สวัสดีค่ะ...
ชีวิตคนเป็นครูของครูแอนในช่วงปิดเทอมก็ไม่เสร็จสิ้นซักกะที (เฮ้อ....แอบบ่นบ้าง....แต่ก็ต้องทำเพราะหน้าที่ของเรานี่เนาะ) .....ครูแอนก็ยังคงทำงานประสาคนเป็นครู ...(ไปสอบแก้ตัวให้เด็กๆ ชั้น ม.3 ที่ติด 0 ที่โรงเรียนเกือบตลอดปิดเทอมที่ผ่านมา)...ทำไปแม้จะเหนื่อยแต่ก็สุขใจดีเหมือนกัน.....คิดซะว่า....ทำบุญกับเด็กๆ แทนการไปทำบุญที่วัดแทนแล้วกัน (เพราะครูแอนไปได้ไปร่วมกิจกรรมทำบุญที่วัดเลยในช่วงปิดเทอมนี้)
ครูแอนเพิ่งไปพักผ่อนปิดเทอมในวันที่ 17-18 ที่ผ่านมานี่เองล่ะค่ะ วันแรกก็เอารถคู่ใจไปซ่อมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับกับการใช้งานต่อไปในภาคเรียนหน้าหากมันเกเรขึ้นมาในช่วงวันทำงานล่ะก็...ยุ่งแน่นอน.... เลยต้องให้เวลากับเจ้ารถคู่หูคันเก่งไปหนึ่งวันเต็มๆ ส่วนวันหลัง(วันที่ 18 เมษายน) นั่นล่ะค่ะ ถึงได้พักจริงๆ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่า...ต้องทำตัวให้ว่างนะ....วันนี้เป็นวัน "รวมญาติ" เพราะเป็น "วันว่าง" วันสุดท้ายแล้วไงคะ
ประเพณีคนใต้ของเราจะมีวันว่างอีกหนึ่งวันค่ะ อยู่ในช่วงใกล้ๆ กับวันสงกรานต์ บ้างก็มีข้อเขียนที่บันทึกไว้เกี่ยวกับวันว่าง ...ดังนี้ค่ะ
" วันว่าง
วันว่างคือ วันที่เว้นว่างจากการทำงาน ซึ่งยกเว้นการหุงหาอาหารรับประทานและใช้ทำบุญถวายพระภิกษุสงฆ์ ชาวใต้ถือว่าวันว่างเป็น “วันขึ้นปีใหม่” ของไทยเหมือนกับวันสงกรานต์ของภาคอื่นๆนั่นเอง
ประเพณีวันว่างกระทำกัน3วัน ตรงกับวันขึ้น14 - 15 ค่ำ และวันแรม 1 ค่ำ เดือน5 แต่ปัจจุบันถือเอาวันที่ 13-14-15 เดือนเมษายนตามสากล
ก่อนถึงวันว่างทุกครัวเรือนจะต้องเร่งทำงานที่คั่งค้างให้เสร็จเรียบร้อย เตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ใส่ ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน นอกจากนี้ยังต้องตัดผม ตัดเล็บให้เรียบร้อยด้วย เพราะเมื่อถึงวันว่างนั้นห้ามกระทำ
ในวันว่างวันแรก ทุกคนต้องทำจิตใจให้สดชื่น ทำแต่ความดี ตอนเช้ามีการทำบุญตักบาตร ตอนบ่ายจะมีการสรงน้ำพระพุทธรูป วันที่สองและสามจะเป็นการไปรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่และเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง "
ส่วนที่หมู่บ้านครูแอนนั้นก็ใกล้เคียงกับข้อความที่ตัดตอนมานี้ล่ะค่ะ ครูแอนจำได้ว่าบันทึกแรกในบล็อก "โอ้..ชีวิต...มีอะไรตั้งเยอะแยะ" ของครูแอนนั้นเขียนไว้ถึงเรื่อง วันว่าง......ในป่าช้าเก่า เมื่อวันที่ "สร้าง: พ. 11 เม.ย. 2550" (ว้าว.....บันทึกครูแอนผ่านมา 2 ปี แล้วเหรอเนี่ย) ในตอนนั้นครูแอนยังใส่ภาพไม่เป็นเลยค่ะ 5555....มีแต่ตัวหนังสือจริงๆ แต่กระนั้นก็มีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ เข้ามาเยี่ยมเยียนบันทึกนั้นของครูแอน
ที่หมู่บ้านของครูแอนมีวันว่าง 2 วันค่ะ คือวันว่างที่วัด และวันว่างที่ป่าช้า วันว่างที่วัดครูแอนก็มีนัดกับเด็กๆ ที่โรงเรียน(วันว่างที่วัดก็จะมีพิธีการคล้ายกับที่ป่าช้า แต่มีการเขียนชื่อบรรพบุรุษของเราใส่ลงในบาตรพระเพื่อให้ท่านสวดอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ด้วย แล้วก็มีการตักบาตร ฟังพระเทศน์) ครูแอนเลยขอไม่พลาดในวันว่างสุดท้าย ครูแอนไปอ่านเจอบันทึกอีกบันทึกนึงที่เขียนไว้เกี่ยวกับวันว่างของพระปลัด ท่านเขียนไว้ว่า : ประเพณีไทย..วันว่าง เมื่อ สร้าง: ศ. 10 เม.ย. 2552 เป็นความรู้ที่เพิ่มเติมเข้ามาได้เป็นอย่างดีอีกล่ะค่ะ
แต่ครูแอนขอนำเสนอด้วยภาพแล้วกันนะคะ เป็นวันว่างในป่าช้าค่ะ
ประเพณีทางใต้ : วันว่าง...ที่ป่าช้า
เชิงตะกอนเก่า...ที่ตอนนี้ไม่ใช้กันแล้ว
แต่ก่อนนี้...ตอนครูแอนเด็กๆ ปู่ย่าตายายของครูแอนก็เผากันที่นี่ เศษกระดูกที่เหลือของร่างกายของท่านจึงถูกเก็บไว้ใน "บัว" (ภาพข้างล่าง) เมื่อมีการสร้างเมรุที่วัด พวกเราจึงมีโอกาสแค่ปีละครั้งที่จะมาที่ป่าช้านี้ เพื่อมาทำบุญอุทิศให้ท่านเหล่านั้น นี่กระมังที่อาจจะเป็นกุศโลบายของวันว่าง...ที่ให้ลูกหลานได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ที่น่าคิดกว่านั้น...จะดีกว่าไหมหากเราแสดงออกเสียตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่ท่านยังอยู่กับเรา
ที่ป่าช้าเป็นพื้นที่ๆ อยู่ท่ามกลางสวนยาง มีศาลาเก่าๆ 2 หลัง ไว้สำหรับพระท่านนั่ง และชาวบ้านที่มาร่วมพิธีการในกาลก่อนและในปัจจุบัน ก่อนถึงวันว่าง กำนันและลูกๆ หลานๆ รวมตัวกันไปถากถางพงรกที่ไม่ค่อยมีใครผ่านไปมาซักเท่าไหร่ (นอกเหนือจากคนที่ตัดยางละแวกนั้น) และซ่อมแซมศาลาเป็นประจำทุกปี ลูกๆ หลานๆ ก็นัดพร้อมๆ กันไปขัดถู, ล้างบัวกันเป็นการใหญ่ บ้างก็เตรียมหาดอกไม้ กระถางธูปไว้พร้อมสรรพ ปีนี้แม่ครูแอนและน้าสาวไปเที่ยวเมืองอินเดีย : ตามรอยพระพุทธเจ้ามาเลยได้โอกาสหาซื้อผ้าสีสันสดสวยมาไว้สำหรับผูกบนบัวด้วยเลย
เมื่อลูกๆ หลานๆ ไปถึงในตอนเช้า ต่างก็จุดธูป, เทียน และวางดอกไม้ที่สรรหามาไหว้กระดูกของบรรพบุรุษตนเอง (ซึ่งหลายๆ บัวต่างก็เป็นบรรพบุรุษ ปู่ย่าตายาย ของพวกเราในหมู่บ้านอยู่แล้ว....เลยต้องจุดธูป,เทียนไหว้กันเกือบทุกบัว)
ลูกๆ หลานๆ ต่างก็มาพบปะกันที่นี่เอง ใครที่เพิ่งกลับบ้านมา(จากที่ไปทำงานที่ไกลๆ , อยู่จังหวัดอื่นๆ ก็จะพยามกลับมาในวันนี้) ก็เลยถือเป็นโอกาสดีที่ญาติๆ จะได้มาพบปะกันอีกครั้งในวันว่าง
หลังจากจุดธูป,เทียนแล้ว พระท่านก็มาถึง พอดีว่าในวันนี้จะต้องเอากระดูกของทวดที่เพิ่งเสียไปไม่นานมานี้ใส่ลงในบัวตามที่ท่านสั่งไว้ด้วย พ่อครูแอนเลยมานิมนต์นัดหมายพระท่านถึงกิจที่เพิ่มเข้ามา
พระท่านจะทำพิธีสวดตามบัวต่างๆ อีกครั้งก่อนที่จะไปทำพิธีร่วมกันที่ศาลา
....สิ่งสุดท้ายที่เหลือให้เห็นเพียงเศษกระดูกในบัว....
ที่ลูกหลานมากราบไหว้เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตา
แต่สิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป คือ "คุณงามความดี" ที่สร้างไว้
ให้คนรุ่นหลังได้กล่าวขานถึงชั่วกาลนาน
คุณได้ข้อคิดอะไรเพิ่มเติม....จากเชิงตะกอนภาพนี้บ้างไหมคะ
ได้ความคิดว่า.."มีชีวิตอยู่พึงทำเวลาเหล่านี้ให้มีค่าที่สุดค่ะ"..พี่แอนที่น่าร๊ากกกของน้องๆ..
คิดถึงๆๆๆๆๆๆจริงๆ..
ปิดเทอมแล้วไปเที่ยวไหนมาบ้างคะ..แอ๊วตอนนี้พักผ่อนอยู่กับพี่สาวที่ขอนแก่นค่ะกะมีนัดบวชชีพราหมณ์กับเพื่อนค่ะ..
พยายามใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ..พี่แอน..
พี่แอนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..มีความสุขมากๆนะคะ..^^
แงๆๆๆๆๆๆๆไม่ว่างกำลังอบรมตามมาดูเลย อิอิๆๆๆๆๆๆ
เอ๊ย...เจ้าแอ๊วน้องรัก!!
หวัดดีค่ะ...ครูพี่ต้อย...
สวยเหมือนเดิม
สบายดีนะครับ...
ผมแวะมาเยี่ยม...มาเป็นกำลังใจ ด้วยเหมือนกัน
สวัสดีค่ะคุณibm
สวัสดีค่ะ อาจารย์แผ่นดิน
สวัสดีค่ะ
* แวะมาดูวันว่าง
* เออหนอ! ตอนมีชีวิตอยู่มักจะอ้างว่าไม่ว่างรอเดี๋ยว เมื่อสิ้นแล้ววันนี้เองต้องว่างละนะ
* ขอชื่นชมกับครอครัวใหญ่ของครูแอนที่ทุกคนตั้งมั่นในการพัฒนาเพื่อชุมชนของตน
* สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะพี่พรรณา
สวัสดีค่ะพี่ครูคิม
สวัสดีครับคุณครูแอน
จากบันทึกน้ำชุบส้มขาม มาถึงบันนี้หลายวันแห่งการเดินทาง
ผี"ที่เชิงตะกอน ให้ความรู้สึกถึงคำว่าเผาผีได้ดี เพราะไปร่วมบ่อย เห็นการที่ทุกคนเอาไม้คนละดุ้น เพื่อไปเผาผี ผมว่าไม้ที่เอาไปเผามันมีนัยทางความเชื่อครับ
สวัสดีครับ มาส่งดอกไม้แทนคำขอบคุณที่เข้าไปทักทายครับ
สวัสดีครับ เป็นประเพณีอันดีงาม สร้างสรรค์ให้ชีวิตมีคุณค่า น่าชื่นชม คนดีดีก็คิดทำแต่สิ่งดีดี ขอให้มีความสุขโชคดีครับ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะมาทักทาย เป็นกำลังใจดีๆนะคะ
สุขกาย สบายใจนะครับ..
แวะเอากำลังใจมาฝาก
สวัสดี ครับ คุณครู
Lioness_ann |
ชอบบันทึกนี้ จังเลย ครับ
ปัจจุบัน กระดูกของบรรพบุรุษ ของผม ก็เก็บไว้ที่วัด เช่นเดียวกัน
การไปวัด ทำบุญ และได้กราบไหว้บรรพบุรุษ จึงเป้นเรื่องดี
ไม่ต้องเลือก เทศกาล เลือกตามใจปรารถนา แค่นี้ ...ก็มีความสุข แล้วครับ
.....และชอบคำนี้ ด้วยเช่น กัน ครับ "วันว่างที่ป่าช้า".....
เห็นสัจจธรรม จริง ๆ ครับ ครู
ว่าง เป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ฉะนั้น ผมเห็นว่า คนแต่ก่อนเขาคงปรารถนาให้บรรดาลูกหลานของชาวใต้ ได้รู้จักคำว่า ว่าง ถึงแม้มิได้มีนัยโดยตรง ถึงคำว่า สุญตา ที่หมายถึง ว่างจากการยึดมั่นถือมัน โดยเฉพาะถือมัน ยึดมัน ว่า เป็นตัวกู ของกู ดังที่หลวงพ่อพุทธกล่าวอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ว่าง ในความหมายของวันว่างถึงแม้เป็นเรื่องของวันที่ว่างจากเทวดาคุมครอง จึงมุ่งหวังให้คนได้ประกอบความดี ที่ตรงกับพุทธศาสนาว่า การทำกุสลให้ถึงพร้อม ละเว้นความชั่ว เว้นจากการเบียดเบียนทุกสรรพสิ่งรวมถึงตัวเองด้วย ในนามของการหยุดการกระทำที่ไม่ใช่เรื่องบุญเรื่องกุศลเสียให้หมด และแน่นอนยอมส่งผลต่อ "ความสะอาด บริสุทธิ์ของจิต" โดยตรง เพราะ เมื่อคิดสะอาด กระทำบริสุทธิ์ จิตก็จะบริสุทธิ์ตาม จึงเป็นเรื่องของ ว่าง จากการแปดเปื้อนสิ่งไม่ดีทั้งหลาย นั่นเอง
เขามาอ่านข้อมูลเลยอยากแลกเปลี่ยนครับ
สวัสดีค่ะคุณบุยเลิศ
บุญเลิศ
|
ขอบคุณมากมายค่ะ...ที่มาช่วยเสริมและเติมแต่งด้วยการแลกเปลี่ยน เรียนรู้แง่มุมของความรู้ที่ควรทราบและความคิดที่แตกประเด็นได้อย่างดี
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ เลยทำให้บันทึกนี้ของครูแอนให้มีความหมายและมีสีสันขึ้นอีกอักโข
เห็นด้วยเป็นที่สุดเลยค่ะ " เมื่อคิดสะอาด การกระทำบริสุทธิ์ จิตก็จะบริสุทธิ์ตาม จึงเป็นเรื่องของการ "ว่าง" ---ว่างจากการแปดเปื้อนสิ่งไม่ดีทั้งหลายนั่นเอง"
บุญรักษานะคะคุณบุญเลิศ
ขอบคุณค่ะ