กลุ่ม 1 เล่าได้ละเอียดมากเลยค่ะ ว่าถึงเรื่องกิจกรรมของจังหวัดต่างๆ แบบครบถ้วน
ของสตูล มีการทำ Workshop ระดับจังหวัด การคัดเลือกพื้นที่ และมีเวทีให้อำเภอมาร่วมเรียนร่วมรู้กัน เพราะว่าไม่รู้อะไรเป็นสิ่งที่แน่นอน ก็ร่วมคิดร่วมทำกันไป
จังหวัดสตูล มีหลายๆ ตัวอย่าง เช่น ผู้สูงวัยไม่กินหวาน ฟันดีที่บั้นปลาย การแปรงฟันหลังอาหารของผู้สูงอายุก่อนที่จะทำละหมาดทุกวันศุกร์ กิจกรรมค่อนข้างจะชัดเจน
จังหวัดสุราษฎร์ ทำในกาญจนดิษฐ์ และคีรีรัฐนิคม ร่วมกับงานส่งเสริม โดยทำการคัดกรองผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน ความดัน แต่เนื่องจากสมาชิกในชมรมของอำเภอนี้ มีเป็นจำนวนมาก ก็เลยได้เจาะลงไป คัดเอาแค่ 10% ที่สามารถจะไปทำได้ครอบคลุม สามารถคัดกรองสุขภาพช่องปาก ทาฟลูออไรด์วานิชด้วย และส่งไปรับการรักษาตามอาการ แนวโน้มก็สามารถจะทำต่อได้ในอนาคต
จังหวัดสงขลา มีกิจกรรมทำตามนโยบาย ที่ รพ.ควนเนียง มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะ นอกเหนือจากการบูรณาการในงานส่งเสริมสุขภาพในรูปแบบของ คปสอ. แล้ว ทั้ง 11 ชมรม ยังเจาะลึกใน 1 ชมรม สมาชิก 200 คน มีการคัดกรองให้ความรู้ และให้บริการส่งเสริมทันตสุขภาพค่อนข้างครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พอคัดกรองเสร็จแล้ว ยังมีการแยกผู้ป่วยผู้สูงอายุออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ใช้ฟันเป็นตัวแยก ได้แก่ ที่มีฟันครบ มีฟันแท้ทั้งหมดไว้กลุ่มหนึ่ง มีฟันเทียมทั้งหมดกลุ่มหนึ่ง และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีฟันผสม
ปรากฎว่า ในกลุ่มที่คัดกรองมาได้นี้ จะมีผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป ที่มีฟันดี ก็มีการประกวดด้วย และก็ได้โอกาสคัดเลือกเป็นตัวแทนของอำเภอเข้าไปประกวดในระดับจังหวัดด้วย
และผู้สูงอายุ 11 คนนี้ ยังได้เป็นแกนนำในการดำเนินงานจิตอาสาต่อไป
ที่พิเศษไปกว่านั้น เป็นเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพ ถ้าวันพระให้ทำเมนูชูสุขภาพ ลดอาหารเนื้อสัตว์ลง เพิ่มอาหารที่เป็นผักมากขึ้น
ส่วนของเทศบาลนครหาดใหญ่ ใหญ่จริงๆ เพราะว่ามีสมาชิกในชมรม 1,000 กว่าคน น้องเขาบอกว่า พยายามบูรณาการที่สุด ก็เป็นการให้ความรู้ ซึ่งผู้สูงอายุให้ความสนใจ และบอกว่า การให้ความรู้ ควรจะได้นำสื่อมาให้ดูด้วย
จังหวัดพังงา มีการดำเนินการไปได้เยอะ ที่ชมรมนี้มีผู้สูงอายุ 200 กว่าคน มาขอความร่วมมือจาก สสจ. ให้ไปทำกิจกรรมในชมรมผู้สูงอายุ ก็จะมีกิจกรรมให้ความรู้ การส่งเสริมสุขภาพ มีการจัดทำสื่อ ให้ผู้สูงอายุมาร่วมกันจัดทำบอร์ดนิทรรศการด้วย และมีการตรวจคัดกรองโดยทันตบุคลากร
อันที่สองในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ แกนนำ ได้เอาผู้สูงอายุแกนนำมา 30 คน พัฒนาศักยภาพโดยดำเนินการประเมินความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรมการดูแลอนามัยในช่องปากของผู้สูงอายุในกลุ่มนั้นก่อน และมีการระดมสมองในการแก้ปัญหาที่กำหนดให้ เช่น การดูแลสร้างสถานการณ์ขึ้นมา และให้เขาแก้โจทย์การดูแลสุขภาพในช่องปาก และผลเสียต่อการมีสุขภาพช่องปากไม่ดี ทั้งทางกาย ทางจิต และสังคมด้วย อีกทั้งมีการนำเสนอผลแล้ว แต่น้องบอกว่า ยังไม่ได้เกิดกิจกรรมต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคตจะต้องมี
จังหวัดระนอง ได้บูรณาการกับงานอื่นๆ ใน PCU ทั้งในงานส่งเสริมสุขภาพ ดำเนินการในรูปของ คปสอ. มีการตรวจคัดกรอง และรักษาตามอาการ มีการขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุที่จะใส่ฟันเทียม และประเมินผู้สูงอายุที่ได้ให้บริการได้รับบริการฟันเทียมพระราชทานไปแล้วด้วย
จังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการใน้เชิงบูรณาการไปแล้ว ในเชิงผู้ป่วยเบาหวาน และเรื่องความดัน
ในอนาคต ซึ่งแต่ละจังหวัดมีทุนทางสังคมอยู่แล้ว เช่น มีชมรมผู้สูงอายุทุก PCU แต่ละ PCU ได้เคลื่อนไหว บาง PCU ก็เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และล้ำหน้าไปเลย
อันที่สอง มีการบูรณาการกับงานอื่น เข้าไปเป็นงาน routine อยู่แล้ว ในเรื่องของการตรวจคัดกรองให้ความรู้ หรือการทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น
... การประกวด ซึ่งผู้สูงอายุจะชอบตรงนี้
... มีประธานชมรมผู้สูงอายุหลายแห่งที่มีความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือว่า ครู หรือนักปกครอง มี power ที่จะดูแลสมาชิกในกลุ่มได้
... ผู้สูงอายุเรามีชุดสิทธิประโยชน์ มีความครอบคลุม ทั้งในเรื่องของการป้องกัน การรักษา และฟื้นฟูสภาพ ตรงนี้คิดว่า ในอนาคตคงทำได้ไม่ยาก และคิดว่าสามารถที่จะขยายเข้าไปในเครือข่ายอื่นๆ ให้ครอบคลุมเต็มพื้นที่ได้ไม่ยาก อีกทั้งการบูรณาการกับงานส่งเสริมสุขภาพที่มีอยู่แล้ว
... ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะเป็นผู้ดูแลเด็ก และสามารถที่จะคิดว่า ได้ผู้สูงอายุไปแล้ว เราก็ได้ในเรื่องกลุ่มเด็กด้วย
สิ่งที่กลุ่มต้องการก็คือ
ไม่มีความเห็น