นอกจากทุ่งสักอาศรมและครูกานท์จะเปิดโรงเรียนกวีทุ่งสักอาศรม ที่อู่ทอง สุพรรณบุรี จัดกิจกรรมโครงการค่ายเป็นวิทยาทาน [ไม่เก็บค่าลงทะเบียนและค่าใช้จ่ายใดๆ] แก่เยาวชนผู้สนใจเป็นเวลา ๑ เดือนเต็ม [ของเดือนเมษายน ทุกปี] แล้ว โอกาสนี้ยังได้เปิดโรงเรียนกวีออนไลน์ขึ้น ณ เว็บบล็อกแห่งนี้อีกด้วย โดยมีจุดประสงค์ให้ผู้สนใจใฝ่เรียนรู้ที่ไม่มีโอกาสไปร่วมเรียนรู้ที่ศูนย์เรียนรู้ทุ่งสักอาศรม ได้มีพื้นที่ของการเรียนรู้ได้อีกช่องทางหนึ่ง
ดังนั้น บล็อกนี้จึงเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้เพื่อผู้สนใจการเขียนกาพย์กลอนทั่วไป
ไม่ว่าคุณจะเป็นครู
หรือเธอจะเป็นนักเรียนนักศึกษา
หรือใครและใคร
ที่เปี่ยมพลังแห่งการเรียนรู้ ฝึก ปฏิบัติ...
มุมหนึ่งของโลกออนไลน์...ตรงนี้
ทุ่งสักอาศรม และ ครูกานท์ [ศิวกานท์ ปทุมสูติ]
พร้อมเปิดประตูต้อนรับ...
...
๑.ผู้ใดสนใจสมัครเป็นสมาชิกร่วมเรียนรู้ ให้โพสสมัครได้ที่ช่องแสดงความคิดเห็นได้เลย
๒.สนใจใคร่รู้เรื่องใด หรือต้องการแสดงความคิดอ่านใดๆ แลกเปลี่ยนก็ให้ตั้งกระทู้ หรือแสดงไว้ได้ในช่องความคิดเห็นนั้น
๓.ครูกานท์จะตอบ หรือแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดแก่สมาชิกผ่านช่องความคิดเห็นเช่นเดียวกัน
๔.เมื่อครูกานท์มีประเด็นเนื้อหาสำคัญใหม่ หรือพื้นที่ในหน้านี้มีความยาวมากเกินไปก็จะขึ้นหน้าใหม่ต่อกันไปเรื่อยๆ
พร้อมแล้ว...ขอเชิญสมาชิกหมายเลขแรกๆ โพสเลยครับ
คุณพิมญดา อ่านกติกาข้อ ๑,๒,๓,๔ สิครับ
อยากรู้ อยากเรียน อยากถามเรื่องใด...ก็เริ่มเป็นบทเรียนแรกได้เลย
ขอสมัครเป็นสมาชิกของโรงเรียนกวีออนไลน์เพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องของภาษาและวรรณกรรมค่ะ ทั้งประเภทกวีนิพนธ์และร้อยแก้ว เพราะด้วยความที่ตัวเองเป็นคนไม่ยึดติดในฉันทลักษณ์ใดๆ จึงอยากเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเรื่องราวเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดค่ะ
ขอบคุณค่ะ..
สวัสดีค่ะ ครูกานท์
สนใจค่ะ
เป็นนิมิตหมายที่ดีมากเลยนะคะ
สำหรับน้องๆ เยาวชน ได้เรียนรู้
ที่ ทุ่งสักอาศรม
ขอบคุณค่ะ
สมาชิกหมายเลข 1 เนปาลี
ลักษณะการเรียนในห้องเรียนออนไลน์นี้ คือจะให้สมาชิกเป็นคนตั้งคำถามในช่องแสดงความคิดเห็นของครู หรือตั้งกระทู้ถามในบันทึกของตัวเองคะ? และเริ่มได้ในบันทึกนี้ของครูกานท์เลยหรือเปล่าคะ?
