ทำดี...เพื่อได้ทำดี


งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข (ท่านพุทธทาส ปัญญา นันทภิกขุ)

ทำดี...เพื่อได้ทำดี

งานคือชีวิต  ชีวิตคืองานบันดาลสุข (ท่านพุทธทาส ปัญญา นันทภิกขุ)

อย่าคิดว่าทำดีต้องได้ดี  แต่ขอให้คิดว่า ทำดีเพื่อได้ทำดี  (ศาสตราจารย์ ดร.ระพี สาคริก)

                คติดังกล่าวนี้ เหมือนเป็นวิสัยทัศน์ของตนเองตั้งแต่เริ่มรับราชการ ดังนั้น การทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบที่ผ่านมาจวบถึงปัจจุบันได้สะท้อนหลายสิ่งหลายอย่าง ภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อสาธารณชนทำให้มองได้ทั้งแง่บวกและลบ ด้วยความที่เป็นเช่นนี้  ทำให้ตัวเองคิดว่างานคือธรรมะ และ ธรรมะคืองาน จึงไม่เคยผูกใจเจ็บใคร การทำงานเราก็คิดว่าทำด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์มาโดยตลอด ซึ่งบางครั้งอาจคิดไม่ถึงเพราะงานบางอย่างเป็นวิทยาศาสตร์เกินไปแต่ถึงกระนั้นเราก็พยายามทำให้เกิด Humanize ได้ในเวลาเดียวกัน บางครั้งเป็นงานคู่ขนานที่ทำควบคู่ไปกับงานประจำเช่น ความพยายามที่ทำให้ผู้มารับบริการหลายคน หลายครอบครัวได้รับสิทธิอันพึงมี พึงได้ตามสิทธิที่กฏหมายกำหนด โดยการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสหลายๆคนได้มีโอกาสนั้นเท่าเทียมกับประชาชนคนไทย เช่นการช่วยสืบค้น แสดงความเป็นบุคคลให้กับผู้มารับบริการเพื่อให้ได้มาซึ่งเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในบางครั้งอาจเกิดข้อขัดข้องใจบ้างกับผู้บังคับบัญชาบ้าง  ผู้ร่วมงานบ้าง ที่มองกันคนละมุม แต่เราก็ยังไม่ละความพยายามที่คิดว่าทำดีเพื่อได้ทำดี  ในฐานะที่เป็นพยาบาลการดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์น่าจะเกิดตั้งแต่เริ่มเรียนพยาบาลแล้ว แต่เราอาจนึกไม่ถึงเพราะมุ่งแต่ทางวิทยาศาสตร์มากกว่าทางศิลปศาสตร์

               สำหรับตนเอง การทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบถือว่าเป็นเรื่องที่สนุก ท้าทาย และผลลัพธ์ของงานต้องดี แต่ถึงกระนั้นผู้ร่วมงานหลายท่านอาจมองว่าเราจริงจัง เครียดกับงานมากเกินไป ซึ่งเราอยากจะบอกว่าเราไม่เคยอาฆาตพยาบาทหรือคิดร้ายกับใครๆ มีแต่ความรักและความหวังดีให้กับทุกคน ไม่ทราบว่าการกระทำเช่นนี้จะเรียกว่าเป็น Humanize ได้หรือไม่

                การดูแลผู้ป่วยทุกคน เราก็ปฏิบัติด้วยความรักและความหวังดีเหมือนกันหมดทุกคน แต่ผู้รับบริการจะสัมผัสได้หรือไม่ ก็แล้วแต่มุมมองที่แตกต่างกันไป

               การทำงานในด้าน Palliative care ได้สอดแทรกการดูแลของ Humanize Health Care ไปตลอดเวลา เช่น การดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย ตัวเองคิดอยู่เสมอว่าถ้าผู้ป่วยรายนั้นเป็นญาติเรา เพื่อนเรา คนใกล้ชิดที่เรารู้จัก หรือตัวเราที่ต้องอยู่ในสุขภาวะเช่นนี้ จะทำอย่างไร ดังนั้นการดูแลปฏิบัติการพยาบาลของ end of life care จึงคิดว่าเราได้ดูแลญาติของตนเอง การกระทำจึงดำเนินไปเหมือนการดูแลที่ญาติพึงกระทำให้ญาติของตน หรือคิดว่าถ้าเป็นตัวเองเมื่ออยู่ในสถาการณ์เช่นนี้ต้องการให้ใครทำอะไร อย่างไร

               การทำงานหลายสิ่ง หลายอย่างที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นธุรกิจอาจเปรียบได้ว่าเป็นบริการหลังการขาย แต่การทำงานของเรา  ความห่วงใยและความหวังดีของเราที่มีต่อผู้รับบริการ เราไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น  แต่ในอีกเสี้ยวชีวิตหนึ่งของเราคือความเป็นส่วนตัวที่ไม่ได้ on  the job duty ในขณะนั้น ได้พบเจอลูกค้าของเราหลายราย ต่างเวลา ต่างสถานการณ์ เข้ามาทักทายสนิทสนม กล่าวขอบคุณ ซาบซึ้งในการกระทำของเราที่มอบให้กับญาติของเขา (ไม่ทราบว่าเป็นความประทับใจ/พึงพอใจของการบริการหลังขายได้หรือไม่?)  พูดคุยกับเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  เล่าว่าถ้าไม่มีเราในวันนั้น  ลูกเขาคงตายไปแล้ว  บางคนก็บอกว่าถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือ  สามีเขาคงตายไปแล้วเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลถ้าเราไม่ช่วยพูดกับแพทย์ขอใบส่งตัวไปรักษาต่อโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่านี้ ซึ่งบางรายเราแทบจำไม่ได้เพราะเวลาเปลี่ยนผ่านไปนานมากเหลือเกิน และอยากจะถามว่านี่เป็นการดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่ โดยญาติผู้ป่วยบางรายบอกว่า สถานการณ์ในเวลานั้นที่เราดูแลญาติของเขาที่กำลังจะพรากจากเขาไป   พยาบาลเปรียบเสมือนเป็นน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงจิตใจและเป็นหลักให้ญาติทุกคนของผู้ป่วย ได้มีสติในการที่จะได้ทำสิ่งดีๆ  ในวาระสุดท้ายของชีวิตให้กับบุคคลอันเป็นที่รักของเขาต่อไป

 

                                          นวลพร  อาทิตย์    ตึกพิเศษ 6    โรงพยาบาลท่าม่วง

หมายเลขบันทึก: 304290เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2009 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ดีใจที่ได้เห็นบันทึก SHA จากบ้านเรา
  • ชอบเรื่อง การทำงานในด้าน Palliative care ได้สอดแทรกการดูแลของ Humanize Health Care ไปตลอดเวลา
  • รออ่านอีกครับ
  • มาเชียร์คนบ้านเรา

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/241364 

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/241738 

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/226085

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/225336

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/225541

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/301390

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/301686

 

http://gotoknow.org/blog/yahoo/302409

 

ขอบคุณอาจารย์ขจิตที่คอยให้กำลังใจค่ะ ยังมีเรื่อง Pallaitive care ที่พี่น้องชาวท่าม่วงทำแต่ยังไม่ได้เขียนเล่าอีกหลาย ๆ เรื่องค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท