"ไปเที่ยวกันไหม ไหม ไหม จะไปก็รีบไป ไป ไป ไปกับพี่แล้วสบาย เดี๋ยวพี่พาไปเมืองกาญจน์"
บ้านริมแคว แพริมน้ำ
แสนฉ่ำชื่นยืนริมแพน้ำแควน้อย
ปลานับร้อยแหวกว่ายคล้ายอวดโฉม
กระแสธารไหลเลื่อนเหมือนเล้าโลม
เสียงครึกโครมสอดแทรกแหวกพฤกษ์ไพร
เป็นภาพหนึ่งช่วงนั้นที่ฉันเห็น
ยังคงเป็นภาพฝันใจสั่นไหว
บรรยากาศงามเหลือเมื่อรถไฟ
เคลื่อนเข้าใกล้ถ้ำกระแซใกล้แพเรา
เสียงหวูดดังก้องป่าฝ่าปุยเมฆ
รถโยกเยกเยื้องย่างทางขุนเขา
ค่อยค่อยผ่านถิ่นถ้ำแห่งลำเนา
ทิ้งความเหงาห่างหายคลายกังวล
บ้านริมแควแพริมน้ำช่างฉ่ำหวาน
ทั้งอาหารสถานที่แม้มีฝน
พอชื่นเย็นเว้นวรรคพักกมล
เป็นแห่งหนที่ฉันหามาแรมปี
มาเมืองกาญจนบุรีที่ไทรโยค
ถิ่นเคยโศกกลับเห็นเป็นสุขศรี
ถ้าได้เยือนกับเพื่อนพ้องล่องวารี
พักที่นี่ริมแควน้อยลอยแพกาญจน์
เมื่อใคร่ครวญงานเข้าเริ่มเข้มข้น
หากหลุดพ้นพักใจเมื่อไกลบ้าน
ช่วยเติมต่อเชื้อไฟให้เบิกบาน
กลับไปสานงานต่ออย่างพอเพียง
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
</span>
ช่างบังเิอิญเหลือเกิน
ชื่อเหมือนกันเปี๊ยบเลย
แถมยังเกิดเหตุที่เมืองกาญจน์เหมือนกันเสียด้วย
ดูได้ที่นี่ครับ
สวัสดีค่ะ
พี่ก็คิดถึงบ้านริมแคว แพริมน้ำเหมือนกันค่ะ
อยู่เมืองกาญน์มีความสุขมาก
คิดถึงเพื่อนๆ ครู ผู้บริหารที่นั่นค่ะ
เป็นสถานที่พักผ่อน ล่องแพ ตรงถ้ำกระแซ สะพานมรณะใช่มั๊ยคะ
สวัสดีค่ะคุณ'ชยันต์'
แวะมาอ่านบทกลอนชมธรรมชาติ 'บ้านริมแคว แพริมน้ำ'ค่ะ