ไอคิโดกับการจัดการความรุนแรงต่อสตรี ในมุมมองของสตรีผู้ฝึกไอคิโดที่ปางมะผ้า


ไอคิโดเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ช่วยลดความรุนแรงได้ เพราะไอคิโดไม่ใช้ทำร้ายใครแต่ไอคิโดจะใช้วิธีช่วยยุติความรุนแรงกับคู่ต่อสู้ โดยทำให้คู่ต่อสู้ลดความรุนแรงลง

สวัสดีครับ  เดือนนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีวันยุติความรุนแรงต่อสตรีรวมอยู่ในเดือนนี้ ผมก็เลยถือโอกาสนี้นำเสนอประเด็นความรุนแรงต่อสตรีที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเอามุมมองของผู้ฝึกไอคิโดที่ปางมะผ้ามาเรียบเรียงมาฝากนะครับ

 

การฝึกไอคิโดที่ปางมะผ้า ก็ดำเนินไปตามครรลองนับตั้งแต่ปี 2549 ผมก็สอนเท่าที่ความรู้จะมี แล้วผู้เรียนก็กลับมาสอนผมต่อ ให้รู้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองมากมาย

การฝึกไอคิโดที่ปางมะผ้า กำเนิดจากมาจากฐานงานพัฒนา คือใช้ไอคิโดเป็นเครื่องมือไปพัฒนาเด็ก เยาวชน ผู้ฝึกไอคิโดที่นี่จึงต้องทำงานจิตอาสา ทำงานพัฒนาชุมชนไปพร้อมๆกัน เราไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพ เสริมสร้างการมีสติและวินัยเชิงบวก และด้วยข้อจำกัดมากมาย เราก็เลยทำในแบบเล็กๆ ที่พอทำไหว มีผู้ฝึกต่อเนื่องจริงจังประมาณสี่คน ที่เหลือก็เป็นขาจรไม่ได้มีการสอบเลื่อนขั้นแต่อย่างใดครับ

 

วันนี้ผมมีคำถามไปยังผู้ฝึกถึงมุมมองต่อความรุนแรงต่อสตรีในปางมะผ้า กับผู้หญิงที่ฝึกมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยชั่วโมงสองคน คือ น้อยกับอุสา

 

 

 

  • น.ส. จันโนน (น้อย) ไม่มีชื่อสกุล

 

น้อยเป็นแกนนำเยาวชนไทใหญ่ไร้สัญชาติอายุ 18 ปี เธอมองว่า ความรุนแรงต่อผู้หญิงในปางมะผ้าไม่ค่อยเป็นข่าว ส่วนใหญ่จะเป็นความรุนแรงในครอบครัวที่ผู้หญิงถูกตบตี และที่เป็นข่าวล่าสุดนี่ก็มีการข่มขืน รุมโทรมในหมู่วัยรุ่น ถ้าเป็นการทะเลาะตบตี เรื่องมักจบอยู่ในระดับเครือญาติคือเคลียร์กันเองได้ แต่ถ้าข่มขืนก็ไปขึ้นโรงขึ้นศาล พูดง่ายๆว่าในชนบทเองก็ใช่ว่าจะปลอดจากความรุนแรง

 

 

 

 

เธอเล่าว่าถ้าพบเห็นความรุนแรงต่อผู้หญิงคนใดก็ตามเช่น เห็นคนกำลังตบตีผู้หญิง เธอก็จะเรียกให้ตำรวจมาจัดการ หรือถ้ามีวิธีอื่นเธอก็จะช่วย แต่การมาฝึกไอคิโดก็มีส่วนช่วยให้เราป้องกันตัวเองได้โดยไม่ก้าวร้าว คือไม่ไปทำร้ายคนอื่น ไม่ว่าก่อนหรือหลังภัยมาถึงตัว ก็จะต้องระวังไม่ให้เขาบาดเจ็บ ที่สำคัญคือได้ฝึกสติ จิตใจไม่วอกแวก รู้จักจัดการปัญหาไม่วู่วาม ไม่เอาความรุนแรงของเราไปดับความรุนแรงของเขา

 

 

 

  •        อุสา เหล็กสมบูรณ์

 

ด้านอุสา เป็นผู้หญิงไทใหญ่อายุย่าง 27 ปีที่ทำงานพัฒนาวิทยุชุมชนอยู่ที่นี่ แล้วใช้เวลาว่างมาฝึกไอคิโดสม่ำเสมอ เธอเล่าว่า

“   ความรุนแรงต่อผู้หญิงในอำเภอปางมะผ้านี้ก็มีเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายทางด้านจิตใจ  ร่างกาย และคำพูดรวมถึงละเมิดสิทธิผู้หญิงด้วย   ทำให้สะท้อนให้เห็นถึงสังคมในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด  คือการรังแกผู้ซึ่งไม่มีทางสู้

            ดิฉันเคยเจอเหตุการณ์หนึ่งอยากเล่าให้ฟัง  บ้านของดิฉันติดกับห้องเช่า  มีอยู่คืนหนึ่งประมาณตีสองก็มีเด็กผู้ชายมาเคาะประตูห้องของเด็กหญิง  เด็กผู้หญิงคนนี้ก็เปิดประตูให้เด็กผู้ชายเข้ามา  เพราะทั้งสองคนเป็นแฟนกัน  แต่คุยกันยังไงไม่รู้ทีนี้ก็เริ่มมีปากเสียงกัน  แล้วทั้งสองคนก็ทะเลาะกัน  ส่วนผู้ชายนั้นก็ทำร้ายผู้หญิง  ตบ ตี เตะ ต่อย  แล้วยังทำลายโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นด้วย  แล้วยังบังคับผู้หญิงอีกว่า ต้องคบเขาเป็นแฟนคนเดียวเท่านั้น  ผู้หญิงไม่มีทางเลือกเขาก็ต้องจำใจทำตาม  แต่ถ้าผู้หญิงมีทางเลือกและเข้มแข็งมากกว่านี้ก็คงไม่ตกเป็นทาสของผู้ชายคนนี้  ที่เล่ามานี้เด็กทั้งสองคนกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 เองค่ะ

            ฉันเจอเหตุการณ์แล้วรู้สึกสงสารและเสียใจมากที่สังคมในปัจจุบันเลวร้ายและต่ำลงไปทุกที   มันไม่น่าเกิดกับคนที่ไม่มีทางสู้  ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันก็จะโทรแจ้งตำรวจหรือให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยเข้ามาดูแลลูกหลานตัวเอง   และจะคอยคำปรึกษาและช่วยเหลือพวกเขาชวนพวกเขามาฝึกไอคิโด อย่างน้อยก็สามารถป้องกันตัวเองได้ระดับหนึ่ง

            ไอคิโดเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ช่วยลดความรุนแรงได้  เพราะไอคิโดไม่ใช้ทำร้ายใครแต่ไอคิโดจะใช้วิธีช่วยยุติความรุนแรงกับคู่ต่อสู้ โดยทำให้คู่ต่อสู้ลดความรุนแรงลง

              เมื่อก่อนฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาฝึกไอคิโด  แต่เห็นคนอื่นๆและน้องๆก็ชักชวนอยู่บ่อยก็เลยใจอ่อนเลยได้มาฝึกไอคิโดร่วมกับน้องๆ  ไอคิโดเปลี่ยนแปลงฉันอย่างมาก  ปกติแล้วฉันก็เป็นคนใจเย็นอยู่แล้วพอได้มาฝึกไอคิโดยิ่งเป็นคนใจเย็นไปอีก  แต่มีสติอยู่ตลอดเวลาและว่องไวมากขึ้น  และทำให้สมาธิไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา มีศิลปะในการป้องกันตัวเองจากภัยร้าย

นอกจากไอคิโดจะให้มีสมาธิ จิตใจไม่วอกแวกแล้ว ยังมีวิชาความรู้ติดตัวไปด้วยและที่สำคัญทำให้ดิฉันมีบุคลิกดีขึ้น มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นด้วย”


  • “ไอคิโดช่วยให้ฉันมีสติอยู่ตลอดเวลา ใจเย็น แต่ว่องไวมากขึ้น  และทำให้มีสมาธิ ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา”
อุสา  เหล็กสมบูรณ์  นักพัฒนาเด็ก เยาวชน  อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          

