สิ่งที่ชาวไร่ชาวนาควรได้เรียนรู้จากม็อบเสื้อเหลืองและเสื้อแดง 7 : ทางออกจากวิกฤติทางการเมืองอย่างสันติและสร้างสรรค์


 

 

สิ่งที่ชาวไร่ชาวนาควรได้เรียนรู้
จากม็อบเสื้อเหลืองและเสื้อแดง 7 :

         ทางออกจากวิกฤติทางการเมืองอย่างสันติและสร้างสรรค์

              **********************************

             สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยในปัจจุบันยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลายลงแต่อย่างใด 

             มีผู้คน กลุ่ม และองค์กรต่าง ๆหลายฝ่ายพยายามเสนอความเห็นเพื่อเป็นทางออกของสถานการณ์แตกต่างกันไป

             ทางหนึ่งที่มีผู้เห็นร่วมด้วยเป็นส่วนมาก...

                    คือ เห็นว่าควรเป็นทางออกที่ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิต อีกทั้งยังสร้างสรรค์ความเข้มแข็งทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจขึ้นในสังคมไทยอีกด้วย

                    คือ การใช้การเจรจา ร่วมกับมาตรการอื่น ๆที่สร้างเสริมกันและกัน เพื่อนำไปสู่จุดหมายปลายทางที่ทุกฝ่ายได้ชัยชนะ และประเทศไทยได้ชัยชนะด้วย

            
             แนวทางดังกล่าวนี้จะทำอย่างไร 

             เชื่อกันว่าไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

            แต่ควรจะใช้ภาคประชาสังคมมาหาคำตอบร่วมกัน โดยเฉพาะถ้ารัฐบาลจะก้าวเข้ามาเป็นแกนนำให้เกิดการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว โดยทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี  และนำเอาข้อยุติในเวทีเจรจาไปดำเนินการอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ภายใต้เงื่อนเวลาที่แน่นอนชัดเจน

            เมื่อวันที่ 21 เมษายน นี้ ทางโทรทัศน์ TPBS ได้นำเสนอการสนทนาเพื่อหาทางออกจากวิกฤติการเมือง กับสว.กรุงเทพมหานคร คุณรสนา โตสิตระกูล และนพ. ณรงค์เดช กิจวิกรม VIP รัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ ผ่านทางรายการตอบ-โจทย์ มีสาระที่สนับสนุนแนวทางดังกล่าวข้างต้น  จึงใคร่นำมาผนวกไว้ในบันทึกนี้ เพื่อกัลยาณมิตรอาจได้ใช้ประกอบการพิจารณาดังต่อไปนี้

          

 

         ในสาระการพูดคุยทั้งหมด มีความคิดที่ดี ๆถือได้ว่าเป็นหลักสำคัญที่ควรนำมาใช้ในการร่วมคิดเพื่อการหาทางออกร่วมกัน ได้แก่

  ทางออกคือการเจรจา

          

 

       บ้านเมืองเราเราต้องรักษา

 

 

        

 

การหาทางออกโดยอาศัยการเมืองภาคพลเมืองและประชาสังคม

  

                                    

 

                          การปฏิรูปประเทศเพื่อสร้างความเป็นธรรม 

 

 

        

 

                  ต้นเหตุของวิกฤติการเมืองไทยอยู่ที่การเมืองภาคตัวแทน

 

 

     

 

      ก่อนอื่น...จะต้องช่วยกันลดอุณหภูมิทางการเมืองลง

 

                        

         "ขอให้ประเทศไทยจงมีทางออกที่สันติและสร้างสรรค์"

 

                                     ******************************************

paaoobtong
25/04/53
15:39

หมายเลขบันทึก: 353956เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2010 15:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ

  • มีผู้ให้ความคิดเห็นหลายคณะแล้วนะคะว่าขึ้นอยู่กับการเจรจา
  • บางกลุ่มก็บอกว่า...คิดไม่ออกหรือเปล่า
  • ขอเชิญอาจารย์ไปร่วมกิจกรรมกับเด็กบนดอยค่ะ

http://gotoknow.org/blog/publicmindkim/353781

สวัสดีครับอาจารย์ครูคิม

  • ใคร ๆก็มองเห็นว่าควรเจรจา แต่ไฉนการเจรจาจึงไม่เกิดขึ้นสักที
  • การมองการเจรจา ที่ก้าวหน้า ไม่ได้หมายถึงการเจรจาอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ครั้งที่แล้วเท่านั้น
  • การเจรจาที่ว่านี้ หมายถึงมากกว่านั้น
  • หมายถึงการเจรจาที่มีกระบวนวิธีที่แยบยลกว่านั้น
  • หมายถึงการเจรจาที่อาจมีมากกว่า 2 คู่ขัดแย้งที่มาเจรจากันเอง
  • อาจมีคนกลางเข้ามาเป็นผู้อำนวยการการเจรจา
  • อาจมีผู้เข้าร่วมเจรจาจากหลาย ๆฝ่ายทีเกี่ยวข้อง
  • อาจเป็นการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกับภาคประชาสังคม
  • อาจเป็นการเจรจาระหว่งภาคประชาสังคมด้วยกันเอง
  • หรือ รู้จักแต่รูปแบบการโต้วาทีอย่าง 2 ครั้งที่ผ่านมาเท่านั้น
  • ...
  • ไปร่วมกิจกรรมกับเด็กบนดอยตามคำเชิญของอาจารย์ดีกว่า
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับ

paaoobtong
25/04/53
20:29

สวัสดีครับคุณเหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์

  • ฟังหางเสียงของความที่คุณเหรียญชัยว่า"เจรจากับผู้ก่อการร้าย" เหมือนกับคุณเหรียญชัยเห็นว่าไม่ควรเจรจาด้วย
  • จริง ๆแล้ว แม้ยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย ถ้าเพื่อความสุขสงบและสันติของประชาชน ผู้นำก็ควรเจรจา 
  • เท่าที่ได้พยายามสดับตรับฟังท่านผู้รู้ในศาสตร์และศิลป์ของการเจรจา เข้าใจว่ามันมีความหมายลึกซึ้งและกว้างขวางมาก
  • มีผู้วิจารณ์ว่ารัฐบาลยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการเจรจา
  • แต่ผมเชื่อว่ามันน่าจะมากกว่าความไม่รู้  ที่ทำให้รัฐบาลมีท่าทีที่จะแก้ปัญหาด้วยกำลัง
  • ขอให้รัฐบาลมีดวงตาเห็นธรรม สามารถเห็นช่องทางของการแก้ปัญหาที่ไม่ต้องเลือดตกยางออกเลย
  • ขอบคุณครับที่เข้ามาให้ความเห็น
  • ขอให้คุณเหรียญชัยมีความสุขครับ

paaoobtong
25/04/53
22:20

ต่างคนต่างอ้างว่าตัวเองมีเสียงส่วนมาก

แล้วที่เจรจามันเกี่ยวข้องกับเสียงส่วนมากแค่ไหน

และที่เรียกร้องประชาธิปไตยกัน ทุกวันนี้มันขาดหายหรือ

ศาลตัดสินตัวเองผิด ก็บอกลำเอียง พอศาลตัดสินว่าอีกฝ่ายผิด ก็บอกถูกต้องที่สุด

วันนี้ ศก. เสียงหลายเกือบ4หมื่นล้าน เงินคลังก็กินของเก่าอยู่

อีกไม่นาน พอเก็บเงินภาษีไม่ได้ พวกที่มาเรียกร้องวันนี้จะได้รู้สึก

สวัสดีครับคุณปาปอนด์

  • ก็เป็นที่รู้ ๆกันอยู่นะครับว่า คนก่อม็อบพูดจาเชื่อถืออะไรไม่ได้  จุดเน้นของพวกนี้จะเข้าตามโฉลกที่ว่า "พูดดีใส่ตัว พูดชั่วใส่คนอื่น" 
  • แต่ที่น่าสนใจก็คือมีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าจริง  นี่คือสิ่งที่สังคมต้องหันมาดูว่าควรจะให้การศึกษาอย่างไรจึงจะช่วยให้คนเหล่านี้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
  • ว่ากันตามความจริงแล้ว ไม่ว่าสีเดียว หรือ หลากสี ล้วนแต่เป็นมวลชนจัดตั้ง หรือมวลชนตามกระแสทั้งนั้น
  • พวกแกนนำ อาจเรียกได้ว่าแกนนำตัวแทน หรือ เป็นหุ่นที่ถูกเชิดขึ้นมานำม็อบ
  • อีกพวกหนึ่งคือ ผู้กระหายอำนาจตัวจริง ซึ่งทำตัวแบบผลุบ ๆ โผล่ ๆ
  • สามพวกนี้ ต่างมีเป้าหมายต่างกัน
  • ที่สำคัญคือ ไม่ใช่เพื่อคนส่วนรวม หรือประเทศชาติ
  • จริง ๆแล้วบรรดาประชาชนที่เข้ามาร่วมม็อบเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของสถานการณ์ความขัดแย้งนี้
  • ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าจะเจรจากันให้รู้เรื่องได้ง่ายที่สุด
  • มีผู้ให้ความเห็นว่าถ้าเราเพียงตั้งใจฟังเขาสักหน่อย ด้วย"ความเห็นใจ ความจริงใจ และความเข้าใจ" ก็จะเห็นทางการสลายม็อบได้ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
  • แต่เหตุไฉนจึงไม่มีใครสนใจฟังเขาเลย
  • ขอบคุณ คุณปาปอนด์ ที่แวะมาให้ความเห็น
  • ขอให้จงมีความสุขนะครับ

paaoobtong
26/04/53
08:49

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์

ทำอย่างไรจึงจะแยกกลุ่มปชช. ออกจากแกนนำกลุ่มผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงคะ

ขอผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ด้วยดี ชาวไร่ ชาวนา ประชาชี จะได้ชัดเจนสักทีว่า

สุดท้ายแล้วคงไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เงินทองของมายา ข้าวผักปลาสิของจริง ค่ะ

เกียรติ ศักดิ์ศรี กินไม่ได้ แต่ในใจเราเป็นสุขและภาคภูมิ อีกไม่นานก็จะลงตัวค่ะ

สวัสดีครับคุณpoo

  • ผมเห็นว่าน่าจะมีหนทางอยู่บ้างเหมือนกัน เช่น
    -พยายามหาช่องทางที่หลากหลายเพื่อจะสื่อสารกับกลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม
     เพื่อให้ได้รับรู้ข้อมูลรอบด้าน และสื่อความรู้สึกที่แสดงถึงความเห็นใจและความ
     เข้าใจซึ่งกันและกัน
    -แสดงให้เห็นโทษภัยของการเข้าร่วมชุมนุมที่มีต่อผู้ชุมนุม และประเทศชาติ
    -รับฟังเสียงของประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างตั้งใจจริง ให้เห็นถึงความปรารถนา
     ของเขาที่แท้จริง
    -รัฐบาลควรมีคำตอบที่เป็นความหวังของประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม และแสดงให้
     เห็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในทันที
       ฯลฯ
  • เคยมีการสัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรมากนัก  พวกเขามีความหวังว่าถ้าพวกเสื้อแดงชนะทุกข์ที่พวกเขามีอยู่จะถูกปลดเปลื้องไป
  • รัฐบาลควรหยุดมาตรการที่เป็นความรุนแรงทั้งหมด ควรทำหน้าที่ของผู้เอื้ออำนวยให้เกิดความสงบเรียบร้อย และในขณะเดียวกันก็พยายามใช้โอกาสนี้เอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
  • และพยายามจัดเวทีที่คน หรือกลุ่มคน ในฝ่ายต่าง ๆ ได้มีโอกาสได้ฟังกันและกัน
  • อะไรทำนองนี้ น่าจะดีกว่าความพยายามชิงไหวชิงพริบกัน
  • ครับ...อีกไม่นานก็คงจะลงตัวครับ

paaoobtong
29/04/53
18:10

สวัสดีครับท่านอาจารย์

ผมได้บันทึก  ก้าวไปให้พ้นไฟเหลืองไฟแดงไว้ใน

http://gotoknow.org/blog/suthepkm/356746

http://gotoknow.org/blog/suthepkm/356799

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท