๖๒. การระดมพลังเครือข่ายจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมเข้มแข็งในชุมชน
หลังแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๗ สังคมไทยสรุปบทเรียนตนเองอย่างหนึ่งเพื่อมุ่งเปลี่ยนกระบวนทัศน์และวิถีการพัฒนาประเทศให้เศรษฐกิจดีพอเพียง และสังคมเข้มแข็ง โดยมีคน ครอบครัว ชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติซึ่งเป็นทุนชีวิตของถิ่นฐาน เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างบูรณาการ
การทำงานต่างๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีแปรวิกฤติให้เป็นโอกาสในการพัฒนาคนและพลเมือง ให้สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาและร่วมสร้างสุขภาวะสังคมด้วยความมีจิตสาธารณะ ร่วมทุกข์สุขกับสังคมและสำนึกต่อส่วนรวมไม่น้อยไปกว่าตนเอง ซึ่งจะทำให้ฐานรากของสังคมเข้มแข็ง ปัจจัยด้านคน พลเมืองผู้มีพลังสร้างสรรค์ และสังคมวัฒนธรรม ก็จะเป็นทั้งเป้าหมายของการพัฒนา และเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้สังคมมีพลังต่อการแก้ปัญหาให้แตกต่างไปจากในอดีต การพัฒนาเคือข่ายจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมเข้มแข็งในชุมชน จะเป็นแนวทางการทำงานอย่างหนึ่งของคนทำงานกับชุมชนและผู้นำการเปลี่ยนแปลของท้องถิ่น
ความเห็น (4)
สวัสดีครับ อาจารย์ วิรัตน์
การพัฒนาเคือข่ายจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมเข้มแข็งในชุมชน
สภาองค์กรชุมชน คือเวทีพัฒนาสร้างจิต อาสา ในชุมชน
- เห็นด้วยครับ และถ้าหากเน้นกระบวนการเรียนรู้-สร้างพลเมือง ก็จะเป็นหัวหอกนำการเปลี่ยนแปลง ทำให้ชุมชนนั้นพัฒนาไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ครับ การศึกษาตามอัธยาศัย การศึกษาตลอดชีวิต และประชาสังคมศึกษา จะมีบทบาทสำคัญและชาวบ้านกับภาคประชาชนจะร่วมทำได้ดีครับ
- ทางด้านความเป็นส่วนรวม ก็จะพัฒนาประชาธิปไตยแห่งการเรียนรู้เพื่อสร้างพลังการตัดสินใจตามความพร้อมด้วยกัน
- ในมุมมองผม หากไม่รีบมุ่งความสำเร็จปลายทาง ก็จะเป็นกระบวนการปฏิรูปทั้งสังคมที่สะท้อนขึ้นจากชุมชนท้องถิ่นครับ
ขอบคุณคุณ Man in Flame ครับที่นำสื่อมาฝาก เป็นสื่อสารสิ่งดีแล้วก็มีความเป็นสื่อแนวปฏิรูปอยู่ในตัวเองนะครับ ดูเหมือนว่าผมจะเคยดูอยู่บ้างเหมือนกันครับ แต่ตอนนี้หยุดดูทีวีมาเกือบปีแล้วหันมาฟังวิทยุกับอ่านหนังสือสรุปสุดสัปดาห์เอา เลยรู้สึกห่างๆไปหน่อยครับ
สื่อที่เห็นทั้งหมดนี้เป็นสื่อแนวสร้างสรรค์นะครับ แล้วก็เป็นแนวทางใหม่ๆของการทำสื่อนะครับ แต่การปฏิวัติวงการสื่อนี่คงต้องว่าไปเป็นเรื่องๆกระมังครับ อย่างเรื่องสื่อในแนวนี้ หากทำให้ถึง ทำอย่างจริงจัง ผมว่าก็อาจจะเป็นการปฏิวัติวงการของสื่อแนวนี้ได้เช่นกันนะครับ
อันที่จริงสภาพข่าวสารและการสื่อความรู้ทางสื่อต่างๆ ณ เวลานี้ ก็น่านำเสนอความแตกต่างให้เป็นตัวเลือกใหม่ๆได้ดีเหมือนกันนะครับ ตอนนี้สื่อก็คงจะรู้สึกแย่กับตัวเองเหมือนกัน และกลุ่มผู้บริโภคสื่อก็ไม่รู้จะทำกันอย่างไรแล้ว ต่างก็คงอยากหาทางเลือกใหม่ๆเหมือนกัน
ผมเห็นด้วยครับต่อความสำคัญเรื่องสื่อ เพราะเป็นแหล่งให้การศึกษาและพัฒนาประชาชนที่สำคัญให้คนมีโอกาสและความเท่าเทียมกันที่จะได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองได้ดีขึ้น เสริมพลังให้ผู้คนมีเสรีภาพและอิสรภาพที่จะคิดอ่านและทำสิ่งๆดีๆได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเพื่อพัฒนาข่าวสารความรู้ และสร้างการเรียนรู้ที่มีพลังของสังคมทุกระดับ เลยยินดีที่จะร่วมสนับสนุนแนวคิดที่คุณ Man in Flame รณรงค์ด้วยทั้งโดยตรงโดยอ้อม เท่าที่ทำได้ครับ แล้วก็จะลงมือทำในส่วนที่เรามีส่วนร่วมทำได้เอง เราทั้งนำมาสื่อสารแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