เขลางค์สิกขาลัย
คณะครู เขลางค์สิกขาลัย เครือข่ายครอบครัวสุขภาวะในโรงเรียน จังหวัดลำปาง, ตราด

การฝึกอบรมครูมืออาชีพในบทบาท Facilitator (7)


กิจกรรมขดลวดมรณะ

หลังจากหมดช่วงพักเบรก ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอยู่ข้างนอกราวกับจะบอกอะไรบางอย่าง

กระบวนการการอบรมก็ต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมที่พี่ป้อมเตรียมจะให้ ผู้เข้าร่วมอบรมได้ร่วมกันทำ คือ ขดลวดไฟฟ้า เป้าหมายของกิจกรรมนี้คือ มุ่งเน้นเพื่อดึงเอาพลังกลุ่ม การปรึกษาหารือ และความสามัคคี โดยการสายสัมพันธ์ที่ต้องเชื่อมกันตลอดเวลา

เสียงเพลงบรรเลงดังขึ้นจากคอมพิวเตอร์ของครูวิกรม เพชรกับขวัญเรามองหน้ากัน เพราะจำได้ว่า เพลงนี้ มาจากฉากในเกมที่เราเคยเล่น คือ ไบโอฮาซาด (นางเอกเล่นเปียโนเพลงนี้ เพื่อจะไปพบกับซอมบี้)

บทเพลงนั้น มันชวนให้ขนลุก และวังเวง ราวกับอยู่ในเกม  ต่อจากนั้นพี่ป้อมก็เริ่มอธิบายวิธีการเล่น โดยไม่ลืมจะปล่อยมุขว่า กิจกรรมขดลวดมรณะ สร้างเสียงประหลาดใจให้ผู้เข้าร่วมอบรมสักพักหนึ่ง

วิธีการเล่นคือ ให้ทุกๆคนจับมือกันไว้ สายสัมพันธ์ห้ามขาด ตลอดเวลาที่เล่น แล้วทำยังไงก็ได้ให้สมาชิกข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง โดยห้ามแตะเชือกที่กั้นอยู่กลางห้อง 
                  
 
เมื่ออธิบาย กติกาจบ คุณครูทุกๆคนก็วางแผนร่วมกัน (แต่เหมือนต่างคนต่างเสนอ และเหมือนกึ่งๆเถียงกัน ไม่มีใครยอมใคร) ในกระบวนการ เริ่มมีข้อถกเถียงกัน เริ่มคิดหาวิธีข้าม เกิดเสียงอื้ออึงอยู่พักหนึ่งก็มีการทดลอง บ้างก็กระโดด และเหยียบบ่ากันไป แต่ยังดีที่มีเบาะ คอยรองไว้ และแล้วก็ถึงเวลาของการทำกิจกรรม คนแรกผ่านไปด้วยวิธีการกระโดด ต่อมา และก็เริ่มรับส่งกันเป็นทอดๆ เหยียบบ่า เหยียบหลัง เหยียบบนแขน แต่ที่น่ากลัวสำหรับ Fa ที่ดูอยู่  คือส่วนมากจะใช้วิธีกระโดดลงมา

                                     

พี่ป้อมซึ่งเป็น Facilitator เน้นย้ำถึงความปลอดภัย และพูดว่าทำอย่างไรก็ได้ ให้ผ่านพ้นไป ด้วยการเซฟ และช่วยคนของเราให้ผ่านไปให้ได้ แต่ดูเหมือนเสียงของFa จะโดนกลบไปด้วยความแรงที่จะข้ามผ่านกระบวนการนี้ไปได้ด้วยพลังม้าศึกของครู ภายใต้ สายสัมพันธ์ต้องเชื่อมกันหมดโดยผู้ข้ามห้ามถูกเชือกถ้าผู้ใดถูกเชือกต้องกลับไปทำใหม่ การทำกระบวนการนี้ต้องมีหลายฝ่ายช่วยดูเทคนิค และดูแล พี่จงคนขับรถตู้จิตอาสา ที่มาส่งคณะทำงานทางครูแมว ได้มาสังเกตการณ์ในเวทีด้วย ครูผู้เข้าร่วมพลังใจเต็มเปี่ยม ฮึดเต็มที่กับการตัดสินใจ และการวางแผนอิงกลุ่ม นั่นคือการกระโดดผ่านเชือก ครูแต่ละคน ปีนกัน และกระโดดข้ามไปทีละคน พอผ่านไปได้แบบไม่ถูกเชือกก็มีเสียงเฮ และเสียงชอบใจ  เร้าพลังความคึกคักไปทั่วห้อง แต่การกระโดดข้ามเชือก ซึ่งดูแล้วน่ากลัวจะเจ็บตัวเป็นอย่างมาก เพราะมีหลายคนที่ดูเหมือนจะก้นกระแทก และลงพื้นได้น่าหวาดเสียวและดูว่าทุกคนจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ  จนในที่สุด พี่ป้อมก็ขอให้ทุกคนหยุดและเริ่มต้นใหม่ แม้จะมีคนข้ามฟากไปได้มากแล้ว แต่เนื่องจากมีบางคนสายสัมพันธ์ขาด อีกทั้งยังคงกระโดดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องเพิ่มความสูงของเชือกขึ้นไปจากเดิม โดยบอกผู้เข้าร่วมอบรมว่า พยายามคิดวิธีการที่จะเซฟเพื่อนให้ได้มากที่สุด ปลอดภัยที่สุด กระนั้นแล้วก็ดูเหมือนผู้เข้าร่วมอบรมยังคงคิดจะใช้วิธีการเดิม

            กิจกรรมยกที่สอง เชือกสูงราวศีรษะ จากที่สูงราวๆอก กิจกรรมดำเนินต่อไป แต่แล้วก็เกิดจนได้เหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณครูบุญสม อาสาเริ่มเป็นผู้ข้ามเชือกเป็นคนแรก และได้บอกให้วิทยากรนำเบาะที่พวกเราเตรียมไว้ออกไป ด้วยเหตุผลว่า เบาะนี้จะทำให้ลื่นล้ม และเค้าก็กระโดดลงมา ตุ๊บ! ราวกับเสียงมะพร้าวหล่น เหมือนจะไม่มีอะไร แต่อาจารย์บุญสม กลับหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด โดยไม่มีใครคาดคิด เท้าของอาจารย์ท่านนี้ก็เริ่มบวมเป่ง และดูร่องแร่งแบบไม่ธรรมดา ทุกคนในห้องเริ่มเสียขวัญกันไปหมดโดยเฉพาะใบหน้าของแต่ละคน เริ่มหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด คุณครูบางคนเดินไปมากระวนกระวาย ไม่กี่นาทีนับจากนั้น ก็ตัดสินใจรีบนำอาจารย์บุญสม ส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน โดยพี่จงคนขับรถของวิทยากรเป็นผู้นำไปส่ง ที่ โรงพยาบาลตราดทันที

            ราวกับหนังที่ขาด กิจกรรมต้องหยุดทันที ครูแมวก็บอกกับทุกๆคนว่ากิจกรรมนี้ไม่ได้ตั้งใจให้มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เป็นการวัดพลังกลุ่ม และก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แต่ละคนมีพลังมาก โดยเฉพาะอาจารย์บุญสม หรือถึงไม่มีคนเจ็บก็คงต้องหยุดกิจกรรมอยู่ดี และครูแมวก็กอดให้กำลังใจพี่ป้อม และถอดความรู้สึกจากทุกคน พี่ป้อมบอกว่า รู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกให้ทุกคนว่าห้ามกระโดด เพราะไม่อยากจะบล็อกความคิด และก็มีคุณครูท่านหนึ่งเสนอว่า ควรจะบอกแนวทางและหากเห็นอะไรไม่ถูกไม่ควรขอให้รีบเสนอ เพื่อความปลอดภัย ครูแมวบอกกับทุกคนว่า กิจกรรมนี้ จะไม่มีการนำมาเล่นอีกเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

            จากเหตุการณ์ เหมือนกับ เขื่อนแตก ดูแล้วทุกคนทำอะไรไม่ถูก ยังคงตกใจ เสียขวัญ ครูแมวจึงให้ทุกๆคนเปิดใจ ต่อกิจกรรมนี้ เมื่อเริ่มนั่งลงและรวบรวมสติกลับมาครูคมสัน กล่าวเปิดใจว่า เราได้ประเมินว่าเราทำได้ โดยขาดการไตร่ตรองการคัดสรรค์ มองว่าองค์กรของเราเป็นคนหนุ่ม อะไรก็ได้ เจอเครื่องมือที่จะไปใช้กับเด็ก พร้อมที่จะลุยทุกอย่างสารพัด ขาดความรอบคอบ ขาดความยั้งคิด ความที่มีทุนสูงอาจจะทำให้คาดความยั้งคิด กิจกรรมเหมือนการวัดพลัง ว่า อย่าบุ่มบ่าม มองเห็นพลังที่แผ่ออกมา องกรที่เหมือนวัวกระทิง พร้อมลุย แต่ต้องเลือกจังหวะ

                     ครูแอนเปิดใจ..เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เราทุกคนควรร่วมรับผิดชอบ แล้วก็เรียนรู้ไปด้วยกัน นี่คือสะท้อนให้เห็นว่าองกร ครูของพวกเรา พร้อมจะไปด้วยกันเสมอแต่ลืมที่จะย้อนกลับมาวางแผนด้วยกันอย่างจริงใจ ถ้าพวกเราได้คุยกัน  เหตุการณ์นี้อาจจะไม่เกิดขึ้น หรืออาจจะไม่รุนแรง ถ้าเราเก็บไว้เป็นบทเรียนแล้วเราร่วมเผชิญเหตุการณ์ไปด้วยกัน ร่วมกัน เผชิญไปด้วยกัน บ่อไร่อยู่ด้วยกันมา 8 ปี พลังเยอะมาก แต่ด้วยวัยที่เป็นเด็กเลยกล้าเสี่ยงกัน ถ้าได้พูดคุยกันก็จะทำให้ ลดความเสี่ยงกว่านี้ ขอให้ทุกคนจับมือกันแล้วประสานใจกันเรียนรู้ร่วมกันวางแผนด้วยความจริงใจและไปด้วยกัน ขอให้ทุกคนร่วมส่งกำลังใจไปให้ครูบุญสมที่โรงบาล ส่งพลังและจิตอธิษฐานเพื่อไม่ให้ครูบุญสม ไม่เป็นอะไรมาก  ในช่วงนี้ น้ำตา ความเสียใจจากจิตใจของคุณครูผู้อ่อนโยนก็ซึม เหตุการณ์อยู่ในบรรยากาศเศร้าๆ

              ในห้องอบรมนี้ ถูกตราตรึงไว้ด้วยความนิ่งเงียบ ภายในห้องมีพระครูรูปหนึ่ง ซึ่งอยู่ในการอบรมครั้งนี้ มาตั้งแต่เช้า ครูแมว จึงได้นมัสการพระคุณเจ้า ให้ท่านได้เมตตาช่วยถอดบทเรียนในกิจกรรมครั้งนี้ พระครูท่านได้เตือนสติ ให้พวกเราทุกคนทำตัวสบายๆ ทำใจให้มีสติ อย่าเป็นไปตามเหตุการณ์อย่าเป็นไปตามอารมณ์ เพราะทุกคนในขณะนี้ สายตา และอารมณ์ เป็นไปตามเหตุการณ์ ให้ปรับอารมณ์ ใหม่ ให้ใช้ปัญญา ให้ใช้ความคิด ถ้าหากเรามีสติ เหตุการณ์เหล่านี้เป็นประโยชน์และไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เหตุการณ์นี้ไม่ได้มาจากการผิดพลาด แต่มาจากการพลาดพลั้งจากการกระทำ ชี้ให้เห็นว่าถ้าเราขาดความรอบคอบ ความพลาดพลั้งอาจเกิดขึ้นได้  มีสิ่งสะท้อนออกมาจากเหตุการณ์ว่าคนนี้คิดอย่างนี้ คนนี้คิดอย่างนี้  อย่าให้ใจเราเกิดความเศร้า เรามาหาความสุขกันไม่ใช่เหรอ พระอาจารย์ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องสอนใจว่า มีหลายโรงเรียนที่จะสร้างความสามัคคี ที่มีอาหารอยู่ตรงกลางแล้วให้ตักข้าวป้อนกัน  เมื่อมองว่าตัวข้าวป้อนกันสร้างความสามัคคี ถ้ามองไกลๆ จะเห็นว่าเชื้อโรคในน้ำลายมีอะไรบ้าง โรคอะไรที่จะติดต่อทางน้ำลายมีอะไรบ้าง ให้เค้าตักแล้วคาบ ของเราตักแล้วคาบช้อนของเรา น้ำลายจะได้ไม่เข้าไปสู่กัน แต่หลายๆโรงเรียนทำกัน ป้อนแล้วมาตัก แล้วป้อนปากตัวเอง เชื้อโรคไวรัสบี ในตับ ก็ระบาดได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง กิจกรรมเชือกร้อยใจ ใช้เชือกคล้องมือกันแล้วเดินเป็นแถว  ข้ามสะพาน สะพานหัก ดีที่น้ำไม่ลึก ไม่งั้น จมน้ำตาย การเป็นผู้นำให้คนขี่หลังแล้วเอาผ้าปิดตา บอกเดินซ้าย เดินขวา ถ้าหากบอกทางแล้ว เดินไม่ถูกแล้วเดินไปชนกัน เดินไปชนกิ่งไม้ทำอย่างไร นี่คือการรอบคอบในการทำกิจกรรม กิจกรรมที่จะใช้ต้องคิดให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด ให้วิกฤตให้เกิดโอกาส และผู้ทำก็ต้องเซฟเอาไว้และปลอดภัยที่สุดต้องเก็บเอาไว้ เก็บความรู้สึกไว้  ไม่ใช่ว่าเกิดมาแล้วก็แสดงออกมาเลย แต่เหตุการณ์แบบนี้จะแสดงภาวะผู้นำเฉพาะการณ์  ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ออกมานำ ไม่มีการเสแสร้ง  มันเป็นจิตสำนึกออกมา และเวลาทำกิจกรรม มีคนเป็นหัวหน้าทีมคิด ทำอย่างนี้นะ อย่างนี้นะ บางคนมอง บางคนตาม เค้าจะทำอย่างไรก็ช่าง คิดเค้าไปได้ ฉันไปได้ เค้าทำได้ ลองวิเคราะห์ไปหลายๆคน คนนี้เป็นผู้นำ คนนี้เป็นผู้ตาม บางคนชั้นไม่รู้หรอกเค้าไป ชั้นไปด้วย เค้าได้ ชั้นได้ เค้าไม่ได้ชั้นไม่ได้ด้วย ด้านนี้คิดอย่างหนึ่ง ด้านนี้คิดอีกอย่างหนึ่งก็ไม่สู่การแสดงพฤติกรรมอีกอย่างหนึ่ง ความสามารถและคุณภาพ เราไม่ได้เหมือนกัน บางคนถนัดด้านความคิด หลายคนมีทักษะไม่เหมือนกัน เราเอาส่วนที่เข้ากันได้ ส่วนที่ดี ใครมีความคิดดี ให้คนนั้นคิด ใครที่ร่างกายดี ร่างกายแข็งแรงคนนั้นใช้ร่างกาย ส่วนที่ผสมผสานกันเอามาให้เป็นประโยชน์ เอาส่วนต่างๆมาเชื่อมกันให้เกิดประโยชน์ คิดในเชิงสร้างสรรค์

                ครูแมว ได้ให้คำตอบสะท้อนกิจกรรมว่า กิจกรรมลวดไฟฟ้า เป็นการเช็คสนามพลัง  คิดว่าจะหยุดกิจกรรมนี้ ไม่ใช่ว่า เกิดขึ้นแล้ว ถึงจะมาคิดหยุด ด้วยความสัตย์จริง เมื่อวานคิดว่าจะมีกระบวนการใดบ้างล่ะ ที่จะOpen Hart  Open Mild  Open view กิจกรรมลวดไฟฟ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกวางไว้ การทำให้คนได้ร่วมคิดร่วมคุยกัน ทุกองค์กร ทุกแห่งโดยเฉพาะราชการเราถูกสั่งด้วยคำสั่ง วัฒนธรรมโรงเรียนเข้มแข็งเราจะทำอย่างไร เราจะร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และกระบวนการใดที่เราจะWorkshopหากัน มันจะเปิดใจของเราได้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน แล้วมันจะถูกติดเป็นวัฒนธรรมขององค์กร เป็นกระบวนการณ์ชื่ออะไร กระบวนการที่จะเกิดขึ้นในใจ กระบวนการนี้เราเปิดใจเพียงใด แล้วเราค้นพบอะไร เรียนรู้ผ่านการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

หมายเลขบันทึก: 286949เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2009 21:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

มาให้กำลังใจ เป็นไปได้ว่า อาจมีการพลาดได้ แต่ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมจะนึกถึงความปลอดภัยเสมอ ทำใจให้สบาย เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ต่อไปต้องระวัง มาให้กำลังคณะครูก่อการดีครับ จะตามมาดูบ่อยๆๆ

P  สวัสดีค่ะ

   ขอบพระคุณค่ะที่ติดตามข่าวคราวและให้กำลังใจด้วยดีเสมอมา อีกไม่นานเกินรอ  คงได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคุณน้องดร.ขจิตนะคะ

                 

ตอนนี้ครูบุญสม อาการดีขึ้นมากแล้ว ขับรถได้ตามปกติ แต่ยังต้องค่อยๆเดินอยู่ ขอบคุณน้องขวัญกะน้องเพชร ที่ถ่ายทอดเรื่องราว ขอบอกว่าความพลาดพลั้งของพวกเราครั้งนี้คือการเรียนรู้ที่มีค่ายิ่ง แล้วจะตามมาอ่านอีกนะคะ คิดถึงทุกคนที่ลำปางเจ้า...

ขอบคุณครับ น้องขวัญ น้องเพชร เก็บรายละเอียดได้ดีมากเลยครับ ทุกอย่างย่อมมีอุปสรรคบ้าง แต่ขอให้เรามีสติที่มั่นคง ย่อมผ่านไปได้ด้วยดี สู้ สู้

สวัสดีค่ะพี่ครูแอน

  • หนูขวัญดีใจค่ะที่ทราบว่าคุณลุงบุญสมอาการดีขึ้นเกือบปกติแล้ว 
  • ขอบคุณพี่ครูแอนมากที่เข้ามาเยี่ยม 
  • คิดถึงพี่ครูแอนมาก ๆ  ค่ะ  จุ๊บ..จุ๊บ

P  สวัสดีค่ะ  คุณครู

           หนูเพชรถือว่ากิจกรรมนั้น เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ ทำให้พวกเรามีบทเรียน และข้อคิดนำกลับมาได้เยอะมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท