สวัสดีครับทุกท่าน
สบายดีกันนะครับ วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับญาติมิตร เลยได้คำถามมาหนึ่งคำถาม
มีปุจฉา ตอบยังไงดีคะ .. หากเด็กๆ เค้าไม่ชอบเรียนคณิต ฯ เค้าจะบอกว่า เรียนไปทำไม ไม่รู้ พวกตรีโกณ อะไร ไม่เห็นได้ใช้ในชีวิตประจำวันเลย
เลยตอบง่ายๆ ว่า เมื่อไม่รู้ว่ามีประโยชน์อะไร ก็ไม่รู้ว่าจะใช้อย่างไร
การซื้อเครื่องคิดเลขรุ่นที่ความสามารถครบเครื่องแต่เราได้ใช้เพียงแค่บวกลบคูณหาร ก็จะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าตามยุคทุนนิยม แต่หากเป็นเรื่องของแฟชั่นนิยมก็นับว่าคุ้มค่า
เหมือนยาสมุนไพรที่เราไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมีสรรพคุณอะไร เรากลับมองว่านั่นคือวัชพืชต่อพืชหลักที่เรารู้สรรพคุณที่ปลูกไว้..... อย่างตอนนี้...เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาผมกลับไปบ้านเยี่ยมพ่อแม่ และแวะไปเยี่ยมลุง ก็พบว่าชาวบ้านเค้าบอกกันว่าตอนนี้มีนโยบายของจังหวัดให้โค่นต้นกระท่อม เพื่อป้องกันการนำไปต้มและผสมเป็นยาเสพติด จริงๆ เราทราบกันอยู่แล้วว่ายิ่งห้ามก็ยิ่งยุโดยเฉพาะวัยรุ่น ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าต้นกระท่อมมันผิดตรงไหน เหมือนพืชสมุนไพรอันตราย 13 ชนิดนั่นละครับ ไม่ทราบว่ามันผิดตรงไหน ทั้งๆที่ชาวบ้านตำทิ่มลงในครกมันจนครกสึกหรอแล้วรับครกสืบทอดกันมาเป็นสองสามชั่วรุ่นคนแล้วครกก็ยังใช้กันอยู่ ไม่มีครกใครที่ตำแล้วระเบิดในเรื่องของเครื่องแกง ส่วนการนำไปผสมกันเป็นสารเคมีก็ควรควบคุมในส่วนนั้นก็สมควรแล้ว แต่มิใช่ใช้กฏคลุมทุกบริบท จึงต้องทบทวน
แท้จริงแล้วใครละที่ทำให้ผิดพลาดในระบบ คงไม่ต้องไปโทษต้นไม้เพราะสิ่งที่คิดและทำคือคนเรานี่ละครับ ในขณะที่คนเรามีสมองสร้างปัญญาให้เกิดได้ ก็น่าจะมีปัญญาในการห้ามตัวเองได้ ต้นไม้ต้นกระท่อมมันผิดตรงไหนผมไม่ทราบ แต่ประโยชน์มันก็มีมากมาย อันแรกๆ คือให้อากาศดีให้เราสูดเข้าปอดแน่ๆ คนที่กินใบในระดับดีจะทำให้ร่างกายมีพลังในการทำงานกลางแดด แต่กลัวฝน แก้ท้องร่วงได้ หรือพวกเบาหวาน และอื่นๆ หากเราทราบแบบนี้ ก่อนจะโค่นต้นกระท่อมก็คงได้รู้สึกอะไรบางอย่างครับ ส่วนคนที่ขายใบกระท่อมเป็นอาชีพในการส่งเสริมให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิดพลาดก็ควรจะต้องดำเนินไปตามแบบ
ในขณะที่เรากำลังวิ่งตามล่าต้นกระท่อมเพื่อโค่น ยาบ้า ยาเสพติดชนิดอื่นๆ ก็อาจจะบุกรุกเด็กนักเรียนตามแหล่งต่างๆอยู่ ผมเลยไม่รู้ว่าส่วนไหนมันสำคัญมากน้อยกว่ากันที่ควรจะปราบปรามตามลำดับครับ
