จากบันทึก “อยากเป็นนักเขียน...ง่ายนิดเดียว” ซึ่งได้สรุปถึงหลักการเขียนหนังสือของ อาจารย์ถวัลย์ มาศจรัส จากหนังสือ “พื้นที่ของชีวิต” พิจารณาแล้วเห็นว่าควรนำสาระอีกบางส่วนมาเผยแพร่สำหรับผู้ที่สนใจ เพื่อเกิดประโยชน์สำหรับการเขียนของบล็อกเกอร์ที่สนใจค่ะ
คำถามคือ ทำไมเราจึงเลือกและชอบอ่านหนังสือบางเล่ม บันทึกบางบันทึก บทความของนักเขียนบางคน
คำตอบน่าจะอยู่ที่ เพราะผู้เขียนสามารถ “ครองใจ” คนอ่านได้
แล้วคำว่า “ครองใจ” คนอ่านได้นี้มีลักษณะอย่างไรล่ะ?
ตอนหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ ได้กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในโลกนี้ ภาษาที่แสดงถึงความรู้แบบยาวเหยียดไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้เลย แต่เมื่อนำ “ความรู้” กับ “ความรู้สึก” มาเป็นพลังในการขับเคลื่อนแล้ว การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้น…”
นักเขียนที่สามารถครองใจคนอ่านได้ ต้องมีทั้ง “ศาสตร์และศิลป์” ไม่เพียงใส่ข้อมูลความรู้ในงานเขียน แต่จะสอดแทรก “ความรู้สึก” ลงไปด้วย การเขียนหนังสือที่มี “ความรู้สึก” เป็นศิลปะที่ฝึกฝนได้และควรฝึกฝน หนังสือและเอกสารทางวิชาการส่วนใหญ่ใหญ่มีข้อมูลจำนวนมาก แต่ไม่ชวนอ่าน ไม่น่าติดตาม ก็ด้วยข้อจำกัดของ “ความรู้สึกในตัวหนังสือ” นี่เอง
แน่ล่ะ ... ตัวหนังสือยังบอกอารมณ์ของผู้เขียนได้ด้วยนะคะ... ดังนั้นระหว่างที่เขียนหนังสือเราน่าจะใส่อารมณ์ดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ เข้าไปด้วยแม้จะยังไม่เชี่ยวชาญขนาดที่จะใส่ “ความรู้สึก” เข้าไปในเนื้อหาที่เราเขียนได้ก็ตามที
และยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า งานเขียนควรที่จะ “เรียบง่าย...จึงงดงาม” ค่ะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการเขียน...ค่ะ
(^__^)
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีค่ะ
คิดถึงจัง ดีใจที่ได้อ่านบันทึกนี้ค่ะ พี่คิมเขียนตามความจริงที่เกิดขึ้น อาจมีความรู้สึกบ้างนิดหน่อย
แต่เขียนแล้วมีความสุขค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นคนเขียนเก่ง แต่เขียนเพราะอยากเขียนเท่านั้นเอง
ขอขอบคุณค่ะ
พี่หญิงจ๋า แว้บจากภาระสะสางงาน มาบอกผ่าน ความรู้สึก ... เสมอ เช่นเคย ค่ะ :)
สวัสดีทุกท่านค่ะ
น้อง น้องซิลเวีย ขอบคุณมากค่ะี่ที่มากด like ให้ในบันทึกนี้ เผลอคิดไปว่าอยู่ในอีกเว็บหนึ่งไปเลยค่ะ... ด้วยความระลึกถึงน้องเช่นกันค่ะ
พี่ยายคิม ยินดีที่ได้ทักทายพี่คิมค่ะ คนเขียนเก่ง กับ นักเขียนที่ครองใจคน อาจไม่ใช่คนเดียวกันหรืออาจเป็นคนเดียวกันก็ได้ คนไม่มีรากคิดว่า การเขียนที่ครองใจคนก็คือการที่สามารถสื่อสารสิ่งที่ต้องการให้คนอื่นรับทราบได้... ส่วนใครมีเทคนิคอย่างไร มีคนอ่านมากน้อยเพียงไรนั้น ขึ้นกับอีกหลายปัจจัยและที่สำคัญขึ้นกับความชื่นชอบของผู้อ่าน ซึ่งก็แตกต่างกันไป ทำนองลางเนื้อชอบลางยา และสำหรับงานของพี่คิม...คนไม่มีรากชอบเพราะมีความรู้สึกดี ๆ อยู่ในบันทึกค่ะ
น้องpoo งานมากมายก็อุตส่าห์มาทักทายเนอะ... ระลึกคิดถึงเหมือนเดิมค่ะ
อ.ธรรมทิพย์ ดีใจที่อาจารย์มาทักทายค่ะ และคิดว่างานเขียนของอาจารย์เป็นงานเขียนที่เปี่ยมเสน่ห์...จริงๆ
(^__^)
แวะมาอ่านเรื่องดีมีสาระ และนำดอกไม้มาฝากด้วยครับ
สวัสดีครับ คุณคนไม่มีราก
สมัยเด็ก ๆ ความที่เป็นคนเขียนมือซ้าย ครูก็จะตีให้เขียนมือขวาเสมอ
จะบังคับอย่างไร ก็ไม่ยอม...
สิ่งที่ทำให้ครูรู้ว่ามือซ้ายก็เขียนไม่ขี้เหร่นะ...
ด้วยการชนะการประกวดคัดไทย ของโรงเรียนระดับประถม
แล้วมันเกี่ยวอย่างไร กับบันทึกนี้
...
ของทุกอย่าง สิ่งทุกอย่าง ฝึกฝนกันได้ ใช่มั้ยครับ....คุณคนไม่มีราก
และผมเชื่อมั่น นะครับว่า.... หากใครได้อ่านบันทึกนี้แล้ว
ใครคนนั้น... ก็จะเป็นนักเขียนที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ได้จริง ๆ
ไม่มีใครหรอกนะครับ ที่จะเป็นนักเขียนที่เก่งกาจมาแต่แรก
หากแต่การได้ฝึกปรือ ลับคมฝีมือ อยู่บ่อย ๆ ต่างหาก
ไม่นานหรอกครับ ,,,งานเขียนของใครคนนั้น ก็จะเรียบง่าย,,,และงดงาม
คุณเชื่อผมมั้ย!!!
...
ขอบคุณมากนะครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ...บันทึกส่วนมากที่เขียนมาจากความรู้สึกบวกสถานการณ์..ค่ะ...แต่ก็ตั้งใจเต็มที่และขอบคุณที่ไปแวะให้กำลังใจเสมอนะคะ...ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว...รักษาสุขภาพด้วยนะคะ..
สวัสดีค่ะอ.udomran
5555....นาน ๆ มาที หอบข้อคิดมาฝากเยอะเลยค่ะ
ข้อสันนิษฐานของอาจารย์น่าจะมีส่วนอยู่มากค่ะ การเขียนที่มีแต่ "ข้อมูล/ความรู้" ไม่มีจิตวิญญาณ ไม่สร้างแรงบันดาลใจ ทำให้คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 19 บรรทัด
หนังสือเล่มหนึ่งราคา 100-300 บาท หากเกินกว่านี้จะขายได้ยาก แต่ขนมโดนัทยี่ห้อดัง ในห้างหรู กล่องละ 400 บาท (รวมค่าเข้าคิวซื้ัอ วันละ 500 คิวเท่านั้น) คนไทยไม่เคยเสียดายขอให้ได้ลิ้มลองจะได้ไปคุยกันได้ว่า... นี่เหรอ ฉันกินมาแล้ว....
ยากที่สุดก็ตรง ทัศนคติ/กรอบคิด นี่เองค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนและทักทายค่ะ
^_^
สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี
ดีจังที่ได้เพื่อนร่วมทางอีกคน... คนไม่มีรากตอนเด็ก ๆ ก็ถนัดมือซ้ายค่ะ แต่หัวอ่อนเลยไปเขียนมือขวาในที่สุด ส่งผลให้ลายมือแย่มาก....5555.... หากเขียนมือซ้ายมาตั้งแต่เด็กคงลายมือดีกว่านี้
และเชื่อค่ะว่า... ไม่มีใครหรอกนะครับ ที่จะเป็นนักเขียนที่เก่งกาจมาแต่แรก หากแต่การได้ฝึกปรือ ลับคมฝีมือ อยู่บ่อย ๆ ต่างหาก
ขอบคุณมากค่ะ
(^__^)
พี่หญิงปิงจ๋า เห็นแล้วก็ .. คิดถึงพี่หน่อยนะกลอยใจพี่ ห่างกันอย่างนี้ น้องคิดถึงพี่บ้างไหม .. เพลงที่ป๋าร้อง ผุดขึ้นมาเลย คิดถึงสองพี่สาวอนงค์ พี่ใบไม้โตย สุขสันต์นะคะ
ขอขอบคุณมิตรภาพและบันทึกดีๆที่ได้รับมาตลอดปีนี้ และขอส่งความสุขสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงค่ะ..
(บัตรอวยพร ดอกม่วงเทพรัตน์ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ) คลิ๊กที่:
ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
(^__^)