...สงสัย...
เช้าของวันพฤหัสบดีที่ฟ้ากระจ่างไร้เมฆฝน ภาพของหญิงวัยไล่เรียงกันตั้งแต่สาวรุ่น ๆ ไล่ไปจนสาวรุ่นใหญ่ แต่งกายหลากสีสดใสสิ่งที่ดูจะโดดเด่นก็คงเป็นช่วงกลางลำตัวที่นูนป่องมากบ้างน้อยบ้าง บางทีก็มีคนข้างกายเป็นชายวัยไล่เลี่ย บ้างก็เห็นจูงหรืออุ้มสมาชิกตัวน้อยติดสอยห้อยตามค่อย ๆทยอยกันเข้ามานั่งเรียงรายรออยู่ที่เก้าอี้ในที่ทำงานของฉัน นี่นับเป็นอีกวันที่กิจกรรมชีวิตของฉันดำเนินไปตามครรลองเยี่ยงกับวันทำการที่ผ่านมา เป็นเวลาเกือบ 4 ปีแล้วซินะ เคยมีคนถามฉันว่าเบื่อบ้างไหมสำหรับการทำงานแบบนี้ ฉันบอกอย่างเต็มปากโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่า “ไม่เคยเบื่อ” กลับรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่นับวันสิ่งที่ได้ทำบ่อยๆ ทำซ้ำๆ ช่วยสั่งสมประสบการณ์มากขึ้นอย่างหาไม่ได้ในห้องเรียน ฉันนึกย้อนไปในช่วงแรกเข้ามารับหน้าที่นี้ กว่าจะฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์แต่ละรายได้ใช้เวลาพอควร ครั้งนั้นได้แต่คิดในใจว่า ท้องของหญิงตั้งครรภ์ก็มีพื้นที่ไม่มาก ทำไมถึงหายากจังนะ แต่สำหรับวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพียงแค่สัมผัสผิวท้องที่เต่งตึงเบาๆ ฉันก็รู้ได้โดยง่ายว่าจะต้องฟังเสียงหัวใจเด็กตรงไหน ช่างแม่นยำซะนี่กระไร จนบางครั้งแทบจะใช้แค่เพียงสายตาก็ระบุตำแหน่งได้ใกล้เคียงซะเหลือเกิน .............แอบให้กำลังใจและชื่นชมผลงานของตัวเองไปในที
เริ่มต้นวันนี้ฉันรับหน้าที่อยู่ในห้องตรวจครรภ์เหมือนเช่นเคย มีหญิงตั้งครรภ์มากหน้าหลายตาหมุนเวียนเข้ามาตรวจ ในระหว่างนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยความราบรื่น ส่วนใหญ่หญิงตั้งครรภ์ที่เข้ามาตรวจหากฟังเสียงหัวใจทารกได้แล้ว ฉันจะใช้เครื่องขยายเสียงการเต้นของหัวใจทารก ( Doptone ) ฟังทุกราย ซึ่งจะทำให้ว่าที่คุณแม่ได้ฟังเสียงหัวใจลูกพร้อม ๆ กันไปด้วย แหม! มันช่างแช่มชื่นหัวใจจริงๆ หลังจากนั้นฉันก็ให้คำแนะนำในส่วนที่ควรได้รับในช่วงอายุครรภ์ดังกล่าวไป เมื่อเสร็จการตรวจครรภ์ คุณแม่ทั้งหลายจะต้องออกมารับสมุดสีชมพูพร้อมยาบำรุงตรงจุดคัดกรองแล้วกลับบ้าน ในช่วงที่ฉันเดินออกมาด้านนอกห้องเพื่อนำสมุดสีชมพูพร้อมสมุดบันทึกประวัติการตรวจ มาวางตรงจุดคัดกรอง สายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 25 – 30 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวค่อนข้างคล้ำ ผมยาวปะบ่า ดวงตากลมโต ดูสดใสเวลาที่เราสบตากัน ซึ่งฉันคาดว่าน่าจะเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการมาฝากครรภ์รายใหม่แน่ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนั้นมาก แต่ฉันมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักที่ไหนมาก่อนแน่ เราได้สบตากันแล้วก็ส่งยิ้มให้กันเท่านั้น ไม่ได้มีคำพูดใดๆ หลุดจากปากฉันหรือหล่อนสักคำ
