หลายวันมานี้ข้าพเจ้าปวดหัวมากกับช่างคนหนึ่ง ที่ใช้ “ปาก” ทำงานมากกว่า “มือ”
หลังจากที่หยุดงานบุญไปสองวันแล้วกลับมาเริ่มงานใหม่ ข้าพเจ้ามีช่างหลัก ๆ ทำงานอยู่ทั้งหมด 4 คน ที่จริงแล้วอาจจะเรียกว่ามีแค่ 3 คนครึ่งก็ได้
เพราะช่างอีกคนหนึ่งนั้นข้าพเจ้าสังเกตดูแล้วว่าทำอะไรไม่ค่อยเป็น “ดีแต่ปาก” คอย “สอน” คนอื่น
ช่างเนาได้ยิน “ด่า” ไปหลายครั้ง “อย่าปากไม่ชอบ...”
ช่างสุภาได้ยิน “โอ๊ยน่อ” แล้วก็ “หัวเราะ...”
ช่างแพงได้ยิน “ส่ายหน้า”
ข้าพเจ้าได้ยิน “แอบด่าในใจ...”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนช่างคนนี้โดน “ตะเพิด” ไปแล้ว
ในการควบคุมงานทุกคนจะรู้ดีว่าข้าพเจ้า “โหด” ไม่เคยเป็นรองใคร โดยเฉพาะกิตติศัพท์เรื่อง “ไล่ช่าง”
ข้าพเจ้าไล่ช่างออกมาหลายคน ใครทำงานไม่ดี ไม่ได้เรื่อง “ไสหัวไป” ไม่สนใจใครดีว่าเขาจะเป็นอย่างไรในอนาคต...
แต่หลังจากที่มีโอกาสได้ “สงบนิ่ง” เป็นเวลากว่า 5 เดือน คือไม่ต้องไปควบคุมงานอะไร อยู่เฉย ๆ ว่าง ๆ ก็ไปรดน้ำต้นไม้ การมีเวลาแบบนั้นคือ “โอกาสแห่งการทบทวน”
"เมตตาบารมี" เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิด ให้มีขึ้นใจ...
มาคราวนี้ข้าพเจ้าพยายามจะ “แผ่เมตตา” ให้มากขึ้น
หลังจากแอบด่าในใจเสร็จ ข้าพเจ้าจะถอนหายใจเฮือกแล้วก็ “ให้อภัย”
“ให้โอกาสเขา อยู่กับเรายังขนาดนี้ ถ้าไล่ไปก็เป็นภาระของคนอื่น” ข้าพเจ้าย้ำเตือนอยู่ในใจเสมอ...
นอกจากให้อภัย ข้าพเจ้ายังทดลอง “จ่ายงานแบบเฉพาะเจาะจง” คือไม่ต้องพูดให้ออกหัวคิดแบบช่างสุภา ช่างเนา และช่างแพง
ช่างคนนี้ข้าพเจ้าจะ “สั่งงาน” แบบเด็ดขาด คือ จะให้ไปทำอะไรก็สั่งไปเลย
ไม่ให้อยู่ว่าง ไม่ให้เดินไป “เกะกะ” ใคร...
อาทิ ช่วงก่อนเที่ยง ข้าพเจ้าเห็นช่างคนนี้เดินเกะกะไป เกะกะมา ไปยืนดูช่างสุภา กับช่างแพงตั้งเสา ซึ่งเขาก็เร่งกันอยู่แล้ว แทนที่จะช่วยกลับเดินไปบ่น สอนโน่นสอนนี่ ทั้งที่ตัวเองไม่ทำแล้วก็ “ทำไม่เป็น”
ข้าพเจ้าเห็นดังนั้นจึงบอกทีมงานที่นั่งอยู่ด้วยกันว่า “จะไปจัดการซักหน่อย”
จากนั้นข้าพเจ้าก็เดินแล้วไปบอกว่า “ไปเอาปูนเค็มมาเก็บเสาหน่อยสิ ปลวกขึ้น ใครเห็นจะว่าเอา”
“โดย ๆ (ครับ ๆ)” เขาก็รีบกุลีกุจอไปเอา “ปูนเค็ม” มาฉาบต้นเสาต้นที่แกะแบบเมื่อเช้า ซึ่งบางส่วนเสียหายจากการถอดแบบ
ที่จริงเขาก็ทำงานได้ แต่ห้ามให้อยู่ว่าง “ว่างแล้วพูดมาก”
ถ้าเขาพูดมาก ไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของเรา ที่เราจ่ายงานไม่ดี
หัวหน้าหรือผู้บริหารต้องดึงศักยภาพในตัวคนออกมาให้ได้
เมื่อก่อนข้าพเจ้าบริหารคนไม่ได้เรื่อง ก็คือ มีอะไรก็ไล่ออกหมด ไม่สนใจที่จะ “พัฒนา” ใคร คนงานคนไหนทำงานไม่ดีก็ “ไล่ออกไป"
ครั้งนี้ข้าพเจ้าพยายามใช้โจทย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะปัญหาที่ผ่านเข้ามาในการทำงานเพื่อมา “พัฒนาตนเอง”
การที่มีคน “กวนประสาท” มาก ๆ นั่นคือโอกาสที่ดียิ่งสำหรับการ “ภาวนา”
ข้าพเจ้าจ่ายเงินจ้างเขาเพื่อที่มา “ฝึกเรา” โดยเฉพาะ
เพราะถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่มีอะไรให้คิด
เพราะถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่มีโอกาสที่จะ “ให้อภัย...”
ข้าพเจ้าก็มีคนงานที่ชอบพูดมากกว่าทำแต่ไม่ได้ใช้วิธีต่างกันโดยข้าพเจ้าการพูดบอกกับเขาเลยว่าพูดให้น้อยทำให้มากคิดว่าเป็นการพูดเพื่อให้สติเขาก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่าก็จะรอดูผลคะ
เจอปัญหาคล้าย ๆ กันครับไปเจอเว็ปนี้น่าสนใจ จึงนำมาฝากครับ