ตอนที่ 1 เหน็บหนาวและร้าวฉาน
ปี 38 ณ ดินแดนอันไกลโพ้น แม้มีผู้คนมากมาย แต่กลับมิมีผู้ใดมีความสุขมากนัก เนื่องจาก ปีนี้ เป็นปีที่มีความผันผวนของแผ่นดิน ทำให้ชีวิตผู้คนในเขตท้องถิ่น"โค้ว ซา อาด" ในมณฑล " ซากังภู" ได้รับผลกระทบมากมาย โดยเฉพาะที่หมู่บ้าน "กวงจ๋อ" บ้านเมืองดูเหมือนว่ากำลังล่มสลายในหลายด้าน การดำเนินชีวิตของผู้คนไม่มีหลักประกันอะไรทีพอให้มองเห็น ราคาของน้ำ"อำพัน"ซึ่งผู้คนในหย่อมย่านนี้ชมชอบ ราคาสูงขึ้นเป็นลำดับ แต่ค่าของเงินเล่า กลับตกต่ำลงเป็นลำดับ หรือนี่คือ ฟ้ากำหนด
ความสับสนทางเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ผู้คนไร้ความสุขและกลับเพิ่มความทุกข์ขึ้นไปอีก ระยะนี้ ดูเหมือนว่า "เกาบ๊วย" ยาเม็ดสำหรับเสพเพื่อความขยันและเมามายไร้สติในบางครา ก็มีราคาสูงขึ้นเช่นกัน ด้วยเพราะมันเป็นที่ต้องการของเหล่าเยาวชนคนหนุ่มสาวเพื่อต้องการทำงานมากขึ้น และเสพติดกันถ้วนทั่ว แม้ทางการจะปราบปรามก็มิอาจทำได้มากมายนัก
ความยากลำบากเริ่มคืบคลานเข้ามาสู่วิถีชน อุดมการณ์ของเหล่าข้าราชการเริ่มอ่อนล้า ผู้เฒ่าคนชราเริ่มอ่อนแรง แสงเทียนแห่งธรรมเริ่มมอดไหม้ ผู้คนมากมายเริ่มขวั่กไขว่และไขว่คว้าหาสิ่งที่ดีกว่าสำหรับตน มิมีผู้ใดมองวิถีชนเดิมด้วยความยินดี พวกเขากลับคิดในสิ่งที่อันนำมาสู่ความหายนะของมวลชน เพื่อความรุ่มรวยของตนเองด้วยวิธีการอันแยบยลและลุ่มลึก
ที่ดินอันอุดม บัดนี้เต็มไปด้วยสิ่งลวงเร้า ต้นพืช"หญ้าสูงรสหวาน" ดูเหมือนว่ามีค่ามากมาย ต่างคนก็แสวงหา ปลูกไว้ที่ดินแห่งตน นัยว่าเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แม้พืชนี้จะมิได้เป็นอาหารของพวกมันก็ตาม พวกมันต่างหลงลืมปลุกข้าวซึ่งเป็นอาหารหลัก จะมีก็เพียงปลูกประดับไว้เล็กน้อยเท่านั้น พวกเขาต่างขายหญ้าสูงรสหวานให้กับผู้ร่ำรวยในหย่อมย่านเพราะมันต่างรับซื้อหมดและหว่านทรัพย์สินให้เพื่อการปลูกหญ้าสูงรสหวานนั้น ที่แท้....ผู้ร่ำรวย นำหญ้าสูงรสหวาน ไปผลิตสินค้าเม็ดหวานหอม ส่งขายให้แดนไกล เพื่อกำไรอันถาวร มันจึงต้องสร้างสิ่งเสพให้กับผู้คนในหย่อมย่าน
การผลิตสินค้าเม็ดหวานยังดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กากเดนทางสังคมเริ่มรุกคืบสู่ความเป็นเลิศทางการแลกเปลี่ยน ท้องฟ้าเปล่งประกายแดงฉานและกลับมืดมนในบางครา คนพาลเริ่มฉายแสงแห่งความรุ่ง มายาเริ่มแสดงความเร้าลวง แม่น้ำแห้งขอด ขุนเขากลับเย็นยะเยือก ทางเลือกมิอาจมีให้ใครได้มองเห็น ยุบหนอพองหนอ อยู่ในใจของใครบางคน ความดิ้นรนแห่งวิถีการมีชีวิต ล้วนอยู่ในจิตของคน แต่กลับไม่มีใครกล้าเอื้อนเอ่ยวจีแห่งตน ในสภาพกาลคืนวันอันเหน็บหนาว ฤดูกาลไร้เงา หนุ่มสาวไร้อุดมการณ์ ความวุ่นวาย เริ่มฉายฉาน โดยมิมีใครล่วงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
โปรดติดตามตอนที่ 2 (ผู้กล้าจากแดนไกล)
โอโหเขียนเก่งมากเลยครับ รออ่านตอนต่อไปครับ
ตอนต่อไป เขียนด้วยลายมือเสร็จแล้ว แต่ยังไม่พิมพ์ คาดว่าจะ up ขึ้นประมาณวันนี้ (7 พ.ย.53) เย็นๆครับ
ขอบคุณอาจารย์ขจิตมากครับ ผมก็ติดตามเรื่องราวของอาจารย์เช่นกันครับ
นึกว่าใครเป็นคนเขียน ที่แท้ ศน.เรานี่เอง เขียนเรื่องได้ดีมากครับ ขอแสดงความชื่นชม ถ้ามีเวลาเขียนอีกนะครับ ผมจะคอยอ่าน
สำนวนเหมือนนิยายจีนนะครับ
สำนวนภาษาเหมือน โกวเล้ง นำเสนอได้ดี น่าอ่าน
เรียนคุณนุชนารถ ก็...พยายามเขียนให้เป็นนิยายจีน + ไทย ครับ