ประมวลภาพงานแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีครับ
วันที่ 11 กรกฎาคม 2549
ในวันนั้นผมได้เดินทางไปเที่ยวชมงานแห่เทียนที่ตัวเมืองอุบลราชธานีครับ
ออกเดินทางจากหอพัก มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 10.00 น. ครับ
ผ่านไป 1.30 ชั่วโมง ยังไม่ถึงตัวเมืองเลยครับ เพราะรถติดมาก
โดยเฉพาะตรงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล
ผมเลยตัดสินใจลงจากรถโดยสารและเดินทางพี่ ๆ ชาวอุบลไปครับ
ตอนที่เดินไปนั้น ผมไม่รู้ทางหรอกครับ เพราะเข้าตัวเมืองอุบลฯ เป็นครั้งแรก
"ทางอยู่ที่ปากครับ"
คนอุบลฯ ใจดีมาก ๆ เลยครับ ผมเดินถามทางพี่ ๆ เขาไปตลอดทางครับ
พอเดินมาถึงบริเวณนี้ เริ่มได้ยินเสียง "รำเซิ้ง" ครับ
แสดงว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว
พอไปถึงคนเยอะมาก ๆ ครับ
เดินเด๋อ ๆ ด๋า ๆ ไม่รู้จะไปดูตรงไหนครับ
พอดีเดินตามคนข้างหน้าเขาไป เห็นเขาถึงไปนั่งบนอัฒจรรย์ ก็เลยเดินตามเขาไปนั่งด้วยน่ะครับ
มาทราบตอนหลังว่า "ต้องเสียเงิน"
"แต่พี่คนข้าง ๆ บอกว่า นั่งไปเหอะน้อง ที่ว่างเยอะแยะ
ไม่รู้จะกันไว้ทำไม คนเขาเข้ามาเที่ยว งานนี้เป็นหน้าเป็นตาของจังหวัด
ไม่น่าจะไปกันเขาหรอก กันไว้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ที่ว่าง ๆ จะน่าเกลียดเสียกว่าอีก"
ผมได้แต่ตอบว่า "ขอบคุณครับ"
ตอนนั้นได้ที่นั่งชมเหมาะมากครับ เยื้อง ๆ กับท่านประธานในพิธีเลยครับ
นอกจากจะได้ชมความงามของขบวนเทียนแล้ว
ยังได้ฟังการบรรยายจากผู้บรรยายถึง 4 ภาษาด้วยกันครับ
ไทย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่นครับ
ครั้งแรกที่เห็นขบวนเทียนพรรษากับตาตนเองครับ
"สวยงามตระการตามาก ๆ เลยครับ"
นอกจากเทียนพรรษาแล้ว
ยังมีวงดนตรี "เซิ้ง" ตามตำหรับอีสานด้วยครับ
ได้ยินแล้วคึกคักมาก ๆ เลยอยากลุกขึ้นเซิ้งด้วยจัง
แต่ละขบวน "ทุ่มทุนสร้าง" กันสุด ๆ เลย
ทั้งแสง สี เสียง แถมยังมี Dry Ice ออกมาเพิ่มสีสันเยี่ยมมาก ๆ เลยครับ
ขบวนผู้ถือป้ายแต่งชุดไทย รักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยอย่างดียิ่ง
ขนาดของต้นเทียนมีทั้ง เล็ก กลาง และใหญ่
แต่ละขนาดก็สวยงามแตกต่างกันไปครับ
ตอนนี้ผมเองชักเริ่ม "อดใจไม่ไหวครับ"
นั่งดูอยู่ตรงนี้ เห็นไม่ชัดครับ
อยากเข้าไปสัมผัสและซึมซับความสวยงามใกล้ ๆ สักครั้งหนึ่งในชีวิต
ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตเดินลงไปชมระยะใกล้
ติดตามชมในบันทึกถัดนะครับ
ไม่มีความเห็น