ขอบคุณค่ะ..
อย่างที่เกริ่นนำไปในความคิดเห็นที่ 3 ว่าเพราะด้วยตัวเองเป็นคนที่ไม่มีความรู้และยึดติดกับฉันทลักษณ์ใดๆ หลายๆ ครั้งจึงแยกประเภทของกลอนหรือกาพย์ไม่ค่อยออก ถ้าจะแต่งก็แต่งไปแบบ..ที่คิดว่าน่าจะใช่มากกว่า ตัวอย่างเช่น
....และแล้ว ณ ห้วงมหรรณพ
....มหรสพแห่งชีวาถึงคราสิ้น
....เสียงโหมโรงประโคมพาทย์เพลงพิณ
....เหนือมุจรินทร์ศศินสลดมิงดงาม
ซึ่งจริงๆ แล้วมันผิดไหมคะ? รบกวนครูด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
ตอบคุณเนปาลี
ตั้งกระทู้ในบันทึกนี้ได้เลยครับ
เราจะเรียนรู้กันที่นี่เลย
เพื่อผู้อื่นที่เข้ามาอ่านจะได้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันด้วย
ประเด็นของการเรียนรู้ให้เริ่มได้ตลอดเวลาจากสมาชิก
ถ้ามีประเด็น...
ก็เริ่มกระทู้ในช่องความคิดเห็นต่อไปได้เลยครับ
....และแล้ว ณ ห้วงมหรรณพ
....มหรสพแห่งชีวาถึงคราสิ้น
....เสียงโหมโรงประโคมพาทย์เพลงพิณ
....เหนือมุจรินทร์ศศินสลดมิงดงาม
กลอนบทนี้ของคุณไม่ผิดอะไรในทางฉันทลักษณ์ แต่คำที่เลือกใช้ในวรรคสามและวรรคสี่ออกจะลึกเกินจำเป็นไปบ้าง...แต่ทั้งนี้ก็อาจต้องพิจารณาทั้งเรื่องนี้ที่แต่งอีกครั้ง
ขอสมัครนักกวีที่เว็บบล๊อก... ครูกานต์บอกสนใจใช้โพสสรร
ด้วยยินดีที่ได้เรียนเขียนกลอนกัน สื่อสัมพันธ์ผ่านออนไลน์เต็มใจเรียน
....การร้อยกรองเรียงกาพย์กานต์สำคัญยิ่ง
แม้มิได้เก่งจริงแต่มุ่งมั่น
หวังผลงานประดับไว้ในชีวัน
จึงได้หมั่นอ่านและเขียนเรียนรู้ไป
สวัสดีค่ะอาจารย์
***ขออภัยค่ะ..ตั้งใจจะใช้กานท์ค่ะ..ไม่ใช่กานต์...พิมพ์พลาดไปค่ะ
ลงทะเบียนรับสมาชิก
ตอบคุณเพ็ญศรี (นก)
กลอนของคุณนกที่ยกมาให้พิจารณา ขออนุญาตแนะนำดังนี้ครับ
ค่อยๆ สังเกตพิจารณา ทำให้ถูกต้องได้ไม่ยากหรอกครับ
เรื่องความหมายและข้อสังเกตอื่นๆ เอาไว้พูดถึงกันในโอกาสต่อไปนะครับ
สวัสดีครับ ผ่านไปผ่านมา ไม่ได้สังเกต ว่าเป็นท่านศิวกานท์ ผู้น้อยสมควรตาย....อิอิ.อิ เลยเข้ามาเยี่ยมช้าไป ดีใจมากที่ GTK มีคนดีที่คุณภาพคับแก้วจริงๆ ผมไปซื้อผ้าทอที่บ้านวังหลุมพอง ญาติผู้ใหญ่พูดถึงท่านให้ฟังบ่อยๆ ครูพิสูจน์ เคยมาประกาศเกียรติคุณท่านใน GTK ไว้ 2-3 เรื่องแล้วครับ ขอให้ท่านโชคดี มีความสุขครับ
สวัสดีค่ะคุณครูกานท์
ไม่กล้าสมัครค่ะ ได้แต่ขอเป็นผู้อ่าน ...
