หากว่าทุกวันนี้ผมกำลังค้นหาความหมายที่แท้จริงของการมีอยู่ชีวิตอยู่
ทุกสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันคงไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ ก็ว่าได้
ตื่นเช้าวันนี้ ผมเริ่มต้นชีวิตด้วยวิธีการเดิม ๆ ด้วยกิจวัตรเดิม ๆ
หากแต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อย หลังจากผมมีบ้านเป็นของตัวเอง
กิจวัตรต่าง ๆ รู้สึกว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ และบางทีตัวผมเองก็ละเว้นที่จะทำสิ่งนั้น ๆ อย่างตั้งใจ
รดน้ำให้กับสนามหญ้าหน้าบ้าน เป็นกิจกรรมที่ผมพยายามที่จะทำให้ดีที่สุดในตอนเช้าตรู่ที่อากาศดูเหมือนจะสดใส แต่ก็นั่นแหละครับ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่บางทีผมก็แกล้งลืมๆ มันบ้างในบางครั้งของวันที่ผมคิดจะตื่นสายและหวังไว้แก้ตัวใหม่ในตอนเย็น ๆ ที่จะมายืนบนสนามหญ้าด้วยเท้าเปล่าๆ และทำเป็นดูเหมือนเอาใจใส่เป็นอย่างดีทั้ง ๆ ที่มีเพียงสนามหญ้าเพียว ๆ เท่านั้น ไม่มีต้นไม้อื่นแม้แต่ต้นเดียว
...............................
......................
...............
.........
......
...
วันนี้ เวลาประมาณ 17.50 น.
ผมปลีกตัวออกจากที่ทำงานทั้ง ๆ ที่ปกติหากพระอาทิตย์ไม่ตกดินคล้อยไปถึงช่วงดึก ๆ ผมคงยังไม่ออกจากที่ทำงานเป็นแน่แท้ .. แต่วันนี้หากมีความรู้สึกที่ต่างออกไป
ผมหิ้วน้ำหมักกระป๋องเขียวติดดาวแดง มานั่งที่ม้านั่งริมฟุตบาทพร้อมกับพี่พี่ที่ร่วมชะตากรรมเดียวกันในงานที่รับผิดชอบซึ่งล้วนมากมาย แต่ ณ เวลานี้ พวกเราทุกคนต่างก็ได้ทิ้งความรับผิดชอบอันมากมายนั้นไว้บนโต๊ะทำงานแต่เพียงแค่เวลาอันน้อยนิดนี้เท่านั้น
การสนทนาเริ่มขึ้น หลายหลากความคิด มากล้นความรู้สึก นานาทรรศนะ ร้อยพันความคิดเห็น และเสียงหัวเราะที่ทุกคนได้ดื่มด่ำพอหอมปากหอมคอ ต่างก็โบกมือลา เพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน
นั่นสิ .. บ้าน ผมก็ต้องกลับบ้านของผมเหมือนกัน
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ผมจินตนาการว่าผมได้ยืนเท้าเปล่า ๆ รดน้ำสนามหญ้าหน้าบ้านอย่างสบายใจ
ผมยังจินตนาการต่อไปอีกว่า หลังจากที่ผมทำให้เจ้าต้นหญ้าของผมอิ่มหนำสำราญจนมันพอใจแล้ว ก็ถึงทีที่ผมจะทำให้ท้องของผมอิ่มบ้างเช่นกัน .. ผมนึกถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มใส่ไว้ในถ้วยใบเก่งของผมพร้อมด้วยไข่ไก่สองฟอง ไอกรุ่นหอมของเจ้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปล่องลอยมาถูกับจมูกของผมจนทำให้ผมน้ำลายสอ
เพียงแค่คิดแค่นี้ .. ผมยิ่งอยากให้ถึงบ้านให้เร็วขึ้น
ผมขับรถมาจอดที่หน้าประตูบ้าน เปิดประตูรั้ว ขับรถเข้าไปจอดที่โรงรถ แบกกระเป๋าเอกสาร หอบกระเป๋าคอมพิวเตอร์ เกี่ยวเอาโน่นเอานี่ลงจากรถเพื่อเอาไปเก็บไว้บนบ้านเพื่อหวังที่จะใช้งานเจ้าพวกนี้ต่อในคืนนี้
หลังจากที่เก็บของเหล่านั้นเสร็จ ผมออกมายืนเท้าเปล่า ๆ อยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้าน
ผมกำลังต่อสู้กับความเหนื่อยล้าของร่างกาย ในหัวของผมเริ่มคิดอะไรไม่ออก
ผมมองเข้าไปยังบ้านของผม บ้านหลังแรกของผม
ความภูมิใจผุดขึ้นมาเบ่งบานในใจของผม ผมยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายทำไมถึงสวนทางกัน
ผมเหนื่อย ล้า อ่อนเพลียซะเหลือเกิน
ผมหันหลังให้สนามหญ้าของผม สาวเท้าเดินเข้าบ้านอย่างกับล่องลอยไร้ทิศทาง
ผมทิ้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยใหญ่พร้อมกับไข่สองฟองไว้ในจินตนาการ
ผมบอกสนามหญ้าของผมว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะชดเชยให้นะครับ”
ผมคิดอะไรไม่ออก
หรือบ้านจะเป็นเพียงแค่ที่ที่ให้ผมซุกตัวลงนอนในยามเหนื่อยล้าของแต่ละวันเท่านั้น
......................................................
จองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ค่ะ
สวัสดีค่ะ เดี่ยว...หายไปนานจัง
กลับมาคราวนี้ นึกว่าจะมีข่าวดี
บ้านก็เป็นบ้านของเค้า
แต่เราต่างหาก ที่เปลี่ยนไป ...ตามสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ บ้านไม่เกี่ยว อิอิ
บ๊ายบาย
ดูแลสุขภาพของคน และต้นหญ้าด้วยค่ะ
ถ้ามีคนรักอยู่ที่บ้าน บ้านของเราก็จะเป็นบ้านที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวาจ๊ะ
หายไปนานโคตร ฮ่าๆๆสบายดีครับ แต่งานยุ่งมากๆๆๆๆๆ
หวัดดีจ้า..
จำพี่สาวคนสวยคนนี้ได้บ่น้า..คิดถึงนะจ๊ะ
สวัสดีค่ะ...
เมื่อไม่เห็นบ้าน....ก็คิดถึงบ้าน
เมื่อไม่เห็นสนามหญ้า....ก็คิดถึงสนามหญ้า
เมื่อไม่เห็นเขา....ก็คิดถึงเขา
เมื่อทุกสิ่งอยู่ตรงหน้า....เรากลับละเลยที่จะดูแล
เป็นเรื่องปกติวิสัยของ..."คน"
บ้านนนนนนนนนนนนนนน ไม่ใช่แค่วัตถุนะ
บ้านคือครอบครัว อิอิ
ดีใจที่จะได้เจอตัวเป็นๆที่หนองคาย
ขอบคุณนะที่จะไปร่วมกิจกรรมกับพวกเรา
อยากเจอๆๆ
ซำบายดีน้องหล่า...
อ้ายกำลังโต้พายุ...
ท้าทายบักขาด...
คึดฮอด บักคักเด้อ...
แวะมาเยี่ยมครับ
ผมมีคอนโดห้องเล็ก ๆ อยู่ที่เชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นบ้านหลังแรกของชีวิต
เมื่อตอนซื้อและเข้าอยู่ใหม่ ๆ เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมาก บางช่วงที่ไม่มีงานหมกตัวอยู่ในนั้นเป็นสัปดาห์
อยู่ที่นี่ได้ไม่เท่าไรก็ต้องย้านถิ่นฐาน
มีคนบอกให้ขาย มีึคนอยากจะซื้อ แต่ขายไม่ลงครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ...
น้องสายลมคนเก่ง มาชวนไปดูบรรยากาศ GO TO KNOW GO TO NONGKHAI
ขอบคุณนะน้องมะเดี่ยวที่ไปช่วยกิจกรรม
คนไข้พี่บอกว่าสนุกมาก
"คันเป็นจังซี้คือสิบ่ตาย"
คราวหน้าขอจองตัวอีกเด้อ
อ่านที่คุณ สายลม เขียน
.... บ้านมีความหมายมากกว่าเป็นที่ซุกหัวนอน แน่นอนค่ะ ....
บทความที่อ่อนโยน และ ให้มุมมองดีๆนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
หายไปนานโคตะระ สบายดีไหม อย่าหาความหมายนานนัก รอฟังว่าจะแต่งงานเมื่อไร ฮ่าๆๆๆๆๆๆ