ที่คิดขนาดนี้ จะว่าคิดมากก็คงใช่ แต่ความจริงในใจตั้งใจอยากให้ความคิดนี้มันตกผลึกก็เท่านั้นเอง โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง คุณภาพของใจ ถ้อยคำนี้เป็นถ้อยคำที่ครูอึ่งหยิบมาเป็นประเด็นให้น้องนักศึกษาครูพันธุ์ใหม่ได้นำไปคิดทบทวนและคิดต่อ
เมื่อเจอคำถามว่าทำไม เลือกเรียนวิชาชีพครู นักศึกษามักตอบว่าเพราะใจรัก นี่จึงเป็นการย้อนถามกลับแบบให้คิด ผมคิดว่าครูอึ่งไม่ได้ต้องการคำตอบ ณ ปัจจุบันขณะ แต่ต้องการให้น้องนักศึกษาคิดต่อ คิดทบทวน คิดวิเคราะห์เรื่องใจรักที่น้อง ๆ ว่า ว่ามีคุณภาพของใจขนาดไหน
ผมไม่เก่งเรื่องใจคนอื่นสักเท่าไหร่ ในวิชาชีพด้านศิลปะมุ่งให้นักศึกษาประโลมใจตนเอง ไม่ค่อยให้คิดถึงใคร แม้แต่คนดูงานศิลปะของตนเอง แต่ทุกวันนี้หลายสถาบันได้เปลี่ยนแนวคิดด้านการสอนศิลปะไปบ้างโดยให้มีดุลยถาพระหว่างการคิดสร้างสรรค์และคิดถึงคนอื่นในฐานะคนดูงานศิลปะของเรา
ผมเองแม้จะผ่านมาหลายวันแต่ก็ไม่ตกผลึกเรื่องคุณภาพของใจสักเท่าไหร่ ใจหนึ่งมัวนั่งคิดเรื่องเครื่องมือวัด(เฉพาะตัว) ว่าตัวเองมีใจกับสิ่งนั้นขนาดไหน(สิ่งที่ทำ สิ่งที่เกี่ยวเนื่อง) แต่ถึงอย่างไรก็พบว่าตนเองได้ใช้มาตราฐานอย่างหยาบ ๆ เช่น มีใจเล็กน้อย ก็พอมีใจ มีใจมาก มีใจมากที่สุด ซึ่งเมื่อมาประมวลแบบนี้ก้พบว่าตนเองมีใจต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เท่ากัน
เมื่อได้คิดแบบนี้ก็พอจะทำให้เห็นคุณค่าของถ้อยคำของครูอึ่งที่มุ่งให้พินิจคุณภาพใจของตนเอง เอ้อแบบนี้น่าคิดนะครับว่าเราทุกคนมีคุณภาพของใจต่อสิ่งต่าง ๆ เพียงไรและเราจะปรับ ลด ใจต่อสิ่งต่าง ๆ แบบใด ผมว่านี่เป็นการบริหารจัดการใจของเราเอง
อิอิ ไม่รู้ผิดรู้ถูกหรือเปล่านะครับเพราะแต่ละวิชาชีพมุ่งสอนเรื่องใจที่ต่างกัน แต่ผมว่าก็ไม่แตกต่างกันในเรื่องคุณค่า
พี่ครูอึ่งยังไม่มา "น้องครู Handy" จะขอว่า ขัดตาทัพไปพลางๆ ดังนี้
น้องออตมาเชียงใหม่บอกพี่ด้วยนะคะ จะพาไปดูโรงเรียนพี่อึ่ง และไปนั่งคุยยาวๆ กับพี่อึ่งและคุณครู...ดีไหมคะ