ชีวิตนี้อุทิศเพื่อการแพทย์องค์รวม(๒/๒)


มาลาแด่อาจารย์ธันย์ ชีวิตนี้อุทิศเพื่อการแพทย์องค์รวม(๒/๒)

โดยนายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล

(คัดมาจากหนังสืออนุสรณ์ฯ หน้า  ๑๖๘-๑๗๑)

(ต่อ)

 

          “เช้ามืด ผมจะตื่นไปปั่นจักรยาน” ท่านบอกผมเมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๔๓ นี้เองเมื่อตอนที่ผมและหมอลลิตาไปเยี่ยมอวยพรท่านในวันปีใหม่ที่บ้านเชียงใหม่ ครับ ท่านไปออกกำลังการยแบบนี้ทั้งที่เป็นมะเร็งระยะที่สี่ มีก้อนเบ้อเริ่มอยู่ที่ตับ “ลูกศิษย์ผมที่เป็นหมอน่ะบอกให้ผมกินเนื้อ นม ไข่ และไม่เห็นด้วยกับที่ผมกินอาหารอย่างนี้ แต่รู้ไหมครับ ผมกินอย่างนี้ซิกลับรู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงเยอะแยะ ทำให้ผมคิดย้อนไปว่า ผมนี่ท่าจะกินผิดมาอย่างมากเมื่อก่อนนี้ จึงทำให้เป็นมะเร็ง ผมคงไม่ถึงกับหวังว่าจะหาย แต่คุณภาพชีวิตของผมก็ถือว่าดีมาก ถ้าผมกินอย่างพวกเขาแนะนำ ผมคงตายไปนานแล้ว”

 

          ท่านเล่าต่อ “แหม...หมอ...เอ๊ย! เวลาที่ผมปล่อยจักรยานให้พาตัวเองเลื่อนไหลลงจากดอย ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเสียจริงๆ”

          ผมจินตนาการไปตามคำบอกของท่าน ระลึกถึงอากาศเช้าๆ ที่สดชื่น หมอกจางๆ โรยตัวระเรี่ยดิน ที่มีหยาดน้ำค้างพร่างพรมอยู่ตามยอดหญ้า มองไกลออกไปเห้นตัวเมืองเชียงใหม่ ยอดเจดีย์ วิหาร กำแพงเมือง จัดวางตัวอย่างสงบเหมือนคนขี้เซาที่ยังไม่ตื่นขึ้นมาจากหลับอันไร้ฝัน เห็นมหาวิทยาลัยที่อยู่เบื้องล่าง ถนัดชัดขึ้น ชัดขึ้น จนจักรยานของท่านลงมาถึงเบื้องล่าง เพียงแค่นี้ผมก็สัมผัสได้ถึง “ความสุข” ซึ่งที่แท้ก็เป็นเพียง “ความทุกข์น้อย” ที่มีมาชั่วครั้งคราว ท่านยังขยันเก็บรับเอามาเป็นคุณค่าแห่งชีวิตเท่าที่จะแสวงหาได้ในยามบั้นปลายของชีวิต

          อาจารย์ธันย์ยังใช้เวลาทั้งหมดเท่าที่จะมีอยู่ช่วยรักษาและแนะนำคนไข้มะเร็งโดยทั่วไปทั้งที่เชียงใหม่และกรุงเทพฯ โดยบินมาบินไปทุกสัปดาห์ “คุณพ่อมีความสุขที่ได้ตรวจรักษาคนไข้” ลูกสาวของท่านคุยกับผมทางโทรศัพท์ในอีกครั้งหนึ่งที่ผมทราบข่าวอาการเจ็บป่วยของท่านที่มีอาการหนักขึ้นและใช้วิธีโทรศัพท์ทางไกลไปเยี่ยม

          “จะให้ผมอยู่เฉยๆ ไม่ได้หรอก เวลาเหลืออยู่ไม่มาก ช่วยเขาได้ก็ต้องช่วย” อาจารย์ธันย์พูดกับผมจากสุดสายอีกข้างหนึ่ง คนที่ส่งข่าวอาการเจ็บป่วยของอาจารย์ธันย์ให้ผมทราบคือคุณสมพร หญิงใจเพชรที่ผมฝากฝังเธอไว้กับอาจารย์ธันย์เพื่อหวังจะให้ไปใช้เคมีบำบัดนั่นเอง

          คุณสมพรกลับเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาบอกผมถึงอาการที่เพียบหนักของอาจารย์ “ดิฉันไปหาอาจารย์ทุกสัปดาห์ แต่ไปเที่ยวนี้น่ะ ดิฉันต้องน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นสภาพของอาจารย์ ซึ่งดิฉันคิดว่าอาการหนักกว่าดิฉันเสียอีกนะคะ” เธอเล่าสภาพในห้องตรวจ ขณะที่อาจารย์ลุกขึ้นมาตรวจเธอ

          “อาจารย์ผ่ายผอมมาก ท้องกลมใหญ่ และมีเท้าบวมด้วย อย่างที่ดิฉันเคยเห็นเพื่อนมะเร็งที่เป็นมะเร็งตับระยะท้ายนั่นแหละ อาจารย์บอกดิฉันตรงๆ ว่า หมอเห็นท่าจะอยู่ไม่นานแล้ว พูดเสร็จท่านก็คว้าหูฟังมาตรวจดิฉัน แล้วก็สั่งการรักษาให้ดิฉัน” คุณสมพรเล่า

 

          สองสัปดาห์ต่อมาผมก็ได้ข่าวการเสียชีวิตของอาจารย์ธันย์

         

          ครับ นี่คือเศษเสี้ยวหนึ่งของชีวิตและการทำงานของอาจารย์ธันย์ ที่ผมมีโอกาสได้สัมผัส ท่านคิดแต่จะเป็นผู้ให้แก่คนไข้ก่อนอื่นใด ท่านเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสทั้งแก่ชีวิตของตัวท่านเองและเป็นแบบอย่างให้คนไข้มะเร็งอีกมากมาย

          ท่านเป็นตัวอย่างของแพทย์ผู้หันมาให้ความสนใจในการผสมผสานความรู้การแพทย์แบบแผนกับการแพทย์แผนธรรมชาติต่างๆ

          ท่านให้ความสำคัญทั้งต่อร่างกายและจิตวิญญาณของคนไข้และครอบครัวของเขา ท่านใช้สถานะของอาจารย์แพทย์ที่จะนำเสนอหนทางใหม่ๆ ด้านการรักษาโรคด้วยการแพทย์ทางเลือกแนวทางต่างๆ

          ณ วันนี้เราได้เรียนรู้ว่า วิทยาการทุกแขนงต่างก็มีข้อดีและข้ออ่อนในตัวของมันเอง ถ้าผู้ที่เป็นแพทย์ เป็นอาจารย์แพทย์ซึ่งล้วนเป็นผู้มีฐานะอันได้เปรียบในความรอบรู้ด้านวิทยาการ จะมีใจเปิดกว้างนำเอาศิลป์และศาสตร์ต่างๆ มาใช้อย่างผสมผสาน ก่อเกิดเป็นหนทางของการแพทย์แบบองค์รวม ย่อมจะรังสรรค์เป็นวิถีสุขภาพที่แท้จริงของประชาชนไทยและมนุษยชาติทั่วทั้งมวล.

 

นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล

จากคอลัมน์ธรรมชาติบำบัด

มติชนสุดสัปดาห์

ฉบับที่ ๑๐๓๙ วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๔๓

(ใช้บริการอ่านตัวเล่ม-วารสารเย็บเล่ม ได้ที่สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

 

และพิมพ์เผยแพร่ในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ หน้า ๑๕๘-๑๗๑

 

หมายเลขบันทึก: 254714เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2009 16:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เคยรู้จักพี่เขาสมัยเรียนครับ สุขสันต์วันก่อนสงกรานต์ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ JJ

ขอบพระคุณค่ะ อาจารย์ สุขสันต์วันก่อนวันศุกร์ (ก่อนเทศกาลสงกรานต์อีกด้วยแน่ะ ^^) นะคะ

  • แวะมาเยี่ยมและมาอ่านการแพทย์องค์รวมค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

เก็บมะลิที่บ้านมาฝากค่ะ

วันนี้  วันเกิดโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของไทยค่ะพี่ดาว

โรงพยาบาลศิริราช

ขอพี่ดาว คุณหมอและนางฟ้าสีขาวทุกคนมีความสุขมากมายนะคะ

  • เศร้าใจค่ะ...
  • แต่ต้องขอขอบคุณน้องดาว ที่นำมาเผยแพร่ เพราะพี่แจ๋วไม่เคยได้อ่านจากที่ใดมาก่อนเลย...

สวัสดีค่ะ

  • พี่คิมมาอ่านบันทึก..เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยได้ทราบ
  • ขออนุญาตนำสิ่งที่คิดว่าเป็นคุณค่าสำหรับทุกคนมาฝากค่ะ
  • เด็ก ๆโรงเรียนพี่คิมได้เจออาจารย์แล้วค่ะ
  • ทุกคนเปลี่ยนพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดเจน
  • http://gotoknow.org/blog/ariyachon/257467

สวัสดีค่ะ

  • คุณ P เกศนี ดอกมะลิและลีลาวดีสวยมากเลยค่ะ
  • คุณ P @..สายธาร..@ มีความสุขเช่นกันนะคะ
  • คุณครูพี่แจ๋ว P คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน มติชนฉบับนี้เกิดไม่ทันการทำออกบริการออนไลน์ด้วยค่ะ โชคดีห้องสมุดทำเป้นวารสารเย็บเล่มออกบริการค่ะ
  • คุณพี่ Pครูคิม ขอบคุณค่ะ ตามไปอ่านแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ขออนุญาตมาใหม่อีกรอบค่ะ
  • มาประชาสัมพันธ์เรื่องที่พวกเราควรรู้ค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/islandpk/257826

พี่เพิ่งอ่านเวอรชั่นใหม่เล่มขาวสวยสะอาดตาอีกครั้งเมื่อสัปด่าห์ที่แล้วนี้เอง นับเป็นการอ่านครั้งที่สี่หลังจากเล่มเวอร์ชั่นเก่าได้มอบให้น้องนำไปมอบให้ภรรยาของหมอคนหนึ่งที่เป็นมะเร็งทำให้กลับมาทบทวนการออกกำลังด้วยการวิ่ง และปรับเอาการเดินแบบแอร์รูบิคที่อ่านในหนังสือที่ท่านเขียนมาใช้ใหม่ ขอบคุณนะคะ หากการอ่านครั้งนี้มีกุศลจริงพี่ขอมอบให้ท่านผู้เขียนทุกประการ

" หมอเห็นท่าจะอยู่ไม่นานแล้ว พูดเสร็จท่านก็คว้าหูฟังมาตรวจดิฉัน แล้วก็สั่งการรักษาให้ดิฉัน”

อ่านแล้วก็ปลื้มปิติในความเป็นแพทย์มืออาชีพที่อุทิศกายใจให้กับวงการนับเป็นการเสียสละระดับโลก

ขอบคุณมากๆค่ะกับบทความดีๆที่สร้างสรรค์คุณธรรม

  • ความสุข” ซึ่งที่แท้ก็เป็นเพียง “ความทุกข์น้อย” ที่มีมาชั่วครั้งคราว ท่านยังขยันเก็บรับเอามาเป็นคุณค่าแห่งชีวิตเท่าที่จะแสวงหาได้ในยามบั้นปลายของชีวิต
  • คุณค่าของชีวิตอยู่ที่หัวใจที่เปี่ยมด้วยพลังศรัทธาจริง ๆ ค่ะ
  • ศรัทธาในการมีชีวิตอยู่แม้เวลาที่เหลือน้อยนิด  ไม่ท้อถอยเลย ...จริง ๆ แล้วท่านเป็นเพียงผู้ไปก่อน  เราก็คงทะยอยตามกันไปค่
  • เป็นบันทึกที่เก็บแง่มุมของคุณค่าชีวิตจริง ๆ

สวัสดีค่ะคุณพี่ ครูคิม และคุณพี่krutoi

ขอบคุณค่ะ ขออภัยที่มาตอบช้านะคะ

สวัสดีค่ะคุณศิลา

ใครมาก่อนไปก่อน ใครมาทีหลังอาจได้ไปก่อน ขึ้นอยู่ที่การกระทำของคนนั้นส่วนหนึ่งนะคะ อีกส่วนหนึ่งอาจจะยกเป็นเรื่องกรรมด้วย เดี๋ยวเราก็จะตามๆ กันไป จริงด้วยค่ะ

เพิ่งกลับถึงบ้านค่ะ (ตอบช้าไปหลายวันเลย)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท