Baby
นางสาว อังสินี ฤทธิภักดี

◎ ◎ ◎...KKD อร่อยที่สุดในโลก...◎ ◎ ◎


。◕‿◕。“ เขาว่ากันว่า Krispy Kreme Doughnuts เป็นโดนัทที่อร่อยที่สุดในโลก ”。◕‿◕。

  

 

 

 

บี๋เป็นคนหนึ่งที่เคยติดใจในรสชาติของคริสปี้ ครีม โดนัทมาก่อนที่จะนำเข้ามาขายในเมืองไทยแต่ไม่ถึงขนาดเป็นแฟนพันธุ์แท้ แค่ชอบทานและเมื่อเจอร้านเจ้าโดนัทยี่ห้อนี้เมื่อไหร่เป็นต้องปรีเข้าไปซื้อทานให้ได้เท่านั้นเองค่ะ ^^
... “คริสปี้ ครีม” โดนัทสัญชาติอเมริกันเก่าแก่สุดในโลก อายุ 77ปี......มีเรื่องเล่ากันว่า นาย Hansen Gregory ชาวอเมริกาได้คิดค้นให้โดนัทมีรูตรงกลางครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1847 ขณะที่เขามีอายุ 16 ปี เพราะแม่ของเขาทำขนมด้วยแป้ง (Dough)ที่มีถั่ว (Nut) ผสมอยู่ แล้วทำให้สุกด้วยการทอด แต่ตรงกลางแฉะเนื่องจากไม่สุกเขาจึงทดลองเจาะรูตรงกลางก่อนทอด ปรากฏว่าขนมสุกอร่อยดีกว่าเดิม ....>>
 
 
 
โดนัทเป็นขนมที่ได้รับความนิยมผ่านกาลเวลามาเนินนานคุณเวอร์นอน รูดอล์ฟ ผู้ก่อตั้งร้าน “คริสปี้ ครีม โดนัท” สนใจธุรกิจนี้เมื่อปี ค.ศ. 1933และซื้อต่อกิจการร้านโดนัทในรัฐเคนทักกี้ จากเชฟชาวฝรั่งเศสรวมทั้งสิทธิในสูตรเฉพาะโดนัทของร้าน
 
 
ร้าน “คริสปี้ ครีม โดนัท” ถูกตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1937 เมื่อเขาย้ายมาเปิดร้านโดนัทของตนเองกับเพื่อนร่วมหุ้น ในเมือง Winston-Salem ค่ะ ปัจจุบัน คริสปี้ ครีม มีสาขามากกว่า 310 แห่งทั่วโลกแล้ว สามารถผลิตโดนัทวันละ 7.5 ล้านชิ้น และปีละไม่ต่ำกว่า 2,700 ล้านชิ้น แม้ในปัจจุบันจะมีการพัฒนาสูตรมาเรื่อยๆ แต่คนที่รู้สูตรลับความนุ่มของโดนัทคริสปี้ ครีม จะมีอยู่แค่ 6 คนในโลก และสืบทอดเป็นมรดก โดยแต่ละคนจะรู้ส่วนผสมคนละอย่าง เป็นเหมือนภาพจิ๊กซอว์ที่ต้องต่อๆกันค่ะ
 
 
คริสปี้ ครีม โดนัทที่มีประวัติมายาวนาน สาเหตุเพราะเป็นโดนัทที่มีรสชาติพิเศษ มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวหรือสูตรลับพิเศษที่แตกต่างจากโดนัทอื่นคือ เนื้อแป้งที่นุ่มลิ้น ไม่เหมือนใครด้วยสูตรลิขสิทธิ์ที่เลื่องชื่อให้นักชิมติดใจมาแล้วทั่วโลกและการทำโดนัทเป็นการทำแบบวันต่อวัน และวิธีรับประทานโดนัท คริสปี้ ครีม ให้เอร็ดอร่อยที่สุด คือต้องรับประทานขณะที่ยังอุ่นๆ ประมาณว่าทำเสร็จใหม่ๆ เพิ่งขึ้นจากเตา จะอร่อยมากเพราะตัวแป้งของโดนัทจะฟูๆ เบาๆและนุ่มสุดๆ บวกกับความหวานหอมของน้ำตาลที่เคลือบบนแป้งบางๆทำให้อดใจไม่ไหว ซื้อแล้วขอกินเลยสดๆ หน้าร้าน รับรองแหล่มมาก...อร่อยจนฝันถึงเลยหล่ะค่ะ!!
 
 
 
ถ้าไม่สะดวกที่จะทานโดนัทตอนร้อนๆหลังซื้อเสร็จใหม่ๆ บี๋ก็มีเคล็ดลับในการทานคริสปี้ ครีม ให้อร่อยที่บ้าน หรือเก็บโดนัทเข้าตู้เย็นไว้ค้างคืนแล้วนำมาทานใหม่ให้อร่อย เราก็สามารถทำได้ง่ายๆค่ะ : เพียงแค่นำ คริสปี้ ครีม ชิ้นโปรดของเราไปเข้าไมโครเวฟ ระดับความแรงของไฟปรับเป็น High เพียง 8 วินาทีเท่านั้น (ขอย้ำนะคะว่าเพียง 8 วินาทีเท่านั้น ; ด้วยความอยากรู้บี๋จึงลองเวฟคริสปี้ ครีม ด้วยเวลาที่ต่างกันเพราะอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าเกินเวลาที่เค้าแนะนำ ผลปรากฏว่าถ้าเวฟนานเกิน 8 วินาที ตัวแป้งจะแฉะ ค่อนข้างจะออกเละๆและน้ำตาลที่เคลือบจะละลายทำให้โดนัทออกชุ่มๆไม่อร่อยเลยค่ะ สรุปคือทั้งเละและแฉะค่ะ
 
 
แต่ถ้าเวฟน้อยกว่า 8 วินาที บี๋ว่าก็โอเคนะ แม้ว่าแป้งจะยังไม่นุ่มได้ที่เหมือนที่กินตอนซื้อใหม่ๆแต่ก็ยังถือว่านุ่มระดับหนึ่งค่ะ) ถ้าได้เวฟ 8 วินาทีเป๊ะคอนเฟิร์มว่าจะอร่อยเหมือนออกมาจากร้านเลยค่ะ...ตัวแป้งที่ค้างคืนแล้วนั้นจะคืนตัวกลับมานิ่มนุ่มเหมือนเดิม มันเหมือนเราได้กินโดนัทที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆเลยค่ะ ผิดไปจากยี่ห้ออื่นๆ
 
 
ด้วยความที่เนื้อแป้งเบาหวิว...ทำให้เวลาหม่ำโดนัทเข้าไปแล้ว มันนุ่มจนแทบละลายในปากพร้อมไปกับความหวานหอม และจะทำให้เรารู้สึกว่ากำลังได้ลิ้มรสโดนัท Krispy Kreme เหมือนกำลังนั่งทานอยู่ในร้านเลยยังไงยังงั้น!
บี๋เองเวลาซื้อโดนัทยี่ห้อนี้มาจากต่างประเทศ จะเวฟกินทีละนิดกลัวว่ามันจะหมดเร็วค่ะเลยไม่กล้ากินวันละหลายชิ้นเนื่องด้วยตอนนั้นเมืองไทยยังไม่มีขาย พยายามเก็บให้นานที่สุดเท่าที่จะเก็บได้โดยค่อยๆ ทยอยเอามาเวฟกิน แถมยังต้องแอบกินคนเดียว ไม่กล้าเรียกใครกินด้วยเพราะกลัวหมด...แบบว่าเป็นเอามาก ^^ โชคดีที่คนรู้ใจเค้าเฉยๆกับ Krispy Kreme เราเลยไม่ต้องกลัวโดนแย่ง หรือใจจริงแล้วเค้าคงไม่อยากแย่งเรากินมากกว่าเพราะรู้ว่าเราชอบมากก็เป็นได้นะคะเค้าเลยแกล้งบอกว่าไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เพราะมันหวานเกินไป  แต่พอป้อนทีไรก็อ้าปากรับทุกครั้งไปค่ะ ^oo^
 
 
 
ในประเทศไทยเปิดสาขาแรก วันแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2010 (ที่เพิ่งผ่านมา)ณ สยามพารากอน ด้วยคอนเซ็ปต์ “Sharing the Magic” ด้วยจุดเด่นของร้าน คือ”โดนัท เธียร์เตอร์” ซึ่งเป็นพื้นที่ติดตั้งกระจกใส ให้ชมการผลิตโดนัทกันสดๆ เพลินๆ นะคะ
 
 
คริสปี้ ครีม" คุมมาตรฐานทุกอย่างเข้มข้นมากเพราะเป็นแบรนด์เก่าแก่มากๆ และต้องการรักษามาตรฐานไว้ หลังเจ้าของเซ็นสัญญากับต้นสังกัดเพื่อซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาขายในเมืองไทยแล้ว ทางเจ้าของกิจการต้องเดินทางไปเรียนหลักสูตรทำโดนัท ตั้งแต่ต้นจนจบ  ทางบริษัทแม่ให้เหตุผลว่า คนที่จะเป็นเจ้าของที่ดีได้ ต้องรู้ซึ้งถึงจิตใจคนทำงาน ต้องรู้ว่าพนักงานเหนื่อยขนาดไหนกว่าจะทำโดนัทแต่ละชิ้น  เทรนกันเป็นอาทิตย์ๆ ทำงานเหมือนพนักงานจริงทุกอย่าง และต้องเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตทุกอย่าง ต้องแบกแป้ง ยกแป้ง ถูพื้น เช็ดอุปกรณ์เองทั้งหมด เรียนรู้เรื่องอุณหภูมิ และการทำความสะอาด ถ้าจะทานโดนัทตอน 10 โมงเช้า พนักงานต้องตื่นขึ้นมาหมักแป้งตั้งแต่ตีหนึ่ง เพราะต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง เห็นโดนัทธรรมดาๆแบบนี้  แต่กฎกติกาเยอะมาก  เวลายกแป้งก็ต้องไม่ถูกพื้น ต้องอยู่ในห้องเก็บอุณหภูมิ แม้แต่น้ำมันที่ทอดก็เป็นน้ำมันปราศจากไขมันทรานส์-แฟต พอถึงเวลาเซตระบบในเมืองไทย ก็ต้องเป๊ะหมด ต้องขนอุปกรณ์ทุกอย่างมาจากอเมริกา แม้แต่น้ำยาล้างจาน หรือม็อบถูพื้น ยังต้องนำเข้าจากเมืองนอก ถ้าไม่งั้นทางเมืองนอกไม่ยอมให้ผ่าน เฉพาะที่พารากอนก็ต้องใช้พนักงานถึง 40 คน โดยแบ่งเป็นกะๆ แทบจะต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะต้องเฝ้าต้องดูแลตลอดเวลา จะลัดขั้นตอนไม่ได้ โดนัทมันจะฟ้องว่าหมักไม่พอค่ะ
แม้ว่าโดนัทสัญชาติอเมริกัน จะเพิ่งเข้ามาในประเทศไทยแบบสด ๆ ร้อน ๆ กับทำให้คนไทยที่เป็นสาวกโดนัทยี่ห้อนี้ต้องแห่กันไปเข้าคิวรอซื้อชิมล่วงหน้าถึง 2 วันและทำให้เกิดกระแสขนมโดนัท "คริสปี้ครีม" ฟีเวอร์ลามทั่วกรุง แค่เปิดขายวันแรก ต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่ห้างสยามพารากอนไปยันวัดปทุมวนารามเลยทีเดียว
 
 
มีเรื่องเมาท์ที่ว่ากันว่า มีคนหันมาทำอาชีพรับจ้างต่อแถวเพื่อซื้อคริสปี้ ครีมด้วย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นเลยว่ามีคนที่สวมชุด แมสเซนเจอร์ มอเตอร์ไซค์วิน คนขับรถ แม่บ้าน พวกเขา เหล่านั้นบอกว่า รับจ้างซื้อให้กับคุณหญิงคนนั้น-คุณนายนี้ที่เขาจ้างมาต่างหาก เป็นต้น มีป้าคนหนึ่งมาบอกว่า ป้ารับต่อแถวซื้อโดนัทให้แต่ขอค่าจ้าง 200 บาท ถ้าคิดในแง่ดีก็เป็นการดีที่จะมีเงินเดินสะพัดเกิดขึ้น และช่วยให้คนมีงานทำด้วย ยิ่งช่วงนี้ปิดเทอม เขาก็จะชวนลูกหลานมาต่อแถว ซึ่งถือว่าวิน-วินทั้งคนรับจ้างและคนที่จ้างเพราะต้องการทานโดนัทนะคะ ส่วนเรื่องเป็น “แค่เทรนด์” หรือไม่นั้น จริงๆ โดนัทมันมีในประเทศไทยเป็นสิบปีแล้ว ถ้าไม่ดีจริงคงไม่มีใครยอมมาต่อแถวยาวเหยีดแบบนี้หรอกค่ะ
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระแต่มันก็อาจจะมีมุมดีๆซ่อนอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเรื่องนี้อย่างไรและจะเลือกมองในมุมไหน  หากมองในแง่มุมความพยายามของคนที่อยากจะได้ในที่รักที่ชอบโดยใช้ความพยายามและไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีใช่ไหมค่ะ ?
บางคนอาจจะมองว่าการเข้าคิวต่อคิวอย่างนี้ดูไร้สาระ คนที่พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ผิด แต่เพราะคนเราแตกต่างกัน บางคนอาจคิดว่าถ้าเอาเวลาตรงนี้ไปทำอะไรอย่างอื่น เขาคงได้อะไรมากกว่า แต่สำหรับบางคนนี่คือสิ่งที่เค้าต้องการเค้าจะมีความสุขได้ถ้าเค้าได้ทำแบบนี้ แบบที่เค้าต้องการ ฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่แต่ละคนจะคิดว่าเค้าได้ใช้เวลาตรงนี้ไปได้อย่างคุ้มค่าแล้วก็เป็นได้นะคะ อย่าพยายามไปคิดแทนคนอื่นค่ะ บางครั้งมันจะทำให้เรากลุ้มใจและครียดเองอยู่คนเดียวทในขณะที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องด้วยนะคะ ^^--^^
หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะทำอะไรตามใจตัวเอง ตามอารมณ์ตัวเองโดยลืมคำว่า “เหตุผล”ไปชั่วขณะก็ต้องมีบ้างเป็นของธรรมดา หลายคนที่ยอมมายื่นต่อคิวซื้อก็อารมณ์ตอนนี้คืออยากจะกิน อยากจะลอง อยากจะ.....สารพัดที่จะพูดหาเหตุผลมาสนับสนุนและปลอบใจในการกระทำของตนเอง เช่น ถ้าคิดถามตัวเองว่าฉันมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้เนี๊ย? ถ้าใช้เหตุผลเป็นตัวคิดหรือตัดสินก็จะไม่ยอมมายืนต่อคิวหลายๆชั่วโมงแบบนี้แน่นอน แต่ความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเราหลายๆเหตุการณ์ก็มักจะมีจำเลย คือ อารมณ์พาไปอยู่บ่อยๆไม่ใช่หรือค่ะ ที่สั่งให้เราทำโน้น ทำนี่ และเมื่อเราได้ทำตามหัวใจเราเองแล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้นในใจเราเช่นกันค่ะ ^oo^
หากมองในแง่จิตวิทยา การที่เราเห็นคนเข้าคิวซื้อสินค้าเป็นเครื่องบ่งบอกได้อย่างหนึ่งว่าสินค้านั้นเป็นที่นิยม ซึ่งคนที่พบเห็นมักจะตีความโดยนัยอัตโนมัติว่าสินค้านั้นต้องมีคุณภาพคุ้มค่ากับการรอคอยแน่ๆ ยิ่งถ้าสินค้านั้นเข้ามาใหม่คนยิ่งตื่นเต้น อยากเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่กำลังฮิตในสังคมว่าตัวเองก็มีประสบการณ์ได้ลองมาแล้วหรือเป็นเจ้าของแล้ว ความรู้สึกนี้ก็คงคล้ายๆ กับที่หลายคนตั้งประชดประชันว่า ทำไมจะต้องแห่มาเข้าคิวรอกินโดนัทวันแรก รอเป็นเจ้าของไอโฟนวันแรกกันขนาดนั้น
 
 
 “รสชาติโดนัทมันไม่ต่างกันหรอกค่ะ แต่ความรู้สึกตอนกินมันต่างกันมากกว่า”
 
 โดนัทวันแรกจึงเป็นมากกว่าขนมมีรูอันเดิมกับที่เคยกินมาแล้วที่ อเมริกา ลอนดอนหรือโตเกียว แต่ยังได้ความหอมหวานในชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอร่อยผิดกันก็ตรงที่รสชาติของความสะใจ ความภูมิใจที่ได้ครอบครองก่อนหลายๆคนนั้นเองค่ะ
เรื่องของอารมณ์ความสะใจ และความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของอะไรก็แล้วแต่ที่หลายๆคนคลั่งไคลอยากครอบครอง เป็นอะไรที่ถ้าครั้งหนึ่งในชีวิตได้ทำมันแล้ว จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับเราไปอีกนานแสนนานเลยที่เดียว ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตามที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา....ว่าไหมค่ะ ???
คราวที่บี๋ไปญี่ปุ่นล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว บี๋ได้ไปต่อคิวซื้อคริสปี้ครีมกับเค้าด้วยแถวย่านชินจูกุ ซึ่งตอนที่ไปล่าสุดนั้นคริสปี้ครีมมาเปิดที่ญี่ปุ่นได้ประมาณ 2 – 3 ปีแล้วนะ แต่คิวซื้อยังยาวอยู่เลยค่ะและทราบว่าทุกวันนี้ก็ยังต้องต่อคิว
บี๋เคยอ่านเจอว่าในประเทศญี่ปุ่นมีการเปิดบริษัทหรือทำธุรกิจสำหรับการอำนวยความสะดวกรับจ้างงานสารพัดที่เราคาดไม่ถึงว่าจะต้องมีการจ้างให้คนอื่นทำด้วย เช่น การจ้างไปงานต่างๆไม่ว่างานแต่ง งานศพ งานวันเกิด จ้างไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวเจ้าบ่าว จ้างให้ต่อคิวจองโต๊ะในร้านอาหาร จ้างไปยืนต่อคิวแทนเพื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ต ซื้อสินค้าที่มีจำกัด เช่น กระเป๋ายี่ห้อ Hermes เป็นต้นค่ะ
คนที่จะทำอาชีพนี้ได้บี๋คิดว่าต้องเป็นคนที่มีความอดทนสูงถึงสูงมาก แต่ในวงการอาชีพนี้ว่ากันว่าอาชีพรับจ้างต่อคิว งานยืนต่อแถวเพื่อยื่นใบสมัครโรงเรียนอนุบาลชื่อดังที่รับนักเรียนจำนวนจำกัดเป็นเรื่องที่หินที่สุดของวงการนี้เลยค่ะ เพราะมิใช่แต่เพียงยืนคิวแต่ก็มีบางครั้งที่ต้องปลอมตัวเป็นญาติเด็กๆและต้องยืนใบสมัครให้กับครูโดยตรง บางโรงเรียนบ้างว่าต้องยืนต่อคิวตั้ง 5 วัน ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนอย่างรัดกุมรวมทั้งยังต้องทำงานกันเป็นทีม แบ่งทีมออกเป็นกะๆ ทั้งนี้ยังต้องร่วมมือกับผู้ปกครองตัวจริงด้วยเพราะทางโรงเรียนต้องการให้ผู้ปกครองมาสมัครพร้อมบุตรหลานด้วยจึงจะมีสิทธิ์สมัคร ทำให้ต้องมีการสลับตัวกันเมื่อถึงคิวตัวเอง
วกกลับมาเข้าเรื่องโดนัทขั้นเทพยี่ห้อคริสปี้ ครีมกันต่อนะคะ.....ตอนนี้ใครที่อยากกินคริสปี้ ครีม โดนัทยังต้องใช้ความอดทนในการไปต่อแถวเพื่อซื้อหามาทานอยู่นะคะ กระแสในเมืองไทยแม้จะเปิดมาเป็นเดือนแล้วแต่ก็ยังฮิตติดลมบนไม่เลยเสียง่ายๆดูทีท่าแล้ว
 
 
แม้จะฮอท ฮิต ติดลมบน...แต่คริสปี้ครีม โดนัท(Krispy Kreme Doughnuts) ก็มาถึงสงขลาจนได้ บี๋ได้ทานโดนัทก่อนเพื่อนๆ และญาติๆ ที่อยู่กรุงเทพซะอีกนะคะ ซึ่งก่อนหน้านี้บี๋ได้โทรไปให้พวกเค้าซื้อส่งมาให้หรือให้หอบมาด้วยถ้าลงมากปักษ์ใต้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าบี๋ต้องโทรไปแจ้งพวกเขาเหล่านั้นว่าบี๋ได้ทานแล้วนะ ไม่รอแล้วนะ แต่ถ้าซื้อได้เอามาฝากด้วยยังกินอีกได้ไม่เบื่อจ้า :-)
บี๋ได้รับของฝากจากพี่ชายใจดี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากบางกอกเมื่อบ่ายของวันนี้เอง
 
 
พอบี๋รู้ข่าวว่าคริสปี้ครีม โดนัท(Krispy Kreme Doughnuts) มีขายที่เมืองไทยแล้วบี๋ก็ดีใจมาก อยากทานมานานแล้วแต่หาซื้อไม่ได้ในเมืองไทยและเมื่อเปิดร้านวันแรกที่สยามพารากอนก็ได้ดูจากฟอร์เวิดเมลพบว่าสาวกคริสปี้ครีม ในเมืองไทยมีมากโขอยู่โดยเห็นได้จากความยาวของแถวที่เข้าคิวเพื่อรอซื้อโดนัทนั้นยาวเยียดเป็นประวัติการณ์ ทำให้รู้สึกหมดหวังที่จะได้กินในเร็วๆนี้เป็นแน่ ไหนจะข่าวแว่วมาว่าต้องรอคิวซื้อกันเป็นชั่วโมงๆและจำนวนโดนัทที่ผลิตก็ไม่พอกับความต้องการของผู้ที่คลั้งไคล้ด้วยยิ่งรู้สึกสิ้นหวัง ที่สำคัญที่สุดที่ไม่มีเหตุผลที่จะให้ได้กินโดนัทเลยก็คือเราอยู่ไกลปืนเที่ยงมาก ไกลถึงปักษ์ใต้เมืองสงขลายิ่งแทบจะไม่เห็นโอกาสที่จะได้กินเจ้าโดนัทนี้เลย
 
 
เมื่อทราบว่าพี่ชายที่น่ารักคนนี้จะขึ้นไปเมืองหลวง บี๋แค่พูดเล่นๆว่าอยากกินคริสปี้ครีมจังเลย ฝากซื้อหน่อยสิค่ะ พี่ชายที่แสนดีรับปากทันทีเพราะไม่ทราบว่าโดนัทที่เราอยากกินมันจะซื้อยากซื้อเย็นเช่นนี้ แต่เมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำให้ได้ ไม่อยากให้น้องผิดหวัง เมื่อซื้อได้แล้วพี่เค้าก็ส่ง SMS มาให้เรารู้ด้วยความดีใจและภูมิใจที่พี่เค้าซื้อของที่เราอยากกินมากมาให้เราได้แล้ว ข้อความที่ส่งมามีดังนี้
“Got Krispy Kreme already and get only original na,abt 1 hr. waiting,very popular mak mak ja,will be very fashionable to carry it at airport ja.”
และแล้วพี่ชายที่แสนดีก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆด้วย พี่เค้าเห็นว่าเราอยากกินมาก เลยยอมไปเข้าแถวรอซื้อและหอบหิ้วโดนัทจำนวน 2 กล่องใหญ่ กล่องละ 12 ชิ้นกลับมาถึงสงขลาโดยสวัสดิภาพ (อยากซื้อมากกว่านี้แต่เค้าขายให้คนละ 2 กล่องเท่านั้น) ตัวโดนัทถูกห่อหุ้มบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษขนาดใหญ่อย่างดี พร้อมทั้งใส่ในถุงหิ้วที่ใหญ่มากมาอีกชั้นนึ่ง
 
 
 
พอเลิกงานรีบออกจากที่ทำงานเพื่อนไปรับของฝาก(กระตือรือร้นเสียยิ่งกว่าจะไปทำงานอีก)เนื่องจากเป็นของฝากที่ถูกใจเรามากกกกกกกกกกกกก ใจเลยจดจ่อเพื่อที่จะได้เจอกันกับ Krispy Kreme เราอยากกินคริสปี้ครีม มานานแล้ว ชอบมาก ไม่ได้ชอบตามกระแสนะแต่ชอบเพราะของเค้าดีจริง อร่อยจริงเพียงแค่กัดลงบนเนื้อแป้งคำแรกตัวแป้งก็แทบละลายในปากเลยหล่ะ ไม่ได้เวอร์เกินบรรยายนะแต่เป็นเช่นนั้นจริงๆ ถึงพูดไปหลายคนอาจจะไม่เชื่อเพราะฉนั้นต้องลองด้วยตัวเองค่ะ
 
 
 
สำหรับบี๋ บี๋ชอบรส Original Glazed ที่สุด เพราะรู้สึกว่ารสนี้จะทำให้เราได้สัมผัสรสชาติของความเป็นโดนัทที่แท้จริง บี๋ไม่ชอบแบบรสที่ปรุงแต่งมากเพราะจะทำให้เสียรสชาติที่วิเศษสุดของแป้งโดนัทซึ่งเป็นนางเอกของคริสปี้ครีม แต่ขอตินิดนึ่งนะ แม้ว่าเราจะชอบมากก็ตามแต่โดนัทยี่ห้อนี้ก็ยังมีข้อที่บี๋คิดว่าควรจะปรับปรุงก็คือน้ำตาลที่เคลือบลงบนแป้งนั้นหวานเกินไปเนื่องด้วยความนุ่ม เบา ของแป้งยิ่งทำให้ต้องทานมาก ทานกันเพลิน ทานกันคนละหลายๆชิ้นและเมื่อทานมากทำให้รู้สึกแสบคอแถมหวานเลี่ยนน้ำตาลที่เคลือบอยู่ ถ้ายอมลดความหวานลงสักนิดจะเฟอร์เฟคเลยหล่ะคะ และสิ่งที่ควรปรับปรุงอีกข้อก็คือ คริสปี้ครีม น่าจะมีขายทุกจังหวัดหรือตามหัวเมืองใหญ่ๆในแต่ละภูมิภาค จะได้เป็นการแบ่งปันความสุขให้สาวกคริสปี้ครีมที่อยู่ต่างจังหวัดได้บ้าง ไม่ต้องรอให้ได้รับจากคนที่กลับมาจากบางกอกหรือต้องรอกินต่อเมื่อได้เดินทางไปเมืองหลวงหรือต่างประเทศ
 
 
 
ด้วยความที่มันนุ่มละมุนลิ้นเสียเหลือเกินทำให้กินได้เพลิน เผลอๆหมดกล่องเลยอย่างไม่รู้ตัว แปลกมากเวลากินโดนัทยี่ห้ออื่นแล้วจะรู้สึกหนักท้องและอิ่ม แต่พอกินคริสปี้ครีมแล้วมันไม่รู้สึกหนักท้องหรืออึดอัด หรือรู้สึกอิ่มเลยทั้งที่มันเป็นแป้งทอด เหตุนี้เองที่จะทำให้เราอ้วนได้แบบไม่รู้ตัว เพราะฉนั้นต้องมีลิมิตในการกินเจ้าโดนัทยี่ห้อนี้เสียแล้ว ว่าแต่วันนี้ขอทานตามใจตัวเองหน่อยเถอะ ทานให้หายยาก ให้สมกับที่รอคอยมานาน
 
 
 
 
คริสปี้ครีม โดนัท(Krispy Kreme Doughnuts)ที่ได้รับวันนี้เป็นรส Original Glazed คือรสดั้งเดิม เป็นแป้งทอดเคลือบน้ำตาล รสนี้แหละเป็นรสที่เราชอบมากที่สุด และอร่อยที่สุดสำหรับเรา 1 กล่อง มี 12 ชิ้น ส่วนราคาไม่ทราบเพราะได้ฟรีมาจ้า...
 
 
 
แต่อ่านเจอมาว่าเจ้าของธุรกิจที่เมืองไทยได้ตั้งราคาโดนัทรสออริจินัล 27 บาทเท่านั้น เพราะเทียบกับข้าวราดแกงก็ตกจานหนึ่งประมาณ 25 บาท ฉะนั้น โดนัทหนึ่งชิ้นไม่ควรแพงกว่าข้าวมื้อหนึ่ง ราคานี้ยังถูกกว่าที่อเมริกาด้วยซ้ำ
จุดเด่นของ Original Glazed ของ Krispy Kreme คือความนุ่มของแป้ง,,, ส่วนตัวบี๋ว่าเค้าทำตัวเนื้อแป้งได้ดี กัดแล้วไม่ร่วนแต่เนื้อแป้งจะนุ่ม เนียนและเหนียวนิดๆทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ามันกำลังละลายสลายอยู่ในปากของเรา พูดตรงๆ ว่าเป็นโดนัทที่เนื้อแป้งนุ่มที่สุดเท่าที่ตอนนี้เคยกินมาเลยหล่ะคะ นอกจากนี้แล้วโดนัทแม้จะเป็นแป้งทอดแต่ Krispy Kreme เป็นโดนัทที่ทอดแล้วไม่อมน้ำมันเลย ตัวแป้งที่อยู่ด้านในสุกแต่ไม่มีน้ำมันซึมเข้าไปแม้แต่น้อย แป้งของเค้ามหัศจรรย์จริงๆเลยค่ะ บี๋กินไปแกะแป้งดูไปพบว่าเหมือนชิ้นโดนัทมีแป้งห่อหุ้มอยู่สองส่วน ส่วนที่เป็นชั้นแรกบางๆเหมือนทำหน้าที่เหมือนผิวหนังเราคือคอยปกป้องดูดซึมสิ่งแปลกปลอมไว้เพื่อไม่ให้ไปโดนเนื้อแป้งที่อยู่เข้าไปข้างใน
 
 
 
รวมทั้งน้ำตาลเค้าเคลือบได้ทั่วดีมาก ทั้งส่วนนอกและการแทรกในเนื้อแป้ง จนบี๋คิดว่า น้ำตาลมันเยอะไป มันหวานเกินไปหรือเปล่า ,, ถ้าได้กินคู่กับกาแฟดำร้อนๆ (แบบไม่เติมน้ำตาล) สักแก้ว น่าจะช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้
 
 
 
อย่างไรก็ตาม โดนัทเป็นขนมที่เราไม่ควรกินมากเกินไปเพราะมันมีแค่แป้ง-น้ำมัน-น้ำตาล ซึ่งสามสิ่งพอกินลงไป มันพร้อมที่จะรวมร่างกลายเป็นไขมันไปสะสมบริเวณหน้าท้อง ต้นขา และหลอดเลือด โดยเฉพาะคนที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นเบาหวาน กรุณาอย่ากินเยอะนะคะ เอาแค่ชิมพอรู้รสซักคำสองคำก็พอแล้ว เพื่อให้เห็นภาพ โดยทั่วไป โดนัท 1 ชิ้น ให้พลังงานประมาณ 200-300 kcal เทียบง่ายๆ คือเท่าๆ กับกินข้าวสวย 4 ทัพพีเลยทีเดียวค่ะ
 
 
... “คริสปี้ ครีม” โดนัทสัญชาติอเมริกันแม้ว่าบางคนพอได้อ่านบันทึกนี้แล้วอาจจะคิดว่าบี๋เห่อของนอก...แต่จุดประสงค์หลักที่บี๋นำมาเขียนบันทึกนี้ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเป็นความรู้ให้กับเรานะคะ ถ้าเราเปิดใจยอมรับกับสินค้าจากต่างชาติเราจะพบว่าในความคิดที่ว่าเราขาดดุลหรือเสีบเปรียบนั้นมันมองและคิดได้ หลายด้านค่ะ ไม่ได้มีแต่ด้านเสีย ซึ่งก็ยังมีจุดดีให้กับประเทศของเราเช่นกัน
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่สามารถอยู่คนเดียว ทำคนเดียว ขายคนเดียวได้และยิ่งสมัยนี้โลกของเราไร้พรหมแดนแล้ว ดังนั้นถือว่าเป็นการพึ่งพาอาศัยกันของเราและต่างชาติ ถ้าลองคิดในมุมกลับกันว่าถ้าต่างชาติเลิกทานข้าวหอมมะลิของเราแล้วประเทศของเรา ชาวนาของเราจะมีผลกระทบอะไรตามมาบ้าง ไม่ต่างกันเค้าก็ต้องรู้สึกเช่นเดียวกับเรา คิดเสียว่าเป็นการแลกเปลี่นยของดีซึ่งกันและกันจะดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้แล้วการเปิดร้านโดนัทยังทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในประเทศ ยิ่งถ้าได้รับความนิยมขายดีมากเท่าไร แรงงานเราก็จะมีการจ้างงานมากขึ้นเท่านั้นและยังมีเงินสะพัดในประเทศอีกหลายๆส่วนที่เรามองไม่เห็นแต่เป็นผลพลอยได้จากการขายดีของโดนัท
แต่ที่น่าคิดที่สุดคือ แป้งที่เป็นสูตรลับสุดยอดของคริสปี้ ครีม โดนัท อาจจะมีวัตถุดิบบางตัวที่ ได้มีการนำเข้าจากประเทศไทยของเราก็เป็นได้นะคะ ทอาจจะเป็นหนึ่งในส่วนผสมของแป้งมหัศจรรย์ก็ไม่แน่...ใครจะไปรู้...:-))
แม้ว่าบี๋จะชอบคริสปี้ ครีม โดนัทมากมายแต่ก็ไม่เคยลืมโดนัทไทยแท้ๆที่โรยด้วยน้ำตาลและวางเรียงเป็นวงๆขายเป็นถุงเลยค่ะ ใครจะกินแต่คริสปี้ ครีม โดนัท ได้ตลอดมันก็ต้องเปลี่ยนบ้างตามอารมณ์ วันนี้อาจจะอยากกินคริสปี้ อีกวันอาจจะอยากกินโดนัทโรยน้ำตาลก็ได้ แต่ที่แน่ๆบี๋เห็นโดนัทโรยน้ำตาลเป็นไม่ได้ต้องซื้อมาชิมตลอดเพื่อจะชิมว่าแต่ละยี่ห้อของโดนัทโรยน้ำตาลแป้งใครจะอร่อยกว่ากันเพราะแต่ละท้องถิ่นรสชาติไม่เหมือนกันนะคะเพราะเป็นการทำขายและส่งกันเฉพาะในเขตของตัวเองดังนั้นโดนัทที่สงขลากับที่นครก็ต่างรสชาติกันแล้วหล่ะคะ เป็นต้น ซึ่งมันท้าทายดีที่จะได้ลองชิมไปเรื่อยๆ ยิ่งปัจจุบันด้วยแล้วก็ยิ่งหาโดนัทโรยน้ำตาลทานค่อนข้างยากแต่ในต่างจังหวัดยังพอมีขายอยู่บ้าง เช่น ใส่ขวดโหลขายตามร้านกาแฟหรือร้านขายของชำ ยืนยันค่ะว่าบี๋ยังติดใจความแน่นและหอมของแป้งโดนัทโรยน้ำตาลอยู่เสมอไม่เสื่อมคลายบวกกับยังได้เคี้ยวน้ำตาลทรายกุ๊บๆอีกด้วยใครหล่ะจะลืมลง....
 
 
 
 
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก :

 http://www.krispykreme.co.th

http://campus.sanook.com/

www.thairath.co.th

 http://recipes.howstuffworks.com/krispy-kreme.htm/printable

หมายเลขบันทึก: 411712เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2010 21:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

อิจฉาจังค่ะ ได้กินแล้ว คนกรุงเทพบางคนยังไม่ได้กินเลยนะคะเนี่ย

แต่เห็นเค้าว่าอร่อยมากเหมือนกันค่ะ แต่จะออกหวาน ๆ หน่อย

อยากชิม แต่คงอดทนรอไม่ได้จ๊ะ น้องบี๋ แต่เหมือนได้ชิม จากการบรรยายของน้องบี๋

อรุณสวัสดิ์ศุกร์สุขสันต์ค่ะเบบี๋

เพิ่งได้รู้ที่มาแล้วก็อึ้ง ทึ่งกับประวัติ การเจาะกลุ่มตลาด แปลกตากับภาษาที่ใช้ kk krispy kreme คิดว่า c เดิมๆ แถม sharing the magic ก็ว่า? เค้าจับกระแสจึงแพร่เร็ว แรงเช่นนี้

ชอบแนวคิดการเรียนรู้กว่าจะออกมาเป็นขนม เข้าใจจิตใจพนักงาน การควบคุมคุณภาพ สงสัยว่าน้ำยาล้างจานยังนำเข้า แล้วจะมีอะไรบ้างไหมเป็นของไทย นอกจากแรงงาน ?

แต่ที่ซึ้งใจสุดๆก็ความรักของพี่น้อง การรักษาสัญญา น่ารักค่ะ .. ขอบคุณ น้องบรรยายแบบรู้จริงๆ จนอยากจะชิมๆแค่รู้รส เพราะสุดท้ายวิถีประจำวัน ก็ต้องกิน ขนมไทย นะคะ

ยาวหน่อย แต่สนใจอ่านเพราะอยากรู้ว่า ทำไมคนไทยถึงบ้ากันขนาดนี้ อื้อ ต้องหาโอกาสไปชิม

บรรยายเสียจนเกิดอาการ.....ทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ต้องน้ำลายหยดแหมะเพราะบันทึกนี้...

หากทำตามอารมณ์ของตัวเองแล้วมีความสุขและไม่เดือดร้อนใครก็ลุยโลด

น่าจะเอารูปมาลงล่อใจด้วยนะคะ

สวัสดีตอนเช้าคร๊า...

         แวะมาหยิบเอาโดนัท..ไปทานกะกาแฟเช้าค่ะ....

        เจ้าของบ้านไปลั้ลลา...ที่ไหนเอ่ย...ก๊อกๆๆๆๆ...ตื่นรึยังคร๊า....

เบบี๋จ้ะ มาทายทัก ตกลงว่าหนมสองกล่องหมดรึคะ น่าจะยังไม่หมดหนา ก็น้องบี๋บอก ค่อยๆ เวฟวันละชิ้น แบบขอให้อยู่กับเราได้นานที่สุด ๕ ๕ ประมาณนั้น เสาร์สุขสันต์ค่ะ

สวัสดีค่ะน้องBaby

มาทักทายและส่งความคิดถึงค่ะ ขนมน่าทานจัง เห็นแล้วหิวค่ะ คงเข้ากันดีกับกาแฟถ้วยโปรดเช้านี้

น้องบี๋สบายดีนะค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ คิดถึงเสมอค่ะ

poy

ส่วนตัวบี๋เองก็คิดว่ามันหวานเกินไปเช่นกันค่ะ ถ้าลดความหวานลงจะอร่อยกว่านี้แน่นอนค่ะ ^--^

Ico32
พี่แก้วค่ะ...ไว้รอให้คนซาๆก่อน แล้วลองไปทานดูนะคะ อร่อยจริงๆค่ะ :-)
Ico32
พี่ปูขา...
พอบี๋ได้ทราบประวัติความเป็นมาก็อึ้งเหมือนกันค่ะ อะไรมันจะเวอร์ซะขนาดนั้น แต่ก็คงเป็นแบบนั้นจริงๆไม่เช่นนั้นเค้าคงไม่ต้องพิถีพิถันมากขนาดนี้นะคะ
ถึง KKD จะอร่อยยังไง...ท้ายสุดแล้วขนมครกบ้านเราก็ชนะเลิศค่ะ เพราะบี๋ทานทุกวันไม่เบื่อค่ะ "^_^"
แฮะๆ มันหมดไปนานมากแล้วค่ะ..พูดแล้วก็อยากกินอีกจังเลย :)
Ico32
ครูหยุยขา...แบบว่ามันมีที่มา ที่ไปค่ะ ยิ่งหาข้อมูลยิ่งต้องร้องว้าว! ไม่น่าเชื่อค่ะ :-)
รอให้คนน้อยๆกว่านี้หน่อยแล้วค่อยลองไปทานนะคะ อร่อยชัวร์ค่ะแต่หวานไปนิดนะคะ :) ทานเผื่อด้วยนะคะ ^^
Ico32
พี่กีร์จ๋า,,,
สงสัยตอนที่พี่กีร์อ่านบันทึกนี้บี๋คงบันทึกยังไม่เสร็จอ่ะคะ เพราะวันนั้นจำได้ว่าเน็ทช้ามากมาก
ตอนนี้จัดให้พี่กีร์แล้วนะคะ :)
เชียงใหม่อากาศหนาวแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ^^
Ico32
น่าทานมากค่ะ สารอาหารครบถ้วน ^--^
Ico32
บี๋ดูเวลาที่พี่กระแตมาเยี่ยมแล้ว ยังไม่ตื่นจริงๆด้วยค่ะ :-) บี๋ขี้เซามากกกกค่ะ..^_^
คิดถึงจังเลยค่ะ ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวันแหนะ ;)
Ico32
บี๋สบายดีค่ะพี่ถาวร
โดนัทกะกาแฟดำเข้ากันมั๊กมากค่ะ ลองดูนะคะ ^--^
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท