มาทักทายด้วยความคิดถึง
ช่วงที่ห่างหายไปเพราะย้ายที่อยู่ไปอยู่โรงพยาบาลมาค่ะ
พึ่งรู้ครับ ขอบคุณ
สวัสดีค่ะ
ครูอ้อย ตั้งใจมาอ่าน เพิ่มความรู้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
เจริญพรคุณโยมสุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ
ดูตำนานชุมชนกระนวนแล้วก็มีอายุไม่น้อยทีเดียว
ชีวิตของชาวบ้านนั้นไม่ค่อยมีใครนำเผยแพร่ให้คนภายนอกได้เรียนรู้รับรู้มากนัก
ทั้งชาวบ้านเองก็ขาดโอกาสหลายอย่างหลายด้านและคนบ้านนอกก็ไม่ถนัดโปรโมทตัวเองเหมือนนักประชาสัมพันธ์
คงต้องอาศัยลูกหลานที่มีการศึกษามีโอกาสมากกว่าคนรุ่นเก่าที่เห็นความสำคัญชุมชนตนเองแล้วนำเสนอเวทีโลกสมัยปัจจุบัน
ถ้าเรียนรู้แล้วไม่กลับมาช่วยบ้านบ้างเลยก็ไม่ต่างกับคนรุ่นเก่า หรืออาจจะมีส่วนน้อยกว่าคนรุ่นเก่าเสียอีกเพราะเรียนแล้วไม่มีส่วนร่วมในชุมชน ชาวบ้านอยู่กับท้องถิ่นมาตลอดถึงอย่างไรก็พัฒนาตามศักยภาพของท่านแต่ก็ส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ชุมชนดำรงอยู่ได้
อำเภอกระนวนมีอายุมากกว่าอำเภอหนองบัวนิดหน่อยเองถือว่าเป็นรุ่นพี่
อยากชวนคุณโยมไปแลกเปลี่ยนรู้กับชาวหนองบัวบ้าง
แลกเปลี่ยนแบบคนบ้านนอกด้วยกัน ชาวหนองบัวทุกท่านยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ที่นี่
เวทีพลเมือง : เรียนรู้สร้างสุขภาวะคนหนองบัว โดย อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์
ขอเจริญพร
ตอนที่ 1
ฝรั่งมาติน เป้นคนอังกฤษ เป็นลูกคนรวย พ่อเป็น ประธานบริษัท มีลูกน้อง 20000 คน
มาตินเบื่อ ชีวิต คนเมือง เป็น มนุษย์เงินเดือน ไม่อยากอาศัยพ่อ ในการทำงาน เลือกเรียน สาขาที่เรียนยาก แต่เป็น สาขาที่ตายไปแล้ว
คือภาษาลาติน จบจากมหาลัยชั้นดีมากในอังกฤษ อิมพีเรียล คอลลเลจครับ ได้เกียตรินิยมด้วยครับ
มาตินแกมี ครบ คือรูปหล่อ พ่อรวย แต่ใจ รักอิสระ เป็น พวกแกะดำเหมือน ผม 5555
เจริญพรคุณโยมสุ-มหาวิทยาลัยชีวิต ที่ไม่มีวันปิดทำการ
มาบอกคุณโยมว่าดีใจและอนุโมทนาขอบคุณที่คุณโยมได้ไปเยี่ยมชาวหนองบัวในบล็อกที่อาตมาเขียน
อาตมาเคยคิดจะอ่านจากท่านอื่น ๆ ที่มีความรู้แล้วเป็นคนหนองบัวที่เขียนได้บันทึกเรื่องราวในชุมชนบ้านตัวเอง
แต่ก็ไม่มีใครหาอ่านไม่ได้เลย
แต่เมื่อ พ.ค. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมาได้เจอบันทึกของโยมอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์ดีใจอย่างมาก
และนึกว่าเรื่องราวในหนองบัวที่มีของดีอยู่จะไม่หายสาบสูญไปแล้ว ก็เลยได้ลองเขียนในบล๊อกอาจารย์วิรัตน์
