"เธอจงทำให้คนข้างหน้า เป็นคนพิเศษสำหรับเธอ อย่าทำให้เขา ต้องเจ็บปวดเพราะเธอ" |
เป็นบทคำสอนของแห่งองค์ทะไลลามะ ที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตบอกผ่านในหนังสือของท่าน ทันทีที่ข้าพเจ้าอ่านจบ การรับรู้หนึ่งที่ปรากฏขึ้น นั่นคือ เรื่องของพลังแห่งความเมตตากับการตื่นรู้อยู่ในปัจจุบันขณะ...
ตลอดชีวิตของข้าพเจ้าได้เรียนรู้แห่งพลังนี้จากผู้คนภายนอก...แต่ในช่วงหลังของชีวิตนี้ ข้าพเจ้าได้ถูกเขย่าและสั่นคลอนทางความคิดและความรู้สึกต่อการได้ตื่น และลุกขึ้นมาเรียนรู้พลังอันงดงามนี้ภายในใจตน เป็นการเรียนรู้และฝึกฝน อันมาจากการทำความรู้ต่อเรื่องราวนี้ เป็นความรู้อันมาจากรากฐานแห่งความเข้าใจ
การทำความรู้จักกับเรื่องนี้ ... มันช่างทำให้ใจเราอ่อนน้อมลงเหลือเกิน และยิ่งเกิดปรากฏการณ์ต่อสภาวะความรู้สึกสงสาร เห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่อยู่เบื้องหน้า และความเจ็บปวดที่เกาะกินอยู่ในจิตใจของเขาติดตามมาไม่รู้กี่กัปป์กี่กัลป์ แต่สภาวะความรู้สึกสงสารที่ว่านั้น ข้าพเจ้าก็ไม่ได้นำพาตนเองให้จมจ่ออยู่ในอารมณ์นั้น แต่ทำความเข้าใจในความเจ็บปวดของผู้นนั้นว่า...เป็นผลอันสืบเนื่องมาจากเหตุปัจจัยเดิม
แต่...
"ในปัจจุบันขณะ...เราควรตื่นรู้เพื่อสร้างเหตุปัจจัยใหม่ที่ดีกว่า"
เหตุปัจจัยใหม่... เป็นปัจจัยที่ดีและงดงาม
ดี = อันเป็นความดีที่จะทำต่อผู้อื่น เพื่อผู้อื่นเสมอตน นั่นหมายถึง เป็นการกระทำอันปราศจากกฏเกณฑ์ที่บีบคั้นตนเอง หากแต่อยู่ภายใต้ของความพอดี ไม่มากไปและไม่น้อยไป
ส่วนในความงดงามนั้น เป็นไปภายใต้ความบริสุทธิ์ใจ กล่าวคือ ความงามที่จะทำความดีนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทันตามความคิด...
มาถึง ณ ขณะ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงคำพูดประโยคหนึ่งของพี่ปุ๊กที่ได้เคยให้สติผ่านปัญญาให้รู้คิดว่า... "กะปุ๋ม..ทำไปเถอะภายใต้ความคิดที่ดี เจตนาที่ดี ผลลัพธ์ออกมาจะเป็นเช่นไรก็ตาม แต่นั่นเราได้ทำเพราะเรามีเจตนาที่ดีนั่นเอง"
แม้บางครั้ง...ภายใต้เจตนาที่ดีนี้ จะต้องมีสิ่งกระทบต่อสรรพสิ่งบางสิ่ง แต่เราอาจจะต้องมีเรื่องของอุเบกขา คือ การวางและน้อมรับด้วยใจเบาเบา ด้วยใจที่นอบน้อมร่วมด้วย ในบทคำสอนที่ว่าด้วยเรื่องของความดีงาม ภายใต้หัวใจแห่งพลังเมตตาบารมีนี้..กระทำทั้งกาย วาจา ใจ ด้วยใจที่เบาเบา และตื่นรู้ในทุกขณะจิต
____________________________________________________________________________________
วรรคสุดท้ายของห้วงคำนึงนี้
จะด้วยอย่างไรก็ตาม การที่เรามีสติรู้ตื่นอยู่ในทุกขณะจิต ในทุกห้วงเวลา ทำให้เรานั้นเล็กลง หัวใจเรานอบน้อมลง ปรารถนาดีมากขึ้น...ก้าวย่างแห่งภายในช้าลง
โน้มกายและใจไปสู่สรรพสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า...
ปรารถนาทำให้เขามีความสุขมากเท่ากำลังภายในและกำลังภายนอกเรามี อันเป็นเรื่องของความแบ่งปันเขาและเธอ...ทุกคนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ พืช สัตว์ ต่างล้วนเป็น "สิ่งพิเศษ" สำหรับเราเสมอ แม้ว่าบางครั้งเราไม่อาจสามารถหลีกเลี่ยงหรืออาจเผลอเรอกระทบต่อสรรพสิ่งต่างๆ...แต่นั่นเชื่อและมั่นใจได้เลยว่า ไม่ได้อยู่ภายใต้เจตนาที่ไม่ดี
"นี่แหละ คือ ความงดงามอีกบทหนึ่งของการดำรงอยู่ในรูปกายแห่งความเป็นมนุษย์นี้"
------------------------------------------
12 ต.ค. 51
9.39 น.
แผ่เมตตา....ให้เธอหรือเขาผู้นั้นให้มากๆ แล้วชีวิตเราจะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะน้องกะปุ๋ม
เป็นเพราะเราดี เราเด่น เกินไป ทำให้คนอื่นหมั่นไส้ค่ะ
เรียนท่าน Dr.Ka+Poom
+ อ๊ะ...อ๋อยมาส่งกำลังใจค่ะ...
+ "คน" ก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ...
