ขอบคุณธรรมชาติ ที่แสดงความจริงอยูเนืองนิตย์ แล้วใจเราจะไปยึดเอาอะไรไว้เล่า ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุเเละปัจจัยเป็นธรรมดา
เมื่อเช้าหนูไปวิ่งออกกำลังกายประมาณ หกโมงเช้า ฟ้ายังมืดอยู่ แต่วันนี้ท้องฟ้าเป็นแปลก ๆ เหมือนมีเมฆหมอกลอยต่ำ ๆ ในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ภาวนาผ่านการวิ่งตามปกติ อย่างที่ครูเคยแนะนำ แม้บางคราใจมีความคิดฟุ้งขึ้นมา ก็ได้แต่อยู่กับมัน วันนี้ใจผลักไสสิ่งที่ปรากฏน้อยลง
พอกลับมาที่หอ ประมาณเจ็ดโมงกว่า ๆ มีแสงสีทอง เรือง ๆ แปลก ลอดผ่านริมระเบียงขณะที่หนู นั่งเขียนงาน ตอนแรกกะว่าจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายแต่ก็เปลี่ยนใจ มายืนมองเฉย ๆ เป็นเเสงเล็ก ๆ ของพระอาทิตย์ ที่รอบ ๆ นั้น มีเมฆหมอกบาง ๆ ปกคลุม ถัดจากแสงของดวงอาทิตยก์ก็มีเมฆก้อนดำ
หนูเกิดคำถามในตนเอง เอ......รึฝนจะตก
แต่แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจจะค้นหาคำตอบ
กลับเข้ามาทำกิจวัตรประจำวัน ประมาณแปดโมงครึ่งได้ยินเสียงคล้าย ๆ ฝนพร่ำ ๆ โอ้..ฝนตกครานี้หนูจึงหยิบกล้องมาเก็บภาพความทรงจำ
อืม วันที่ 30 ธันวาคม 2552 ปีนี้ เมืองนนท์ฝนตก
อย่างนี้นี่เองธรรมชาติแสดงตัวของมันอยู่ว่าไม่เที่ยง แม้จะเป็นอากาศในช่วงฤดูหนาว แต่ปีนี้ ฝนตก มันเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและปัจจัยจริง ๆ
ขอบคุณธรรมชาติ ที่แสดงความจริงอยูเนืองนิตย์ แล้วใจเราจะไปยึดเอาอะไรไว้เล่า ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุเเละปัจจัยเป็นธรรมดา