 

  •  “ไอคิโดสอนให้เรารู้จักกลับตัว หมายถึงเมื่อทำผิดมาแล้วกลับตัวได้ นานไปสังคมก็จะยอมรับเราเอง” 
จันโนน  ไม่มีชื่อสกุล แกนนำเยาวชนไทใหญ่ไร้สัญชาติ อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน

  

นี่ก็เป็นความคิดเห็นจากผู้หญิงที่ฝึกไอคิโดอีกกลุ่มหนึ่ง พวกเธอได้สะท้อนมุมมองที่เชื่อมโยงการฝึกไอคิโดกับการจัดการความรุนแรงต่อสตรีไว้ แม้จะไม่ใช้ความเคลื่อนไหวทางสังคมที่ใหญ่โตอะไร หากแต่เป็นการเชื่อมโยงประสบการณ์ส่วนบุคคลไปสู่ประสบการณ์ที่เป็นส่วนรวมกับคนอื่น ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่านี่เป็นความก้าวหน้าในการฝึกอีกระดับหนึ่ง คือมองพ้นไปจากความหมกมุ่นในตัวเอง แล้วเผื่อแผ่ความเมตตาไปสู่ผู้หญิงคนอื่นๆโดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกรังแก

ผมถือโอกาสเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีนำมาความคิดเห็นของผู้หญิงไทใหญ่ทั้งสองมาเรียบเรียงไว้ ณ ที่นี้ครับ

 

แล้วคุณล่ะครับ คิดยังไง เมื่อพบเห็นผู้หญิงกำลังตกอยู่ในความรุนแรง ?

 

 

หมายเลขบันทึก: 314639เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2009 14:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ผมชอบมากนะครับโครงการนี้ จริงๆ แล้วพื้นที่อื่น น่าจะเข้าไปเรียนรู้กระบวนการเพื่อนำไปต่อยอด

อ่านดูพบว่า ไอคิโด เพื่อให้ ญ ป้องกันตัวจากความรุนแรง

มีความสำเร็จจากกรณีนี้ไหมครับ เช่นฝึกไปแล้วป้องกันตัวได้ หรือ ฝึกไปแล้วประสบความรุนแรงเช่นเดิม

.....

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมชอบกิจกรรมแบบนี้ ไม่แน่ว่าวันหน้า ผมอาจไปหาท่านเพื่อร่วมเรียนรู้

ถึงแม้จะมีกฎหมายรองรับ แต่ความรุนแรงต่อผู้หญิง หรือแม้แต่ในครอบครัว ก็ยังคงถูกเพิกเฉยอยู่ดี

สังคมเราอยู่กับความเคยชินมากไป ธุระไม่ใช่ซะมาก หากคิดว่าคนที่กำลังตกอยู่ในเหตุการณ์รุนแรงนั้น เป็นคนในครอบครัวเรา หรือเป็นเพื่อนในสังคมเดียวกันกับเรา เราคงไม่รู้สึกเฉยกับความรุนแรงนั้น มีแต่จะยื่นมือเข้าไปช่วย แม้ไม่ได้ช่วยด้วยตัวเอง ก็ช่วยหาวิธีที่จะช่วยก็ยังดี

"ใจคน" นี่แหละ สำคัญ

 

สวัสดีครับคุณบีเวอร์ หายไปนานนะครับ ดีใจที่กลับมาทักทายกัน

  • การฝึกแล้วได้ใช้ไหม ส่วนใหญ่ผู้ฝึกมาแล้วระดับหนึ่ง ก็จะมีบุคลิกที่มั่นใจ มีจิตใจที่ดี พูดง่ายๆคือมีภูมิคุ้มกันในตัวนะครับ คนร้ายส่วนใหญ่จะเลือกโจมตีผู้ที่ดูอ่อนแอ เช่น พวกที่มีบุคลิกภาพหลุกหลิก เดินส่ายไปไปมา
  • ผู้หญิงที่ดูแล้วขาดสติ ไม่ระมัดระวังตัวจึงตกเป็นเหยื่อง่าย
  • คนฝึกไอคิโดเองแม้ไม่ประกาศตัว แต่ด้วยลักษณะที่เป็นภูมิคุ้มกันจากด้านในปรากฏอยู่ จึงไม่ค่อยมีใครมาตอแยครับ ในขณะเดียวกันก็เป็นคนรักสันติ ก็จะเลี่ยงไม่ไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ดังนั้น โอกาสที่จะถูกทำร้ายก็น้อยกว่าคนทั่วไปโดยปริยายครับ
  • พูดถึงความเก่งในศิลปะแขนงนี้ ผมยังห่างไกลครับ แต่ถ้ามีอะไรที่ผมจะช่วยได้ ก็ยินดี ด้วยจิตอาสาเสมอครับ

สวัสดีน้องนก

สตรีถูกทำร้ายไม่พอ ในจำนวนนี้ยังมีเด็กผู้หญิงถูกทำร้ายแต่น้อยด้วย เช่น จากสื่อ จากคนใกล้ตัว มีรายการวิทยุไหนบ้างครับที่รับเป็นสื่อเตือนภัยเรื่องนี้ เหมือนเป็น Monitor สังคม เผื่อจะได้ไปฟังและศึกษาเพิ่มเติมครับ

ส่วนใหญ่ผู้ฝึกมาแล้วระดับหนึ่ง ก็จะมีบุคลิกที่มั่นใจ มีจิตใจที่ดี พูดง่ายๆคือมีภูมิคุ้มกันในตัวนะครับ คนร้ายส่วนใหญ่จะเลือกโจมตีผู้ที่ดูอ่อนแอ เช่น พวกที่มีบุคลิกภาพหลุกหลิก เดินส่ายไปไปมา

จริงด้วย ผมลืมคิดข้อนี้ไป ขอบคุณมากครับ

รายการวิทยุที่พี่ยอดถามถึง พอมีค่ะ

ที่ FM 105 ทำอยู่ก็คือ รายการสถานีครอบครัว

ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.00-24.00 น.

เป็นรายการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย ภัยสังคม ความรุนแรง

ความไม่ถูกต้องในสังคม และภัยคุกคามอีกหลากหลายรูปแบบ

โดยเฉพาะเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

ก็หยิบยกมาพูดคุยกันอยู่เสมอ

รายการจะพูดคุยกับแหล่งข่าว ผู้เกี่ยวข้อง ผู้รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่รัฐ

รับฟังความคิดเห็นจากผู้ฟัง แลกเปลี่ยนและช่วยเหลือกันผ่านรายการวิทยุ

ถ้ามีเวลา พี่ยอดลองฟังดูนะคะ www.radiothai.fm ฟังรายการย้อนหลังได้ค่ะ

ทางรายการคงมีโอกาสขอคำแนะนำจากพี่ยอดบ้าง

 

ขอบคุณพี่ยอดนะค่ะ

ที่ช่วยสอนไอคิโดพวกเรา ทำให้เรามีวิชาติดตัว ไว้ป้องกันตัวยามคับขัน

พี่ยอดสอนไอคิโดได้ดีมากค่ะ สอนด้วยความนุ่มนวล ไม่เจ็บเลยสักนิด

จะเป็นกำลังใจให้พี่ยอดนะค่ะ จากภรรยาสุดที่รัก

ไม่ทราบว่ายังมีการฝึกไอคิโดกันอยู่อีกมั๊ยครับ

ผมเคยฝึกที่กรุงเทพที่ศูนย์ไทยญี่ปุ่น มาหลายปี

อยากทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างสำหรับน้องๆกลุ่มนี้

พอดีผมอยู่เยอรมันน่ะครับ ตอนนี้

ตอนนี้ผมย้ายที่ทำงานมาที่อำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน อยู่อำเภอเมืองเป็นหลัก แต่ก็ยังฝึกกันอยู่ครับ กลุ่มเล็ก 2-3 คน

น้องๆกลุ่มนี้บางคนยังฝึกอยู่ บางคนก็แยกย้ายไปทำงานรับจ้าง

ผมเคยเสนอโครงการไปสอนตามโรงเรียนโดยขอการสนับสนุนจากกระทรวงพัฒนาสังคม แต่ก็เงียบไป

การฝึกตอนนี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ตามอัตภาพ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท