ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เราได้นำสุนทรียสนทนาและจิตวิวัฒน์ (ฉบับแอบเรียนแล้วดัดแปลง) มาถ่ายทอดแก่เจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก ทั้งใน รพ.พุทธชินราช โรงพยาบาลในเขต ๑๗ และ รพ.อื่นๆ รวมคนที่เราเคยทำกิจกรรมด้วยคงจะมากกว่า ๕๐๐ คนแล้ว
ตอนนี้จึงไม่ต้องหาลูกค้าแล้ว มีลูกค้าเข้ามาหาเอง เราเปิด intranet ให้คนสมัครมาร่วมกิจกรรมเป็นรุ่นๆ มีผู้สนใจมากมาย ผู้จัดการแวนก็คงชินกับการเจรจาต่อรองเพราะเป็นคนใจเย็นมากมายเหลือเกิน
กิจกรรมที่เราพยายามนำเสนอ คือการคุยกันอย่างเป็นมิตร ไม่ทำร้ายกัน เปิดใจมองตนเองและผู้อื่น มองหาสิ่งดีที่เคยเห็น เคยทำ เคยประทับใจ มาเล่าสู่กันฟัง แต่ละครั้งทีมงานมักคิดกิจกรรมใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนทุกรุ่นที่เราจัดเป็นหนูตะเภาทุกรุ่นไป
ในแต่ละกลุ่มที่ร่วมกิจกรรม ล้วนแต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน บางทีมต้องการสมานสัมพันธไมตรี บางทีมต้องการจับเรื่อง competency แต่ส่วนใหญ่มาแบบ มาขอลองดู แต่เมื่อมาลองดูแล้วก็จะมีความคิดเห็นเกิดขึ้นเสมอ
ปัญหาของเราก็ทำท่าจะวนเวียนดั่งล้อเกวียนทับที่เดิม คือร่วมกิจกรรมแล้วไม่ได้นำไปทำต่อ เป็นการบ้านใหญ่ที่เราจะต้องหาทางออกต่อไป อาจจะต้องทำวิจัยตรงนี้จริงๆ (แล้ววิจัยเสร็จจะเข้าหิ้งอีกไหม)
ตามมาเรียนรู้ค่ะ คุณหมอ
ไม่ลอง ไม่รู้ ไม่ดู ไม่เห็น ไม่ทำ ก็ไปเป็น เลยยากเข็ญ จนปัญญา (แต่ถ้าเราทำอยู่เรื่อยๆ คงไม่จนปัญญา) ทีมต้องกินเอ็มร้อยด้วยหรือเปล่า?
มองในแง่คนทำ คนจัดการ(อยากให้เกิด) เห็นรอยยิ้มของหนูตะเภาแต่ละรุ่น แล้วก็มีความสุข นะครับ
ล้อเกวียนทับที่เดิมของอาจารย์ มันอาจหมุนอยู่ในตัวคนที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่ถ้ามีใครสักคน ประกอบล้อเข้ากับเกวียน ครบองคืประกอบตัวเกวียน มีวัวควาย(แรงงาน)ที่ถูกฝึกฝน คนบังคับเกวียนที่มีวิสัยทัศน์ น่าจะขนสัมภาระไปสู่จุดเป้าหมายได้นะครับ
สบายดีนะครับคุณหมอ
สวัสดีค่ะ
ขอบพระคุณคุณหมอค่ะที่กรุณาเตือนเรื่องข้อความในบันทึก หลากวจนะอริยสัจ(๑)ที่กระโดดไปมา พอดีโพสต์เสร็จ ต้องรีบไปทำอย่างอื่น เลยไม่ได้แก้เพื่อความเรียบร้อย
แก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ขอมาเรียนรู้ด้วยค่ะ เพราะเจอแบบเดียวกันเลยค่ะ ตอนทำกิจกรรมก็ดี สนุก แต่พอกลับไปทำงานก็ค่อยๆ จางหายไปกับกาลเวลา
จะเป็นไปได้มั้ยค่ะว่า ต้องมีผู้คอยประสาน คอยกระทุ้ง กระตุ้น ที่ทำหน้าที่นี้โดยตรง ในหน่วยงานนั้นๆ ประมาณเหมือนคุณอำนวย แต่ต้องเป็นคุณอำนวยที่เป็นตำแน่งหน้าที่โดยตรง รับผิดชอบเป็นงานหลักไปเลย (เป็นเจ้าภาพตัวจริง) และไม่ใช่ทำในรูปคณะกรรมการด้วยไม่ใช่มีงานอื่นเป็นหลักแล้วมาทำหน้าที่นี้เสริม ไม่งั้นพอไปขลุกกับงานหลักก็จะไม่เต็มที่กับงานรองนี้จนกระทั่งหายไปในที่สุด