ชีวิตที่เมืองลาว : 1 กุมภาพันธ์ 2554 "สถานการณ์พิสูจน์ วีรสตรี..."


1 กุมภาพันธ์ 2554 วันที่วางแผนไว้ว่าต้อง "เทเสา..."

 

หลังจากที่เมื่อวาน (31 มกราคม 2554) งานเทพื้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยฝีมือของชายชาติ "ทหาร" งานต่อไปวันนี้ก็คืองาน "เทเสา"

ในช่วงเช้า มีพี่น้องจากบ้านสานะคามมาช่วยงานกันค่อนข้างเยอะ ประมาณ 15 คน (ชาย 5 หญิง 10) แต่งานช่วงเช้านั้นกลับมีไม่มาก เพราะเป็น "งานช่าง" ส่วนใหญ่

งานช่างที่ว่านี้ก็คือ "การดีดเต๊า" งอเหล็ก และการ "เข้าแบบ"

ดังนั้น แรงงานผู้หญิงที่มาช่วยงาน ข้าพเจ้าจึงขอแรงให้ช่วย "คัดหิน" ก้อนใหญ่ออกแยกไว้ เพื่อที่จะไว้ปลูกต้นไม้หลังจากที่งานโครงสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว...

หลังจากทานข้าว คนหายหมด...

"เมื่อบ้านแล้ว ไม่ยอมมา" พี่น้องในหน่วยเดียวกันพูดถึงคนที่มาช่วยงานตอนเช้า แต่พอกลับไปทานข้าวกลางวันที่บ้านแล้วก็ไม่ยอมมา

จากเดิมที่มี ช 5 คน เหลือ 0

จากเดิมที่มี ญ 10 คน เหลือ 0 , 2 , 4  และ 6

เวลาบ่ายสองโมง ญ 10 คน คนงานที่หญิงที่มาช่วยงาน 10 คน ข้าพเจ้าไม่เห็นใครเลย

เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง เริ่มทยอยมา 2 คน เป็นหญิงสูงอายุ (อายุเกินกว่า 60 ปี

หลังจากนั้นก็เริ่มทยอยกันมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยอดหญิงจำนวน 6 คน

มาแล้วก็ยังต้อง "นั่งรอ"

เพราะงานหลักในวันนี้คือ "การเทเสา" จะทำได้ก็ต้อง "ดิ่ง" เสาหาแนวให้เรียบร้อย

หลังจากที่ช่วงเช้า ช่างสุภาพร้อมทีมงานพยายามหาแบบไม้ที่เหลืออยู่ไม่มากมาเข้าแบบ จากการนำไม้เศษแผ่นโน้นแผ่นนี้มาตี รวมแล้วได้ไม้แบบเสาเพียงแค่ 4 ต้น

เวลาบ่ายสองโมง แบบเสาเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง...

ก่อนเวลาเที่ยงวัน ช่างสุภาและช่างเนา เริ่มนำเหล็กเสาที่ผูกไว้ตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อนขึ้นไปเสียบแล้วมัดกับเหล็กเสาที่ถูกเทปูนทับไว้ตั้งแต่ครั้งเป็น "ตอหม้อ" จนกระทั่งเหลือปลายโผล่ประมาณ 30 เซนติเมตรครั้นเมื่อเทพื้นเสร็จเรียบร้อย

หลังจากพักทานข้าว ช่างสุภา ช่างเนา ช่างแพง ก็นำแบบเสาขึ้นมาประกอบ

ประกอบแบบเสาว่ายากแล้ว ดิ่งเสายิ่งยากกว่า

ข้าพเจ้านั่งดูช่างสุภาเข้าแบบเสาตั้งแต่บ่ายสองโมงจนกระทั่งบ่ายสามโมง

ครั้นบ่ายสามโมง ข้าพเจ้าก็นั่งดูช่างสุภาดิ่งเสาตั้งแต่บ่ายสามโมงจนกระทั่งบ่ายสี่โมง

ทีมงานหญิง "สู้ไม่ถอย"

การทำงานที่ว่าเหนื่อย แต่การนั่งรอคอยนี้เหนื่อยกว่า...

ทีมงานหญิงทั้งหมดนอกจากจะเก็บหินรอไปพลาง ๆ แล้ว เก็บไปตั้งนานก็ยังเทไม่ได้

หลายคนเริ่มกระวนกระวาย เพราะเวลาผ่านไปนานเข้า ๆ จนหลายคนกังวลว่ากว่าจะเทเสร็จคงเข้าเวลา "โพล้เพล้"

และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะ "โม่เริ่มหมุน" เวลา 16.30 น.

กว่าจะได้เทเสาต้นแรกก็ปาเข้าไปสี่โมงครึ่ง

แต่ยังดีที่ปริมาณเนื้อปูนที่เทในแต่ละเสาไม่มาก (2.9x0.2x0.2 เมตร/ต้น จำนวน 4 ต้น) ซึ่งคิดเป็นปริมาตรปูนประมาณ 0.464 คิว แต่ด้วยระยะทางและความสูง ผนวกด้วยแรงงานผู้ชายที่มีก็ต้องตั้งแบบพร้อมดิ่งเสาที่เหลืออยู่ งานนี้จึงต้องพึ่งแรงงาน "สตรี"

สถานการณ์ครั้งนี้พิสูจน์ "วีรสตรี" โดยแท้...

หลังจากที่ต้องรอกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า เก็บหินรอบแรก ไปทานข้าว กลับมาบ่ายสองโมง ก็ต้องกลับมาเก็บหินรอรอบสอง เก็บหินแล้วก็ต้องนั่งรออีกจนกระทั่งสี่โมงกว่าถึงจะเริ่มเท กว่าจะเทเสร็จก็ปาเข้าไปเวลา 17.30 น. ทีมงานผู้หญิงทั้งหมดจึงได้ "กลับบ้าน"

นอกจากจะกลับเย็น ทีมงานหญิงบางท่านก็ต้องปีนขึ้นไปส่งปูนที่กลางเสา

ชุดที่ใส่มาสวย ๆ นี่ก็ไม่ต้องพูดถึง "เลอะขี้ปูน" ไปตาม ๆ กัน

Large_0102201102

 

ถึงแม้วันนี้เสื้อผ้าจะเลอะเทอะ แต่ใจก็ใสสะอาดด้วยการนำความดีที่ได้กระทำมาชะล้าง

การเกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา คือ การมีโอกาสที่จะนำร่างกายนี้มาทำความดีและ "เสียสละ..." 

 

หมายเลขบันทึก: 423591เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2011 23:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท