คำถามคือทำไปเพื่ออะไร
คำตอบ (ในมุมมองของผม) คือ
1. เพื่อให้คนค้นศักยภาพตัวเองให้เจอ ประมาณว่ามุ่งพัฒนาคนให้เก่ง ดี มีความสุข มากขึ้น (Human Capital)
เมื่อได้แล้ว ต้องยกระดับ เป็น
2. ทำให้เขาทำงานร่วมกับคนเก่ง คนไม่เก่ง คนอื่นๆได้ แถมไปช่วยยกระดับคนอื่นได้อีก (Social Capital)
สุดท้าย
3. จุดประกายให้เขาพัฒนานโยบาย เอกสาร ขั้นตอนดีๆ ระบบดีๆ เพื่อทำให้ ระบบฟูมฟักสองอย่างแรก คือให้ระบบมันสร้างคนเก่ง ดี มีความสุขขึ้นมาด้วยตัวมันเอง - อันนี้หินสุด (Structural Capital)
ครับ เท่านี้ก่อนครับ
ท่านคิดอย่างไรครับ
สวัสดีคะ อาจารย์ คง เอาไปใช้ ที่หนองคาย ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สำหรับกระบวนการ Appreciative Coaching
ผมมักแนะนำให้ทำ KM ครับ
KM ถ้าทำดีๆ ตอบโจทย์ได้ทั้งสามด้านคือ
1. ทำให้คนเก่งขึ้น
2. ทำให้คนเก่งทำงานด้วยกันได้
3. เป็นวิธีการฉลาด ขั้นตอนฉลาด ถ้าฟูมฟักให้ทำเป็นประจำได้ จะกลายกลไกส่งเสริมสองอย่างแรก โดยอัตโนมัติ
(ทำไม่ดี หมายถึงไม่จริง ไม่เห็นคุณค่า ทำพอแกนๆ ไม่ลงแรง ลงสมองปรับปรุงจริง)
KM ถือเป็น Structural Capital
AAR/BBAR ก็เป็นครับ
เพราะฉะนั้นเวลาทำ AI ผมจะผสมผสานAI + KM ไปเลย ครับ
AAR+AI นี่ก็ work สุดๆ ครับ work ตรงที่องค์สมัยนี้ทำ morning talk อยู่แล้ว ปรับเข้าไปได้เลย ไ่ต้องเพิ่มงานเขา
สวัสดีค่ะอ.โย
...งานนี้ "หิน" จริงๆ ด้วยนะคะ....
เย็นนี้ไปร้านหนังสือ จะไปตามหาหนังสือตามที่อาจารย์เคยแนะนำไว้ค่ะ
ขอบคุณ
ส่วน LO ถ้าทำได้ แรงหมดทั้งสามตัว เลยครับ
ขอบคุณคุร paula และคุณชาดาที่แวะมานะครับ
ทำไงจะทำให้คนรู้ว่าคนมีหน้าที่ต้องพัฒนาตนเอง
ไม่ต้องรอให้ใครมาพัฒนาเรา และเราเองก็ไม่ต้องเหนื่อยไปพัฒนาใคร
ทฤษฎีของคนขี้เกียจว่างั้น
คุณเจษฎาครับ ตรงนี้
ต้องบอกว่า KM ครับ
จุดประกายด้วยการเอามาคุยกัน
และคุณกำลังพูดถึง Social Capital ครับ
และ Structural Capital ครับ
เป็นหลักการที่เป็นขั้นเป็นตอน แล้วก็เป็นเหตุเป็นผลมากเลยค่ะอาจารย์
เริ่มจากคน --> สังคม --> โครงสร้าง
ผลลัพธ์น่าจะเป็นจริงและยั่งยืนที่สุด เพราะต้นเหตุเริ่มต้นจากการตระหนักรู้ของ Human capital แต่ละคน
คล้ายๆกับ การที่เรารักจะทำอะไร แล้วทำสิ่งนั้นให้เกิดเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ โดยที่ตัวเราเองก็มีความสุข เข้าใจถูกรึเปล่าคะเนี่ย ? LOL
สรุปดีมาก คุณ vanillawara