ไม่มีความรู้หรือมีความรู้ด้านโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน น้อยมาก ๆ ค่ะ เสียความมั่นใจ และเสียใจทุกครั้งที่....ได้คิดว่า...ทำไมหนอเราจึงไม่สนใจและไม่ใส่ใจมาเสียก่อนหน้านี้....
(^__^)
ขอบคุณท่านประจักษ์
คำทายทักไม่เคยสาย
รอยเท้าบนผืนทราย
ความรู้สึกวิเศษเสมอ
นมัสการท่าน tukkatummo
เพียงโพธิ์พลิ้วใบไหวระบัด
ย้อนรำลึกนึกภาพกระชับชัด
เชื่อมร้อยรัดอรรถรสบทกวี
แด่ผู้พลัดพ่ายดวงใจเทวษ
ถมทับทุกข์ประเทศวิบากวิถี
ขอกุศลธรรมพิสุทธิ์หยุดอัคคี
สาธุสังฆเมธีส่องทางนิรันดร์
ไม่สมัครรักเขียน แต่สมัครรักอ่าน ไม่เป็นไรครับ ดีกว่าดวงใจว่างเปล่า... อย่าลืมแวะเวียนไปอ่านบทกวีในคอลัมน์บล็อก "บทกวี วิถีแห่งใจ" นะครับ
มาลงชื่อสมัครไว้ครับ
หมายเลข 1 คุณเนปาลี
หมายเลข 2 คุณวิโรจน์ พูลสุข
หมายเลข 3 คุณเพ็ญศรี (นก)
หมายเลข 4 คุณกวิน - สมาชิกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา
ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับคุณกวิน จากการที่ได้ไปแอบอ่านแอบชื่นชมบล็อกของคุณกวิน ก็เชื่อมั่นว่า ไม่ไร้ราก ลึกในหลักและบริบท ซึ่งจะเป็นคุณค่าแก่เวทีนี้ที่มีคุณกวินร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย
อายุบวร
...
จากความคิดเห็นที่ 9 ของครู บอกไว้ว่า..
....และแล้ว ณ ห้วงมหรรณพ
....มหรสพแห่งชีวาถึงคราสิ้น
....เสียงโหมโรงประโคมพาทย์เพลงพิณ
....เหนือมุจรินทร์ศศินสลดมิงดงาม
กลอนบทนี้ของคุณไม่ผิดอะไรในทางฉันทลักษณ์ แต่คำที่เลือกใช้ในวรรคสามและวรรคสี่ออกจะลึกเกินจำเป็นไปบ้าง...แต่ทั้งนี้ก็อาจต้องพิจารณาทั้งเรื่องนี้ที่แต่งอีกครั้ง
ลึกนั้น หมายถึง..ใช้คำที่มีความหมายมากเกินไปหรือคะ? หากจะเปลี่ยนเป็นถ้อยคำธรรมดาก็ได้ใช่ไหมคะ? ต้อมกลัวจะไม่สวยน่ะค่ะ
บทนี้เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งถามว่า กลอนบทนี้ "แอบแซมด้วยฉันท์" ด้วยใช่ไหม? ต้อมก็ไม่แน่ใจกับที่ตัวเองแต่งเหมือนกันค่ะ
....สบพักต์ก็เนื้อเต้น ....พิศเร้นไหวระรัว
....งามล้ำมิหมองมัว ....ข้าสิกลัวระรัวไหว
....แลโฉมนงสะคราญ ....มิอนุมานกับสิ่งใด
....ประกายดาวอันสุกใส ....ก็บ่ได้เพียงเสี้ยวนาง
ขอบพระคุณครูค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ ขอสมัครสมาชิกด้วยคนค่ะ ลำดับที่เท่าไรแล้วค่ะ
คำว่า "ลึกเกินจำเป็น" นั้นผมหมายถึงผู้แต่งอาจต้องการให้สละสลวยด้วยรูปศัพท์ แต่ผลของการใช้คำเช่นนั้นโดยไม่ห่วงใยเรื่องเสียงของคำและความหมายเมื่อผู้ฟังสดับ (ไม่ได้เห็นด้วยตา) ศัพท์ที่ใช้นั้นอาจไม่ส่งผลของการรับรู้และรับรส
คำว่า "พาทย์เพลงพิณ" จุดสะดุดน่าจะอยู่ที่คำว่า พาทย์
ส่วนคำว่า "มุจรินทร์-ศศิน" ยิ่งลึกไปกว่า คือเป็นคำที่ไม่คุ้นการรับรู้ของผู้อ่านและผู้ฟัง "มุจรินทร์" ถ้าหมายถึงต้นจิก หรือสระใหญ่ในป่าหิมพานต์ที่มีต้นจิกขึ้นริมขอบสระ น่าจะเขียนเป็น "มุจลินท์" ซึ่งคำนี้อาจพอได้ยินได้ยลกันอยู่ในหมู่ของผู้เรียนรู้ภาษาและวรรณคดี แต่ "ศศิน" (ดวงจันทร์) นั้น แม้มีในพจนานุกรมก็ลึกต่อการรับรู้มากเกิน ยิ่งผู้ที่ฟังแต่เสียงย่อมใบ้กินต่อความหมายแน่นอน
บทกวีที่ดี (ในมุมรู้สึกรู้สาของผม) คำทุกคำควร "ทำงาน" ทั้งรูปและเสียง หมายถึงกระทบกระเทือนอารมณ์ผู้รับสารได้อย่างมีพลังทันที แต่ทั้งนี้ก็สามารถสะท้อนนัยและมิติของความหมายที่ลึกซึ้งและซับซ้อนได้เป็นหลายชั้นด้วย ซึ่งนัยยะดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้คำยากเกินก็ได้...ผมเองก็เคยพลาดในลักษณาการทำนองนี้มาแล้ว (ขอสารภาพ)
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละชิ้นงานของบทกวีย่อมต้องอาศัยบริบท ของคำและกลุ่มคำที่ประกอบขึ้นอย่างเป็นเอกภาพด้วย ถ้าคำและกลุ่มคำที่ใช้ร่วมกันทั้งชิ้นงานนั้นเป็นไปโดยเจตนาการหนึ่งเดียวกันอย่างเป็นเอกภาพ ข้อสังเกตนี้ก็อาจอยู่นอกประเด็นก็ได้ครับ
หมายเลข 1 คุณเนปาลี
หมายเลข 2 คุณวิโรจน์ พูลสุข
หมายเลข 3 คุณเพ็ญศรี (นก)
หมายเลข 4 คุณกวิน - สมาชิกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา
หมายเลข 5 คุณ apple
สวัสดีค่ะ
* ขอสมัครมารับความรู้ค่ะ
* อ่านความเห็นที่ตอบคำถามของคุณเนปาลี ได้ความรู้เพิ่มขึ้นและชอบมากค่ะ
* ขอให้อาจารย์สุขกายสุขใจนะคะ
ลงทะเบียนรับสมาชิก
"""""""""""""
หมายเลข 1 คุณเนปาลี
หมายเลข 2 คุณวิโรจน์ พูลสุข
หมายเลข 3 คุณเพ็ญศรี (นก)
หมายเลข 4 คุณกวิน - สมาชิกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา
หมายเลข 5 คุณ apple
หมายเลข 6 คุณพรรณา ผิวเผือก
เมื่อคืนต้อมหยิบหนังสือสร้อยสันติภาพขึ้นมาอ่าน และในบทที่เป็นคำนำของครู มีอยู่บทหนึ่งครูเขียนไว้ว่า.. (ขออนุญาตยกมา)
ต้น ปลายหมายกิ่งก้าน ชีวิต
ไม้ ป่านฤมิต แมกป้อง
ใบ หนึ่งน่าพึงพิศ เพ่งค่า
หญ้า ต่ำยางสูงต้อง แต่งพื้นเดียวกัน
โดย.. ศิวกานท์ ปทุมสูติ
อยากให้ครูอธิบายถึงการเขียนโคลง (โคลงหรือ..จะเรียกว่าอะไรคะ) แบบนี้หน่อยน่ะค่ะว่ามีข้อบังคับในการเขียนอย่างไรบ้าง??????? และต้อมมีของที่พี่สาวคนสวยเคยแต่งไว้ เป็นประเภทเดียวกันไหมคะ???????
เงียบ..เสียงสนิท เงียบเคยเสนาะ
งาม..ศัพท์สดับไพเราะ ทุกยามสาย
ยาม..นี้กลับไม่เห็นเจ้าเร้นกาย
เช้า..สาย บ่าย เพียรคอยเจ้าเยาวภา
ต้น ปลายหมายกิ่งก้าน ชีวิต
ไม้ ป่านฤมิต แมกป้อง
ใบ หนึ่งน่าพึงพิศ เพ่งค่า
หญ้า ต่ำยางสูงต้อง แต่งพื้นเดียวกัน
(สร้อยสันติภาพ,ศิวกานท์ ปทุมสูติ)
ขอสมัครรับความรู้ด้วยคนครับ..อาจารย์
เรียนถามอาจารย์ครับ
* 1)ธรรมชาติ...ของคนที่รักการเขียนบทกวีควรเป็นคนอย่างไร...ครับ
* 2)การเขียนบทกวีอย่างง่ายๆ ควรเริ่มตรงไหนดีครับ
ขอบคุณครับ...อาจารย์
ขอสมัครเป็นนักเรียนด้วยคนนะครับครู
ลงทะเบียนรับสมาชิก
"""""""""""""
หมายเลข 1 เนปาลี
หมายเลข 2 วิโรจน์ พูลสุข
หมายเลข 3 เพ็ญศรี (นก)
หมายเลข 4 กวิน - สมาชิกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา
หมายเลข 5 apple
หมายเลข 6 พรรณา ผิวเผือก
หมายเลข 7 แสงศรี
หมายเลข 8 พิมล มองจันทร์
1) คุณแสงศรีเองล่ะมีธรรมชาติเป็นอย่างไร แล้วรักที่จะเขียนบทกวีไหม
2) เริ่มต้นง่ายๆ ที่ ท่องกลอนบทครูให้ขึ้นใจก่อน จากนั้นก็ลอง แต่ง กลอนล้อบทครู คลิกไปดูอีกโพสหนึ่งต่อจากนี้สิครับ ที่หน้า "กลอนล้อบทครู" นั่นแหละครับ แล้วก็ลองแต่งไว้ที่หน้านั้นได้เลย
ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยครับ
ขอขอบคุณ
สวัสดีค่ะคุณครู
ลงทะเบียนรับสมาชิก
"""""""""""""
หมายเลข 1 เนปาลี
หมายเลข 2 วิโรจน์ พูลสุข
หมายเลข 3 เพ็ญศรี (นก)
หมายเลข 4 กวิน - สมาชิกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา
หมายเลข 5 apple
หมายเลข 6 พรรณา ผิวเผือก
หมายเลข 7 แสงศรี
หมายเลข 8 พิมล มองจันทร์
หมายเลข 9 ศรีกมล
ขอเชิญสมาชิกโรงเรียนกวีออนไลน์
ไปฝึกเขียนกลอนล้อบทครูที่หน้า ห้องเรียนกวี 1 กลอนล้อบทครู
กำลังสนุกครับ
มาสมัครเป็นนักเรียนค่ะ ส่งการบ้าน บทนี้ ก่อน(มีตอนต่อ ยังค้นไม่เจอค่ะคุณครูกานท์)
ยังรับสมัครอยู่รึเปล่าคับ
คือผมเพิ่งจะอยากเรียนครับ
ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าครับ