หลังจากเวลาของการตรวจครรภ์ล่วงเลยมานานพอสมควร ช่วงนั้นเป็นเวลา 11.30 น. หลังจากฉันหยิบสมุดสีชมพูเพื่อเรียกหญิงตั้งครรภ์คนต่อไปเข้ามาตรวจ ฉันก็พบว่าหญิงคนที่ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเมื่อเกือบ 2 ชั่วโมงที่แล้วเดินมาเข้ามาในห้องตรวจของฉัน หลังจากทวนสอบชื่อกันเรียบร้อย ฉันก็เริ่มตรวจครรภ์ในทันที จากการซักประวัติประจำเดือนครั้งสุดท้ายเข้ามาจากจุดรับใหม่ พบว่าอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ หรือ 6เดือนนั่นเอง แต่พอคลำหายอดมดลูกฉันกลับคลำอะไรไม่ได้เลย ก็นึกได้เลยทันทีว่าประจำเดือนคงผิดพลาดแน่ๆ ลองซักประวัติใหม่ซักไปซักมาถามถึงอาการที่เกี่ยวพันกับการตั้งครรภ์ จากการสอบถามก็พบว่าน่าจะตั้งครรภ์แน่นอน แต่เปลี่ยนวันที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายใหม่ พอคำนวณอายุครรภ์ก็พบว่าได้ 14 สัปดาห์ ผลตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ 2 ครั้งก็พบว่าเป็นบวก แต่นั่นก็หมายความว่าไม่สัมพันธ์กับยอดมดลูกอยู่ดี หญิงตั้งครรภ์ก็บอกว่าเคยแท้งลูกไปเมื่อการตั้งครรภ์ครั้งก่อน ซัก 3 ปีได้ ช่วงท้องนี้ก็รู้สึกทุกอย่างปกติดี มีอาการจุกเสียดท้องบ้าง นานๆ ครั้งไม่มีเลือด ไม่มีอะไรออกมาทางช่องคลอด
“มันจะเป็นอะไรได้บ้างนะ” สมองฉันเริ่มทำงานอย่างหนัก พยายามคิดถึงหลายๆ อย่างแต่ยังไม่กล้าฟันธง ฉันจึงขอให้หญิงตั้งครรภ์ไปรอฉันตรวจอัลตร้าซาวน์ให้ที่อีกห้องหนึ่ง จากการทำอัลตร้าซาวน์ ภาพในจอไม่สามารถมองเห็นตัวเด็กชัดเจนเหมือนที่เคยเห็นในหญิงอายุครรภ์ขนาดเดียวกัน ฉันจึงอธิบายกับหญิงคนนั้นว่า
“ จากผลการตรวจคิดว่าคุณน่าจะตั้งครรภ์แน่ แต่หลายสิ่งที่ตรวจพบในขณะนี้มันดูไม่ค่อยสัมพันธ์กับสิ่งที่ตรวจพบในการตั้งครรภ์แบบทั่วไป คุณรอสักครู่นะคะ ฉันขอดูอะไรนิดหนึ่งหากว่าวันนี้ฉันยังหาคำตอบเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครั้งนี้ไม่ได้ ฉันยังไม่กล้าปล่อยคุณกลับบ้านแน่ๆ “
เวลาก็จวนเจียนจะเที่ยงเหลืออีกประมาณ 10 นาที ขณะที่กำลังคิดว่าจะทำไงต่อไปดี และแล้วเหมือนฟ้าเปิดทางสว่าง ...สูติแพทย์ได้กลับมาที่ห้องตรวจครรภ์อีกครั้งหลังจากที่ต้องไปดูแลผู้ป่วยที่ห้องคลอด ฉันดีใจมากเลย เพราะหากจะส่งปรึกษาแพทย์มันก็ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่จะให้กลับบ้านไปก็รู้สึกกังวลเพราะรู้สึกแปลกๆคิดได้ดังนั้นฉันจึงเดินเข้าไปหาสูติแพทย์
“ หมอมีผ่าตัดช่วงบ่ายไหมคะ?”
“ มีครับ ”
“ หมอคะพอดีเจอหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งตรวจแล้วพบว่ามันมีอะไรบางอย่างไม่ตรงไปตรงมา รู้สึกสงสัยอยากให้หมอตรวจให้นิดหนึ่ง จากอายุครรภ์คำนวณใหม่ได้ 14 สัปดาห์ค่ะ”
“ ได้ครับ ”
จากนั้นจึงพาหญิงตั้งครรภ์ไปที่ห้องตรวจเพื่อทำอัลตร้าซาวน์อีกครั้ง ในครั้งนี้ฉันเฝ้ารอด้วยความ กระวนกระวายด้วยเหตุหลายประการ กลัวอายหมอหากตัวเองตรวจผิดพลาดเองแต่ผู้ป่วยปกติ กลัวแทนผู้ป่วยว่าจะมีความผิดปกติ ชั่วครู่ต่อมาสูติแพทย์ได้เรียกให้ฉันเข้าไปในห้องตรวจ และให้ฉันดูอะไรบางอย่างในจอเครื่องอัลตร้าซาวน์ พร้อมอธิบายว่ามันคือท่อนำไข่ที่มีอาการบวมเหมือนใกล้จะแตกเต็มที่แล้ว สูติแพทย์ลงความเห็นว่าเป็น “การตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy)” นั่นเอง เมื่อได้รับการตรวจอย่างละเอียดแล้วจึงได้จัดการให้ทำเรื่องรับเข้านอนโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดทันที ระหว่างรอทำเรื่องนอนโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ได้เข้าไปพูดคุยกับหญิงตั้งครรภ์อีกครั้ง ดวงตาของเธอดูคล้ายจะมีน้ำใสๆคลอเบ้าตาทั้งสองไม่แช่มชื่นสดใสดั่งครั้งแรกที่สบตากับฉันก่อนเข้าห้องตรวจ อันเนื่องมาจากอยากได้ลูกเหลือเกิน ฉันได้บอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นอยู่และต้องเผชิญต่อไป พร้อมให้กำลังใจว่าเขายังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อีก และได้ตามสามีเข้ามาพบหญิงตั้งครรภ์ และเล่ารายละเอียดต่างๆ ให้สามีเขาฟังอีกครั้งถึงแม้สีหน้าขณะรับฟังจะเต็มไปด้วยริ้วรอยของความผิดหวัง แต่ก็เข้าใจดีเห็นชอบกับการเข้ารับการผ่าตัดของภรรยา
สำหรับตัวฉันเองฉันรู้สึกดีใจที่ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันได้อย่างดีที่สุดในวันนี้ ฉันได้ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ต้องกลับไปบ้านแล้วเกิดอาการช็อกจากการตกเลือด (ได้ทราบมาว่าบ้านของหญิงตั้งครรภ์อยู่ที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จากบ้านเวลามาโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็ค่อนข้างลำบากและใช้เวลานาน) ฉันไม่ได้ปล่อยเธอกลับบ้านไปแล้วบอกว่าคุณคงจำประจำเดือนผิด เดี๋ยวรอตรวจท้องครั้งหน้าแล้วกัน เรียกว่างานนี้ไม่พลาดเพราะความช่างสงสัยนั่นเอง ก่อนย้ายไปเตรียมผ่าตัดเธอคนนั้นพูดขอบคุณฉัน ประโยคสุดท้ายที่เธอกล่าวยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของฉัน
“ฉันคิดไม่ผิดเลยที่มาฝากท้องที่โรงพยาบาลท่าม่วง”
เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านด้วยความปิติ รู้สึกเป็นสุขใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกภูมิใจในความเป็นวิชาชีพของฉันเหลือเกิน ไม่มีสิ่งตอบแทนใดๆ ที่จะมาทำให้ฉันรู้สึกดีเช่นนี้ได้ ขอบคุณคุณหมอณรงค์ที่เข้ามาในช่วงเวลาดีๆ เช่นนี้ ขอบคุณความช่างสงสัยของตัวเองที่ไม่มองผ่านจุดเล็กจุดน้อยเกี่ยวกับคนไข้ไป ขอบคุณเครื่องมือที่ทันสมัย และสุดท้ายขอขอบคุณหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นอาจารย์ให้กับฉัน และนี่คือตำราที่ฉันไม่ต้องซื้อหาด้วยเงินสักบาท นับจากนั้นหากพบเห็นอะไรแบบนี้อีก ฉันคิดว่าฉันคงสามารถดูแลคนไข้ของฉันได้เป็นอย่างดีแน่นอน คืนนี้หลับฝันดี...หลับสนิทพร้อมส่งกำลังใจไปเยี่ยมคนที่เข้ารับการผ่าตัดเสร็จไปแล้วอย่างปลอดภัยด้วยเช่นกัน...
เรื่องเล่าโดย คุณโสภา ทองบุญเหลือ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
หัวหน้างานบริการคลินิกพิเศษ โรงพยาบาลท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ย่อรูปภาพ
http://gotoknow.org/blog/katti/255954
ตกแต่งบล็อก
http://gotoknow.org/blog/katti/199894
ย่อรูปแต่งรูปพี่ดาวคนสวยใจดี
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
ขอบคุณอ.ขจิตที่เนเรื่องดี ๆ ให้เรียนรู้ค่ะ