สำหรับวิชาคณิตศาสตร์นั้น ก็เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น คนรู้ก็นำไปใช้ได้ คนไม่รู้ก็ปล่อยไว้ให้ขึ้นสนิมครับ การจะรู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร ก็คงต้องเรียนให้รู้ว่ามันมีสรรพคุณอะไรบ้าง จะได้ใช้ให้ถูกตามกาละและสถานที่ ทุกๆสาขาวิชามีประเด็นของเค้าอยู่มีแก่นสารอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะมองมุมใดที่จะให้เห็นคุณฯ
เหมือนคนเราในประเทศนี้ มีดีด้อยในตัว อยู่ที่ว่าจะบริหารคนให้ขับส่วนดีออกมาร่วมกันได้อย่างไร นั่นละคือสิ่งที่เราอาจจะต้องทำการบ้านในบริบทต่างๆ เอาส่วนด้อยมาโจมตีกันมันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อใจไม่พร้อมที่จะรับ แต่หากพร้อมทุกอย่างก็พัฒนาปรับปรุงได้
สุดท้ายขอให้ทุกท่านมีความสุขในการใช้ชีวิตนะครับ
ด้วยมิตรภาพครับ
เม้ง
สวัสดีครับ คุณเม้ง ผู้อารี ;)
สบายดีนะครับ ... นานแล้วไม่ได้เห็นมาอยู่แถว ๆ นี้ คงอยู่ Lanpanya ใช่ไหมครับ ;) ...
เรียนแล้วไม่ทราบจะนำไปใช้ได้อย่างไร ?
ครูผู้สอนต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่งครับ ... เวลาสอนเรื่องราวยาก ๆ เป็นนามธรรมมาก ๆ นอกจากวิธีการแล้ว ต้องสอนให้เด็กทราบว่า เวลานำไปใช้ ใช้ได้อย่างไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร
เรียกว่าสอนจาก นามธรรม เป็น รูปธรรม ครับ
แต่ส่วนใหญ่ สอนตามหน้าที่ ตามหน้าหนังสือ ลืมไปว่า คนใช้คือ เด็กนักเรียน ไงครับ ไม่ใช่ตัวเองสักหน่อย
อันนี้เอาความรู้สึกตัวเองตอนเรียนมาแลกเปลี่ยนครับ
;)
สวัสดีเพื่อนเม้ง
ผมอาจจะอยู่ในกลุ่มคนที่บอกว่า ไม่น่าจะเอาตรีโกณมาใส่เลย เพราะมันทำให้ผมสอบตบคณิตศาสตร์ ฮา
การสร้างคุณค่าของเนื้อหา เป็นสิ่งสำคัญครับ แต่ที่จะต้องตามมาคือ กระบวนการถ่ายทอดที่ต้องสอดรับกับธรรมชาติของผู้เรียนด้วย และคณิตศาสตร์เป็นทักษะต่อเนื่อง พอไม่เข้าใจบทที่หนึ่งแล้ว บทสองบทสามก็ไม่รู้เรื่องต่อเนื่องกันไป
สวัสดีครับพี่บ่าวขจิต และ อ.Wasawat
ผมอยู่ไทยแล้วครับ เรื่องราวเรียบร้อยได้เริ่มงานเต็มที่เต็มถังเต็มเครื่องยนต์เต็มลูกสูบกันต่อไปครับ จริงๆ หากเราว่ากันตามหนังสือเด๊ะๆ ก็ให้เด็กไปอ่านเอาเองก็อาจจะได้ครับ คือหนังสือถูกเขียนในบริบทหนึ่ง แล้วส่งมาให้คนในอีกบริบทหนึ่งอ่านหรือทำความเข้าใจ สิ่งที่ขาดหายไปคือการเชื่อมโยงระหว่างหนังสือนั้นกับบริบทภายนอกแวดล้อมที่นั่น นั่นคือการมองและเชื่อมโยงเข้าหากัน ปรัชญาที่แฝงซ่อนอยู่มันอยู่ที่ผู้อ่านว่าจะเข้าถึงแก่นแค่ไหน การให้เห็นตัวอย่างที่เชื่อมโยงกับภายนอกนั้นจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็กเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นครับ อยู่ที่ว่าจะมีกระบวนการให้เด็กค้นหาการเรียนรู้ในวิถีของตัวเองได้อย่างไร
การเป็นครูที่เด็กๆ กล้าที่วิ่งเข้าหานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วิ่งเข้าหาเพื่อช่วยให้เกิดกระบวนการเรียนรู้หรือต่อวงจรการเรียนรู้ที่ทรงคุณค่าและยั่งยืนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นเดียวกันครับ
พอกลับมาผมก็ยุ่งๆ ก็อาจจะเขียนน้อยลงบ้าง เว้นแต่มีประเด็นที่ต้องปล่อยของออกครับ เหมือนวันนี้ก็จำเป็นที่ต้องปล่อยของออก ส่วนจะปล่อยที่ลานไหน ก็แล้วแต่บริบทครับ ทุกช่องทางก็มีข้อดีเสมอครับ
ขอบพระคุณมากๆ นะครับ
สวัสดีค่ะ
พี่คิดว่า คณิตศาสตร์ มีความสำคัญต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน
ช่วยให้เราคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมากขึ้นค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
ไม่ได้ทักทายนานเลยค่ะ
มาส่งข่าวเรื่องการใช้แว่นตา Preview ที่ช่วยบริหารสายตา ตามที่คุณเม้งเคยแนะนำค่ะ
ได้ผลดีมากค่ะ ตัวเองและหลานชายซึ่งต้องใช้สายตามากเนื่องจากอยู่ในช่วงที่ต้องอ่านหนังสือมากมาย...
และเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ หากสิ่งใดที่เราไม่ทราบคุณค่า เราก็ย่อมไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นค่ะ
เหมือนหากแม้นไม่เคยเจ็บป่วยเลย จะตระหนักรู้ได้อย่างไรว่าควรดูแลร่างกายให้ดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
สวัสดีครับเพื่อนอีย์
สบายดีนะครับ หลานๆ ผมเป็นอย่างไรบ้างครับ วันก่อนผมเห็นเพื่อนเดินอยู่ข้างวงเวียนแต่นั่งอยู่ในรถเพื่อนคนอื่น ไม่สามารถแวะทักทายได้ครับ มีโอกาสคงได้เจอและิยินดีต้อนรับเสมอนะครับ คณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันใช่ครับ การเกิดอคติในบางช่วงส่งผลต่อการต่อยอดในเรื่องถัดๆ ไปได้ แต่การหยุดและล้างเครื่องในบางช่วงก็ช่วยให้ขจัดความรู้สึกภายในได้เช่นกันครับ เพียงแต่กระบวนการนั้นจะทำอย่างไรให้ล้างได้อย่างไม่มีปัญหาอีกครับ ผมก้พยายามหาวิธีการซ่อมอยู่ครับ ส่วนจะได้ผลแค่ไหนก็คงต้องลองทำและทำทำต่อไปครับ
โชคดีนะครับ
พี่มีเด็กเล็กๆ อยากให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์...เป้าหมาย... . .พี่ถามตัวเอง....อยากให้เด็กๆรู้อะไร...??