อาตมาไม่มีความรู้อะไรมาก
รู้แบบชาวบ้านชาวนาคนลูกทุ่ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอดีตเพราะอาตมาเองก็จากบ้านมาประมาณ ๓๐ ปี
คนที่เขียนด้วยกัน๓-๕ ท่านตอนนี้ก็อยู่นอกหนองบัวทั้งหมดเลย เขียนจากความทรงจำของแต่ละท่าน
อาจารย์วิรัตน์ท่านให้กำลังใจกับคนบ้านนอกชาวบ้านและชุมชนอย่างมาก ท่านเป็นนักวิชาการทรงภูมิรู้มากมาย
ส่วนอาตมาคนบ้านนอก ป.๔ รุ่นเก่าไม่มีภูมิรู้อะไรกับเขา รู้เกี่ยวกับชุมชนในหนองบัวนิดหน่อยแค่นั้นเอง
อำเภอกระนวนมีของดีมากโขและคุณโยมก็กำลังจะรวบรวมบันทึกนำมาเผยแพร่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง
คงเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังในชุมชนอำเภอกระนวนไปอีกนานชั่วลูกหลาน
ตอนเป็นเด็กไม่เคยรู้ว่าขอนแก่นอยู่ตรงไหนอย่างไร
รู้แต่ลุงข้างบ้านเป็นคนขอนแก่นไม่เคยได้ยินว่ากลับบ้านเดิมเลย
เมื่อยี่สิบปีที่แล้วมีถนนตัดผ่านหนองบัว-ชัยภูมิ จึงได้มีรถโดยสารจากนครสวรรค์ถึงขอนแก่นแต่ก็ยังไม่เคยได้ไปสักครั้ง
ขอบคุณคุณโยมโอกาสหน้าคงได้แลกเปลี่ยนรู้ระหว่างอำเภอกระนวน จ.ขอนแก่น -อำเภอหนองบัว จ. นครสรรค์
เจริญพร
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์สุ
พี่สุเพลงในบันทึกสุดยอดเพราะมากๆๆๆๆที่สุด...สบายดีนะขอรับพี่สาว
อยากเห็นรูปจังเลยค่ะ
เขียนเก่งจังเลย ยุขึ้นนะเนี่ย อิอิ คิดถึงมากๆจ้า
ก็ผาแดงนางไอ่ เรื่องเดียวกับสกลนครบ้านผมนั่นแหละครับ พิมพ์ไปทั่ว
คือเรื่องผาแดงนางไอ่ มันเป็นนิทานคะ ปรัมปราเล่ากันมา สุก็เคยไปอ่านประวัติบ้านขนวน ก็เป็นเรื่องราวผาแดงนางไอ่ กับสกลนครแหละคะ สุก็มีความคิดว่า ไปเหมือนกันได้อย่างไร แต่เมื่อมีการมาของบ้านขนวน เพราะการทำบั้งไฟ ก็น่าจะไม่มีปัญหา เรื่องตำนาน เพราะตำนานมันเกิดมานานเล่าสืบกันมา คนเล่าก็อาจย้ายมาจากสกลนคร มาเจอชื่อบ้านเหมือนกัน ก็คงเล่าให้ลูกหลานฟัง เรื่องของเมืองขนวน สุก็รู้คะว่ามันตรง ถึงได้ทักท้วงไง แต่เรื่องราวเอามาจาก เจ้าหน้าที่พัฒนากร และเจ้าหน้าที่วัฒนธรรม ซึ่งเขามีหน้าที่โดยตรง ที่จะเก็บหลักฐานสืบเสาะเอาไว้
-และถ้ามันไปตรงกับเรื่อง เดียวกันกับสกลนคร ก็ถือว่า อาจจะอยู่ในบริเวณเดียวกันหรือเปล่า เพราะผาแดงนางไอ่ ที่ไหนก็เล่าขานกันคะ
-และจะมีใครไปสืบค้นต้น เค้าเรื่อง ที่แท้จริงไหมนี่ เพราะนี่ก็ไปลอกเขามาคะ
-ขอบคุณนะคะ ที่ทักท้วงคะ เอาว่าสกลนคร ก็เขียนไปในผาแดงนางไอ่เดียวกันได้เลยคะ เพราะเป็นตำนานชาวบ้าน มานมนานแล้วคะ ไปค้นหาให้หน่อยนะคะ แล้วมาเติมเต็มให้กันคะ
-ใครพิมพ์ไปทั่วน้อ
-หรือว่าบ้าน ขนวน จะมาจากผาแดง นางไอ่เดียวกันหมด เพราะบ้านไหนเวลาแห่บุญบั้งไฟ ก็มีผาแดงนางไอ่เหมือนกัน แล้วยกนิทานเรื่องเดียวกันมาเล่า
ขอบคุณมากนะครับที่เอาเรื่อง ของบ้านกระนวน เรามานำเสนอ ผมคิดว่าคงมีแต่ผมที่สนใจเรื่องราว
ข้อมูลที่นำเสนอ บางอย่างอาจจะตรงแต่บางอย่างอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ไม่เป็นไรครับ เรามาช่วยกันหาความจริงเรื่องนี้กันต่อ
อีกทั้งเรื่องราวแห่ง อารยะธรรมของชาวกระนวน ที่มีวัฒนธรรมที่น่าค้นหาอีกมากมาย
ผมเป็นคนในพื้นที่ อยากจะบอกเล่าเรื่องราวไว้ให้ ลูกหลานได้รับรู้และภาคภูมิใจ
วันหน้าจะแวะมาคุยต่อครับ
ขอบพระคุณมาก
หนุ่มซำสูง [IP: 118.173.228.186]
เมื่อ 27 ตุลาคม 2553 06:04
#2227577 [ ลบ ]
สวัสดีคะหนุ่มซำสูง ดีใจที่ได้มีเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกันมาเยี่ยมคะ และขอบคุณกำลังแรงใจ ที่มีให้กันคะ ทุกหมู่บ้าน ทุกพื้นที่ ต่างก็มีตำนาน และตำนานบางอย่างก็สืบสานเอา นิทานปรำปราเข้ามาเสริม และนิทานบางเรื่อง สามารถใช้ได้ทุกที ที่มีความเป็นมาคล้ายๆๆกัน โดยเฉพาะเรื่องบั้งไฟ
ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือคะ ถ้าสนใจถามมาได้นะคะ จะสอนวิธีให้คะ
และยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง ถ้าขยันอ่าน ก็ติดตามได้นะคะ
สวัสดีครับ
วันนี้อากาศดี อยากแนะนำให้พี่ช่วยนำเสนอเรื่องราวของพระเจ้าใหญ่ ที่เป็นที่สักการะของผู้คนทั้งชาวอ.ซำสูง อ.กระนวน และชาวบ้านหลายอำเภอ
ตามตำนวนที่บอกเล่ามาจากคนเฒ่าคนแก่ ว่ามีมานานกว่า 1000 ปี นี่ก็ยิ่งทำให้ผมคิดว่า ถ้าตำนาน มีมานานขนาดนี้แสดงว่า บ้านกระนวนก็ต้องตั้งมานาน อาจเป็นพันปีก็ได้ พี่ลองคิดสิว่าการที่จะก่อสร้างพระพุทธ รูปที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ จะต้องใช้เวลาและคนจำนวนไม่น้อย เลยทีเดียว ยิ่งพูดผมก็ยิ่งอยากจะรู้
เพราะผมเคยอ่านตำนานการก่อสร้าง พระพุทธรูปเก่าๆหลายสมัย ล้วนแต่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านชาวเมือง ไม่แน่นะว่าที่ตั้งบ้านกระนวน ในอดีตอาจเคยถูกเลือกเพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองใดเมืองหนึ่งก็ได้ แต่อาจด้วยเพราะเหตุใดจึงไม่มีชื่อปรากฎหรือสิ่งที่ เป็นหลักฐานยืนยัน ผมก็แค่ลองคิดดูจากเหตุการณ์และเรื่องราวนะครับ ..........ผมคงจิตรนาการมากเกินไป
ประวัติหลวงปู่พระเจ้าใหญ่
หลวงปู่พระเจ้าใหญ่ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองซำสูง ผู้ให้ข้อมูลบอกว่าเป็นพระสมัยขอมเรื่องอำนาจ สร้างใน พุทธศตวรรษที่ 13 - 16 วัสดุก่อสร้างเป็นหินทั้งองค์ สูง 4 เมตร หน้าตักกว้าง 2.50 เมตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ซำสูงที่ชาวอำเภอซำสูงและอำเภอใกล้เคียงให้ความเคารพมีอายุนับพันปี เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี
ประวัติชาวบ้านกระนวน ช่างต่างกันกับประวัติพระเจ้าใหญ่ชะเหลือเกิน..........ทั้งเรื่องของระยะเวลาและชาติพันธ์ที่ไม่มีอะไรให้สอดคล้องกันเลย
ชาวบ้านกระนวนถูกอพยพมาจากลาวแต่พระเจ้าใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยเขมร ผมงงมาก.............ครับ
ช่วยอธิบายที ไงก็ฝากถามผู้ที่ท่านรู้ด้วยนะครับ
ผมมาคิดดู ถึงวัฒนธรรมและประเพณีของชาวบ้านกระนวน มันต่างจากชาวบ้านใกล้เคียงหรืออำเภอใกล้ๆ มาก ครับ และประเพณีส่วนใหญ่จัดทำขึ้นจะมีอันต้องเกี่ยวกับพระเจ้าใหญ่ทั้งนั้น แต่ประวัติไม่ได้บอกนะว่าชาวบ้านกระนวนเป็นคนสร้างแต่แค่เดินทางมาพบแล้วก็ตั้งหมู่บ้าน แต่ประวัติการอพมาของชาวลาวมาตั้งบ้านกระนวน ผมเชื่อครับ เพราะมาจากชาวบ้านที่เป็นลูกหลานเล่าต่อกันมา และที่น่าคิดไปกว่านั้นคือหมู่บ้านแค่นี้ มี วัด ตั้ง 5 วัด ซึ่งต่างมากับที่อื่นที่มีเพียงแค่ วัดป่ากับวัดบ้าน แม้แต่อำเภอใหญ่ๆก็ตาม แสดงว่าที่นี่ชาวบ้านในอดีตต้องศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากครับ เพราะวัด 4 วัดแรก ตั้งมานานนานกว่าที่จะมีชาวบ้านเพิ่มมากขนาดนี้
แล้วแท้ที่จริงแล้ว ชาวบ้านกระนวน มีชาติพันธุ์ และอารยธรรม มาจากที่ไหนกันแน่ มันเป็นเรื่องที่น่าศึกษามากครับ
ผมอาจจะเล่าเรื่องอะไรที่คนอื่นฟังอาจจะหาว่าเป็นเรื่องของเธอหรือไร้สาระ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังรอคำตอบครับ
โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่
ถ้าพี่พอจะรู้จักคนเยอะ ถ้ามีโอกาสได้พบคนที่มีความรู้เรื่องนี้หรือสนใจที่จะศึกษาผมก็ขอฝากพี่ด้วยครับ
ไม่แน่ว่าในอนาคตกระนวนและซำสูงอาจเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ
สวัสดีคะหนุ่มซำสูง เรื่องราวพระเจ้าใหญ่ที่เป็นที่สักการะของชาวซำสูง และชาวบ้านใกล้เคียง ตามที่น้องเล่ามา น่าสนใจไปสืบค้นจริงๆๆ นะ และก็น่าฉงน ตามโจทย์ที่น้องว่า น่าจะมีตำนานที่สำคัญแต่ด้วยเวลาล่วงเลยมา จนบรรพบุรุษล้มหายตายจากไป ไม่ทิ้งเรื่องราวลายละเอียดไว้เลย น่าสนใจนะคะ
สำหรับพี่สุรู้แต่ว่ามีพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่ แต่ไม่เคยไปสักการะซักที เห็นทีจะต้องสำรวจ หมู่บ้านในบริเวณนี้ และใกล้เคียงมีเรื่องราวดีดี เล่าสู่กันฟัง
-และพี่สุเคยเข้าไปในบ้านคำแมด บ้านดอนเขียง มีรูปปั้น ต้นตระกูลมุงคุณคำชาว ปั้นไว้ที่ศาลากลางบ้าน พี่สุก็ไม่ได้ไปค้นคว้า ว่ารูปปั้นนี้เป็นมาอย่างไร และในบ้านคำแมด บ้านดอนเขียง ที่ติดกันกับบ้านหลุบเลา ติดบ้านซำสูง ของน้องด้วย พี่สุว่ามันน่าสงสัยนะคะ บางทีหมู่บ้านใกล้เคียงกันนี้ อาจจะมีตำนานเล่าขานกัน เป็นเรื่องราวเดียวกัน เพราะอย่างน้อยต้นตระกูลมุงคุณคำชาว และตระกูลศรีชมชื่น ทำไมถึงมีเกือบทุกครัวเรือน
-ถ้าพี่สุสามารถไปสืบค้น มาได้ คงจะได้รู้ตำนานพระเจ้าใหญ่ ต้นตระกูลมุงคุณคำชาว ศรีชมชื่น คนไทยคงจะได้รู้จักอำเภอซำสูง บ้านกระนวนมากขึ้นเนาะ
-โดยเฉพาะ ชาวกระนวนมาจากลาว แต่พระเจ้าใหญ่สร้างด้วยฝีมือเขมร และมีวัดที่ตั้งมานมนานก่อนที่จะมีหมู่บ้าน เอ ! พี่สุก็ชักสนใจแล้วซี น้องเขียนมาทำให้พี่สุ เชื่อว่า พระเจ้าใหญ่และวัดที่มีมากมายมาก่อนตั้งหมู่บ้าน แสดงว่าถิ่นนี้ต้องเจริญมาก่อน เพราะวัดสมัยก่อนถือว่าเป็นสูญรวมใจคนสมัยก่อนมาก ทีเดียว ต้องไปสืบวัดอีก
-และมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง มีตามรกตที่มีค่ามากด้วยใช่ไหมคะ
-ไม่แน่นะคะ เล่าพากันเล่าทิ้งไว้ อาจจะมีคนมีเวลาที่ชอบค้นคว้า เขามาลุยค้นก่อนแล้ว นี่ถ้าไม่ติดเลี้ยงหลานตัวเล็ก อยู่ พรุ่งนี้ก็ลุยแล้ว เพราะมีรถจิ๊บลุยได้ทุกพื้นที่ ป่าเขาลำเนาไพร พูดยังกะจะลุยป่า เขาเจริญกันแล้ว จะพยายามสืบค้นให้นะคะ
ต้อง ขอบคุณ พี่มากนะครับ ที่สนใจเรื่องนี้ ผมคิดว่าจะไม่มีใครสนใจซะอีก
- ที่ผมอยากรู้ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด เพียงแค่อยากสืบทอดเรื่องราวเก่าๆ ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมไว้ให้ลูกหลาน ได้เรียนรู้และให้คนรู้จักกับ บ้านกระนวน และชุมชนใกล้เคียง มากขึ้น
- เพราะเมื่อผมไปที่ไหนลองถามคนดูไม่มีใครรู้จัก บ้านกระนวน หรือ อำเภอซำสูงเลย . ทั้งที่มีประวัติศาสตร์วัฒณนธรรม ประเพณีที่งดงามมากมาย ต่างจากอำเภออื่น ๆ ในจังหวัดขอนแก่น ที่มีคนรู้จัก และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องวัฒณธรรมมากมาย ผมอยากให้สักวันหนึ่ง บ้านเราได้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม เหมือนที่อื่น
-ขณะที่ นานมาหลายปี มาแล้ว ก็ยังมีผู้คนมาสักการะพระเจ้าใหญ่ มากมายและมาเยี่ยมเยียนชาวบ้าน โดยที่ไม่ต้องการอาศัยการประชาสัมพันธ์จากทางภาครัฐเลย
-แปลงจากที่อื่นในจังหวัดที่ประชาสัมพันธ์แล้วประชาสัมพันธ์อีก ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะให้ทางจังหวัด บรรจุชื่อพระเจ้าใหญ่ไว้เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดที่มีผู้คนศรัทธา แค่นี้ก็คงดีเนาะ
ฝากพี่สุ ถ้ามีโอกาส พบปะท่านผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ช่วยแนะนำเรื่องนี้แก่ท่านด้วยนะครับ..............จะเป็นประโยชน์ต่อชาวอ.กรนวนและอ.ซำสูงมาก
-ประเพณีชาวบ้านกระนวน ตอนนี้ ยังสืบทอดตาม อีตสิบสองคองสิบสี่ แต่มีบางประเพณีที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่น
เช่น เช่นประเพณีสงกรานต์ ที่ทางหมู่บ้านจะมีกิจกรรมตลอดทั้งเดือนเลย และประเพณีเลี้ยงบ้านศาลปู่ตา
-นับวันประเพณีหลายอย่างจะถูกลบลืม หรือบางอย่างถูกยกเลิกไป เช่น บุญคูณลานที่เคยทำกันที่โพนลานศาลปู่ตาและบุญกุ้มข้าวใหญ่ ที่แต่ก่อนจัดขึ้นทุกปี นี้อาจเป็นเพราะคนปัจจุบันไม่ค่อยมีเวลาและคนรุ่นใหม่มองข้ามความสำคัญทำให้ถูกระงับไป แต่ยังไงก็ตามถ้าเราเริ่มตอนนี้ผมคิดว่ายังมีผู้รู้หลงเหลืออยู่แน่นอน (หรืออาจเป็นเพราะชาวบ้านกระนวนมีบุญเยอะจนเกินไปคือมีทุกเดือนไม่ใช่เกือบนะ..........ทำให้ผู้ใหญ่เขางดไปแต่ถ้าเรามีการบันทึกพิธีกรรมอาไว้อ่านเล่นก็ดีนะครับพี่ว่าไม)
---------เออ ผมลืมไปเลยได้อ่านเรื่องราวของ พี่ที่เล่าเรื่องราว ของการกำเนิดนามสกุล มุงคุณคำชาวที่บ้านคำแมด ก้ทำให้ผมนึกถึง นามสกุล ของคนบ้านกระนวน คือ นามสกุล โพธิ์ศรี พี่คงรู้จักดี . แต่อาจจะยังไม่ทราบว่ามันมาจากคนบ้านกระนวนตั้ง มีมาตามประวัติคนบ้านกระนวนครับ.พี่ลองหาอ่านดูครับ
..........
............ดั้งคำขวัญบ้านกระนวนที่ว่า...........
พระเจ้าใหญ่ พุทธศรัทธา งามตาบึงยาง บ่อนำสร้าง(ชนวน) กระนวนบั้งไฟ
โฮมนำใจไทกระนวน หลากล้วนประเพณี โพธิ์ศรีสกุลดัง
มูลมั้งศาลปู่ตา ลำธาราห้วยสายบาตร แหลงธรรมชาติป่าดงซำ
คำขวัญที่มีคนคิดขึ้นเล่นๆ ครับ ตอนงานบุญบั้งไฟ
นานมากแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน
โดยเฉพาะเรื่อง ของบ้านกระนวนที่ยังค้างคากันอยู่
รู้ไรตั้งเยอะขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ โอกาศนี้ด้วย ที่ให้ความรู้ดีๆๆ