ช่วงที่กลับบ้านวันหยุดเสาร์ อาทิตย์นี้ หนูมีโอกาสได้พาพี่สาวไปซื้อของที่สมเด็จ ขณะที่จอดรถรอพี่สาวอยู่นั้น หนูเหลือบไปเห็น
เป็นภาพที่หนูรู้สึกประทับใจ รถไถลากล้อ หนูไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่า "รถอีแต๊ก" รึเปล่าคะ
ทำให้หนูคิดย้อนกลับไปที่สมัยเด็ก ตอนไปบ้านย่า ป้า ๆ ลุง ๆ พาไปดูหมอลำ แต่ว่าไม่มีรถผ่านท่านพาหนูนั่งรถ อีแต๋นไป ตอนที่นั่ง หนูมีความรู้สึก อาย มาก ๆ อารมณ์ประมาณว่า ง่ะ คนอื่นรู้เขาต้องล้อแน่ ๆ เลย ตอนนั้นหนูคิดแบบนี้แหละค่ะ
แต่พอไปถึงหมูบ้านปรากฏว่า ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ก็ประมาณทุลักทุเลทัวร์ พอไปถึงงานหนูค่อย ๆ โผล่หน้าขึ้นมา แล้วผลปรากฏว่า
รถแทบทุกคันที่บรรทุกคนมา ก็เป็นรถไถลากล้อ ที่เขาเรียกกันแถวนั้นว่า รถอีแต๊กค่ะ เฮอะ ๆ
ครั้งนั้นหนูได้เรียนรู้ว่า "หนูอายเพราะความคิดตัวเองไม่ดี อายเพราะว่าใจหนูชอบเปรียบเทียบให้ค่า สุขทุกข์ ดี ชั่ว ไม่เป็นกลาง"
ครูท่านเคยเตือนหนูบ่อย ๆว่า
"ติ๋วหนะ ชอบหลงไปตามอดีต ไม่ก็หลงไปตามอนาคตทั้งอดีตและอนาคต มันก็ไม่จริง อดีตมันก็จบไปแล้ว อนาคต ก็ยังมาไม่ถึง แต่เราชอบไปคิด แล้วก็ กลุ้มใจ"
และชอบคิดว่า อันนั้นดี อันนี้ไม่ดี คนนั้นดั คนนั้นไม่ดี
ท่านสอนหนูใหม่ว่า
ให้มองทุก ๆ สิ่งเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ ให้ขอบคุณเขา
พอหนูเห็นความคิดตัวเอง ไหลไปในอดีต แล้วก็ คิด ๆ ๆ ๆ ต่อ คำสอนครูท่านก็แว๊บขึ้นมาเตือนสติ จิตมันเร็วจริง ๆค่ะ
พอสติกลับมาหนูก็เห็นความน่ารักของคู่นี้ค่ะ ลุงผู้ชายหลังจากจอดรถไถ่เรียบร้อยแล้ว ท่านก็เดินอ้อมไปด้านหลัง เพื่อไปจับมือ เป็นที่ประคองให้ คุณป้าท่านเดินลงมา เห็นภาพน่ารัก ๆ แบบนี้ รู้สึกประทับใจค่ะ เลยเอามาแบ่งปัน
หลาน ๆ และเพื่อนนักเรียนมัธยมทั้งหญิงชาย
เดินจากบ้านไปโรงเรียนประมาณ ๒ กม.
โดยไม่ยอมขี่จักรยานไปกันเพราะอายเขา(เพื่อน)
เจ้าค่ะ หนูมานึก ๆ ดู ตอนนั้นเอ......ทำไม ถึงรู้สึกอาย ทั้ง ๆ ที่ก็เคยนั่ง
เพราะว่าสมัยเด็ก ชอบดูทีวี ก็ในทีวีเขามีแต่รถ สวย ๆ ให้นั่ง แถมหนูก็คิดไปต่าง ๆ นานา เจ้าค่ะ
สำหรับตอนนี้รู้สึก โอ้ เป็น วิถีชีวิต ที่น่ารัก น่าประทับใจ เรียบง่าย น่าอนุรักษ์ เจ้าค่ะ
ทำอย่างไรนะ เด็ก ๆ จึงจะรักถิ่นฐานที่ใจ จริง ๆ และเห็นประโยชน์มากกว่า ค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