อาหารที่มีพลังชีวิตสูง เมื่อผ่านเข้าไปในร่างกายจะช่วยให้เกิดการย่อย ดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างหมดจด สมบูรณ์ ไม่เหลือเป็นสิ่งตกค้าง ไม่สร้างภาระให้ระบบย่อย ทั้งยังช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารของร่างกาย ทำหน้าที่ได้ดี จึงไม่สร้างหรือทำให้มี “อนุมูลอิสระ” ซึ่งเป็นตัวการให้เกิดความเสื่อมต่างๆ รอยเหี่ยวย่น ผมหงอกขาว ฯลฯ
สืบเนื่องจากบันทึก ... ค่ายโยคะบำบัดและธรรมชาติบำบัด บันทึกนี้คนไม่มีรากขอนำสาระที่เกี่ยวข้องมาเล่าสู่กันฟังต่อ เราได้ทราบเบื้องต้นแล้วว่า ธรรมชาติบำบัด เป็นทางเลือกหนึ่งในการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ คราวนี้มารู้จักธรรมชาติบำบัดกันให้มากขึ้นอีกนิดนะคะ
หลักของธรรมชาติบำบัด
หลักของธรรมชาติบำบัดมี 3 ประการ คือ
1. การเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกาย สภาพภูมิศาสตร์ อากาศ
2. การล้างพิษจากร่างกาย ใจ และจิตวิญญาณ
3. การปรับกายและใจสู่ดุลยภาพ
ได้ยินพี่สาวบ่นว่า...พออายุมากขึ้น ทานนิด ๆ หน่อย ๆ ก็อ้วนเอาอ้วนเอา ยังไม่ทันได้ทานอาหารอะไรเลย แค่ดมก็อ้วนแล้ว ... และจากที่สังเกตดูก็เป็นเช่นนั้น พี่สาวทานอาหารไม่มาก แต่เผลอไม่ได้ น้ำหนักคอยจะขึ้นพรวด ๆ จนตกใจ อ้วน...แต่ไม่สดชื่น แจ่มใส รู้สึกไม่แข็งแรง มึน ๆ ซึม เบื่อ ๆ ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง
เอ...เพราะอะไรกันล่ะ?
จากหลักของธรรมชาติบำบัด อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำความเข้าใจคือ คำว่า “พลังชีวิต” (life force)
พลังชีวิต (Life force) ซึ่งเรียกกันหลายชื่อ เช่น ชี่ (ภาษาจีน) ปราณหรือprana (สันสกฤต) เป็นสิ่งสำคัญและแสดงถึง “ความมีชีวิต” ของสิ่งมีชีวิต สิ่งที่ตายแล้วจะไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่อีกต่อไป
“หลักพลังชีวิต” (Vital life Principle)
เรามักสนใจและกล่าวถึงแต่ คุณค่าของอาหาร เช่น วิตะมิน เกลือแร่ สารอาหาร พลังงานแค่ไหน เท่าไหร่ แต่ไม่ค่อยจะคำนึงถึง “พลังชีวิต” (Life force) ในอาหารมากนัก
หลักการของพลังชีวิต ให้ความสำคัญกับการเลือกบริโภคอาหารที่มี “พลังชีวิตสูง” ที่เปรียบเหมือนการที่เราได้ยา “อายุวัฒนะ” ส่งผลให้เรามีร่างกายแข็งแรง มีรูปร่างได้สัดส่วน สวยงาม มีพละกำลัง สดชื่น แจ่มใส อ่อนเยาว์และมีอายุยืนยาว
เป็นที่ยอมรับกันว่า เรื่อง “อาหาร” เป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อสุขภาพอย่างมากเรื่องหนึ่ง ดังคำกล่าวที่ว่า....
“Living food is for living cell , Dead food is for dead cell”
“อาหารที่มีชีวิตสำหรับเซลล์ที่มีชีวิต อาหารที่ไม่มีชีวิตสำหรับเซลล์ที่ตายแล้ว”
วิทยาศาสตร์ทำให้เรารู้ว่า ร่างกายประกอบด้วย อวัยวะและระบบต่างๆ อวัยวะประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก สิ่งที่หล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายคือ “อาหาร”
แน่นอนว่า...อาหารที่ดีจะก่อให้เกิดเซลล์ที่ดี อาหารที่ด้อยคุณภาพย่อมสร้างเซลล์ที่อ่อนแอ
อาหารที่มีพลังชีวิต (Life force) คือ อาหารที่มีเอ็นไซม์ (Enzyme) สะสมคงอยู่ในอาหารนั้นมาก “เอ็นไซม์” หรือที่มักเรียกง่าย ๆ ว่า “น้ำย่อย” หรือ น้ำหล่อเลี้ยงให้อาหารคงความสดและมีชีวิตอยู่นั่นเอง ดังนั้นอาหารที่ถูกทำลายเอ็นไซม์ไปจนหมดสิ้นแล้ว จึงอาจเรียกได้ว่าเป็น “อาหารที่ตายแล้ว” ซึ่งเอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายมาก เพียงแค่ผ่านความร้อนที่เกิน 40 องศาเซลเซียส ผ่านการปั่น คั้นด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือการเก็บทิ้งอาหารนั้นไว้นานเกินไป
หน้าที่และความสำคัญของเอ็นไซม์
- เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการทำงานทุกอย่างในร่างกาย
- ทำหน้าที่ย่อยอาหาร
- ช่วยขับของเสีย
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- แปรสารอาหารให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้
- เปลี่ยนโปรตีนให้เป็นน้ำตาลหรือเปลี่ยนไขมันให้เป็นคาร์โบไฮเดรต
- ควบคุมระบบเมตาโบลิซึ่ม (Metabolism) ของร่างกาย
คงเห็นแล้วว่า “เอ็นไซม์” มีความจำเป็นและสำคัญต่อร่างกายมากมายเพียงไร ....
อาหารที่มีพลังชีวิต(Life force)สูง
อาหารสดทุกชนิดจะมีพลังชีวิตสูง และเนื่องจากมนุษย์มีสรีระที่เหมาะสมกับการรับประทานผักสด ผลไม้ มากกว่าเนื้อสัตว์ (โดยศึกษาเปรียบเทียบลักษณะของฟันที่ใช้ขบเคี้ยวอาหาร ชนิดของน้ำย่อย กายวิภาค อวัยวะที่ใช้ในการย่อยอาหารของมนุษย์ ฯลฯ) อาหารที่เหมาะสมและมีพลังชีวิตสูงสำหรับมนุษย์จึงเป็นจำพวก ผลไม้ ผักสด โยเกิร์ต ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์จากนม และอาหารที่ผ่านความร้อนไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งอาหารดังกล่าวเป็นอาหารที่ยังคงมีเอ็นไซม์สะสมอยู่จำนวนมาก
อาหารที่มีพลังชีวิตสูง เมื่อผ่านเข้าไปในร่างกายจะช่วยให้เกิดการย่อย ดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างหมดจด สมบูรณ์ ไม่เหลือเป็นสิ่งตกค้าง ไม่สร้างภาระให้ระบบย่อย ทั้งยังช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารของร่างกาย ทำหน้าที่ได้ดี จึงไม่สร้างหรือทำให้มี “อนุมูลอิสระ” ซึ่งเป็นตัวการให้เกิดความเสื่อมต่างๆ รอยเหี่ยวย่น ผมหงอกขาว ฯลฯ
ลองมาสังเกตอาหารที่เราบริโภคทุกวันดูบ้าง.... เราจะพบว่าเราบริโภคอาหารที่เกือบจะไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่เลย เพราะเราต้องทานอาหารปรุงสุก ต้ม เคี่ยว ผัด ทอด ซึ่งล้วนผ่านความร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียสทั้งสิ้น อาหารที่มีพลังชีวิตสูง อุดมด้วยเอนไซม์ ซึ่งก็คือ ผักสด ผลไม้ เราก็ทานเพียงเป็น ของ “ล้างปาก” หลังอาหารคาวนิดหน่อย ๆ ตบท้ายอาหารมื้อหลักเท่านั้น
คราวนี้ ... เราคงได้คำตอบบ้างแล้วว่า ทำไมกินนิดเดียวแต่อ้วนเอาอ้วนเอา แล้วยังไม่รู้สึกสดชื่น แจ่มใส กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย ...
ขอให้พวกเรามีสุขภาพองค์รวมที่ดี (Holistic Health) มีร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณที่แข็งแรงสมบูรณ์นะคะ
(^___^)
อ้างอิง
อาหารสู่ชีวิตใหม่ เอนไซม์มหัศจรรย์ , เกียรติวรรณ อมาตยกุล.2548
สนใจศึกษาเรื่องเอ็นไซม์เพิ่มเตอม ได้ที่นี่ ค่ะ