+ อ่านแล้วนึกไปไกลถึง บัวทั้ง 4 นะค่ะ...
+ บางคนเขาก็ไม่เข้าใจ...ไม่เท่าทันใจตัวเอง...คิดไม่ได้..พอรู้สึกก็แสดงออกทางกาย วาจา...
+ แต่เรารู้เท่าทันอารมณ์รู้สึกมากกว่าเราเลย นิ่ง...
+ พอเรา นิ่ง เขาไม่รู้...เขาก็เข้าใจว่า..เราไม่รู้สึก...เรายอม...
+ เฮ้อ..คิดดี ทำดี ก็เป็นเช่นนี้แหละค่ะ..
+ มาเป็นกำลังใจค่ะ...
ขอบคุณที่นำสิ่งดีดีมาให้ครับ
รพี
มาให้กำลังใจ
ผู้หญิงคิดบวกค่ะ
บวกเข้าไป ๆ
ผลลัพธ์ออกมา...ต้องดีค่ะ
ไหน...ยิ้มซิ
^___^
พี่แก้ว...
ความรักที่ยิ่งใหญ่ คือพลังแห่งความรักและเมตตา ... ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนแล้วมีสิทธิที่จะได้รับความรักเฉกเช่นนี้จาก..ใจ...เรา
ขอบพระคุณสำหรับความรักจากพี่แก้วนะคะ
(^__^)
ขอบพระคุณค่ะท่าน อ.หมอ JJ
สิ่งมหัศจรรย์มักเกิดขึ้นจากใจที่งดงาม...
ความดี..ความงามของ "ชีวิต"...
(^___^)
น่ารักมากเลยค่ะ...น้องครูอ๋อย
...
บารมี คือ กำลังใจ...
เมตตาบารมี ก็คือ...หนึ่งในสิบของกำลังใจที่งดงาม...รวมไปถึงอุเบกขา...จริงๆ แล้วในชีวิตเราในแต่ละวันที่ดำเนินไป พึงสั่งสมบารมีอันงดงามในจิตใจเรานะคะ
ในบุคคลต่างๆ... เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโกรธ หรือเกลียดเขา...
เราทำได้เพียงสิ่งเดียวคือ ทำความรู้ และความเข้าใจ...ในสิ่งที่เป็นของสรรพสิ่งต่างๆ นั้น
(^__^)
คุณรพี...
ขอบคุณเช่นกันนะคะ สำหรับการแวะมาเยือน...
สู่...จิตประภัสสร...ค่ะ
(^___^)
คุณ windy...
ขอบคุณนะคะ...รอยยิ้มสวยๆ..ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นไร...
พร้อมน้อมรับเสมอค่ะ
(^___^)
คุณ windy ไม่ได้คุยกันนานมากเลยนะคะ คงสบายดี ได้เห็นรอยยิ้มอันเปิดกว้าง...ใจพลอยยิ้มตามไปด้วย
จะทำดีครับ
และให้ทุกคนที่ผมพบ เป็นคนพิเศษ ไม่ว่าใครๆ
ผมจะมอบความรักให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยความห่วงใย(เท่าที่จะสามารถทำให้ได้ โดยไม่เดือดร้อนตนและผู้อื่นครับ)
(ไม่ใช่นางเอกแต่ขอพูดเป็นนางเอกหน่อยครับ อิอิ)
เอ๊ะ...คนพลัดถิ่น
เป็นคำพูดที่ดีมากเลย... ประโยคนี้ของท่านองค์ทะไลลามะ ทำให้พี่กะปุ๋มมีสติต่อการดำรงอยู่และสัมพันธ์กับผู้คนได้ด้วยใจอย่างแท้จริง
คือ ความงดงามของการยังได้มีลมหายใจอยู่นะ ว่าไหมเอ๊ะ... พี่ว่าถ้าพวกเราทุกคนทำได้นี่ สังคมและโลกจะเข้าสู่ศานติยิ่งขึ้นในจิตใจของเราพวกเรา
ขอบคุณน้องเอ๊ะมาก..ที่แวะมามีส่วนร่วมเติมเต็มอยู่เสมอ
(^___^)
สวัสดีจ๊ะ
- สุขใจ ที่ได้ให้ ค่ะ
สวัสดีค่ะ...เพชร...
สบายดีนะคะ... "ความสุขแบบเบาเบา ไม่บีบคั้น ไม่หวือหวา...อิ่มใจทุกคราที่นึกถึง...คือ สุขที่ได้ให้สิ่งดีดี ต่อผู้คนค่ะ"
คิดถึงนะคะ
(^__^)
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยมยามครับผม สบายดีมั๊ยครับ :)
กะปุ๋ม
พี่อ่านแล้วนึกถึงตัวเองบ้างจาก50/50ของความดีและความไม่ดีในตัวตน ของแป้ ในใจยังมีความโกรธ เกลียด เมื่อไม่สมปรารถนา
ยิ่งช่วงตอนนี้ได้มีโอกาสกับการทำใจเบาๆ มันเป็นอะไรที่ต้องอดทนในการฝึกตน บางครั้งก็นึกในใจเราจะไหวมั้ยน้อ
แต่พอสัมผัสสิ่งที่เกิดขึ้นว่าดีแน่นอนสำหรับตน.....จึงใช้ความทำตัวเป็นใจเบาๆ เมื่อตัวเองใจหนักกกกก
สุดท้ายกำลังมีความสุขเพราะเริ่มจะไม่พยายามมีความโกรธ เกลียดใคร
อยากบอกว่า รักและหวังดี ต่อทุกคน
สวัสดีค่ะคุณกบ... ข้ามสีทันดร
(^___^)
สาธุค่ะ...พี่แป้ wasana06
(^____^)