ตอบ...อยากให้รู้ 1. เรื่องที่เกี่ยวกับจำนวน การบวก การลบ การคูณ การหาร การแก้ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับจำนวน และการใช้จำนวนในชีวิตจริง
2. การวัด-- ความยาว ระยะทาง น้ำหนัก พื้นที่ ปริมาตร และความจุ หน่วยวัดระบบต่างๆ การคาดคะเน อัตราส่วน การนำความรู้เกี่ยวกับการวัดไปใช้ได้ในชีวิตจริง
3. เรขาคณิต พวกมิติต่างๆ สองมิติ /สามมิติ การนึกภาพ แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ในเรื่องการเลื่อนขนาน การสะท้อน และการหมุน
4. พีชคณิต:เช่น แบบรูปต่างๆ (pattern)
5. การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น เช่น สถิติ ความน่าจะเป็น การคาดการณ์ การสุ่ม ค่ากลางของข้อมูลต่างๆ เป็นต้น
ข้อ 1- 3 เริ่มเรียนได้ตั้งแต่อายุก่อนอนุบาล อย่างง่ายๆ โดยผ่านการเล่นสนุกๆ ตอนนี้เด็กเล็กที่บ้านเข้าใจเรื่องการเลื่อนขนาน การสะท้อน และการหมุนแล้ว สนุกมาก หัวเราะลั่นห้องเลย
ที่นี่ เข้าใจสอนเด็ก ใช้ได้ๆ สอนเรื่องยากๆ เป็นเรื่องง่าย เด็กๆสนุกๆกัน อยากจะเล่นด้วย
กดเร็วไป อยากขอความรู้คุณเม้ง..คุณเม้งคิดว่า เด็กๆอายุ 3 ขวบ ควรเริ่มเรียนอะไร แค่ไหน อย่างไรคะ จะได้เอาไปสอนเขาถูก ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับพี่ศศินันท์
สบายดีนะครับ เพิ่งได้มาตอบนะครับ ขอบคุณพี่มากๆ เลยนะครับที่ช่วยมาเติมเต็มความสำคัญทางคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์แยกอยู่โดดเดี่่ยวจะเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากแต่หากได้นำมาปรับใช้ให้เห็นความสำคัญทุกๆ อย่างก็จะร่วมกันทำให้คณิตศาสตร์มีความงามในด้านต่างๆ นะครับ
ดีจังเลยครับที่พี่เริ่มให้หลานได้เริ่มเรียนรู้หลายๆ อย่างครับ สำหรับหลานสามขวบ ผมคิดว่าอาจจะให้เค้าเรียนรู้แบบที่ควรจะเรียนรู้ แล้วค่อยๆ เจือปนคณิตศาสตร์เข้าไปโดยรวมอยู่ในของเล่นครับ ทำให้เค้าเล่นโดยไม่รู้ว่ามันคือเลขหรือคณิตศาสตร์ครับ กว่าจะรู้ว่านี่เป็นวิชาคณิตศาสตร์ เค้าก็รักและชอบคณิตศาสตร์ไปเสียแล้วนะครับ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของท่านอัครราชทูตฯ ท่านบอกว่าเด็กอินเดียเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้ดีโดยไม่ได้รักคณิตศาสตร์ คือเค้ามีการเชื่อมโยงกับภาษาสันสกฤต
พอดีช่วงนี้วันหยุดครับ เลยแวะมาเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านครับ
ขอบคุณพี่มากนะครับ
สวัสดีครับคุณคนไม่มีราก
ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่รายงานผลการนำแว่นนั้นไปใช้นะครับ มีประโยชน์เราก็ใช้กันต่อไปครับ หยิบเอามาบริหารในยามที่เรามีเวลาว่างหรือใช้ร่วมกับการดูทีวีหรืออ่านหนังสือวันละสิบห้านาทีครับ บริหารสายตาให้กับเราก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งครับ
คนเรามีทัศนคติที่ต่างกัน ก็ทำให้มุมมอง ต่างกัน แม้ว่าเราจะมีดวงตาที่คล้ายๆ กันก็ตามครับ แว่นช่วยให้เรามีสายตาที่ดี ที่มองเห็นชัดขึ้น แต่สายตาทำงานอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำงานร่วมกับสมอง หัวใจ และอวัยวะส่วนอื่นด้วยเช่นกันเนอะครับ
มีความสุขในวันดีๆ วันนี้อีกวันนะครับ