตอร์โบราณ ที่มาเปิดเผยตอนหลังพ่อจากไปแล้วนั่นไง  “...ผมชอบเขียนหนังสือตั้งแต่เด็ก ชอบเขียนไดอารี่ก่อน ตอนเย็นก่อนนอนต้องเขียนอะไรก็ได้ลงไปหนึ่งหน้า แต่บางวันไม่ว่างหรือลืมบ้างก็เขียนชดเชยไปตามวันที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยมากเป็นบันทึกช่วยจำ แต่จะต้องบวกคอมเมนท์หรือวิจารณ์ลงไปด้วย เป็นการฝึกสมองอย่างดี...

          พ่อค่ะ ตอนเตรียมหนังสืออนุสรณ์งานของพ่อ พ่อคงดลใจให้พวกเราสี่คนรื้อ ค้นจนเจอเรื่องที่พ่อแอบซุกในโฟลเดอร์  ทีอย่างนี้นะพ่อไม่ยักกะพิมพ์วางทิ้งบนโต๊ะทำงานให้พวกเราหยิบอ่าน.. แต่เราก็รู้แล้วว่าพ่อเตรียมตัวก่อนไป ให้พวกเรารู้เองว่าจะทำอย่างไรกับงานเขียนมากมายค้างสต็อกของพ่อ...เราตั้งชื่องานเขียนชิ้นนี้ของพ่อว่า โลกหนังสือของพ่อแล้วก็ทำเหมือนหนังสือเร่งด่วนที่ผู้ใช้บริการต้องการ ได้พิมพ์เผยแพร่วันงานลาจากพ่อชั่วคราว เมื่อพ่อไม่อยู่แล้วเจ็ดวัน วันนี้ลูกพ่อหยิบมาอ่านอีก แล้วลูกพ่อก็รู้สึกว่า นี่ไงบทเรียนงานจัดการความรู้โดยธรรมชาติที่ลูกพ่อกำลังสนใจ แบบเดียวกันเลยกับที่เจอใน G2K ขออนุญาตพ่อนะ เดี๋ยวจะไปขอลิขสิทธิ์จากแม่อีกที แต่ลูกพ่อไม่มี 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์เป็นสตางค์ให้แม่หรอกนะคะพ่อ  ขอคัดลอกมาวางไว้ในมุมเล็ก ๆ ของบล็อกนี้ ไม่ได้จะอวดพ่อ แต่เพราะลูกพ่อคิดแล้วคิดอีก คิดกี่สิบรอบลูกพ่อก็รู้สึกว่า จะเป็นประโยชน์ เป็นกำลังและแรงบันดาลใจให้กับทั้งลูกสาวพ่อ และผู้คนมากมาย

          Tag  Tag Tag

          ที่เค้าให้ชาว G2K Tag ที่คิดถึงน่ะ ลูกพ่อก็ขอแอบ Tag คิดถึงพ่อคนหนึ่งล่ะ กลับมาเข้าเรื่องทำยังไงถึงได้โดน KM เล่นเสียจนความคิดไม่หยุดนิ่งต่อดีกว่าค่ะ

          ใน G2K มีเรื่องราวเล่ามากมาย อ่านแล้วได้คิด คิดดีเสียด้วย อย่างเช่นมีที่เปิดเจอ เค้า คิดบวกกว่า (คุณศิริเขียนค่ะ...เมื่อคืนก่อนดูรายการทีวีสัมภาษณ์ยอดรัก สลักใจ เขาบอกว่าเป็นมะเร็ง (มาเล็งเล็งเฉย ๆ ไม่ยิง) ยังดีกว่าเป็น มะยิง (มายิง) ถูกใจคนคิดบวกห้องเรามั่กมาก แต่ยังไงก็ไม่ขอเป็นทั้งมาเล็ง (มะเร็ง) และมายิง(มะยิง) จ๊า !!!) พ่อจะตามไปอ่านไหมคะ?

          สถานการณ์ประเทศไทยวันนี้ โดยเฉพาะภาคใต้ของเราไม่สู้จะปลอดภัยค่ะ อย่าว่าแต่ภาคใต้เลยนะพ่อ บนถนนสายหลักระหว่างจังหวัดก็อันตราย ก้อนหินก้อนเดียวก็ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ น็อตเพียงไม่กี่ตัวก็สามารถก่อวินาศกรรมใหญ่หลวงได้ ถ้าพ่อยังอยู่พ่อคงสะท้อนความคิดหลายด้านตามประสา หมอมองข่าว ให้พวกเราคิดตาม

          วันนี้ใน GotoKnow.org (บอกชื่อเต็มเผื่อให้พ่อตามไป search ดู) เปิดพื้นที่อิสระที่ใครก็ได้ ไม่ต้องรอจังหวะ ไม่ต้องรอพื้นที่คอลัมน์ว่าง ถ้าพ่ออยู่พ่ออาจได้ขึ้นทะเบียนรับรางวัลสุดคะนึง

 

อือม์ อีก 5 นาทีจะ 6 โมงเช้าแล้วค่ะพ่อ

          วันนี้พรุ่งนี้ไม่ใช่วันพระสักหน่อย แม่บอกว่าพ่อจะมาหาพวกเราเสมอก่อนวันพระ แต่ส่วนมากพ่อไปหาแม่ใช่ไหม แม่เหงาและรู้สึกโดดเดี่ยวเสมอ พวกเราไม่เคยเข้าไปแทนที่พ่อได้เต็มๆ ประโยคนี้ผิดค่ะ ลูกไม่ควรคิดแบบนี้ ทุกครั้งที่คิดถึงพ่อ เราก็คิดถึงแม่ ทุกครั้งที่คิดถึงหรืออยู่ใกล้แม่ เราก็คิดถึงพ่อ แล้วก็หาเรื่องกอดแม่ค่ะ

          กลับมาเรื่อง ความฝันใฝ่ในฝัน บางทีคงได้เวลาที่ลูกพ่อจะเดินทางตามพ่อไปเสียทีแล้วล่ะ เพราะลูกพ่อโชคดีกว่าพ่อที่มีพื้นที่ว่าง ขึ้นกับตัวเองแล้วใช่ไหมคะว่าจะลงมือทำสิ่งที่ฝัน สิ่งที่เคยทำไม่ได้เสียที  และนี่ไงคะเหตุทำให้ต้องลุกมาก่อนฟ้าจะสว่าง โรคเดียวกันกับคน G2K เค้าล่ะค่ะ

          ลูกพ่อจะตามฝันนั้นค่ะพ่อ พ่อคิดถึงสมจุ้ยกับเพื่อนเฉลียงของเขาไหม?

          ใครอยากมีฝันล้อมวงตรงเข้ามา...มีฝันที่ว่าแบบรู้เลือกดูกัน...

 

 

ควันหลงหลังจากบำบัดรักษาชั่วคราวด้วยการเขียนบันทึก

แม่คะ..ขออนุญาต...เอาเรื่องของพ่อ...ไป...

อ้าว! พ่อมาเหรอแม่

อ้อ อ๋ออออ..มิน่าล่ะคิดถึงพ่อกับเจ้าตัวที่มันกัดพ่อเนี่ย

ไม่ดีใจเลยค่ะ แบบนี้สุขภาพประเทศไทยก็ไม่ดีใช่ไหมล่ะเนี่ย...

แต่คิดอีกที คิดบวก บวก  ดีจัง! พ่อยังตามรักษาญาติผู้ป่วยต่ออยู่อีกนะเนี่ย..

ว้า ก็เลยลืมขอลิขสิทธิ์เรื่องที่คิดไว้จากแม่เลย....^^

 

หมายเลขบันทึก: 170758เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2008 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ อ.ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

  • ลูกไม้คงหล่นไม่ไกลต้นค่ะ
  • เชียร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณกำลังใจจาก pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ] ค่ะ ขอเอาคำว่า อ. ออกนะคะ จั๊กจี้หัวใจจังค่ะ ^^ ให้เป็นหลานก็ได้นะคะป้าแดง (ดูอ่อนเยาว์ดิ อิอิ)

  • พี่ต๋อย คะ..

นี่ไงคะ  ขวัญ 12 ขวัญที่เราได้คุยกัน   อยู่ในตัวพี่ต๋อยค่ะ และตอนนี้ถึงเวลาเจิดจำรัสแล้ว  

^^

P 3. เนปาลี  ค่ะ

  • ขวัญกี่ขวัญ ฟังมาอีกที ไม่กล้าปักใจเชื่อได้ค่ะ
  • ฟังเล่ามาว่า คนที่ตายไปแล้ว สามารถนำขวัญที่มี จะมีมากน้อยขึ้นกับบุญที่ทำ ขวัญที่ดีๆนั้นจะไปอยู่กับลูก หลาน...
  • ท่านใดมีข้อมูล ความเชื่อเกี่ยวกับขวัญนี้บ้างค่ะ  ช่วยอนุเคราะห์ให้ได้รู้ด้วยนะคะ

จะตามอ่านบันทึกของคุณพ่อ  ผ่านคุณลูก

ชื่นชมท่านเสมอ

คืนนี้คงตามไปค้นหนังสือของท่านที่เคยอ่านในห้องหนังสือ  ซะแล้ว

หวังว่าคงติดใจสำนวนคุณลูก  เหมือนติดใจเรื่องที่คุณพ่อเขียน

…….

ความดีงามอยู่ข้างกายเรา

ความเปล่าเปลี่ยว...ต่อเติมด้วยมิตรภาพ

  • สำนวนคุณลูกคงได้..แบบติดๆ ขัด ๆ ค่ะน้าอึ่ง
  • เรื่องแม่ก็เหมือนกัน เมื่อสองคืนก่อนนอนไม่หลับ ลุกมาอีกแล้ว...ได้เรื่องเลยค่ะ เรื่องแม่คราวนี้ ชื่อเรื่อง ได้สักครึ่ง...หนึ่งของแม่ก็คงดี.. ตามอ่านนะคะ พรุ่งนี้จะเหลาลง G2K แล้วค่ะ

มาหลับรอ (แค่นอนคงไม่พอ) อิอิ ^^

น้าอึ่งอ๊อบ คนสวย แซ่เฮ

เนปาลี

ไม่ต้องนอนรอ หลับรอแล้ว เคี่ยว...เข็ญจนได้ที่แล้วตามไปอ่านแล้วห้ามบ่นต่อ (ขู่ไว้ก่อน อิอิ)ที่ ได้สักครึ่ง...หนึ่งของแม่คงดี(1)

นะคะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท