ตอนนี้ผมอยู่ที่ hospis malaysia ได้ / วันแล้วครับ วันนี้เป็นวันปีใหม่ของชาวอิสลามเลยว่างมาเขียน assignment จนเสร็จเลยว่างมาเขียน blog ครับ
1 วันก่อนเดินทางผมไปเยี่ยมคุณป้า malignant bowel obstruction(ป้า อ.)เธอหายปวดแล้วครับ ไม่อาเจียนแต่ก็กินไม่ได้เธอถามผมเกี่ยวกับ ....."ถ้าไม่กินจะเป็นยัง"
ตอบยากครับ ผมถามเธอว่า "ป้ารู้สึกยังไงที่กินไม่ได้"
ป้า "มันไม่เหมือนคนอื่น เวลาเขากินกัน เราไม่ได้กิน"
ผม "ป้าก้เลยอยากรู้ว่าจะกินได้ไหม?"
ป้า "ป้าต้องอยู่ไปอย่างงี้อีกนานไหม"
ผม "จากข้อมูลที่หมอมีตอนนี้ ในที่ที่ดูแลผู้ป่วยแบบป้าหลายๆ คน เขาพบว่า ระยะเวลาการมีชีวิตอยู่เฉลี่ยๆ ประมาณ 1-6 เดือน ขึ้นกับความรุนแรงของการอุดตันและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ "
ป้า (สีหน้าเรียบเฉย)"ป้าไม่กลัวตายนะ แต่ป้ากลัวไม่ตาย"
ผม "ป้าทรมานกับสภาพนี้"
ป้า"เราทำอะไรไม่ได้เลยหรือ ผ่าตัดได้ไหมหมอ?"
ผม "ในขณะนี้ การผ่าตัดมีผลเสีย เนื่องจากลำไส้อุดตันในมะเร็งมักอุดหลายตำแหน่ง และเสี่ยงมากต่อเลือดออก ติดเชื้อ และแผลไม่ติด"
ป้า "งั้นอาหารทางเส้นเลือด"
ผม "เราเรียก TPN เป็นการให้อาหารทางเส้นเลือดใหญ่ ในงานวิจัยพบว่าไม่ทำให้ร่างกายดีขึ้นเนื่องจาก มะเร็งเองเป็นกระบวนการหลักที่ทำให้ร่างกายแย่ มิใช่การขาดอาหาร การให้ TPN ต้องทำใน รพ. และโอกาสติดเชื้อสูงมากครับ สรุปว่าเป็นโทษมากกว่าประโยชน์"
ป้า "สภาพป้าทำอะไรไม่ได้แล้ว"
ผม "สิ่งที่เราทำขณะนี้คือสิ่งที่เหมาะสมกับระยะของโรคครับ การรักษาใด ที่ไม่เกิดประโยชน์และเป็นอันตรายเราควรหลีกเลี่ยง..เราทุกคน รวมทั้งคุณป้าพยายามอย่างดีที่สุดครับ"
คนไข้เงียบไปพักหนึ่งแล้วบอกผมว่า "แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี"
ผม "ในส่วนทางการแพทย์ทีมผมจะดูแลป้าอย่างเต็มที่เต็มศักยภาพของเรา...ส่วนป้าเองมีงานสำคัญบางอย่างที่ต้องทำ"
ป้า "งาน?"
ผม "งานรักษาใจไม่ให้ทุกข์ครับ"
ผม "ครั้งก่อนๆ ป้าบอกผมถึงเรื่องใจมันขุ่นมัว และป้าเล่าให้ฟังถึงทุกข์ทางกายที่ตอนนี้เบาลง แต่ทุกข็ทางใจกลับตรงกันข้าม"
"ผมเห็นป้า ทุกข์กับอดีตและกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง"
"แต่ผมก็สังเกตป้าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนสงบขึ้นมากผมคิดว่าป้ามาถูกทางที่เห็นทุกข์ครับ ขาดอยู่อย่างคือ ทำอย่างไรจะไม่เป็นทุกข์"
ป้า "แล้วทำไงละหมอ?"ถามอย่างสงสัย
ผม "ป้าเป็นคนปฎิบัติธรรมอยู่แล้วพอจะนึกออกไหมครับตอนไปวิปัสสนา"
ป้า "จำได้"
ผม "วันแรก ๆที่วิปัสนา อาจารย์จะไม่ให้พูด ไม่ให้ลุกไปไหน รู้สึกอึดอัด แต่พอไปวันหลังๆ ก็เริ่มสงบ ตอนนี้หากเตียงป้าเป็นวัน แล้วคอยดูทุกข์ในใจ ป้าเหมือยกำลังปฏิบัติธรรมครับ"
ป้าพลักหน้า
ผม "การไม่ขยายผลความคิดก็สำคัญครับ พอเรานึกถึงเรื่องไหนเรามักคิดต่อ แต่หากเรามีสติ มันจะหยุดเองครับ เรื่องนี้ต้องฝึกบ่อย ๆ"
ป้า "ป้าใช้วิธีนับประคำนะ เวลาไม่สบายใจช่วยได้เยอะเลย"
ผม "ดีจังครับ"
ป้า "ป้านับถือกวนอิมนะ ถ้าสวดบทสวดได้ เขาบอกว่าจะขึ้นสวรรค์"
ผมนึกในใจทันทีว่า นี่น่าจะเป็นวิธีที่แกใช้แล้ว work เพราะแกฝึกมาตลอด
ผม "ดีแล้วครับ"
ถึงตอนนี้เธอยิ้มแย้มและดูจะมีความสุขมากขึ้น ผมคิดว่าการจะเข้าถึงจิตวิญญานผู้คน คงมีทางเดียวคือ "ใช้ใจเชื่อมใจ"
ก่อนกลับผมบอกเธอว่า "ที่ผมมาทุกวัน ก็เป็นในฐานะกัลยาณมิตรต่างวัยนะครับ...ผมเป็นห่วงคุณป้าครับ...เรื่องที่เราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ป้าเป็นคนดีและพิสูจน์ได้จากมีคนดูแลป้ามากมาย"
ป้า "ขอบคุณหมอมาก แล้วป้าจะรอหมอกลับมา"
ผมคุยกับลูกสะไภ้คนไข้เรื่อง taper of dexa หลังจากนี้ใน 2 สัปดาห์ ผมคุยกับพี่สมชายช่วยดู case นี้ต่อครับ...ถึงตอนนี้คงจะจบตอนไว้ก่อนนะครับ
ลืมถามไปว่า ไปมาเลเซียเมื่อไรครับ
สวัสดีครับอาจารย์ขจิต
ตนอนี้อยู่มาเลได้ อาทิตย์หนึ่งแล้วครับ
ได้พักในบ้านพักคนชรา ได้ดูงานสถานพยาบาลคนไข้ระยะสุดท้าย แล้วอย่าลืมลองเดินผ่านสุสาน..กุโบร์ที่อยู่ตรงข้ามด้วยนะครับโรจน์
ประสบการณ์ใน complex ครบวงจรแบบนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว เหอ เหอ
หัวเราะน่ากลัวจัง มีอะไรในสุสานหนอ
ฮาฮา เอาไว้ใจพร้อมเมื่อไหร่จะลองดูนะครับอาจารย์